13 พฤศจิกายน 2021
2 K

แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่มากนัก แต่ชีวิตปิดเทอมดูน่าจะเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาอย่างเรารอคอยมากที่สุด การเดินทางครั้งนี้ของเราจึงเป็นการเดินทางครั้งแรกของปี หลังจากที่วันสุดท้ายในภาคเรียนฤดูหนาวจบลง 

เรามีตัวเลือกในใจกันอยู่พอสมควร ก่อนที่ผลลัพธ์จะมาลงเอยที่จังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชูที่คั่นกลางระหว่างเมืองหลวงของภาคใต้อย่างฟุกุโอกะกับเมืองท่าชื่อดังอย่างนางาซากิ ซึ่งคนไทยน่าจะรู้จักชื่อเมืองนี้จากซีรีส์ไทยเรื่อง STAY ซากะ… ฉันจะคิดถึงเธอ หรือละคร กลกิโมโน เมื่อหลายปีก่อน

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น

เราเลือกจังหวัดซากะ เพราะห่างจากเมืองเบบปุที่เราอยู่ไม่มากเกินไปนัก และเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันเรียบง่ายของธรรมชาติ ป่าเขา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม หรือไม่บางทีก็อาจมีอีกหลายๆ อย่างให้นักเดินทางได้มาค้นหาด้วยตัวเอง แต่เป้าหมายสำหรับเรานั้น ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเป็นพิเศษ เพียงแค่มองบรรยากาศตามข้างทาง พร้อมกับสะพายกล้องเก็บบันทึกช่วงเวลาของเราเพียงเท่านั้น ส่วนจุดหมาย คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสายลมให้พัดพาไป

คารัตซึ 

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อสายลมแรงและหนาวเหน็บได้พาวันแรกของเราไปไกลถึงเมืองชายทะเลทางตอนเหนือสุดของจังหวัดอย่างคารัตซึ ที่เคยเป็นท่าเรือสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีและจีนมาก่อน รวมถึงเป็นท่าเรือขนส่งถ่านหินตั้งแต่ยุคสมัยเมจิ ซึ่งจุดหมายแรกของเราหยุดอยู่ที่ปราสาทคารัตซึ คนท้องถิ่นเรียกอีกชื่อว่าปราสาทมัยซึรุ (Maizuru) 

ปราสาทคารัตซึเป็นปราสาทที่มีรูปทรงคล้ายนกกระเรียนกำลังกางปีกโบยบิน หนึ่งในแลนด์มาร์กหลักที่อยู่คู่เมืองนี้มานานนับหลายศตวรรษ และยังคงตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลกับอ่าวคารัตซึ ตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว ปราสาทแห่งนี้เริ่มก่อสร้างช่วง ค.ศ. 1602 ระหว่างการสร้างนั้นก็ได้นำบางชิ้นส่วนมาจากซากประสาทนาโกยะที่อยู่ในเมืองเดียวกันมาช่วยสร้าง ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปีจนเสร็จสมบูรณ์ โดยการควบคุมของ ฮิโรตากะ เทเรซาวะ (Hirataka Teresawa) แต่ทว่าในช่วงปฏิรูปเมจิ ปราสาทถูกทำลายลงจนเหลือเพียงแค่เศษหิน ซึ่งที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นการก่อสร้างใหม่ทั้งหมด เมื่อ ค.ศ. 1966 โดยยึดตัวแบบโครงสร้างเดิมทั้งหมด

เราจ่ายค่าเข้าชมด้วยราคา 500 เยน เพื่อเข้าไปชมบรรยากาศข้างในที่ยังเก็บเรื่องราวและข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อนไว้เป็นอย่างดี เมื่อขึ้นมาชั้นบนสุดของปราสาท ยังเป็นจุดชมวิวให้เราได้เห็นทิวทัศน์อันกว้างขวางของเมืองคารัตซึ คางเกยระเบียงแล้วมองรถยนต์ รถไฟ ที่ผ่านไปผ่านมา ชวนให้นึกคิดว่าพวกเขาจะไปที่ไหนกัน ท้องฟ้าและน้ำทะเลอันสดใส มีลมทะเลพัดผ่านมาบ้างบางจังหวะ ราวกับอยากดึงดูดให้เราได้อยู่ตรงนี้ไปนานๆ

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น
ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น

ก่อนจะออกจากเมืองนี้ ก็ตั้งใจจะหาของอร่อยฝากท้องเบาๆ ให้ไม่หิวระหว่างทาง 

เราพบกับ Karatsu Burger (からつ バーガー) ร้านแฮมเบอร์เกอร์โฮมเมดในร่างรถฟู้ดทรักเล็กๆ ขายมานานกว่า 50 ปี แฝงตัวท่ามกลางป่าสนนิจิโนะมัตสึบาระอย่างกลมกลืน โดยมีสเปเชียลเบอร์เกอร์ที่มีทั้งเนื้อ แฮม ไข่ ชีส ตามด้วยซอสเดมิกลาสสูตรพิเศษ ประกบด้วยขนมปังกรอบนอกนุ่มใน เป็นตัวชูโรงของทางร้าน เมื่อพนักงานนำเบอร์เกอร์ที่เราสั่งเรียบร้อยแล้วมาให้ เราก็ค่อยๆ กินอย่างละเมียดละไม พร้อมหาที่นั่งพักท่ามกลางบรรยากาศป่าสน ซึ่งถือเป็นการร่ำลาเมืองนี้ได้อย่างประทับใจก่อนเดินทางไปเมืองอื่นต่อ 

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น

อาริตะ

อาริตะ เมืองทางภาคตะวันออกที่ถูกขนานนามว่าเมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผา เพราะเรื่องราวความเป็นมาของงานหัตถกรรมพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นอย่างเครื่องปั้นดินเผา เครื่องเคลือบหรืองานเซรามิกต่างๆ จากเมืองนี้ได้สืบทอดเล่าขานมาหลายชั่วคน จนเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาชาวต่างชาติ รวมไปถึงบางราชวงศ์ในยุโรป เช่น พระเจ้าออกัสตัสที่ 2 แห่งโปแลนด์ที่ทรงหลงใหลเสน่ห์ความงามของเครื่องชามเซรามิกจากอาริตะเป็นอย่างมาก

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น

ชาวญี่ปุ่นส่วนมากจะรู้จักกันในชื่อ อาริตะยากิ (Arita-Yaki) แต่ชาวตะวันตกสมัยก่อนจะรู้จักในชื่อ อิมาริยากิ (Imari-Yaki) มากกว่า เนื่องจากสมัยก่อนนั้น การส่งออกพวกเครื่องดินเผาไปยังต่างแดน จะขนส่งกันที่ท่าเรือของเมืองอิมาริที่เป็นเมืองข้างกัน เราเริ่มเดินเล่นสำรวจย่านเมืองเก่าอาริตะที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากนักแม้จะเป็นวันหยุด บ้านเรือนทั้งสองข้างถนนยังคงเป็นอาคารไม้เก่าแก่ หลายหลังยังเป็นร้านขายเครื่องเซรามิกให้เข้าไปเดินชม จะซื้อกลับบ้านติดไม้ติดมือหรือเป็นของฝากก็ดูเป็นไอเดียที่น่าสนใจ 

ชาร์จพลังหลังปิดเทอมภาคฤดูหนาว ท่องเที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าโทซาน

เราเป็นคนบ้านเมืองหรือสถาปัตยกรรมเก่าๆ มาก ถ้ามีโอกาสมาเดินเล่นในอาริตะ​อีกครั้ง เราคงอยู่ได้ตลอดทั้งวันเต็มๆ ที่นี่ยังมีอะไรหลายอย่างให้เราเข้าไปเปิดหูเปิดตาอีกเยอะ ทั้งพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ กำแพงทมบัยที่ทำมาจากเศษเครื่องปั้นดินเผา หรือศาลเจ้าโทซานที่มีเสาโทริอิทำมาจากเครื่องเคลือบสีฟ้าอ่อน แปลกจากศาลเจ้าอื่นๆ ในญี่ปุ่นที่ส่วนมากทำจากไม้หรือหินและทาด้วยสีแดง 

เราไปได้ยินมาว่าในช่วงวันหยุดยาว Golden Week ถนนเมืองเก่าของเมืองนี้จะมีเทศกาลอาริตะเซรามิกแฟร์ บรรดาร้านค้านำสินค้าเครื่องปั้นดินเผามาวางแผงจำหน่ายตลอดเส้นทางถนนกว่า 4 กิโลเมตร บรรยากาศที่ปกติแล้วเงียบเชียบคงจะคึกคัก เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้คนแน่นอน 

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

เวลาที่เราอยู่ก็บ่ายกว่าแล้ว คงจะพลาดไม่ได้กับการหาอะไรทานที่ร้าน Gallery Arita ด้านในเต็มไปด้วยถ้วยชามเซรามิกจัดแสดงกว่า 2,000 ลวดลายไม่ซ้ำกันแทบทุกซอกทุกมุมของร้าน เวลาเดินเล่นชมความงดงามของถ้วยเซรามิกในร้านอาจต้องระวังหน่อย เพราะกลัวจะซุ่มซ่ามชนแก้วแตกมาก คอนเซ็ปต์หลักของที่นี่อีกอย่างหนึ่งก็คือ การได้ชูวัตถุดิบพื้นบ้านจากอาริตะหรือเมืองในจังหวัดซากะ นำมารังสรรค์ออกมาเป็นเมนูสุดแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารชุด ของหวาน สำหรับใครที่สั่งเครื่องดื่มทานในร้าน ก็เลือกถ้วยที่จัดแสดงมาใส่เครื่องดื่มของตัวเองได้ด้วย

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

หลังจากอยู่ในร้านสักพักใหญ่แล้ว ก็ได้เวลาเคลื่อนตัวออกไปสัมผัสบรรยากาศยุโรปสักประเดี๋ยวที่ Arita Porcelain Park หรือเยอรมนีน้อยแห่งแดนอาทิตย์อุทัย สวนธีมพาร์กที่ถอดแบบความคลาสสิกยุโรปมาแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสวน ร้านอาหาร อาคารขายของที่ระลึก แม้แต่ห้องน้ำ ยังมีพระราชวังจำลองที่มีต้นแบบมาจากบริเวณส่วนประตูมงกุฎ หรือ Crown Gate ของพระราชวังสวิงเกอร์ (Zwinger Palace) ในเมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ 

ส่วนด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องเคลือบดินเผาในแบบต่างๆ ทั้งมาจากยุโรปและเมืองอาริตะ รวมไปถึงมีแจกันใบยักษ์สูง 182 ซม. เคยนำไปจัดแสดงที่งานเวียนนาเวิลด์แฟร์ใน ค.ศ. 1873 แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ยังไม่เปิดเข้าชมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำได้เพียงแค่ชมบรรยากาศด้านนอกเท่านั้น

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

แม้แทบทุกอย่างในเวลานั้นเกือบจะปิดหมดแล้ว แต่เราก็ยังใช้เวลาที่เหลือก่อนแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปกับการเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ มีแสงเงายามเย็นและสีของท้องฟ้าที่ช่วยเติมเต็มความทรงจำในวันนี้ให้ดีขึ้นไปอีก ยังมีกลุ่มครอบครัวชาวต่างชาติพาเด็กตัวเล็กๆ มาเล่นกันแถวโซนเด็กเล่น ยิ่งรู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้เหมือนได้พาเราเติมเต็มความเป็นยุโรปมากขึ้นอีกเท่าตัว จนแทบลืมไปว่าที่ที่เราอยู่นี่คือญี่ปุ่น

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ซากะ

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
รูปปั้นบุคคลสำคัญในเมืองซากะที่ตั้งอยู่ในตามตัวเมือง

เช้าของอีกวัน เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่างผ่านทางหน้าต่างห้องพักใกล้ๆ สถานีรถไฟซากะ พอเก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อย ก็รีบออกไปหาข้าวเช้าทันทีพร้อมกับเดินเล่นชิลล์ๆ เรื่อยเปื่อย แม้ที่นี่จะดูรายล้อมไปด้วยตึกอาคาร แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่มากนัก ผู้คนที่มารอรถบัสหน้าสถานีรถไฟไม่ได้เบียดกันเป็นปลากระป๋องแบบที่เราคิด บางคนก็ขี่จักรยานสบายๆ แบบไม่รีบเร่ง พร้อมกับทักทายเพื่อนร่วมทางที่อยู่ใกล้เคียง

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ปราสาทซากะ

สำหรับที่นี่ ถ้ามีเวลาจำกัดก็ขึ้นรถบัสไปตามที่ต่างๆ ได้ แต่ไม่ว่าจะมาอย่างไร สถานที่ที่ต้องมาให้ได้เลยก็คือ ปราสาทซากะ ที่มีมาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยเอโดะ และเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้โดดเด่นอลังการในเรื่องความสูงสง่าเหมือนปราสาทอื่นๆ ในญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นปราสาทชั้นเดียวและสร้างบนพื้นดิน แต่เรื่องราวหรือความงดงามด้านสถาปัตยกรรมทั้งในและนอกตัวปราสาทนั้น ถือว่าไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยทีเดียว

เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ต้อนรับเราอย่างเป็นมิตร โดยเริ่มพาเราไปที่จุดวางรองเท้าและเก็บสัมภาระให้สะดวกสบายต่อการเดิน พร้อมกับแนะนำแต่ละโซนของพิพิธภัณฑ์คร่าวๆ ก่อนจะมอบที่คั่นหนังสือเล็กๆ ให้เป็นของที่ระลึก แล้วค่อยปล่อยให้เราเข้าไปเดินชมด้านใน 

พื้นที่ในปราสาทนั้นกว้างขวางมาก ด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ ซึ่งช่วงนั้นเป็นเทศกาลฮินะหรือเป็นวันของเด็กผู้หญิงพอดี ในห้องโถงมีการจัดแสดงรูปปั้นตุ๊กตาตัวจิ๋วเรียงทั่วห้องให้ก้มไปมองดูเล่น อีกทั้งยังมีห้องจัดแสดงเล่าเรื่องราวของปราสาทแห่งนี้อย่างละเอียด ทั้งเอกสาร แบบแปลนปราสาทตั้งแต่สมัยเริ่มก่อสร้าง ซากปรักหักพังเมื่อครั้งที่ปราสาทเกิดไฟไหม้ และห้องประชุมของเหล่าไดเมียวที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ด้วยความที่จังหวัดซากะเป็นทางผ่านจากเมืองนางาซากิสู่เมืองเอโดะหรือโตเกียวในปัจจุบัน ทำให้ที่นี่พลอยได้รับวิวัฒนาการจากชาติตะวันตกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ เครื่องจักรไอน้ำ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ล้วนแบ่งจัดแสดงไว้เป็นโซนๆ หากใครอยากฟังเนื้อหาเกี่ยวกับปราสาทที่นี่อย่างละเอียดระหว่างเดินชม ทางพิพิธภัณฑ์ก็มีเครื่อง Audio Guide ให้เรายืมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่เยนเดียว

โยชิโนะการิ

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

แสงตะวันเริ่มอ่อนลง สายลมยามบ่ายก็พัดเข้ามาเบาๆ ราวกับจะบอกว่าให้เราออกเดินทางได้แล้ว เราโบกมือร่ำลาคุณป้าร้านข้าวหน้าปลาไหลเล็กๆ แต่บรรยากาศสุดอบอุ่นในตัวเมืองซากะ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองโยชิโนะการิที่ห่างกันไม่ไกลมากนัก 

อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ (Yoshinogari Historical Park) เป็นสถานที่ที่เราตั้งใจมาเยี่ยมเยือนโดยเฉพาะ เนื่องด้วยที่นี่เป็นทั้งโบราณสถานที่สำคัญตั้งแต่ยุคยาโยอิ (Yayoi) ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ 300 ปีก่อนคริสตกาล แถมบรรยากาศธรรมชาตินั้นยังร่มรื่นเหมือนได้มาอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ต้องบอกก่อนว่าอุทยานแห่งนี้พื้นที่กว้างขวางมาก จนรู้สึกว่าเดินทั้งวันบางทีก็อาจจะเดินไม่หมด นอกจากโซนจำลองที่พักและวิถีชีวิตที่เป็นจุดสำคัญแล้ว ยังมีโซนกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย ทั้งสนามกอล์ฟ ลานกิจกรรมสำหรับเด็กๆ สวนสัตว์ขนาดย่อม หรือจะนำอาหารมาปิคนิกกัน ทางอุทยานก็มีพื้นที่รับรองให้

เราเริ่มเดินไปที่โซนประวัติศาสตร์เป็นที่แรก เพราะสนใจมากที่สุด ประกอบกับเวลาที่มีจำกัดของเรา พื้นที่เดิมของอุทยานแห่งนี้เคยถูกค้นพบซากโบราณสถานมากที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมกับร่องรอยหลักฐานหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับยุคยาโยอิ ส่วนมากจะขุดค้นพบในภูมิภาคคิวชูเสียส่วนใหญ่ ทางอุทยานเลยจำลองบ้านเรือนและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้น เช่น โซนมินามิ ไนคาคุ (Minami-Naikaku) เป็นโซนที่พักของเหล่าผู้นำเมืองล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพง ซึ่งด้านในที่พักก็เข้าไปดูวิถีชีวิต ข้าวของเครื่องใช้หรือโรงครัวได้ พร้อมกับหอสังเกตุการณ์ให้เราชมวิวจากมุมสูง 

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

อีกโซนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกันเลยก็คือ โซนคิตะไนคาคุ (Kita-Naikaku) เป็นโซนที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความขลังอย่างมาก สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นอาคารไม้หลังใหญ่สองชั้น เป็นหอประชุมในการออกว่าราชการ หรือประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางศาสนาในยุคนั้น 

ทั้ง 2 โซนที่เราพูดมานั้นเป็นแค่โซนเล็กๆ เพราะในละแวกเดียวกันยังมีโซนที่น่าสนใจอยู่ตลอดทางเดิน อย่างบ้านเรือนของคนธรรมดา โกดังเก็บของ หลุมฝังศพ ถ้าใครอยากจะเดินให้ครบในโซนประวัติศาสตร์นี้โดยไม่ต้องเร่งรีบก็ควรจะมีเวลาสักหลายชั่วโมง และเราตั้งใจจะนั่งรถบัสภายในอุทยานกลับไปที่จุดทางออก แต่รถบัสเหมือนจะมาไม่ตรงเวลาสักเท่าไหร่ เลยตัดสินใจเดินกลับและส่งท้ายที่นี่ด้วยการไขกาชาปองเป็นที่ระลึก

คาชิมะ – ทาระ 

ใกล้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องบอกลาเมืองนี้ เราได้ใช้เวลาที่เหลืออันน้อยนิดย้อนกลับไปร่ำลาแสงอาทิตย์ที่ใกล้ริบหรี่เต็มที ขณะสายลมยามเย็นก็พัดเข้ามา ทุกการเคลื่อนไหวของเราเหมือนกับเป็นผู้ช่วยให้เราไปสู่จุดหมายโดยเร็ว แม้เราจะไม่ได้แวะเวียนสถานที่ใดระหว่างทาง แต่อย่างน้อยเราก็มีโอกาสชมวิวบรรยากาศข้างทางที่หลากหลาย 

ทุ่งหญ้าใหม่เริ่มโผล่ขึ้นหลังจากฤดูที่ผลัดเปลี่ยน เหลือบมองเหล่าคุณลุงคุณป้ามานั่งตกปลาเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันในช่วงเย็น หรือจะแหงนหูไปฟังเสียงรถไฟที่วิ่งอยู่ด้านข้างๆ ก่อนจะแยกไปตามทางของมัน 

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ด้านนอกศาลเจ้ายูโทคุ

เราไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเราอยู่ที่ไหน จนกระทั่งรู้ตัวว่าเราได้อยู่ในเมืองคาชิมะแล้ว เมื่อผ่านไปเห็นศาลเจ้าสีแดงที่ใหญ่โตอลังการอย่างศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่บูชาเทพแห่งการเก็บเกี่ยว หรือ อินาริ แถมเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับ 3 รองจากศาลเจ้าฟูชิมะ อินาริ จังหวัดเกียวโต และ ศาลเจ้าคาซามิ อินาริ จังหวัดอิบาระกิ น่าเสียดายที่เรามีเวลาไม่มากพอในการเข้าไปด้านใน เลยทำได้เพียงหยุดชั่วขณะเพื่อชมความงดงามจากด้านนอกเพียงเท่านั้น 

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

เพียงหลับตาไปไม่กี่ชั่วครู่ เราได้ตัดสินใจมาจบการเดินทางที่เมืองทาระ แสงอาทิตย์กำลังคอยเราอยู่ตรงหน้าศาลเจ้าโออุโอะพอดี เราเดินลอดผ่านเสาโทริอิสีแดงกลางทะเลอาริอาเกะที่เหือดแห้ง และยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนสุดทะเลเท่าที่จะเดินไปได้ แม้มันอาจจะเดินลำบาก เพราะก้อนกรวดที่เฉอะแฉะตลอดทางเดินก็ตาม 

เราใช้เวลาทบทวนเรื่องราวการเดินทางของเราที่ได้เดินทางไปหลายๆ เมืองในจังหวัดซากะ มันอาจจะเป็นการเดินทางในช่วงระยะเวลาอันสั้น แต่ก็เป็นเหมือนการชาร์จพลังของตัวเองให้รู้สึกอยากออกเดินทางอีกครั้ง 

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ก่อนจะหันหลังให้แสงอาทิตย์เป็นการร่ำลา แล้วค่อยตื่นมาพบกันใหม่ในวันต่อไปในสถานที่ใหม่ 

ขอบคุณสายลมที่พัดเรามาไกลถึงเพียงนี้ หลังจากนี้ก็เป็นคราวที่มันจะพาคนอื่นๆ ไปพบเจออะไรใหม่ๆ บ้าง

หวังว่าเราจะได้ร่วมทางด้วยกันอีก และพัดพาเราไปเจออะไรที่ดีในไม่ช้า

ตระเวนเที่ยวจังหวัดซากะ จังหวัดเล็กๆ ในเกาะคิวชู ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

Take Care 

Saga, Japan

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

รหัท กิจจริยภูมิ

รหัท กิจจริยภูมิ

เด็กไทยผู้จากญี่ปุ่นดินแดนที่รักและหลงใหล มาเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ที่สกอตแลนด์ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ยังคงฝันที่จะออกตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเก็บภาพและกินซูชิเหมือนเดิม