Tonight, At Romance Theater
ประเภท ภาพยนตร์โรแมนติกแฟนตาซี
ประเทศ ญี่ปุ่น
ผู้กำกับ Hideki Takeuchi
ถ้ามีอะไรจะแทนบรรยากาศของหนัง Tonight, At Romance Theater เรื่องนี้ได้ น่าจะเป็นเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเพื่อนสาวของฉันที่นั่งดูอยู่ข้างๆ
ก็หนังเรื่องนี้-มองจากภายนอกที่สุด-เป็นหนังญี่ปุ่นที่ ‘น่ารัก’ เอามากๆ ตั้งแต่พล็อตเรื่องที่ว่าด้วยความรักระหว่างเคนจิ ผู้ช่วยผู้กำกับหนุ่มกับ มิยูกิ เจ้าหญิงจากโลกของหนังขาวดำที่ทะลุจอมาสู่โลกจริง จนถึง 2 นักแสดงนำเบอร์หนึ่งของแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง เคนทาโร่ ซาคากุจิ (ที่เพื่อนเรียกอย่างสนิทสนมว่าเคนทาโร่คุง) และ ฮารุกะ อายาเสะ ผู้สวยสง่าตลอดกาล เรียกว่าเป็นหนังที่ดูแล้วโลกสดใส มีน้ำตานิดหน่อย มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเยอะมาก
แต่ช้าก่อน หนังเรื่องนี้ไม่ได้จบแค่ความคาวาอี้ เพราะเมื่อลองแง้มเปลือกแสนสดใสออก เราจะเห็นว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความเป็นไปของโลกภาพยนตร์มากกว่าพล็อตน่ารักที่ตัวเอกทะลุจอหนังออกมา เราจะได้เห็นยุคที่ภาพยนตร์รุ่งเรือง คนเข้าโรงหนังสแตนด์อะโลนกันครึกครื้น จนถึงการที่หนังเรื่องเก่าๆ ค่อยๆ ถูกลืม (ม้วนหนังที่มิยูกิหลุดออกมานั้นเป็นหนังขาวดำเก่าเก็บที่ถูกลืมและกำลังจะถูกโละขาย) โทรทัศน์ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ โรงหนังร้างว่างเปล่า จนถึงปัจจุบันที่โลกแห่งเรื่องราวมาอยู่บนหน้าจอมือถือ ในหนังยังมีการหยิบเอาแก่นรวมถึงบางฉากประทับใจจากภาพยนตร์ในอดีตมาสอดแทรกไว้ด้วย
เรียกว่าใครที่เติบโตมากับโรงหนังน่าจะหวนระลึกถึงและหวนเสียดายความเฟื่องฟูที่จางหายตามกาลเวลา รวมถึงผู้กำกับและเจ้าของนวนิยายต้นทาง ที่ฉันเชื่อว่าคงผูกพันกับภาพยนตร์ลึกซึ้งจนต้องถ่ายทอดเป็นหนังสือและหนังเรื่องนี้
มากกว่ากลิ่นอายหอมกรุ่นของโลกภาพยนตร์ แก่นกลางของเรื่องนี้ยังนำเสนอมุมมองน่าสนใจของความรัก สิ่งสากลที่จับใจคนทั่วทุกมุมโลกได้ไม่ยาก
Tonight, At Romance Theater เปรียบว่าเมื่อได้สัมผัสความรัก โลกที่เราเห็นย่อมสดใสเหมือนแพรวพรายด้วยสีสัน ในหนังเราจึงได้เห็นสีขาวดำของหนังยุคเก่าที่มิยูกิหลุดออกมาที่ตัดกับสีสันนับร้อยพันของโลกจริงซึ่งเธอและเคนจิได้ใช้เวลาร่วมกัน ตั้งแต่สีสดใสของลูกอมรสผลไม้ สีฉูดฉาดของน้ำแข็งใส สีแดงบาดตาของดอกกุหลาบแสนสวย จนถึงหลากเฉดสีของรุ้งกินน้ำบนท้องฟ้า โลกที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งรักในหนังงดงามมองเพลินไปหมด จนทำให้นอกจากมุมมองต่อความรัก เมื่อเดินออกนอกโรง เรายังอดไม่ได้ที่จะตั้งใจสังเกตความงามหลากสีรอบตัวกว่าที่ผ่านมา
จากสีสันแห่งรัก หนังโรแมนติกแฟนตาซีเรื่องนี้พาเราดิ่งลึกลงไปสำรวจความหมายหรือนิยามของความรัก เรารักกันเพราะอะไร-หนังเอ่ยถาม ขณะเฉลยเงื่อนไขสำคัญคือ แม้จะรักกัน แต่ถ้าเคนจิแตะต้องตัวมิยูกิเมื่อไหร่ เธอจะสลายไป
ที่ว่ารักกันปานจะกลืนกิน รักนั้นยังคงอยู่มั้ยหากปราศจากสัมผัสทางกาย หากเราจับมือกัน กอดกัน หรือจูบกันอย่างอบอุ่นอ่อนหวานไม่ได้
หรือหากว่ากันให้ลึกและกว้างกว่านั้น ความรักเป็นเพียงเรื่องของหัวใจหรือเปล่า? ถ้าชีวิตคนรักของคุณมีเงื่อนไขอื่นตามมาอย่างความพิการทางกาย ภาระทางบ้าน คุณยังจะรักเขาไหม?
ในหนังเรื่องนี้ เคนจิตัดสินใจเลือกทางหนึ่ง ซึ่งแน่นอน-ฉันจะไม่เฉลยว่าเป็นเส้นไหน แต่บอกเลยว่าเป็นทางที่น่าสนใจไม่น้อย
และอย่างที่บอกไปขั้นต้น แม้หนังจะชวนเราสำรวจประเด็นที่น่าครุ่นคิดเกี่ยวกับความรัก แต่ทั้งหมดก็ดำเนินไปด้วยรสชาติของโรแมนติกแฟนตาซี ทุกอย่างจึงเสพง่าย ไม่ดราม่า เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังพลังบวก ดูจบแล้วเดินอิ่มเอมออกจากโรง
สู่โลกจริงหลากสีสัน และความรักของจริงที่ยืนรอฟังทางเลือกแบบของคุณอยู่นอกโรง
