01

เคารพเกรดของคุณเอง 

หลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่ากว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แทบแย่ใช่มั้ย ทั้งต้องท่องจำตาราอย่างหนัก ติวสอบ เพื่อแข่งขัน เพราะฉะนั้นจึงคาดหวังว่า มหาวิทยาลัยจะต้องเป็นที่ท้าท้ายให้เราได้เรียนรู้ได้กว้างกว่า และพอกันทีกับการท่องจำเอาไปกาข้อสอบถูกผิด

ทันทีที่เข้าปี 1 มีเสียงเล่าลือมาว่า วิชาพื้นฐานวิชาหนึ่ง ทุกคนจะได้เกรดเอ หากท่องจำสารบัญหนังสือที่เรียนไว้ เพราะมันจะออกในข้อสอบ เราไม่เชื่อ และไม่ท่อง

ข้อสอบออกจริงๆ เราไม่เขียน ผลปรากฏว่าเราได้เกรดซี อาจารย์เรียกไปคุยและให้แก้ตัวใหม่ ด้วยการไปท่องจำสารบัญหนังสือเรียนมาตอบ

เราประชดด้วยการเขียนสารบัญชีวิตแบบที่เราอยากจะใช้ลงไป สรุปคือก็ได้เกรดซี เหมือนเดิม เรากลายเป็นตำหนิและจุดด่างพร้อยให้วิชาของอาจารย์คนนั้น แต่ไม่เป็นไรนะ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเคารพในคุณค่าของเกรดซี ที่เราได้มาก็พอแล้ว 

02

ใช้ชีวิตให้เป็นบทเรียน ออกเดินทางจากหนังสือเล่มที่เราชอบ

โรงเรียนโรงเรียนหนึ่งที่เราได้ยินชื่อในกรุงโซล แล้วรอคอยที่จะได้พบกับพวกเขาเลย มีชื่อว่า Road Scholar โรงเรียนที่มีหลักสูตรให้ออกเดินทางบนท้องถนนทุกปีการศึกษา

ต้นปีเริ่มการศึกษา พวกเขาจะเอาหนังสือที่แต่ละคนชอบมาอ่านกัน แล้วก็เลือกเรื่องที่สนใจร่วมกัน วางแผนการเรียนรู้จากการเดินทางตลอดปี 

ทั้งโปรแกรมมีนักเรียนประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ ดร็อปเอาต์​ (Drop Out) จากการเรียนในกระแสหลัก เพราะไม่เชื่อในเส้นทางการเรียนเพื่อแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเอาเป็นเอาตายในสังคมเกาหลี

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก
Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

เด็กเหล่านี้เชื่อว่า ระหว่างทางมีเดือนมีดาวให้พวกเขาต้องแหงนมอง และพวกเขาต้องการมีเวลาเพื่อที่จะได้ค้นหาว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเรียนรู้อย่างไร และอยากจะเดินไปในเส้นทางชีวิตแบบไหน

เด็กนักเรียนคนหนึ่งบอกกับเราว่า โรงเรียนทั่วไปทำให้เรายุ่งอยู่ตลอดเวลาไม่ได้เห็นดาวเห็นเดือน

เพิ่งมาได้เห็นดาวเห็นเดือนจากการเดินทางในครั้งนี้ และเขามีเวลาที่จะได้สำรวจความชอบความถนัดของตัวเอง

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก
Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

จากการได้อ่านหนังสือที่ไม่ใช่ตำราเรียน โปรแกรมนี้ทำให้เขาได้อ่านหนังสือเล่มที่เพื่อนๆ ชอบ เพราะสุดท้ายพวกเขาจะต้องโหวตเลือกกันว่า ทุกคนจะออกเดินทางกับหนังสือเล่มไหนด้วยกัน

การเรียนในโรงเรียนกระแสหลักทำให้ไม่เคยมีเวลาว่าง แต่การได้เดินทางในโปรแกรมนี้ทำให้เราได้เวลาของเขากลับคืนมา 

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

03

ความหมายระหว่างชายแดน

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

ปีนี้หนังสือเล่มที่พวกเขาเลือกที่จะออกเดินทางร่วมกัน เป็นหนังสือที่มีธีมเกี่ยวกับเรื่อง ‘ความหมายระหว่างชายแดน’

พวกเขาออกแบบการเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีในโซล สถานีสุดท้ายที่เป็นเส้นทางในฝันของคนเหนือและใต้ที่ไม่เคยได้เปิดใช้งานตามความฝัน ซึ่งจะเป็นสถานีที่รวมเหนือใต้และโลกเข้าด้วยกัน

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

เส้นทางที่จะเชื่อมทางเดินรถไฟข้ามทวีปเอเชีย จากปลายคาบสมุทรเกาหลี ผ่านเกาหลีเหนือ จีน ไซบีเรียของรัสเซีย ไปจนถึงทวีปยุโรป พวกเขาใช้เวลา 1 เดือนครึ่งบนรถไฟเพื่อเดินทางตามเส้นทางนั้น เป็นทริปใหญ่ในปีการศึกษา

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก
Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

เพื่อให้สมชื่อโรงเรียน วันแรกที่เราก็ได้นัดเจอกันตอนที่พวกเขาไปออกทริปย่อยระหว่างภาคการศึกษาพอดี และทริปนี้เป็นทริปพิเศษที่เราจะได้ตามพวกเขาไปที่ชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ DMZ เขตปลอดปฏิบัติการทางทหารชายแดนเกาหลีเหนือ ใต้ ที่นี่เป็นทั้งสัญลักษณ์ของการต่อสู้ และเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างสันติภาพ

ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในช่วง ค.ศ. 1950 นำมาสู่การแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย และหลังจากการทำสนธิสัญญาหยุดยิงเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 ก็ได้มีการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน พร้อมกับเขตปลอดทหารหรือ Demilitarized Zone (DMZ)

ความหวังแห่งอนาคตกำลังกลับมา ในรอบปีที่แล้วเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธหลายรอบ จนทำให้เกิดความระแวงของคนในชาติ ครูคนหนึ่งของโรงเรียนเล่าให้เราฟังว่า สงครามไม่เคยจบด้วยรัฐ ประชาชนต้องเป็นคนที่จบมันเอง 

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

ปีที่ผ่านมา หลายคนในโปรแกรมนี้ต่างรู้สึกตรงกันว่า การตื่นมาด้วยความหวาดระแวงว่าประเทศเกาหลีเหนือและใต้จะทำสงครามกันเมื่อไหร่ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความมั่นคงในชีวิตจนถึงกับต้องออกมาทำอะไรบางอย่าง

เขาใช้การเดินทางเส้นทางนี้เป็นสัญลักษณ์ เดินทางด้วยรถไฟ

ส่งเสียงแห่งความหวังของพวกเขาด้วยศิลปะดนตรี ที่เป็นภาษาแห่งสากล

ระหว่างทางเคยกังวลเรื่องภาษา แต่ว่าดนตรี ศิลปะที่เราแสดง ทำลายกำแพงภาษาเชื้อชาตินั้นออกไปได้

และระหว่างทาง พวกเขาจะใช้การร้องเล่นเต้นรำเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างทางกับคนต่างชาติ ต่างภาษา และแน่นอน นอกจากจะพบคนที่เห็นเหมือนแล้ว ต้องพบคนที่เห็นต่าง

ครูคนหนึ่งเล่าให้เราฟังว่า พวกเขาเขียนเพลง แต่งเพลง และคิดท่าเต้นนี้ขึ้นมาเอง เพื่อเป็นรากฐานสำหรับเขาในการจัดการกับความขัดแย้งเห็นต่าง และยังอาจเป็นเครื่องมือที่ทะลุกำแพงความต่างได้ง่ายที่สุด 

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

 04

เราเรียนบทกวีไปทำไม

กลับจาก DMZ เขตปลอดการยิงทางทหาร สุดสัปดาห์ต่อไปเราได้ไปเข้าห้องเรียน ที่เขาบอกว่าวันนี้มีห้องเรียนบทกวี

บทรำลึกถึงความรู้สึกจากสงคราม และดูหนังเกี่ยวกับสงครามระหว่างประเทศของพวกเขา ห้องเรียนบทกวีวันนี้ เขาอ่านบทกวีที่เกี่ยวกับครอบครัว คู่รักที่ต้องแยกจากกัน เพราะการขีดแบ่งแยกประเทศ เหนือและใต้ คนละการปกครอง

แต่ละคนเลือกบทกวีที่ตัวเองชอบมาอ่านด้วยกัน และเลือกอ่านแต่ละบทที่แต่ละคนชอบ และบางคนก็แต่งบทกวีของตัวเองขึ้นมา มีน้ำตาปริ่มๆ หลายๆ บทกวีในห้องเรียนนั้น

เด็กนักเรียนคนหนึ่งบอกเราว่า เขาไม่เคยเข้าใจว่าเรียนบทกวีแล้วจะไปประกอบอาชีพอะไรได้ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือทำให้เขาได้รู้จักความงาม ความอ่อนโยน และเข้าใจชีวิตของตัวเองและคนอื่นมากขึ้นผ่านบทกวี

 05

The Road Less Traveled บทเรียนชีวิตที่เขียนบนท้องถนน 

ก่อนมาเข้าโปรแกรมนี้ เด็กหลายคนบอกว่า ตัวเองรู้สึกเปราะบาง ขัดแย้ง สับสน แตกต่าง และหวาดกลัวกับทั้งอนาคตของตัวเองและอนาคตของชาติ

การเดินทางกับโปรแกรมนี้ทำให้พวกเขาเห็นว่าแต่ละคนมีความรู้สึกเหล่านั้นได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าพอมีความรู้สึกแตกต่างแล้วต้องแปลกแยก 

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

การเดินทางผ่านชายแดนหลายประเทศจากเกาหลีใต้ไปถึงชายแดนทวีปยุโรป ทำให้ได้พบเห็นผู้คนที่เกิดมาแตกต่าง พูดคนละภาษา คนละวัฒนธรรม เป็นความหลากหลายและความงาม การใช้พลังของศิลปะ ดนตรี ทำให้พวกเขาสื่อสารกันได้โดยไม่มีพรมแดน

พวกเขาได้รู้จักพื้นที่ Public Space ให้ผู้คนออกมาเชื่อมต่อกันด้วยการเสพศิลปะ ดนตรี ระหว่างทุกสถานีรถไฟที่พวกเขาหยุดแสดงระหว่างทาง บนท้องถนน ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ได้เชื่อมโยงจิตใจผู้คนให้อ่อนโยน สื่อสารกัน แล้วก็เห็นชีวิตที่ดีๆ ซึ่งคนอยู่กันอย่างมีคุณภาพชีวิต จึงคิดถึงคนอื่น มีปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตที่ดี รู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องกลัวสงคราม ไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้อง มีพื้นที่แสดงออกทางความคิด นั่นล่ะคงเป็นชาติ เป็นเมือง เป็นสังคม เป็นโลก ที่เราทุกคนหวังจะเดินทางไปด้วยกัน 

Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก
Road Scholar โรงเรียนของเด็กดร็อปที่มีหลักสูตรการเรียนรู้เป็นการออกเดินทางตลอดปี, โรงเรียนทางเลือก

กลับจากการเดินทางทริปใหญ่เดือนครึ่ง เด็กๆ กลับมาเขียนบทเรียนชีวิตของตัวเองจากประสบการณ์เดินทาง

สารบัญแต่ละเล่มหนังสือของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แม้ว่าพวกเขาจะเดินทางร่วมกันตลอดทั้งปี

ไม่มีการให้เกรดเพื่อจบการศึกษา

เพราะทุกเนื้อหาและตัวอักษรที่อยู่ในหนังสือเล่มที่แต่ละคนเขียน ไม่มีการท่องจำมาเขียนตอบ แต่ล้วนเป็นประสบการณ์และเรื่องเล่าในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งมีคุณค่าและควรแก่การเคารพเกินกว่าที่จะให้ใครสักคนตีออกมาเป็นเกรด

Writer & Photographer

Avatar

เสาวนีย์ สังขาระ

Film Maker, Farmer, Facilitator ผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีอิสระ บินสิ! โปรดักส์ชั่นเฮาส์ และรายการบินสิ! ผู้ก่อตั้งและอำนวยการเรียนการสอน ที่สวนศิลป์บินสิ Films Farm School