ผมกำลังวิ่งอยู่ในเมืองฮอยอัน เมืองเก่าแก่ในภาคกลางของเวียดนาม วัด บ้านเรือน ศาลเจ้า สะพานเก่าแก่ที่มีศิลปะจากจีนผสมผสานญี่ปุ่น บ่งบอกว่าเมืองนี้ผ่านประวัติศาสตร์มากว่า 2,000 ปีแล้ว จนได้รับรางวัล UNESCO World Heritage Site

คนที่มาร่วมวิ่งด้วยกับผมตอนนี้คือ ข้าวโอ๊ต-นุชราวดี ไชยสิงห์ นักวิ่งสาวที่ผมคุ้นหน้าดี  ผมไม่เคยเจอเธอมาก่อน แต่เคยเห็นข้าวโอ๊ตบ่อยๆ จากสื่อโซเชียล โดยเฉพาะจากเพจนักวิ่งน่ารัก

เรากำลังวิ่งผ่านตึกสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองสดในเขตย่านเมืองเก่าของฮอยอัน การมาวิ่งครั้งนี้คือหนึ่งในภารกิจสำรวจเส้นทางของ Hoi An International Marathon 2017 ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ อีกภารกิจหนึ่งที่ข้าวโอ๊ตได้รับมอบหมายมาด้วยคือมาเพื่อเป็นนางแบบถ่ายภาพโปรโมตงานวิ่งมาราธอนงานใหญ่ครั้งแรกของเมืองฮอยอัน

ตามนักวิ่งสาวไปสำรวจเส้นทางมาราธอนใจกลางเวียดนาม

การเป็นนางแบบทำให้ผมไม่แปลกใจว่าทำไมทีมผู้จัดงานถึงได้เลือกเธอมา แต่หลังจากที่ได้นั่งคุยกัน ผมถึงได้รู้ว่า ข้าวโอ๊ตเป็นนักวิ่งที่สนใจเรื่องเส้นทางการวิ่งมาก

เรานั่งคุยกันบนดาดฟ้าของหนึ่งในร้านกาแฟที่มีจำนวนเกือบร้อยร้านในเมือง บนนี้สามารถมองเห็นเมืองเก่าฮอยอันได้รอบทิศ วิวส่วนใหญ่เป็นหลังคาสีแดงอิฐและตึกสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง ระหว่างรอกาแฟเวียดนามหยดลงบนนมข้นหวาน ผมถามโอ๊ตเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอ จึงได้รู้ว่าข้าวโอ๊ตเริ่มต้นวิ่งจากการลดความอ้วนเหมือนกับสาวๆ หลายคน จากวิ่งเองในสวน วันหนึ่งก็ไปลงรายการวิ่ง แล้วเกิดติดใจบรรยากาศ ข้าวโอ๊ตหลงรักการวิ่งมากขึ้น เพราะการวิ่งเองคนเดียวคิดจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่บรรยากาศงานวิ่งมีส่วนผลักดันให้ข้าวโอ๊ตวิ่งได้โดยไม่หยุด เธอคิดว่าในเมื่อคนอื่นยังไม่หยุด เธอก็จะวิ่งต่อไปด้วย นอกจากนั้นเธอยังได้เจอเพื่อนใหม่ๆ คือกลุ่มเต่าเทอร์โบที่กลายเป็นสมาชิกร่วมวิ่งกันทุกๆ งาน หลังจากนั้นข้าวโอ๊ตจึงใช้งานวิ่งเป็นไฟต์บังคับให้ตัวเองต้องวิ่งทุกอาทิตย์ และซ้อมเพื่อจะลงแข่งในระหว่างสัปดาห์ เธอเริ่มวิ่งได้ระยะไกลขึ้นเรื่อยๆ จากมินิมาราธอน เป็นฮาล์ฟมาราธอน จนเริ่มคิดที่จะลงระยะฟูลมาราธอนในเวลาไม่นาน

ฮอยอัน

ตามนักวิ่งสาวไปสำรวจเส้นทางมาราธอนใจกลางเวียดนาม

เราเปลี่ยนจากการวิ่งสำรวจเมืองมาเป็นขึ้นรถตู้เพื่อไปเช็กเส้นทางที่จะใช้วิ่งมาราธอน เส้นทางจากใจกลางเมือง จะผ่านบ้านเรือนผู้คน ผ่านทุ่งนา และออกไปยังชายทะเล ฮานอยเป็นเมืองที่ติดอยู่ชายขอบมหาสมุทรแปซิฟิก เคยเป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่เฟื่องฟูมากในอดีต มีการทำมาค้าขายกับหลายชาติ และได้รับอิทธิพลจากจีนและญี่ปุ่นมาก เส้นทางวิ่งต้องผ่านศาลเจ้ามากมายซึ่งตั้งสลับกับที่อยู่อาศัยของคน รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์จีนชัดเจน สถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่าง Japanese Covered Bridge หรือสะพานโค้งสั้นๆ ที่สร้างข้ามคลองเล็กๆ ไว้เชื่อมระหว่างชุมชนของชาวจีนและชุมชนชาวญี่ปุ่นยังคงดึงดูดสนใจของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าทีมงานมองหาความเป็นไปได้ที่จะทำเส้นทางให้ผ่านสถาปัตยกรรมสวยงามเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด

ตามนักวิ่งสาวไปสำรวจเส้นทางมาราธอนใจกลางเวียดนาม

ข้าวโอ๊ตบอกผมว่า เธอเลือกงานวิ่งด้วยตัวเองทุกงาน นอกจากเหรียญและเสื้อ ตัวตัดสินในการเลือกลงงานวิ่งของเธอคือเส้นทางวิ่ง ข้าวโอ๊ตชอบศึกษาเส้นทางที่ต้องผ่านล่วงหน้า เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ที่เธอยังเสียใจอยู่จนถึงทุกวันนี้

รถตู้พาพวกเรามายังสะพานข้ามปากแม่น้ำ เป็นสะพานที่ผมคิดว่าสูงพอสมควร ข้าวโอ๊ตบอกว่า เธอเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับสะพาน และครั้งนั้นสะพานสูงกว่านี้มาก เมื่อปีก่อนข้าวโอ๊ตลงสมัครฟูลมาราธอนเอาไว้ เมื่อคิดว่าตัวเองสามารถวิ่งฮาล์ฟมาราธอนได้แล้ว ก็น่าจะพร้อมที่จะลงสมัครมาราธอนแรกได้ เลยตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อระยะมาราธอน แต่นี่เป็นรายการที่ข้าวโอ๊ตไม่ได้ดูเส้นทางมาก่อน

ฮอยอัน

ระหว่างการวิ่งดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่เท้า ความโชคร้ายแรกคือรองเท้าที่ซ้อมมาตลอดขูดกับพื้นถนนจนพัง โชคร้ายต่อมาคือข้าวโอ๊ตฝืนวิ่งต่อ รองเท้าที่พังทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่ฝ่าเท้าและเอ็นร้อยหวาย แต่ก็ยังคงฝืนวิ่งต่อไปจนมาเจอสะพาน ฝืนวิ่งแบบเจ็บๆ มาก็แย่แล้ว ยังจะต้องขึ้นสะพานที่สูงชันอีก เธอยังกัดฟันวิ่งต่อเพราะตอนนั้นเหลืออีกแค่ไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงเส้นชัย แต่การวิ่งสลับกับเดินทำให้ข้าวโอ๊ตเสียเวลาไปมาก เมื่อข้ามสะพาน เธอพบว่าถึงจุดเช็กพอยต์และถูกตัดออกจากการแข่งเพราะวิ่งไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ข้าวโอ๊ตบอกว่า เธอร้องไห้ออกมาเลย เสียใจที่ยังเตรียมตัวมาดีไม่พอ เส้นทางการแข่งขันมีผลกับเธอตั้งแต่นั้นมา

เรายืนอยู่บนสะพานที่ข้าวโอ๊ตบอกว่า แค่นี้ไม่ถือว่าสูงหรอก แต่จากตรงนี้ เราก็ยังสามารถมองเห็นฮอยอันในมุมสูงได้ ฮอยอันเป็นเมืองที่ไม่มีตึกสูงเลย มีธรรมชาติทั้งป่า แม่น้ำ นาข้าว และมหาสมุทร ทีมงานถ่ายวิดีโอตรงนี้สักพักเพื่อนำไปใช้ในวิดีโอโปรโมตก่อนที่พระอาทิตย์จะเริ่มตก

หลังจากมาราธอนครั้งนั้นข้าวโอ๊ตก็บอกว่า เธอจะกลับไปวิ่งมาราธอนอีกครั้งเมื่อเธอพร้อมจริงๆ และละเอียดกับการหาข้อมูลเส้นทางวิ่งขึ้นมาก ปีนี้ข้าวโอ๊ตมีบทบาทเพิ่มจากปีก่อนๆ คือเธอเป็นหนึ่งในทีม pacer ของ Nike หน้าที่ของ pacer คือช่วยโค้ชดูแลการฝึกซ้อม ในกิจกรรมที่ไนกี้จัดการฝึกซ้อมในทุกสัปดาห์ การได้ฝึกซ้อมบ่อยขึ้น และอยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ ทำให้ข้าวโอ๊ตกลับมาตั้งใจพัฒนาตัวเองใหม่อีกครั้ง เริ่มจากพัฒนาความเร็วของตัวเองในระยะมินิมาราธอนใหม่ และเริ่มทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ฮอยอัน ฮอยอัน

เมื่อกลับเข้าเมือง ย่านเมืองเก่าเริ่มกั้นไม่ให้รถเข้าเพื่อทำให้เป็นถนนคนเดิน เราเดินเท้าเพื่อสำรวจทางวิ่งกันต่อ เมื่อเริ่มค่ำระหว่างทางเดินจะจุดโคมกระดาษกันสว่างไสวทั่วเมือง โคมไฟกระดาษเป็นสัญลักษณ์ของฮอยอัน ทุกวันพระจันทร์เต็มดวงฮอยอันจะจัดเทศกาลโคมไฟ จุดโคมกันทั่วทั้งเมือง เราเก็บข้อมูลเส้นทางเพื่อที่จะเอาจุดสำคัญๆ ทั้งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ธรรมชาติอย่างทุ่งนา มหาสมุทร และวิถีชีวิตของคน เพื่อจะนำมาประมวลเป็นเส้นทางที่จะให้นักวิ่งได้วิ่งผ่านจุดสำคัญๆ ให้ครบถ้วน

ตามนักวิ่งสาวไปสำรวจเส้นทางมาราธอนใจกลางเวียดนาม

ข้าวโอ๊ตบอกกับผมด้วยความมุ่งมั่นว่าหลังจากเห็นฮอยอันด้วยตาตัวเอง เธอตั้งใจว่าจะทำเวลาที่ดีที่สุดของตัวเองในระยะมินิมาราธอนได้ที่นี่อย่างแน่นอน

ภาพ : Hoi An International Marathon

ดูรายละเอียด Hoi An International Marathon ได้ที่ Facebook | Hoianmarathon

*เส้นทางจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ปรากฏในเนื้อหา