The Cloud x ททท.
เสื้อคอกลม กางเกงขาสั้น ผ้าผืนยาวอเนกประสงค์ จากฝ้ายเนื้อนุ่ม มัดย้อมสีธรรมชาติเรียงตามความอบอุ่นของเฉดสี ดึงดูดสายตาราวกับดอกไม้สีสวยแข่งกันชูช่อรับแสงแดดยามเช้า ชวนให้เราอยากเขยิบกายเข้าใกล้ราวไม้ขนาดยาวไปสัมผัสความงามจากธรรมชาติที่ส่งผ่านสองมือของคนทำถึงสองมือของคนรับ เพียงสายตามองก็อบอุ่นไปถึงหัวใจ

เดินวนไปวนมา อดไม่ได้ เราหยิบเสื้อสีเหลืองจากใบหูกวางมาทาบตัว หยิบผ้าผืนยาวสีน้ำตาลจากเปลือกประดู่มาพันรอบกาย เล่นสนุกกับสีธรรมชาติได้ไม่นาน โบ-บุษยรัตน์ ผัดผล สาวเจ้าของแบรนด์ ‘รวยบุญ’ แบรนด์เสื้อผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากพืชนานาพันธุ์ของจังหวัดน่าน เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมชวนเราล้อมวงฟังบทสนทนาของเด็กอยากกลับบ้านเพื่อหาอะไรทำเอาสนุกพร้อมกับช่วยเหลือชุมชนและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน

เป็นเวลากว่า 4 ปี คนตัวเล็กกำลังมีหมุดหมายใหญ่ขึ้น เมื่อความสนุกเปลี่ยนเป็นการทำอย่างไรให้สมาชิกในเครือข่ายประกอบอาชีพอย่างมั่นคงและอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อตอบแทนสิ่งแวดล้อมและสร้างการเปลี่ยนแปลงในชุมชนของ แม่นาย-ปานจิตร พรมเกษา ประธานกลุ่มผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยน จังหวัดน่าน
รวยบุญ
“เรายืมคำว่า รวย กับคำว่า บุญ มาจากชื่อคุณพ่อและคุณแม่ ‘รวยบุญ’ เป็นความหมายหลักที่เราจะเดินหน้าไปด้วยกันกับชุมชน ภายใต้การสร้างบุญและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน” โบอธิบายชื่อแบรนด์สุดเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

เธอชวนเราย้อนไปนานถึง 15 ปี สาววิทยาศาสตร์ไบโอเคยทำงานร่วมกับชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยน ชุมชนบ้านโป่งคำ และชุมชนบ้านห้วยไฮ หลังจากเรียนจบเธอคิดว่าน่าจะทำอะไรกับชุมชนได้มากขึ้น อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับคนในจังหวัดน่าน เธอนั่งทบทวนว่ามีชุมชนไหนบ้างที่ยังเข้าถึงและผูกพัน จนลงเอยเป็น 3 ชุมชน 3 ตำบล

กองทัพหญิงแกร่งแห่งรวยบุญช่วยกันผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นนิยมจนถึงเสื้อผ้าสำหรับเด็กชายและเด็กหญิง สไตล์เรียบง่าย เน้นใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน สาววัยทำงานจะใส่ไปออฟฟิศย่านอโศก-สุขุมวิทก็ไม่ขัดเขินทั้งที่เป็นผ้าฝ้ายทอมือ แต่กลับร่วมสมัยและเปี่ยมด้วยเรื่องราวจากความตั้งใจของกลุ่มแม่ป้าหัวใจสุดคราฟต์
3 ตำบล 3 ผลิตภัณฑ์
การทำงานร่วมกับ 3 ชุมชน พ่วงมาด้วยความถนัดแตกต่างกัน บ้านน้ำเกี๋ยนถนัดการมัดย้อมสีธรรมชาติ ไม่ว่าจะผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ ผ้าพันคอผืนยาวขนาดหนึ่งคนกำลังอบอุ่น และสารพัดเสื้อผ้าเรียบง่ายสำหรับสาวเล็ก สาวน้อย และสาวใหญ่ ส่วนเสื้อผ้าแฟชั่นนานาต้องยกความดีความชอบให้ชุมชนบ้านโป่งคำที่ถนัดการทอผ้าฝ้าย เน้นลายผ้าพื้น ลายตารางแบบง่ายๆ ทำให้ดีไซเนอร์ตัดเป็นชุดมินิมอลตามสมัยนิยมได้ถนัด ส่วนชุมชนบ้านห้วยไฮ ถนัดการจักสานไม้ไผ่ ด้วยความละเอียดและประณีตของช่างฝีมือ เธอจึงเลือกกล่องจักสานสั่งทำพิเศษมาเป็นแพ็กเกจของแบรนด์สำหรับสินค้าราคาพรีเมียม ลูกค้าเอากล่องไปใช้ต่อได้นานถึง 1 ปี ย่อยสลายเองได้ด้วย รับประกันด้วยฝีมือว่ามอดไม่ไต่ไรไม่ตอม!
รวยบุญแบ่งงานกับ 3 ชุมชนแบบ 50:50 รวยบุญคิดครึ่งหนึ่ง ชุมชนคิดครึ่งหนึ่ง เธอให้เกียรติและให้อิสระแม่ช่างทอ แม่ช่างย้อม และแม่ช่างสาน สร้างสรรค์งานชิ้นโบว์แดงตามใจชอบ ไม่ว่าจะสีผ้าทอมือหรือลวดลายในการมัดย้อม

ถ้าแม่บ้านไหนอยากเรียนเพิ่ม เสริมความอยากรู้ เธอยินดีจัดให้จากใจจริง อย่างปีที่แล้วแม่ช่างย้อมอยากเรียนรู้การก่อม่อฮ่อม เธออาสาชวนอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและเพื่อนพ้องสายคราฟต์ผู้ถนัดด้านสีสันมาสอนถึงบ้านน้ำเกี๋ยน
ส่วนปีนี้เธอชวนกลุ่มแม่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยกัน ภายใต้วัตถุดิบท้องถิ่นในหมู่บ้าน
ธรรมชาติหื้อสีสัน
สีน้ำตาลจากเปลือกประดู่ สีเหลืองจากใบหูกวาง เคลื่อนตัวจากน้ำสีสวยไปอยู่บนผ้าเช็ดหน้า จนทำให้ลูกค้าจากทั่วประเทศจดจำ ‘รวยบุญ’ จากคาแรกเตอร์สีเพียงสองสี ขอชื่นชมแม่ช่างย้อมจากกลุ่มผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยน!
เดิมทีกลุ่มแม่บ้านบ้านน้ำเกี๋ยนประกอบอาชีพเกษตรกรและทำไร่ข้าวโพดเป็นหลัก เย็บปักถักร้อยบ้างเป็นงานอดิเรก ส่วนสีธรรมชาติเพิ่งทำความรู้จักกันจริงจังก็ตอนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์รวยบุญ

“เมื่อก่อนหมู่แม่ยะไร่ข้าวโพดกั๋น พอดีเจอพิษเศรษฐกิจ ขายของบ่ะได้ ก็เลยอยากจะมีอาชีพเสริม แล้วอาจารย์บานจิตร เปิ้นเป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิ้นกลับมาแอ่วบ้าน หันว่าเฮาเป็นจะใด๋กั๋น เปิ้นก็เลยจวนว่าอยากมีอาชีพเสริมบ๋อ แม่บะฮู้จะยะอะหยัง เปิ้นเลยจวนทำสีธรรมชาติ ก็มายะสีธรรมชาติกั๋น จวนหมู่แม่บ้านที่เปิ้นสนใจ๋ จวนกันมาหัดย้อม พอดีเปิ้นแนะนำให้ป๊ะกับน้องโบ หมู่แม่เดิมทีก็เย็บผ้า พอจะมีความฮู้เจ้า น้องโบเปิ้นหันก็จ้วยเอาไปขายหื้อ

“ถ้าถามหมู่แม่ว่าขายเป็นมั้ย ทำได้ แต่ขายบ่เป็น ดีตี้มีรวยบุญเข้ามาจ้วยในการตลาด การตั้งราคาเฮาบ่เกยคิดว่าค่าแรงเฮาออกไปเต้าใด แต่ก่อนแค่กึ๊ดว่าจะขายแค่ 5 บาท 10 บาท แต่เฮามีค่าแรงนะเจ้า บ่เกยได้กึ๊ดจุดนั้น เพียงแต่อยากจะขาย ขายได้ก็ปอใจแล้วแล้วเจ้า” แม่นาย ประธานกลุ่มผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยน เล่าความเดิมให้เราฟัง

นอกจาก 2 สีประจำแบรนด์ที่กลุ่มแม่ย้อมจนเรียกว่าชำนาญ ยังขยายพาเล็ตต์สีไปถึงชมพูครั่ง เหลืองจากใบมะม่วงหิมพานต์ น้ำตาลอมเทาจากเปลือกประดู่หมักโคลน และสารพัดเฉดสีอ่อนไล่ไปยังเฉดสีเข้ม ด้วยการผสมสารกระตุ้นสี (Mordant) จากธรรมชาติอย่างน้ำปูนใส สารส้ม และขี้เปรอะ! (โคลน) ส่วนข้อดีของการมีเจ้าของแบรนด์ที่เรียนจบสาขาวิทยาศาสตร์ไบโอ ยังทำให้โบค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติจากงานวิจัยของเธอเอง สนุกมาก!
โบบอกว่า ใบหูกวาง 1 กิ่ง จะมีทั้งใบอ่อนและใบแก่ ใบแรกของกิ่งจนถึงใบลำดับที่ 5 จะให้สีเหลืองเฉดหนึ่ง ถ้าเป็นใบลำดับที่ 6 ลงมาจนถึงใบสุดท้ายจะให้สีเหลืองอีกเฉดหนึ่ง ฉะนั้น ต้นหูกวางเพียงต้นเดียวให้สีเหลืองนับเฉดไม่ถ้วน
จะว่าไปความหลากหลายของสีสันก็เป็นเอกลักษณ์ของรวยบุญ ทำให้สินค้าพิเศษและมีหนึ่งเดียวในโลก
เกือบลืมเสริมให้คุณฟัง แม่นายบอกว่าการย้อมสีจากพืชชนิดเดียวกัน ทว่าต่างฤดูกาล เฉดสีที่ได้ออกมาจะอ่อนและเข้มแตกต่างกัน แค่ย้อมประดู่ต้นฤดูฝน กลับมาย้อมประดู่อีกทีปลายฤดูฝน สีน้ำตาลก็กลายเป็นอีกเฉดทันที หรือพืชชนิดเดียวกัน ทว่าสารกระตุ้นสีต่างกัน เฉดสีที่ได้ออกมาก็ต่างกันไปด้วย เช่น น้ำต้มครั่งให้สีชมพู ทดลองกับสนิม ปูนขาว สารส้ม และโคลน สารกระตุ้นสีทั้งสี่จะเป็นตัวตัดสินเฉดเข้มอ่อนของสีชมพูจากครั่งเคยมีชีวิต ธรรมชาติสนุกอย่างนี้เอง!
ออกแบบจากสิ่งตี้เฮามี
รวยบุญออกแบบเสื้อผ้าอย่างเรียบง่าย ง่ายต่อการตัดเย็บ ง่ายต่อการสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน เสื้อยืดบ้าง เสื้อคอกะเหรี่ยงก็มี หมวกใบเท่เหมาะกับวัยรุ่น กางเกงทรงสวยใส่ไปทำงานก็สุภาพ ใส่อยู่บ้านก็สบ๊ายสบาย

สำคัญมาก ทุกครั้งของการตัดเย็บแม่ช่างฝีมือต้องเหลือผ้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่เป็นการสร้างขยะ แม้เหลือเศษผ้าเพียงนิด โบและกลุ่มแม่บ้านผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยนผู้ถนัดงานประดิดประดอย จัดการแปลงโฉมเศษผ้าเป็นดอกแก้วจิ๋ว เพื่อทำเครื่องประดับบ้าง ยางรัดผมแสนน่ารักบ้าง ใส่กับเดรสสีชมพูจากเจ้าครั่ง เข้ากั๋นตี้สุดเจ้า!
“เราออกแบบจากการเห็นวัสดุก่อน ต่างจากแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่เขาออกแบบก่อนแล้วค่อยหาวัสดุ เพราะเรากำหนดแม่ช่างทอไม่ได้ เราให้สิทธิ์เขาในการออกแบบลวดลายและสีสัน บางทีสีก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สมมติฤดูกาลหน้าได้สีเหลืองเยอะหน่อย แม่อาจจะทอลายขาวสลับเหลืองมาให้ นั้นเป็นสิ่งที่รวยบุญต้องคิดต่อว่าจะออกแบบอย่างไร เราจำเป็นต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีแล้วค่อยมองต่อไปยังช่างตัดเย็บ” มะตูม-วรรณวิสาข์ สายใจ มือขวาของรวยบุญขยายความ
ปีนี้พิเศษมาก รวยบุญร่วมงานกับ British Council แสดงความเป็นน่านด้วยการผสานลายโบราณประจำจังหวัดด้วยการทำงานกับกลุ่มทอผ้าบ้านศาลา อำเภอปัว ภายใต้รูปแบบผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติตามแบบฉบับรวยบุญ
อดใจรออีกนิด เรารับรองว่าสองสาวและกลุ่มแม่บ้านอีก 4 ชุมชนจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
คนทำป๊ะคนใส่ คนใส่ป๊ะคนทำ
ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจว่า ‘ทำไมผ้าย้อมสีธรรมชาติถึงราคาแพงกว่าผ้าย้อมสีทั่วไปตามท้องตลาด’ รวยบุญจึงสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าทุกครั้งเวลาออกงานต่างจังหวัด และขยับขยายเป็นการทำเวิร์กช็อปให้คนทดลองมัดย้อมผ้าสีธรรมชาติ เพื่อหวังว่าการลงมือทำจะทำให้คนเข้าใจและตอบคำถามนั้นด้วยตนเอง แถมยิ่งลงมือทำ ยิ่งเห็นคุณค่า

ก่อนจะนั่งล้อมวงสนทนา โบพากลุ่มผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยนไปทำเวิร์กช็อปด้วยกัน
“เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่เราพากลุ่มแม่ไปเวิร์กช็อปเพื่อให้เขารู้จักลูกค้าตัวเอง เมื่อก่อนแม่มีความกังวลว่าของเขาจะขายได้มั้ย ลููกค้าเป็นกลุ่มไหน แต่พอเราพาไปเจอลูกค้า เขาก็รู้ว่าสินค้าของพวกเขาไปต่อได้ หน้าตาคนสวมใส่เป็นแบบไหน และการเวิร์กช้อปเป็นผลดีให้เราสื่อสารกับลูกค้าได้ว่าทำไมสีธรรมชาติถึงแพงกว่าสีเคมี” เธอเล่าก่อนจะเสริมต่อว่า

“เราไม่คิดว่ารวยบุญจะมาไกลถึง 4 ปี เราเป็นแบรนด์เล็กๆ ที่เหมือนเด็กกลับบ้านทำเอาสนุก ได้ช่วยชุมชน ได้เอาสินค้าของคนน่านไปกระจายออก เราเดินทางมาด้วยกันแล้ว เราต้องไปต่อ จากความคาดหวังของคนตัวเล็ก ตอนนี้เป็นความสนุกใหม่ที่ท้าทายมากขึ้น กลายเป็นกระบวนการที่เราต้องคิดแบบครบวงจร ไม่ใช่แค่การขาย แต่ต้องเริ่มตั้งแต่หลังบ้าน เราจะทำหลังบ้านให้เข้มแข็งได้อย่างไร เพื่อให้ทุกคนยั่งยืนไปพร้อมกัน นั้นเป็นเป้าหมายหลักของรวยบุญ”
บ้านน้ำเกี๋ยนเปิดยินดีเปิดรับผู้คนให้มาเยี่ยมเยียน ช้อปปิ้ง หรือเข้ามาเวิร์กช็อปย้อมสีธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี ขอเพียงนัดล่วงหน้ามาเท่านั้น คนทำจะได้ป๊ะคนใส่ และคนใส่จะป๊ะคนทำอย่างสม่ำเสมอ
ตอบแทนธรรมชาติ
แม้การเข้ามาทำงานร่วมกับรวยบุญดูราบรื่น แต่สมาชิกภายในกลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยนกลับลดลงเหลือแต่คนที่สนใจจริงและพร้อมเดินหน้าต่อ แน่นอน! แม่นายยังสู้ เธอบอกเราด้วยแววตาเปี่ยมความหวังว่า
“ยิ่งคนน่อยยิ่งมีความเข้มแข็ง เฮาอยากจะสู้ อยากจะทำให้คนอื่นหันว่าเฮาทำได้ เฮาไปได้ ยังสู้อยู่ กี่คนก็สู้เจ้า เฮาอยากจะเปลี่ยนจากการทำไร่ข้าวโพด ปัญหาที่มันเกิดบ่ใจ้บ่ฮู้ ฮู้หมดแหละ แต่ยะหยังบ่ะได้ ถ้าบ่ะยะไร่ข้าวโพดลูกจะได้เฮียนบ่หนังสือ มันบ่ได้เฮียนละ มันต้องมีงานเสริมขึ้นมา เฮาอยากจะมีจุดนี้ อยากจะมีงานตี้มั่นคงขึ้นเจ้า”
รวยบุญเข้ามาพลิกชีวิตชาวบ้านในชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยน
“เฮาฮู้ตัวแล้วว่าเฮาสร้างปัญหาหื้อกับสิ่งแวดล้อมมาเยอะมาก เฮาฮู้ทุกอย่าง แต่เฮาบ่ฮู้จะยะอะหยัง เฮาเลยอยากจะยะอะหยังตี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตี้จะคืนให้เปิ้น เอาของเปิ้นมาใช้นักแล้ว แม่ก็บ่ะได้มีอะหยัง อยากจะอุ้มคนในชุมชน เปิ้นฮ้องเตี้ยอุ้มค่อม เปิ้นก็บ่ะมี เฮาก็บ่ะมี ก็จ้วยกันไปจะอั้น อยากหื้อมันมีการเปลี่ยนแปลงกับหมู่จาวบ้าน กลุ่มของแม่เป็นแม่บ้านตี้บ่มีความฮู้ บ่ได้เป็นแนวหน้าของชุมชน เป็นกลุ่มแม่บ้านแต้ๆ อยากจะมีอะหยังสักอย่างตี้เฮาทำแล้วมันเกิดประโยชน์กับคน ถ้าเป็นไปได้อยากเลิกทำไร่ข้าวโพดเจ้า
“แต่ตึงวันนี้มีการลด แม่ลดพื้นที่การปลูกข้าวโพด สวนของแม่เริ่มปลูกต้นไม้ที่หื้อสี แม่เอาต้นมะม่วงหิมพานต์ไปปลูก เปื้อตี้จะเอากลับมาใจ๊วันข้างหน้า ถ้าเกิดว่ากลุ่มของแม่ยังอยู่ แม่จะเอาผลผลิตหมู่นั้นมาใจ๊เจ้า ประดู่แม่ก็เก็บในสวนละเป็นพื้นที่ว่างแล้วปล่อยให้ประดู่ขึ้นนะเจ้า แม่พยายามที่จะหื้อหมู่เปิ้นขายให้ อี่แม่จะละให้มันเป๋นป่า แล้วแม่จะใจ๊ประโยชน์กับป่า แม่จะอยู่กับป่าอย่างยั่งยืนหื้อดีตี้สุด จะใจ๊ชีวิตตี้เหลือกับชุมชน” เสียงเธอมุ่งมั่นและตั้งใจทำจริง
แม่นายกำลังตอบแทนธรรมชาติเท่าที่เธอและกลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติบ้านน้ำเกี๋ยนจะทำได้
อย่างสุดความสามารถ ด้วยคำมั่นสัญญาที่มีต่อธรรมชาติและชุมชน

รวยบุญ
วางขาย ณ Curve Project 106 หมู่ 6 ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน 55000
ติดต่อ : 09 2362 8998
Facebook : รวยบุญ
