5 มิถุนายน 2023
12 K

ไม่น่าเชื่อว่าปากกาและดินสอกดแท่งเรียว หัวเล็กอะไหล่เงิน มีสกรีนวงแหวนสีแดงรัดตรงแท่งเป็นซิกเนเจอร์ วันนี้จะมีอายุครบ 95 ปีแล้ว

‘rOtring’ เป็นแบรนด์เครื่องเขียนจากเยอรมนีที่เติบโตมาพร้อมกับคนไทย เชื่อว่านักเรียนไทยที่โตมาเป็นคนทำงานในปัจจุบันต้องเคยมีปากกาหรือดินสอกดที่เรียกติดปากกันว่า ‘รอตติ้ง’ (แม้จริง ๆ จะอ่านว่า โรท-ริง) อย่างน้อยสัก 1 แท่ง โดยเฉพาะรุ่น Tikky ที่ใครเห็นผ่านตาก็ต้องจำได้

คีย์เวิร์ด 2 คำหลักของ rOtring ที่น่าสนใจคือ ‘ความสมบูรณ์แบบ’ และ ‘ความแม่นยำ’ 

ความสมบูรณ์แบบจากดีไซน์ภายนอก เรียบง่าย โมเดิร์น แต่ใส่ใจผู้ใช้งานด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มอบประสบการณ์การเขียนอันยอดเยี่ยม แม่นยำด้วยกลไกภายใน กดปากกาและดินสอได้ลื่นไหล ไม่มีขัดจังหวะระหว่างทาง  

สำคัญที่สุด คือการมอบ Identity ให้ผู้ใช้ หากเด็กนักเรียนเป็นแฟนรุ่น Tikky ศิลปิน สถาปนิก วิศวกร จะเป็นแฟนดินสอกด รุ่น 500 ดีไซน์วัยรุ่น ฟังก์ชันตอบโจทย์ ทั้งบอกความเข้มไส้ดินสอ และมอบความละเอียดให้งานคมกริบ 

หากคุณเป็นผู้บริหาร จะเป็นแฟนดินสอกดและปากการุ่น 600 3 in 1 ได้โดยง่าย ด้วยดีไซน์โลหะทั้งด้าม มีน้ำหนัก ให้ลุค Professional แม้จะหยิบขึ้นมาถือเฉย ๆ และพิเศษตรงที่มีทั้งปากกาดำ ปากกาแดง ดินสอกด รวมอยู่ในแท่งเดียว และด้วยความใส่ใจของแบรนด์ ทำให้ไทยเป็นประเทศเดียวเลยนะที่มีรีฟิลล์ปากกาน้ำเงินแถมให้

ความใส่ใจของ rOtring ยังมีรายละเอียดอีกมากที่เราอยากบอกต่อ และบางอย่างก็พิเศษแค่เฉพาะในประเทศเรา ซึ่ง คุณเชอร์รี่-ศศิพร นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการแบรนด์กลุ่มสินค้า rOtring, Paper Mate และ Liquid Paper ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี จะเป็นคนช่วยเล่าเรื่องน่าสนใจที่ทำให้ rOtring อยู่คู่ Creative Community ทุกเจเนอเรชันมายาวนาน

ความลับที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจคนไทยทุกเจเนอเรชัน

1. โรทริง aka รอตติ้ง ความหมายชื่อที่เป็นหัวใจหลักของแบรนด์

“ถ้าจะอ่านให้ถูก ต้องเป็น โรทริง มีความหมายว่าวงแหวนสีแดง แต่สำเนียงการอ่าน การพูด จะเปลี่ยนไปตามสัญชาติ อย่างคนไทยโตมากับการอ่านว่า รอตติ้ง” คุณเชอร์รี่เฉลยข้อสงสัยที่คนไทยถกเถียงและติดปากเรียกชื่อแบรนด์ว่ารอตติ้งกันมายาวนาน

แม้จะอ่านผิดอ่านถูกกันบ้าง ทว่าเวลาไปซื้อ rOtring ผู้ซื้อจะหยิบปากกาดินสอที่ถูกด้าม เพราะเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ ‘วงแหวนสีแดง’ ตรงด้ามที่ไม่เหมือนใคร จะปิดชื่อแบรนด์อย่างไรก็รู้ว่านี่คือแบรนด์ที่กำลังตามหา

“วงแหวนตรงนี้สื่อความหมายที่ลึกมาก เปรียบเสมือนแป้นยิงธนู เวลาเราเล็ง ต้องเล็งให้ตรง ให้แม่น ให้เป๊ะ ความตรง ความแม่น ความสมบูรณ์แบบ เหล่านี้เป็นอุดมการณ์ที่เรายึดมั่นมาตลอด ถ้าเราไปเห็นในสื่อเยอรมนี เขาจะเอาวงกลมนี้ครอบลูกโลกไปเลย เพราะเราไม่ได้แม่นแค่ฝั่งเรา แต่เราแม่นไปทั่วโลก กระจายความเป็นโรทริงไปทั่วโลกแล้ว”

แม้ rOtring จะอยู่มาตั้งแต่ยุค 70 ซึ่งเริ่มต้นในประเทศเยอรมนี จนกระทั่ง บริษัท นีเวลล์ รับเบอร์เมด (ประเทศไทย) จํากัด ซื้อเข้ามาบริหาร และค่อย ๆ พัฒนาตามกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน บทบาทที่ยังคงยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือ หนึ่ง เอื้ออำนวยต่อการเขียน เพื่อมอบความแม่นยำทุกการตวัดปากกาหรือดินสอ และสอง เอกลักษณ์เรื่องความงาม เพื่อมอบความสมบูรณ์แบบและความภูมิใจทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาถือ

ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน
ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน

2. เครื่องเขียนที่สร้าง Identity ให้ผู้ใช้ดู Professional แม้จะเป็นเด็กนักเรียน

rOtring เก่งเรื่องการวางแผนกลยุทธ์ของแบรนด์ มอบภาพลักษณ์บางอย่างให้กับผู้ใช้ 

ในกลุ่มเด็กนักเรียนยุคหนึ่ง ใครได้ถือดินสอกดรุ่น Tikky Special สมัยยังไม่ปรับดีไซน์ให้มีด้ามจับยาง จะกลายเป็นคนที่ถูกจับจ้อง เป็นดาวเด่นในโรงเรียนขึ้นมาทันที

“กลุ่มเป้าหมายหลักของเราตอนนั้นเป็นเด็กนักเรียนสไตล์เรโทร มีความชิก Classy ในอดีต ใครก็ตามที่ปรารถนาการมีลุคแบบผู้เชี่ยวชาญจะต้องใช้โรทริง แม้เขาจะเป็นเด็กนักเรียนก็ตาม แต่ถ้าอยากเป็นคนเป๊ะ สมบูรณ์แบบ เขาจะมองมาที่เรา แบรนด์พยายามปรับเปลี่ยนนิยามความโมเดิร์นให้เข้ากับสังคม ในแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป มันคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่มาได้นาน ครองใจผู้บริโภคมาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน

“ลูกค้าไม่รู้ว่าเราใส่ใจยันน้ำหมึกปากกาหรือสร้างฟังก์ชันให้ตอบโจทย์อย่างไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้เราตั้งแต่อดีตหรือลูกค้าใหม่ เขาจะดูจากภาพลักษณ์ภายนอกอันดับแรก สีและรูปทรงต้องเข้ากับยุคสมัย หลังจากนั้นเขาถึงจะมองเห็นประโยชน์ของเครื่องเขียนตามมา เช่น เขียนดี วางแล้วไม่กลิ้ง”

คุณเชอร์รี่ขยายความให้ฟังว่า Tikky ยุคก่อน สร้างเกลียวตรงด้ามจับที่แตกต่างจากสินค้าในตลาดอื่น ๆ และมีดีไซน์เรียบหรูด้วยอะไหล่สีเงินเพิ่มความพิเศษให้ลูกค้ายุคนั้น และแม้ Tikky จะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ มาจนถึงรุ่นล่าสุดที่อยู่ตรงหน้าเรานี้ มียางตรงด้ามจับเพื่อตอบโจทย์ความสบายของนิ้วมือ และวางแล้วไม่กลิ้งจนหล่น แต่ดีไซน์โดยรวมด้านนอกนั้นแทบไม่ต่างจากเดิมมาก เพราะ rOtring ใช้วิธีการปรับ ไม่ได้ใช้การเปลี่ยน เพื่อคงเอกลักษณ์ตัวตนไว้

และความงามที่เป็นเอกลักษณ์ในยุคหนึ่ง ทำให้ Tikky รุ่นแรกยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ แม้จะผ่านมาแล้วหลายสิบปี ซึ่งคุณเชอร์รี่บอกว่าทาร์เก็ตอีกกลุ่มก็คือเหล่านักสะสมที่ตามหากันไม่หยุดหย่อน นั่นแปลว่าในอนาคต โปรดักต์รุ่นอื่น ๆ ก็อาจจะกลายเป็นของแรร์ขึ้นมาอีกครั้งแบบที่ Tikky ทำได้ เพราะในแต่ละยุค rOtring ก็พยายามดีไซน์ความคลาสสิกบางอย่างเอาไว้

ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน

3. ปรับให้ทันยุคสมัย ตั้งใจโฟกัสแต่ละทาร์เก็ต แต่ไม่เคยเปลี่ยนตัวตน

“ลูกค้าอยากดูดี แต่คำว่าดูดีในแต่ละยุคก็แตกต่างกันไป หน้าที่ของผู้สร้างผลิตภัณฑ์คือสร้างความดูดีนั้นให้เกิดขึ้นจริง” 

Tikky เป็นสินค้าที่มีสีให้เลือกเยอะมาก จากเมื่อก่อนที่มีแค่สีขาว แดง น้ำเงิน หรือในยุคหนึ่งที่สีนีออนดัง ๆ Tikky ก็เคยออกสีนีออนสะท้อนแสงมาวางขายเหมือนกัน

อะไรอีกบ้างที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย?

คำตอบที่ชัดเจนที่สุดก็คือสินค้าของแบรนด์ในปัจจุบัน เพราะนี่คือผลงานที่ผ่านการปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาแล้ว

“ถ้าให้เราแหวกไปทำแนวการ์ตูน มันอาจหลุดกรอบของเราเกินไป เราอยากคงความโมเดิร์นแบบเรียบง่ายที่เรามองว่านี่คือเสน่ห์ที่ครองใจคนมาได้ยาวนาน อย่างในตลาดเกาหลีเองที่เป็นตลาดพรีเมียม การออกรุ่นสีลิมิเต็ดแบบนี้จะเป็นที่นิยม”

โดยในปีนี้ทาง rOtring ได้มีการออก Tikky Pastel 3 สีใหม่ คือสีแดงชากุหลาบ (Tea Rose) สีเขียวน้ำทะเล (Opal Blue) และสีม่วงกล้วยไม้ (Orchid Bloom) ที่มาเพิ่มสีสันของดินสอออกมาให้เข้ากับยุคสมัย เป็นตัวแทนของความเป็นปัจจุบัน ซึ่งแฝงความสนุก สดใส และยังตามเทรนด์ผู้บริโภคอยู่เสมอ

นอกจากนี้ rOtring ยังออกสินค้ารุ่น 800+ Stylus Hybrid เปรียบเสมือนผลงานที่ปรับตัวให้เข้ายุคดิจิทัล วางขายในไทยเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นรุ่นที่เขียนบนหน้าจอทัชสกรีนได้ ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการเขียนบนกระดาษ rOtring เชื่อว่าน้ำหนักมีผลต่อความรู้สึกในการเขียน และมูลค่าของสินค้า แม้แต่ปากกาที่ขายมาตั้งแต่ยุค 70 รุ่น Isograph ซึ่งเป็นปากกาเขียนแผนที่โลกหัวเข็ม ต้องเติมหมึกก่อนจุดบนกระดาษชนิดพิเศษ ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนเป็น Made to Order 

ไม่ว่าจะปรับอย่างไร สุดท้ายโปรดักต์ทุกชิ้นจะส่งเสริมให้งานออกมาดีและเพอร์เฟกต์ ว่าแต่จะทำได้อย่างไร บรรทัดต่อไปมีคำตอบให้เห็นเป็นรูปธรรม

4. ดีไซน์ตอบโจทย์หลักสรีรศาสตร์ มอบประสบการณ์การเขียนที่เข้ามือที่สุด

เขียนแล้วไม่เมื่อย เหงื่อออกมือแล้วไม่ลื่น วางไว้แล้วไม่กลิ้ง น้ำหนักเชื่อมโยงกับการคอนโทรลลายเส้น ทั้งหมดนี้ rOtring ทำได้

ปกติหลายคนน่าจะคุ้นชินกับดินสอหรือปากกาทรงมนเท่ากันทั้งด้าม แต่หากเป็นซิกเนเจอร์ของ rOtring ในยุคปัจจุบัน จะดีไซน์เครื่องเขียนให้มีลักษณะหกเหลี่ยมทุกรุ่น เพื่อให้ผู้ใช้จับถนัด ไม่ไหลลื่นไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหน เพราะหากเครื่องเขียนมีความโค้งมน แน่นอน วางแล้วอาจกลิ้งไปไกลได้ ซึ่งด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ใช้ rOtring เชื่อว่านี่เป็นอุปสรรคของลูกค้า

อีกหนึ่งสิ่งที่ตอกย้ำในความใส่ใจนี้ คือการนำเอาหลักสรีรศาสตร์มาใช้ในการสร้างสรรค์ดินสอและปากกาแต่ละรุ่น ตั้งแต่น้ำหนักที่ไม่เท่ากันของแต่ละรุ่นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และการออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ rOtring ได้สำรวจทาร์เก็ตลูกค้าในแต่ละรุ่นว่าต้องเข้ามาทำให้ผู้ใช้งานมีความสุขกับการเขียนมากขึ้น

“เราดีไซน์ทุกโปรดักต์ของโรทริงตามหลักสรีรศาสตร์ที่ถูกต้องจริง ๆ เวลาสัมผัส คุณจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนัก เพราะน้ำหนักที่ดี จับแล้วจะรู้สึกไม่เหนื่อย และในบางรุ่นที่มีน้ำหนักก็จะช่วยนวดกล้ามเนื้อมัดเล็กของข้อมือเรา ทำให้เขียนออกมาสบาย ซึ่งจากที่ทำโฟกัสกรุ๊ปมา แทบทุกรุ่นได้ให้ความรู้สึกดีต่อผู้เขียนได้จริง เราไม่ได้มองว่าปากกาที่หนักหมายถึงปากกาที่ดี แต่ปากกาที่ดีต้องมีน้ำหนักที่ดี ให้เข้ากับการใช้งานของผู้บริโภคแต่ละคน” คุณเชอร์รี่อธิบาย

ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน

และนี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ว่าการดีไซน์สินค้าของ rOtring นั้นลึกซึ้งกว่าที่คิด แล้วแต่ละรุ่นมีการดีไซน์เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ผ่านความใส่ใจของแบรนด์อย่างไรบ้าง

ยกตัวอย่างรุ่น 500 และ 600 3 in 1 ที่สองรุ่นนี้มีการออกแบบเฉพาะเจาะจงตามกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

รุ่น 500 ที่มาด้วยกัน 4 สี ได้แก่ แดง น้ำเงิน เขียว และดำ พร้อมดีไซน์เท่ ๆ ทะมัดทะแมง เพราะ “รุ่น 500 เราอยากให้ออกมาตอบโจทย์วัยรุ่นหรือวัยทำงานที่อยากวาดลายเส้นจริงจังและมีความละเอียด จึงเป็นสาเหตุว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่เราเริ่มใส่น้ำหนักเข้าไป ขายดีมากที่สุดในกลุ่มนักศึกษาสถาปัตยฯ หรือกลุ่มนักออกแบบมือใหม่ เพราะเขาจะได้ภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้นจากด้านดีไซน์และการจับที่มีน้ำหนัก ซึ่งน้ำหนักที่ดีจะทำให้การลงน้ำหนักของภาพลายเส้นออกมาเนียน บวกกับการที่เราดีไซน์ตัวกันลื่นช่วงข้อนิ้วขึ้นมาเป็นผิวสัมผัสแบบฝืด ๆ ทำให้เวลาเขียนมันจะล็อกนิ้วไว้เลย เพื่อแก้ปัญหาเหงื่อออกแล้วลื่น ขัดจังหวะศิลปิน”

ความพิเศษของรุ่น 500 ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะช่วงด้านบนดินสอกดหมุนเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ HB, 2B, 4H ได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชัน ‘กันลืม’ ว่าเราใส่ไส้ดินสอประเภทไหนลงไป ซึ่ง rOtring ทำการศึกษามาแล้วว่าคนชอบลืมกันบ่อยจนต้องเปลี่ยนไส้ใหม่เยอะมาก ใช้รุ่นนี้หมดปัญหาเรื่องลืมไปได้เลย (ยกเว้นคุณจะลืมหมุนเองนะ)

ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน
ปรัชญาที่ซ่อนในปากกาและดินสอ rOtring เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจนักเรียนไทยทุกเจเนอเรชัน

และรุ่น 600 3 in 1 “สำหรับสาย Executive ชอบเซ็นไปด้วย วาดภาพไปด้วย หรือต้องมีปากกาสี ๆ แซมอยู่ รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก เพราะหนึ่ง คือมอบภาพลักษณ์ที่มีความแพงด้วยการดีไซน์โลหะทองเหลืองทั้งด้ามจากญี่ปุ่นที่ใช้นานเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นสนิม ซึ่งการใช้โลหะที่มีน้ำหนักแบบนี้จะทำให้ผู้บริหารเซ็นได้มันมาก (หัวเราะ) และการหมุนเปลี่ยนได้ 3 หัว ทั้งหมึกดำ หมึกแดง และดินสอกด ผู้ใช้จะใช้มันได้หลากหลายโอกาส ซึ่งเราจะแถมไส้หมึกน้ำเงินให้ โดยมีวิธีการใส่บอกให้อย่างละเอียด และทุกหน้าตู้ที่วางขายจะมีพนักงานแนะนำการขาย ลูกค้าไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ไม่เป็น

“ด้านหนึ่งพอดีไซน์มันมอบภาพลักษณ์ดูแพงให้ การจะหยิบจับขึ้นมาถือจะให้ลุคทางการ ถือแล้วมั่นใจ บางครั้งเขาจับปากกาไม่ได้เขียนอะไรเลยนะ ยกขึ้นมาเฉย ๆ ก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง มันคือเรื่องของความรู้สึกล้วน ๆ ที่เรามองว่าก็สำคัญไม่แพ้กัน”

ในรุ่น 600 3 in 1 มาพร้อมกล่องสีดำดีไซน์เรียบที่ทำจากกระดาษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำไปรีไซเคิลต่อได้ 

5. เลือกวัสดุคุณภาพที่ดีที่สุด ใช้ไปเลยหลายร้อยปี สนิมไม่มีขึ้น 

ปากกาและดินสอกดทุกรุ่นของ rOtring ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี เปลี่ยนผ่านไปแล้วกี่เจเนอเรชัน สนิมก็ไม่ขึ้น เพราะเขาใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัสดุที่จะไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง ไม่ว่าจะรุ่น 500 เหมาะสำหรับมือโปรสายออกแบบ สถาปนิก วิศวกร สายสเกตช์ภาพ รุ่น 600 Ballpoint และ 600 3 in 1 เหมาะสำหรับผู้บริหาร rOtring จะคัดเลือกวัสดุคุณภาพที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์คนแต่ละกลุ่มโดยอยู่บนพื้นฐานความคลาสสิก ที่แม้จะซื้อตอนนี้ แต่ไม่ว่าจะหยิบขึ้นมาใหม่ในอีกหลายปีครั้งหน้าก็ดูไม่เก่าเลย

“หมึกที่เราเลือกใช้คือหมึกคุณภาพที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่น แบบที่แบรนด์ Luxury ใช้กัน ซึ่งประเภทของหมึกแต่ละรุ่นจะเหมือนกัน ต่างกันที่สี

“รุ่น 600 3 in 1 ทาร์เก็ตของเราคือผู้บริหาร น้ำหนักของด้ามจับจึงต้องหนักขึ้นมาหน่อย เราเลยเลือกด้ามจับเป็นโลหะทองเหลืองทั้งด้ามจากญี่ปุ่น และที่ต้องเป็นญี่ปุ่นเท่านั้นเพราะโลหะทองเหลืองของญี่ปุ่นเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในโลก คือเราใส่ใจดีเทลแม้กระทั่งว่าเราต้องไปซื้อวัสดุเหล่านั้นจากที่ไหน เพราะเราอยากให้คนซื้อใช้ไปจนแก่ก็ไม่ขึ้นสนิม

“และสำหรับ 3 สีลิมิเต็ดของรุ่น 600 3 in 1 เราก็จะใช้การผสมสีจากฝีมือช่างญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ความละเอียดที่สวยงามแบบญี่ปุ่น ส่วนรุ่น 500 จับแล้วจะเบาขึ้นเพราะมันไม่ได้เป็นโลหะทั้งด้าม มีการผสมพลาสติกคุณภาพดีลงไปเพื่อให้ได้น้ำหนักที่ไม่หนักมาก 

“จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่วัสดุเราจะใช้จากประเทศญี่ปุ่นเยอะ แต่ Know-how และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะมาจากเยอรมนี เพราะอย่างที่รู้กันว่าคนเยอรมันจะเป็นคนที่เป๊ะ ตรง อยู่ในกรอบ โปรดักต์ของเราจึงต้องมีความแม่นยำ ความเป๊ะ และสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นจุดเด่นหลักในตลาดที่ยึดถือมาตลอด 95 ปี”

9 เรื่องน่าสนใจในปีที่ 95 ของ rOtring แบรนด์เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจคนไทยทุกเจเนอเรชันที่รักความเป๊ะ

6. กลไกภายในเฉพาะตัวและกระบวนการผลิตที่ยังเชื่อในมือคนมากกว่าเครื่องจักร

กลไกอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ rOtring คือกลไกดินสอกด บางคนอาจสงสัยว่าดินสอกดเหมือนกันจะทำให้ต่างกันได้แค่ไหนเชียว แต่มันต่างได้นะ เพราะว่าดินสอกดของ rOtring ใช้แล้วไส้ดินสอไม่หักระหว่างเขียนให้กวนใจ และหัวเหล็กตรงปลายดินสอจะไม่หุบเข้าไปด้วย

“สปริงที่อยู่ข้างในดินสอกดมีกลไกพิเศษที่ละเอียดมาก เราออกแบบเพื่อให้คนกดรู้สึกสมูต ไส้จะไม่หักระหว่างทาง และที่สำคัญ เขียนไปกดไส้ดินสอให้ออกมาได้โดยไม่ทำให้ไส้ดินสอหัก หัวเหล็กก็จะไม่หุบเข้าไปด้วย นี่คือกลไกที่เราตั้งใจพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ที่คนใช้ดินสอกดรู้ดี” หากอยากพิสูจน์ ให้คุณลองหยิบดินสอกด rOtring ขึ้นมาลองเขียน แล้วจะพบว่ากลไกพิเศษนี้ทำให้การเขียนสมูตขึ้นได้อย่างไร

สินค้าอีกชิ้นที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของ rOtring คือรุ่น 600 3 in 1 สีลิมิเต็ดสวยสะดุดตา เมื่อถามถึงกระบวนการทำชิ้นนี้ แบรนด์บอกว่าที่เห็นอยู่เป็น Craftsmanship ที่รังสรรค์โดยช่างเก่าแก่ชาวญี่ปุ่นซึ่งอยู่กับ rOtring มานาน

“ความตั้งใจนี้เรียกว่า Beauty of rOtring เพราะโปรดักต์รุ่นนี้เป็นกึ่งทำมือ กึ่งทำจากโรงงาน ส่วนหัวทองเหลืองทุกอัน เราใช้มือคนมาประกอบร่าง ซึ่งเรามองถึงจุดเด่นของการเอามือคนมาช่วยประกอบที่มอบเสน่ห์บางอย่าง เพราะว่าช่างที่จับเป็นคนมีประสบการณ์และอยู่กับโรทริงมาอย่างยาวนาน เราจึงมองเห็นคุณค่าของช่างเหล่านั้นมาก จำนวนการผลิตของรุ่นนี้จึงไม่ได้มีมาก เวลาออกมาทีมันเลยมีราคา มีมูลค่า สมมติทำออกมาหมื่นด้ามทั่วโลก หมดก็คือหมดเลย”

9 เรื่องน่าสนใจในปีที่ 95 ของ rOtring แบรนด์เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจคนไทยทุกเจเนอเรชันที่รักความเป๊ะ

7. เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละประเทศ ซื้อที่ไทยจึงพิเศษ ไม่เหมือนที่อื่น

จะเห็นว่าปากการุ่น 600 3 in 1 นอกจากจะมีปากกาดำ ปากกาแดง และดินสอกดในแท่งเดียวแล้ว ยังมีหมึกสีน้ำเงินแถมให้ ตอนแรกเราก็คิดว่าจะมีแถมให้ทุกประเทศที่ซื้อ ปรากฏว่า… ไทยแลนด์โอนลี่ไปเลย อีกทั้งยังมีปากการุ่น 600 Ballpoint สีใหม่ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งออกมาด้วยกัน 3 สีลิมิเต็ด ได้แก่ Gold, Rose Gold, Pearl White โดยทั้ง 3 สีนี้เป็นสีเฉพาะที่ผลิตจากญี่ปุ่น หากพลิกไปดูหลังกล่องจะเห็นได้เลยว่าเขา Made in Japan และด้วยความลิมิเต็ดนี้ ทำให้จำนวนกำลังการผลิตไม่ได้มีมาก เวลาออกมาที ใครชอบต้องรีบไปช้อปก่อนหมด เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่มีมูลค่าทางใจเลยก็ว่าได้

“ซื้อประเทศอื่นนอกจากไทยไม่มีสีน้ำเงินแถมให้นะคะ ต้องซื้อเมืองไทยเท่านั้น เพราะว่าคนไทยเขียนปากกาน้ำเงิน ไม่เหมือนสีดำที่ประชากรทั่วโลกจะใช้เยอะกว่า

“หรือความแตกต่างระหว่างลูกค้าไทยกับลูกค้ายุโรปที่เราต้องมองให้ขาด อย่างโซนยุโรปจะชอบปากกาและดินสอกดที่อยู่ในหลุม หรือที่เรียกว่า Pigeonhole ตามร้านขายเครื่องเขียน เขาจะซื้อทีเป็นโหล แต่บ้านเราจะซื้อทีละด้ามและคละสี หรือบางครั้งผู้ปกครองจะชอบซื้อแพ็กประหยัด เราเลยต้องออกแบบแพ็กประหยัดที่รวบรวมสินค้าหลาย ๆ ชิ้นมาจัดเป็นเซต มีทั้งดินสอกด ไส้ดินสอ ยางลบ และไม้บรรทัด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะในไทย และเป็นสิ่งที่ทีมมาร์เก็ตติ้งต้องรู้”

9 เรื่องน่าสนใจในปีที่ 95 ของ rOtring แบรนด์เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจคนไทยทุกเจเนอเรชันที่รักความเป๊ะ

8. แบรนด์ที่ไม่เชื่อว่ายุคดิจิทัลจะทำให้คนเลิกจับปากกา

ในโลกที่ทุกคนมีโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน การพิมพ์เพื่อจดบันทึก หรือแม้แต่การวาดด้วยปากกาทัชสกรีน ทำให้เราสงสัยว่าสำหรับแบรนด์เครื่องเขียนในยุคดิจิทัลแบบนี้ จะได้รับผลกระทบบ้างหรือเปล่าเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง

“เรายอมรับว่ากระแสดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในสังคมค่อนข้างเยอะ และนั่นทำให้ผู้คนรู้สึกกันว่าคนจะเขียนหนังสือน้อยลง แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่เชื่อแบบนั้น ทุกวันนี้มีการโหยหากระแสในอดีต เช่น แฟชั่น Y2K หรือแม้แต่กิจกรรมบางอย่างที่คนทำกันในยุคดิจิทัล การเขียนคือหนึ่งในนั้น และถ้าให้พูดเจาะลึกไปอีก ในฐานะที่ทำเรื่องการตลาดโดยตรง ภาพของแบรนด์เครื่องเขียนในไทย เรามีข้อมูลอ้างอิงจากยูโรมอนิเตอร์ว่า สินค้าในกลุ่มเครื่องเขียนยังคงเติบโตขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สวนกระแสกับความรู้สึกคนที่มองว่า คนเขียนปากกาน้อยลง”

ตัวเลขการเติบโตอาจไม่ได้เยอะก้าวกระโดดเหมือนเมื่อก่อนก็จริง แต่การที่มันยังคงเติบโตและขยายออกไปนั้น กำลังบอกทุกคนว่าผู้คนยังรักในการเขียน ไม่ได้หยุดเขียนแบบที่หลายคนเข้าใจ เพราะสุดท้ายการลงมือจับปากกาหรือดินสอนั้นจะมอบสัมผัสที่แตกต่างออกไปจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ การที่คุณได้เป็นส่วนหนึ่งกับเครื่องเขียน การได้ตั้งใจใช้น้ำหนักสร้างสรรค์ผลงาน และยังได้จับกระดาษ ถือเป็นความคลาสสิกที่หาตัวจับยาก

“เวลาเราลงมือเขียน มันเหมือนได้ระบายความรู้สึกบางอย่างที่เราจะสัมผัสได้ตั้งแต่การจับ ผ่าน Process การคิดก่อนจะเขียนลงไป อันนี้คือลายมือของฉัน นี่คือผลงานของฉัน สิ่งที่เขียนมันกำลังบอกถึงความเป็นตัวเรา เราได้เห็นความคิดที่เราเขียนออกมาเอง มันเป็นความงามที่เราเจอจากการเขียน ไม่เหมือนกับการพิมพ์ที่กดผ่านนิ้ว” คุณเชอร์รี่กล่าว

และแม้เราจะเดินทางมาสู่โลกดิจิทัลที่หลายคนหันมาทำงานบนหน้าจอแท็บเลตมากขึ้น rOtring ก็ไม่ลืมออกสินค้าเพื่อทำให้สัมผัสของการทำงานบนหน้าจอคล้ายคลึงกับการเขียนหนังสือบนกระดาษมากที่สุด ด้วยปากการุ่น 800+ Stylus Hybrid ซึ่งถูกดีไซน์มาให้มีน้ำหนักการลงมือวาด เขียน หรือจดโน้ต ที่มีคุณภาพเหมือนกับการสร้างสรรค์งานบนกระดาษมากที่สุด แน่นอนว่าจุดนี้จะส่งผลต่อความรู้สึกของกลุ่มลูกค้าที่มีใจรักในการวาดเขียนได้ไม่น้อย

9 เรื่องน่าสนใจในปีที่ 95 ของ rOtring แบรนด์เครื่องเขียนเยอรมันขวัญใจคนไทยทุกเจเนอเรชันที่รักความเป๊ะ

9. แบรนด์ที่ทำให้ลูกค้ารักด้วยการเป็นตัวของตัวเอง

rOtring พยายามสร้างการเติบโตของแบรนด์ไปพร้อม ๆ กับคนทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่เล็กจนโต rOtring เข้าได้กับคนทุกช่วงวัย และนี่คงเป็นความโดดเด่นที่ทำให้แบรนด์นี้ฆ่าไม่ตาย และแม้ในบางรุ่นที่มีมูลค่าอย่างรุ่น 500 สำหรับนักออกแบบหรือสถาปนิก และรุ่น 600 3 in 1 ที่ทาร์เก็ตส่วนมากเป็นผู้บริหาร จะมีราคาที่สูง แต่คุณเชอร์รี่บอกว่าความน่าสนใจคือ “คนยังซื้อของแพงกันอยู่”

“แม้จะมีแบรนด์อื่นที่ราคาใกล้กัน แต่เราไม่ได้พยายามจะสู้กับใครเลย เพราะเราค่อนข้างมั่นใจในคาแรกเตอร์และความชัดเจนในตัวตนเรา

“ความชัดเจนของเราคือการส่งต่อความละเอียดในการเขียนและแม่นยำ แม่นจริง ๆ จะวาด เขียน เซ็น มันจะเป๊ะเสมอตามทิศทางที่ต้องการ”

เพราะไม่ว่าจะ ‘รอตติ้ง’ หรือ ‘โรทริง’ ความเป๊ะ ความสมบูรณ์แบบ ก็มีเหมือนกัน

หาซื้อ rOtring ได้ที่ ร้านเครื่องเขียนและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ : B2S, BeTrend, Loft, Medium and More, OfficeMate และ Somjai

สั่งซื้อช่องทางออนไลน์ ได้ที่ OfficeMate : https://bit.ly/3O4W6FU

Writer

Avatar

พัชญ์สิตา ไพบูลย์ศิริ

นัก (ชอบ) เขียนบ้ากล้องที่ชอบถ่ายรูปตัวเองเป็นพิเศษ เสพติดเสียงธรรมชาติ กลิ่นฝน และสีเลือดฝาดบนใบหน้า ที่ใช้เวลาเขียนงานไปพร้อมๆ กับติ่งอปป้าอย่างใจเย็น

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล