5 พฤษภาคม 2025
7

Session 0 : การเกริ่นนำ & การเตรียมตัว

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2025 พวกเราชาวริเน็นรุ่น 8 กำลังอยู่ระหว่างการดูงานที่นครปฐม 

ช่วงเที่ยง พี่ช้าง (ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา) Co-founder ของ The Cloud เดินมาคุยกับดิฉันและ โค้ชณัฏฐ์ (ณัฏฐ์ เพิ่มทรัพย์) ว่า เรามาจัดงานเลี้ยงรุ่นกันเถอะ!

The Cloud จัดคลาสเรียนธุรกิจคิดดี หรือคลาส Rinen มาตั้งแต่ปี 2019 จัดมาแล้ว 8 รุ่น ทุกรุ่น ทุกคลาส ผู้เรียนมักจะบอกเสมอว่า เหมือนได้มาเติมพลัง เติมไฟให้กัน 

วันที่ 28 มกราคม ปี 2023 พวกเราเคยจัดงาน Rinen Connect รวมรุ่น 1 – 5 กันไปแล้ว ตอนนั้นไปจัดที่ร้าน The Wood Land ของ คุณพิณ (ริเน็นรุ่น 4) ไปกัน 50 กว่าคน มีออกบูทเล็ก ๆ ในสวน มีทานข้าวกัน แนะนำตัวกันทุกคน และเมาท์มอย ตามแบบฉบับงานเลี้ยงรุ่นทั่วไป 

ทว่า! ปีนี้พี่ช้างชวนคิดการใหญ่ จำนวนชาวริเน็นก็มีมากขึ้น ถ้ารวม 8 รุ่น ก็ประมาณ 300 คนได้ งั้นเรามาจัดงานทอล์กเล็ก ๆ ชวนสมาชิกแต่ละรุ่นมาอัปเดตกันดีกว่า เราจิ้มวันกันตรงนั้น! ปักธงว่าเป็นวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนก็แล้วกัน โดยมี น้องพราว (ครีเอทีฟ) และ แมน (ผู้ดูแลคลาสทุกรุ่น) จาก The Cloud มาช่วยเป็นกำลังสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ 

พวกเราอยากให้ชาวริเน็นได้ชวนสมาชิกครอบครัว พาร์ตเนอร์บริษัท หรือเพื่อน ๆ มางานด้วย จะได้เข้าใจว่า สามีหรือภรรยาหายไปเรียนอะไรคืนวันพุธ (55…) 

ส่วนดิฉัน ผู้ไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเลย ก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ‘งานเลี้ยงรุ่น’ ควรจะเป็นอย่างไรบ้าง 

คิดแค่ว่า หากนักเรียนต่างรุ่นกันที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนคงเขิน ๆ งั้นจัดเป็นหัวข้อทอล์กต่าง ๆ นิด ๆ จัดเวิร์กช็อปหน่อย ๆ ทุกคนจะได้มีโอกาสคุยกันง่ายขึ้นดีกว่า 

ถึงจะบอกว่า ‘นิด ๆ หน่อย ๆ’ แต่จัดไปจัดมาก็แน่น 6 Sessions 

Session แรก เกดอยากให้เริ่มงานด้วยเรื่องราวของคนที่แปลงปรัชญาริเน็นธุรกิจตนเอง ออกมาเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่ชัดเจน เลยนึกถึงไอศกรีม Guss Damn Good ที่มีโปรเจกต์สนุก ๆ ออกมาเยอะ หลังริเน็นชัด 

Session ที่ 2 เป็นเรื่องของการถ่ายทอดริเน็นให้ทั้งพนักงานและลูกค้าเข้าใจ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการริเน็นถามกันบ่อยที่สุด เราเลยอยากทาบทามมืออาชีพด้านการสื่อสาร เชิญผู้ก่อตั้งบริษัทเอเจนซี่และที่ปรึกษาด้านการตลาด 3 แบรนด์มาคุยว่า ปรกติช่วยลูกค้าหาตัวตนกันอย่างไร

Session ที่ 3 เราคิดว่า เมื่อผู้ฟังได้ฟังหัวข้อก่อนหน้า คงเห็นภาพแล้วว่าปรัชญาสำคัญกับการเติบโตขององค์กรอย่างไร ในส่วนนี้ เกดและโค้ชณัฏฐ์จึงจัด Mini Workshop ให้ทุกท่านได้ลองค้นหาปรัชญาตนเองกัน

Session ถัดมา หลังจากเราทบทวนริเน็นของพวกเรากันแล้วก็ถึงเวลาก้าวต่อไป จึงเป็นเรื่องของการตั้งเป้าอย่างมีความหมาย เป้าหมายที่เราตั้ง มีอะไรอีกได้บ้าง นอกจากเป้าหมายที่เป็นตัวเลข

Session ที่ 5 พี่ณัฏฐ์ตั้งชื่อให้ว่า ‘ทำดีกว่าคนอื่น ใส่ใจกว่าคนอื่น เหนื่อยกว่าคนอื่น ทำแล้วได้อะไร’ เราเชิญ 2 Speakers ที่ใส่ใจลูกค้าที่สุดของที่สุดมาแบ่งปันประสบการณ์

Session สุดท้าย ใครบอกว่าธุรกิจคิดดีแล้วโตยาก ไม่มีกำไร เรานึกถึงผู้ประกอบการท่านหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจตนเองเติบโตอย่างดี ไม่พอ ยังเข้าไปยกระดับวงการธุรกิจร้านอาหารทั้งวงการ 

เชื่อว่าทั้ง 6 Sessions นี้จะเป็นการปูพื้นฐานให้เห็นภาพและค่อย ๆ ทำให้ทุกคนเรียนรู้ เกิดแรงบันดาลใจ เจอปรัชญา ตั้งเป้า และเห็นวิธีการเติบโต 

ที่น่าดีใจ คือพอติดต่อ Speakers ทุกท่านไป ทุกคนตอบตกลงภายใน 2 ชั่วโมง และโอเคกับช่วงเวลาตนเอง ทำให้เราไม่ต้องปรับ Flow งานใด ๆ 

เอาล่ะค่ะ มาอ่านเนื้อหาของแต่ละ Session และรู้จักสุดยอด Speakers ของพวกเรากัน

บรรยากาศการลงทะเบียน เรามีบูทของชาวริเน็นมาออกด้วย จะได้เรียน ได้ฟัง ได้ชิม ได้สัมผัสกัน
แต่ละรุ่น มีป้ายชื่อตามสีของตัวเอง มองปุ๊บรู้ปั๊บ ใครรุ่นไหน

Session 1 : เมื่อ Rinen ชัด จะเกิด…

Session แรก คุณระริน ธรรมวัฒนะ (ริเน็นรุ่น 7) และ คุณนที จรัสสุริยงค์ (ริเน็นรุ่น 8) สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ Guss Damn Good มาเล่าเรื่องราวการเติบโตของแบรนด์กับริเน็นของพวกเขาให้เราฟัง 

ตอนแนะนำตัววิทยากร ดิฉันก็เผลอเล่าไปว่า ระรินและนทีตกหลุมรัก …การทำไอศกรีม … ที่สหรัฐอเมริกา พูดคำว่า ‘การทำไอศกรีม’ เบาไปหน่อย จนคนทั้งฮอลล์อาจจะเข้าใจผิดว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ขอแก้ข่าวตรงนี้ว่า ไม่ใช่นะคะ เป็นแค่เพื่อนรักกันที่ทำธุรกิจด้วยกันดีมาก ๆ 

Guss Damn Good มีจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดมากตั้งแต่ต้น หนึ่ง คือจะทำไอศกรีมสไตล์บอสตันซึ่งเป็นแนวที่ทั้งคู่ชอบ สอง เลือกใช้วัตถุดิบที่ดี คุณภาพสูงมาก ใส่ใจทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส สาม ไอศกรีมทุกรสต้องมีเรื่องราว เช่น ไอศกรีมที่ควรจะชื่อ รสนม กลับมีชื่อว่า ‘Don’t Give Up#18’ เป็นเรื่องราวตอนที่ระรินกับนทีช่วยกันพัฒนาสูตร จนลองไป 18 รอบกว่าจะเริ่มเจอแบบที่ใช่ ตั้งชื่อเตือนใจว่า อย่ายอมแพ้ 

ในช่วงแรก คุณระรินกับคุณนทีปฏิเสธข้อเสนอของอีเวนต์หรือแบรนด์ดัง ๆ เยอะมาก เพราะไม่อยากเปลี่ยนฝาไอศกรีม บ่าวสาวติดต่อมา ขอเปลี่ยนฝารสไอศกรีมมาเป็นหน้าบ่าวสาวได้ไหม ทั้งคู่ก็ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากให้หน้าบ่าวสาวบนฝาไปอยู่ในถังขยะ เดี๋ยวจะรู้สึกไม่ดี บ่าวสาวเลย (ต้อง) เสิร์ฟ Don’t Give Up#18 ในงานแต่งไป (แง…) 

แต่เมื่อทั้งคู่กลับมานั่งตกตะกอนทบทวนปรัชญาของบริษัทใหม่ ได้คำว่า ‘Activate Damn Good Feeling’ เส้นทางและวิธีการตัดสินใจก็เริ่มเปลี่ยนไป ทำอย่างไรให้ผู้คนรู้สึก (โคตร) ดีได้นะ 

ตอนนี้ใครจะจัดงานแต่งงานแล้วอยากได้ไอศกรีม Guss Damn Good ไปในงาน ทาง Guss Damn Good ยอมให้เปลี่ยนฝาเป็นหน้าบ่าวสาวได้แล้วนะคะ บ่าวสาวและแขกได้ทานไอศกรีมอร่อย ฟิน ๆ กัน และกลับกลายเป็นว่าแขกหลายคนเก็บฝาไอศกรีมกลับไปเป็นที่ระลึก 

โปรเจกต์ Guss Grocery ซึ่งเป็นการคอลแล็บกับ 9 แบรนด์ไทยที่คนไทยคุ้นเคย เช่น ยาอมตราตะขาบ 5 ตัว มาม่าต้มยำกุ้ง ก็อาจจะไม่เกิด เพราะแต่ละรสไม่ได้มีเรื่องราวที่มาที่ไปเหมือนรสอื่น ๆ ของ Guss Damn Good

แต่หากกลับมาทบทวนดี ๆ การที่ลูกค้าได้ทานไอศกรีมและคุยกับเพื่อน ชวนนึกถึงตอนบดมาม่ากินตอนเด็กนะ หรือตื่นเต้นว่าไอศกรีมรสน้ำพริกเผาแม่ประนอมจะเป็นยังไงนะ มันก็เป็นเรื่องราวและเป็น Damn Good Feeling เช่นกัน โปรเจกต์นี้เลยคลอดในที่สุด

ล่าสุด Guss Damn Good กำลังพัฒนาไอศกรีมที่ไม่ใส่น้ำตาล ใช้แค่ความหวานจากวัตถุดิบธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ได้มีช่วงเวลาดี ๆ ได้ทานไอศกรีมเย็น ๆ อร่อย ๆ ชื่นใจได้ เป็นการ Activate Damn Good Feeling ให้คนกลุ่มใหม่ของแบรนด์ เป็นโปรเจกต์ที่มีความหมายและทรงพลังมาก ๆ 

ดิฉันได้ฟังเรื่องราวจุดเริ่มต้นของ Guss Damn Good ที่มีตัวตนแบรนด์สุดแสนชัดเจน แต่บางครั้ง อาจกลายเป็นข้อจำกัดการกระทำบางอย่าง จนเมื่อคุณระรินและคุณนทีตกลงกันว่า Guss Damn Good เกิดมาเพื่อปลุกและเปิดความรู้สึก (โคตร) ดีให้ผู้คน จึงทำให้ Guss Damn Good เริ่มเขยิบทำโปรเจกต์สนุก ๆ และสร้างพลังให้สังคมยิ่งขึ้น 

Session 2 : สื่อสาร Rinen ให้ชัดทั้งภายในและภายนอกองค์กร

จะสื่อสารปรัชญาองค์กรเราอย่างไรให้ชัด บางครั้งเรารู้ว่าปรัชญาองค์กรเราคืออะไร แต่ไม่รู้จะเล่าอย่างไรให้คนเห็นภาพ แม้แต่กับลูกน้องเราก็เช่นกัน 

Session นี้จึงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาและสร้างปรัชญาให้แบรนด์ต่าง ๆ จาก 3 บริษัท มาสอนพวกเราถึงวิธีการสื่อสารริเน็นกัน 

ก่อนอื่น ขอแนะนำ Speakers อันทรงเกียรติของเราก่อนนะคะ

คุณแหนม (มนัสรวี วงศ์ประดู่) และ คุณแนน (นภัสวรรณ ศิริสุคนธ์) ริเน็นรุ่น 5 

จาก The Head and The Heart Studio 

ริเน็นบริษัท : We are a visionary branding design studio and consultancy-soul-searching for brands to be felt and stand out through the noise.

ตัวอย่างผลงาน : The Summer Coffee, Smizzle Burger

คุณแวน (ภัทร พรหมารักษ์) ริเน็นรุ่น 7 

จาก Musurefren (อ่านว่า มิว-ชั่ว-เฟรน)

ริเน็นบริษัท : บอกเล่าเรื่องราวของศิลปะ การออกแบบ และสุนทรียภาพในการใช้ชีวิต เพื่อสร้างและส่งมอบสุขสุนทรีย์ให้กับชีวิตประจำวันของผู้คน 

ตัวอย่างผลงาน : การเปิดตัว Marimekko Pop-Up Café และ การจัดงานให้ One Bangkok 

คุณฝน (นภนีรา รักษาสุข) ริเน็นรุ่น 8 

จาก Yindee Design

ริเน็นบริษัท : ช่วยทำให้คนที่อยู่ในธุรกิจมีแบรนด์ที่มีคุณค่าซึ่งเขาภูมิใจ ผ่านความเข้าใจ ทั้งภายในตัวเองและโลกภายนอก ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับจากเรา คือความสบายใจ วางใจ และมีความสุข

ตัวอย่างผลงาน : กล่องน้ำผลไม้ดอยคำ ชานมไข่มุก BEARHOUSE

วิทยากรทั้ง 3 ท่านย้ำถึงความสำคัญของจุดยืนและตัวตนของแบรนด์ 

คุณแหนมและคุณแนนเล่าว่า ปรกติจะขอเวลารับบรีฟลูกค้านานถึง 2.5 ชั่วโมง เพื่อฟังเหตุผล ความตั้งใจ และเรื่องราวของเจ้าของแบรนด์กับสินค้าจริง ๆ

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อทั้งคู่ได้รับโจทย์จากร้านดอกไม้แห่งหนึ่งที่รู้สึกว่า เดี๋ยวนี้ร้านดอกไม้ร้านอื่น ๆ ก็จัดดอกไม้ได้คล้าย ๆ ตน ต้องการสร้างความแตกต่าง คุณแหนมคุณแนนก็ถามไปถึงเหตุผลที่เจ้าของออกมาทำร้านดอกไม้ (ทั้ง ๆ ที่จบด้านวิทยาศาสตร์และกายวิภาคมา) 

เจ้าของร้านรู้สึกเสียดายเวลาดอกไม้ที่หักหรือไม่ได้มาตรฐานถูกทิ้ง และเห็นว่าการจัดดอกไม้อาจสร้างขยะได้มากเหมือนกัน 

คุณแหนมและคุณแนนเลยวางจุดยืนให้ร้านดอกไม้นี้ว่า ‘คงอยู่เพื่อมอบชีวิตที่ยั่งยืนกลับสู่ดอกไม้ เพราะดอกไม้คือประตูที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ’ ทั้งคู่ออกแบบร้านให้มีหน้าต่างกระจกใส มีจุดให้ลูกค้ายืนดูพนักงานจัดดอกไม้ได้ แต่แค่นั้น คนคงเขิน ไม่กล้าเดินเข้ามา ด้านหน้าเลยจัดเป็นโซนจำหน่ายของที่ระลึกเล็กน้อย เช่น โปสต์การ์ด ซึ่งนำดอกไม้ที่ควรจะต้องถูกโยนทิ้งมาตากแห้ง และทำเป็นโปสต์การ์ดหรือของที่ระลึกจุ๋มจิ๋มอื่น ๆ ทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาดูอย่างเพลิดเพลินและค่อย ๆ เรียนรู้แนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมของร้านดอกไม้แห่งนี้

Flower in hand by P. ร้านดอกไม้ปลูกเองไร้สาร นำเศษมา Upcycle ใช้ดอกกิ่งใบให้คุ้มค่าที่สุด
Flower in hand by P. ร้านดอกไม้ปลูกเองไร้สาร นำเศษมา Upcycle ใช้ดอกกิ่งใบให้คุ้มค่าที่สุด

คุณฝนเสริมว่า คนแรกที่สำคัญที่สุดของแบรนด์ คือเจ้าของ หากเจ้าของชัดเจนในตัวตน เขาจะส่งต่อทุกสิ่งทุกอย่างไปสู่แบรนด์ของเขาในทุกมิติ

บางแบรนด์มีหุ้นส่วนหลายคน เธอจะย้ำว่าให้มองแบรนด์เหมือนเด็กทารก ให้ผู้ใหญ่ทุกคนวางความชอบส่วนตัวไว้ข้าง ๆ และมาช่วยกันคิดว่าจะให้เด็กคนนี้ใส่เสื้อสีอะไรดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าอาป๊าชอบสีเขียว อาม้าชอบสีแดง ผสม ๆ กันไป ตัวตนของแบรนด์ก็จะไม่ชัด 

เราเลยขอคำถามเด็ด ๆ ของแต่ละท่าน มีคำถามอะไรที่จะช่วยให้พวกเราเห็นปรัชญาหรือจุดยืนของแบรนด์เราชัดขึ้นได้บ้าง 

คำถามช่วยสกัดริเน็น

เราเป็นข่าวดีของใคร เพื่อใคร (จากคุณฝน) 

ทำไมโลกนี้ต้องมีเรา จากนั้นลองคิดต่อว่า ถ้าไม่มีเรา มีใครทำได้บ้าง เราแตกต่างอย่างไร (จากคุณแวน) 

สิ่งที่เราทำ แต่คนอื่นไม่คิดว่าจะทำ แต่เราก็ยังจะทำ เราใส่ใจเป็นพิเศษ คืออะไร (จากคุณแหนม คุณแนน) 

หลังจากคุยถึงวิธีการสื่อสารกับลูกค้าและหาตัวตนของแบรนด์ เราเขยิบมาคุยเกี่ยวกับวิธีสื่อสารริเน็นให้ทีมงานกัน

คุณแวนเล่าว่า เขาย้ำกับน้อง ๆ ถึง ‘ความเป็นเพื่อน’ อยู่บ่อย ๆ ด้วยความที่ชื่อบริษัท คือ Musurefren เราจะเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีให้กับลูกค้าจริง ๆ เช่น ตั้งใจฟังเรื่องราวของลูกค้า จนลูกค้ารู้สึกสบายใจ เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงานให้ฟัง หรือเวลาออกกองไปถ่ายทำอีเวนต์ ทีมงานก็จะหาของอร่อย ๆ เตรียมไป ทุกคนรวมถึงลูกค้าจะได้ทำงานกันสนุกยิ่งขึ้น 

คำถามที่คุณแวนมักจะถามน้อง ๆ คือ ‘ถ้าเราเป็นเพื่อนเขา เราจะทำอะไรเพื่อลูกค้าได้อีกบ้าง’ 

ส่วนของคุณฝน เวลาคุณฝนไปอบรมอะไรที่คิดว่าดี ก็มักจะกลับมาจัดอบรมให้น้อง ๆ ที่ออฟฟิศด้วย 

นอกจากนี้ ทุกวันจันทร์ ที่ Yindee Design จะมีการจัด Session ที่เรียกว่า Monday เท็น เท็น ให้น้อง ๆ แต่ละคนเล่าว่า สัปดาห์ที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง การได้คุยเรื่องส่วนตัว ทำให้ทุกคนสนิทกัน เปิดใจ และมีความกล้าแสดงออกในการแสดงความเห็นตนเองมากยิ่งขึ้น 

เนื้อหาที่สรุปข้างต้นอาจดูเข้มข้นจริงจังมาก แต่จริง ๆ แล้ว Session นี้ เป็น Session ที่คนหัวเราะกันมากที่สุดหนึ่ง Session เลยค่ะ 🙂 

Session 3 : Workshop Rinen Reflection

เรานั่งฟังกันมานานแล้ว Session นี้ เลยให้ทุกคนขยับลุกไปจับกลุ่มใหม่ 4 คน แนะนำตัวกัน และเริ่มคุยกัน

ทุกคนลุกจับกลุ่มใหม่อย่างกระตือรือร้น

โค้ชณัฏฐ์ออกแบบคำถามชวนพวกเราตกตะกอนปรัชญาของพวกเรา เช่น งานของเรามีความหมายต่อโลกใบนี้อย่างไร ปรัชญาของเราคืออะไร มีความหมายต่อจิตใจและตัวเราอย่างไร

ดิฉันกำลังนั่งมองสไลด์และสามี คำถามเหมือนง่าย แต่พอต้องตอบเอง ก็ต้องใช้ความคิดไม่น้อยนะ

จริง ๆ แล้ว ดิฉันรู้สึกว่าวิทยากรใน Session นี้ไม่ได้มีแค่ดิฉันกับโค้ชณัฏฐ์หรอก แต่ผู้เข้าร่วมทุกคนต่างหากที่แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ของกันและกัน 

Session 4 : การตั้งเป้าอย่างมีความหมาย : OKR for Rinen

แรกเริ่มเดิมที เราเชิญ อ.นก (ศ.ดร.นภดล ร่มโพธิ์) ริเน็นรุ่น 8 เพราะอยากฟังมุมคนที่ไม่ใช่เจ้าของกิจการว่า นำริเน็นไปใช้อย่างไร อ.นก เป็นประธานหลักสูตร MBA ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และริเริ่มโปรเจกต์สัมภาษณ์ศิษย์เก่า จนทำให้ได้เห็นว่าหลักสูตร MBA มีความหมายอย่างไรกับนักศึกษาและศิษย์เก่าบ้าง 

แต่ในวันประชุม พวกเราเริ่มเห็นว่า หาก อ.นก เล่าเรื่องการตั้งเป้าหมายที่ดี จะต้องเป็นประโยชน์แก่ชาวริเน็นแน่เลย ทีมงานเลยเปลี่ยนหัวข้อใหม่เป็น ‘การตั้งเป้าอย่างมีความหมาย : OKR for Rinen’

ในวันงาน อาจารย์เล่าถึงความแตกต่างระหว่าง KPI กับ OKR 

OKR (Objectives and Key Results) จะต้องเป็นสิ่งที่พนักงานหรือผู้บริหารอยากทำ และเป็นสิ่งที่สำคัญต่อองค์กร จึงต่างกับ KPI ที่ต้องวัดผลทุกเรื่อง

สำหรับองค์กรที่มีริเน็นแล้ว ให้ตั้ง OKRs องค์กร จากสิ่งที่องค์กรอยากได้ (Rinen) + สิ่งที่เราอยากทำ 

อ.นก ให้ผู้บริหารกลับไปถามลูกน้องว่า พวกเขาอยากทำอะไรที่สอดคล้องกับปรัชญาขององค์กร แล้วตั้งเป็น OKRs 

ตัวอย่างที่อาจารย์ยกขึ้นมา แล้วเข้าใจง่ายมาก คือการตั้ง OKRs ของพนักงานแต่ละฝ่ายจากบริษัทผู้ผลิตรองเท้าวิ่งจากซีรีส์ Rikuoh 

เดิม บริษัทนี้ผลิตถุงเท้าทาบิ แต่ท่านประธานบริษัทเห็นว่า บริษัทต้องพัฒนาสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดทาบิหดตัว จึงตัดสินใจทำรองเท้าวิ่งทรงเหมือนทาบิ ซึ่งช่วยลดอาการบาดเจ็บ 

Objective ของท่านประธาน : สร้างรองเท้ารุ่น Rikuoh ให้วิ่งสุดใจไปสุดฝัน

Key Results : ทำรองเท้า Rikuoh ให้ ฮิโรโตะ โมงิ (นักวิ่งมืออาชีพที่ขาบาดเจ็บ) ได้ทันวิ่งมาราธอนนานาชาติโทโยฮาชิ 

ส่วนของผู้จัดการฝ่ายผลิต OKRs ของเขาอาจเป็น 

Objective : ทำรองเท้า Rikuoh ให้เบาและทนทานที่สุด

Key Results: ปรับวัสดุซิลก์เรย์ให้รองรับความแข็งแรงได้ในระดับ 50 – 60 

เข้าใจง่ายและเห็นภาพจริง ๆ 

Session 5 : ทำดีกว่าคนอื่น ใส่ใจกว่าคนอื่น เหนื่อยกว่าคนอื่น ทำแล้วได้อะไร

Session นี้ อยากให้เป็นกำลังใจให้ชาวริเน็นที่ตั้งใจทำเพื่อลูกค้าและสังคม เราจึงชวนผู้ประกอบการที่สุดแสนจะใส่ใจและน่าจะเหนื่อย มาแบ่งปันประสบการณ์ คือ คุณจัง (ศิริลักษณ์ มหาจันทนาภรณ์ ริเน็นรุ่น 2) และ หมอตุ๊กตา (ทันตแพทย์หญิงปวีณา คุณนาเมือง ริเน็นรุ่น 3) มาคุยกัน โดยมีพี่ช้างน้อยเป็นผู้สัมภาษณ์ 

เป็น Session เดียวที่ทีมงานตั้งกล่องทิชชูเตรียมไว้ให้ และวิทยากรได้ใช้จริง ๆ

คุณจังเคยเป็นนักออกแบบบรรจุภัณฑ์มาก่อน แต่ทำงานหนักมากจนป่วยหนัก จึงหันมารักษาสุขภาพ และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เธออาการดีขึ้น คือน้ำปั่นผักและผลไม้ เริ่มแรก เริ่มปั่นน้ำแจกเพื่อน ๆ จนเพื่อนบอกว่า ทำขายเถอะ ก็เลยเริ่มกิจการ

“เป็นคน Introvert ไม่ค่อยอยากยุ่งกับคนเยอะ กะทำปีเดียวแล้วเลิก” 

รู้ตัวอีกที ก็ผ่านมา 11 ปีแล้ว … 

ความใส่ใจของปลูกปั่น คือใช้ผักและผลไม้ออร์แกนิกจากเกษตรกรที่ไว้ใจได้ พยายามใช้ผักผลไม้ที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้ทานผักผลไม้ปีละไม่น้อยกว่า 200 ชนิด

นอกจากนี้ แทนที่จะปั่นแล้วเก็บไว้ขาย 3 วัน คุณจังเลือกเริ่มงานตอนตี 3 ปั่นน้ำผักสด ๆ แล้วรีบให้ทีมงานส่งไปแต่ละบ้าน เพื่อให้ลูกค้าได้น้ำปั่นที่สด ใหม่ และคงคุณค่าสารอาหารมากที่สุด 

สมัยนั้นยังไม่มีบริการรับส่งอาหารอย่างสะดวกสบายเช่นทุกวันนี้ คุณจังต้องสร้างทีมส่งน้ำปั่นขึ้นมาเอง โดยเลือกส่งทางจักรยาน เพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นักปั่นก็มาจากนักปั่นจักรยานที่ต้องตื่นเช้ามาซ้อมปั่นอยู่แล้ว ช่วยสร้างรายได้ให้นักปั่นอีกทาง 

ส่วนหมอตุ๊กตาเริ่มทำคลินิกฟันน้ำนมที่บ้านเกิด จังหวัดพิษณุโลก เพราะตอนแรกคุณหมอเปิดเพจฟันน้ำนม เพื่อให้ความรู้คุณพ่อคุณแม่ถึงวิธีการดูแลฟันของลูกน้อย แต่พอคุณพ่อคุณแม่ถามว่า จะให้ลูกไปหาหมอฟันที่ไหนดี หมอตุ๊กตาพบว่ายังไม่มีที่ไหนที่เป็นคลินิกสำหรับเด็กโดยเฉพาะ หรือหากรับเด็ก ก็รับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ไม่รับเด็ก 6 เดือนหรือ 1 ปี หมอตุ๊กตาจึงตัดสินใจเปิดคลินิกฟันน้ำนมขึ้นมา

คุณหมอตุ๊กตาเล่าว่า ข้าง ๆ ห้องทำฟันจะมีห้องปลอบใจ เผื่อเวลาทำฟันแล้วเด็ก ๆ ร้องไห้ คุณพ่อคุณแม่จะได้อุ้มลูกเข้าไปโอ๋ในห้องนี้ได้ ไม่ต้องเกรงใจลูกค้าท่านอื่น ๆ 

เวลาเด็ก ๆ นอนอ้าปากนาน ๆ บางคนอาจคลื่นไส้หรือเผลออาเจียนได้ คุณหมอจึงฝึกทีมแม่บ้านให้มี ‘อ้วก Protocal’ เวลาเด็กอาเจียนปุ๊บ แม่บ้านจะเข้ามาดูแลและพาไปห้องน้ำด้านหลังได้ แถมยังแนะนำคุณพ่อคุณแม่ได้ว่า หากอยากล้างตัวลูก คุณหมอมีผ้าขนหนู สบู่ ผ้าอ้อม เตรียมไว้ให้หมด เสื้อเด็กสำหรับเปลี่ยนก็มี ไม่ต้องเกรงใจ

เมื่อถามทั้ง 2 ท่านว่าเหนื่อยไหม คุณจังถึงกับนิ่งไปนิดหนึ่ง ส่วนหมอตุ๊กตาบอกว่าสนุกไปกับการทำงาน ภูมิใจในสิ่งที่ทำ ทำให้ดีที่สุด ทำแล้วสนุก เห็นรอยยิ้มของเด็ก ความเหนื่อยจะหายไปเอง

“อยากให้เด็กไทยมีฟันผุน้อยลง” หมอตุ๊กตาตอบทั้งน้ำตา

ส่วนคุณจัง ตอบตรง ๆ ว่าเหนื่อย แต่รู้สึกดีกับการที่สร้างคุณค่าให้กับใครสักคน ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ได้ลองทานอาหารของเรา แต่ยังรวมไปถึงพนักงาน คนปั่นส่งน้ำผลไม้ ที่ยังได้ทำสิ่งที่มีความหมายในชีวิต

“วันก่อนไปยืนปอกผลไม้ข้าง ๆ น้องพนักงาน เขาบอกว่า หนูไปอ่านรีวิวร้านเรามา ถ้าเป็นร้านอื่น ลูกค้ามักชมรสชาติ อร่อย ดื่มง่าย แต่รีวิวร้านเรานี่ไม่เหมือนใครเลยนะพี่ มีแต่คนมาเขียนขอบคุณ ขอบคุณที่ทำน้ำปั่นนี้ขึ้นมา ขอบคุณที่ยังมาส่งให้คนป่วยมะเร็งแบบพี่” 

เป็น Session ที่เคล้าไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตา

Session 6 : การเติบโตจาก Rinen ของคนสู่การยกระดับวงการ

Speaker ท่านสุดท้าย แต่มางานตั้งแต่ตอนเปิดงานเลย คือ คุณต่อ (ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ริเน็นรุ่น 6) มาเล่าเกี่ยวกับการเติบโตจากร้านอาหาร สู่การยกระดับวงการร้านอาหาร 

คุณต่อเริ่มจากการเปิดร้านอาหารของตนเอง เมื่อทำธุรกิจไปสักพักก็เริ่มไปบรรยาย เขาพบว่ามีแต่โรงเรียนสอนวิธีทำอาหาร แต่ไม่มีใครสอนวิธีทำร้านอาหาร คุณต่อเลยเริ่มเปิดเพจ Torpenguin-ผู้ชายขายบริการ เพจที่ให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการร้านอาหาร

ปรัชญาของคุณต่อ คือสร้างระบบนิเวศที่ดีให้เจ้าของร้านอาหารขนาดเล็ก โดยมี Vision ว่า สร้าง ‘กระทรวงการร้านอาหาร’ สร้าง Ecosystem ที่จำเป็นสำหรับคนที่ทำธุรกิจร้านอาหาร โดยเป็นสะพานเชื่อมในเรื่องต่าง ๆ ให้กับพวกเขา

นั่นคือที่มาของบริษัท Penguin X ที่จะไป X กับคนอื่น และช่วยให้ผู้คนเติบโตได้ 

Penguin X ทำสื่อให้ความรู้ผู้ประกอบการร้านอาหาร จัดสัมมนาอบรม และออกหนังสือ เช่น คัมภีร์เริ่มต้นร้านอาหาร Restaurant 101 นอกจากนี้ เขายังพัฒนาซัพพลายเออร์ ให้ซัพพลายเออร์กลายเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีกับร้านอาหารได้ 

คุณต่อยังจัดกิจกรรมลงแขก เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้มารู้จักกัน แทนที่จะแข่งขันกัน กิจกรรมนี้ จัด 2 อาทิตย์ครั้ง โดยเวียนกันไปอุดหนุนร้านของเจ้าของร้านอาหาร จากนั้นก็ให้ทุกคนแนะนำตัวกันและทานอาหารด้วยกัน 

กิจกรรมลงแขกนี้ไม่ได้จัดแค่ในกรุงเทพฯ แต่ยังเขยิบไปจัดตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วย ลงแขกเวอร์ชัน Halal ก็มีมาแล้ว 

เราเห็นการเติบโตของ Penguin X จากร้านชาบู เขยิบไปทำสื่อ ทำสำนักพิมพ์ ทำหลักสูตรให้มหาวิทยาลัย จัดสัมมนาใหญ่ระดับอิมแพ็ค เมืองทองธานี จนถึงการสร้างคอมมูนิตี้คนทำร้านอาหาร เป็นการเติบโตที่บริษัทคุณต่อก็เติบโต ซัพพลายเออร์ ผู้ประกอบการร้านอาหารท่านอื่นก็ได้ประโยชน์ รวมถึงสถาบันการศึกษาด้วย 

ฟังคุณต่อเล่าเสร็จแล้ว ชวนดิฉันคิดเลยว่า จริง ๆ แล้ว ตนเองยังทำอะไรได้อีกมากเพื่อวงการและสังคม

นอกจากนี้ ด้านนอกห้องสัมมนายังมีบูทของศิษย์ริเน็นต่าง ๆ ที่มาจำหน่ายของดี การันตีคุณภาพ ได้แก่ 

ร้านรองเท้าแตะ SSS.online ขายรองเท้าแตะไซซ์ใหญ่ขนาด 50 ก็มีนะ

ชื่อบูทรายละเอียดลิงก์
1Skyline City Clubสมาชิกระบบการใช้ชีวิตในเมืองwww.skylinecityclub.com
2Mission To Top Uให้คำปรึกษาการสมัครเรียนต่อปริญญาตรี (College) และปริญญาโท (Master’s) ทุกสาขา ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก www.missiontotopu.com
3ธรรมธุรกิจวัตถุดิบและอาหารธรรมชาติแท้salepage.thamturakit.com
4SSS.onlineร้านรองเท้าแตะไซซ์ใหญ่www.tiktok.com/@sss.online 
5ขนมเปี๊ยะ ตั้งเซ่งจั้วเอาขนมมาขาย ตั้งใจจะทำขนมที่ไม่ขาย แต่เอามาขายที่นี่www.facebook.com/tsjshop
6Moreoverหิ้งวางสินค้าและของตกแต่งบ้านเก๋ ๆMoreover
7Organic Rice from Our Farmข้าวอินทรีย์www.ricelandgroup.com
8Conetสื่อการเรียนรู้ 3 มิติที่ทำจากเศษกระดาษในการผลิตกล่อง ที่มาของนักรักกระดาษ ริเน็นรุ่น 1 ช่วยเพิ่มมูลค่าของกระดาษให้สนุกได้ไม่รู้จบwww.youtube.com/channel
9Cariberเวิร์กช็อปสำหรับเจ้าของธุรกิจpage.cariber.co/cariber-workshop
10ปุณรดายาไทยยาอมสมุนไพร ยาหอม น้ำยาบ้วนปากสมุนไพรช่วยลดเหงือกอักเสบ สมุนไพรช่วยการนอนหลับwww.poonrada.com/product
11Deep Brew Coffee Machineเป็นเครื่องชงที่ประหยัดพลังงานที่สุดในโลก www.instagram.com/reel

12
สบู่ Shower Gel Summersoakสบู่อาบน้ำหอม ๆ คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้อย่างสบายใจwww.instagram.com/summersoak.official
13ทวีวงษ์นำลูกชิ้น เยลลี่มะพร้าว มาแจกtvi.co.th
14AdaPos+ Platformระบบ POS และอุปกรณ์ พร้อมบริการการติดตั้งและดูแลหลังการขายแบบครบวงจรwww.ada-soft.com
15Borboleta Bagกระเป๋าหนังนวัตกรรมทดแทนหนังสัตว์ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนดูดีได้โดยไม่ทำร้ายโลกหรือสัตว์www.borboletabag.com
16Thoro Tea Specialist ซัพพลายเออร์นำเข้าใบชาจาก 3 ประเทศ ศรีลังหา ไต้หวัน ญี่ปุ่น ทั้งนำเข้าและให้บริการทุกอย่างเรื่องของชา มีใบชาสำหรับทำชานม ชาผลไม้ ชาผง มัทฉะ อุปกรณ์ชงชาต่าง ๆwww.facebook.com/Thoro.official

ต้องขอบพระคุณวิทยากรทุกท่านที่มาแบ่งปันความรู้กันอย่างเต็มที่ ไม่กั๊กจริง ๆ

ขอบพระคุณผู้ร่วมงานทุกท่านที่สละเวลาวันอาทิตย์ที่อยู่กับครอบครัว มาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา 

ขอบพระคุณเจ้าของบูททุกท่านที่ทำให้บรรยากาศงานคึกคัก

ขอบพระคุณ The Cloud โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่ช้าง ต้นกำเนิดไอเดีย น้องพราว สุดยอด Producer และแมน ผู้ประสานร้อยทิศที่ทำให้งานวันนี้สำเร็จได้อย่างงดงาม 

Writer

Avatar

เกตุวดี Marumura

อดีตนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่นผู้หลงใหลในการทำธุรกิจแบบยั่งยืนของคนญี่ปุ่น ปัจจุบัน เป็นอาจารย์สอนการตลาดที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Photographer

The Cloud

The Cloud

นิตยสารออนไลน์ที่เล่า 3 เรื่องหลักอย่าง Local, Creative Culture และ Better Living ส่งเนื้อหารายวัน แต่เสิร์ฟความประณีตแบบนิตยสารรายเดือน