เมื่ออยู่บ้านนานๆ ช่วงแรกก็สั่งเดลิเวอรี่มากิน เพราะบางมื้อไม่อยากทำกับข้าวเอง แต่พักหลังเริ่มสั่งเดลิเวอรี่มากินที่บ้านถี่ขึ้น พลาสติกเกลื่อนกลาดไปหมด เหตุก็เพราะสะดวกที่สุด จานไม่ต้องล้าง โรคภัยก็ไม่ต้องเสี่ยง เลี่ยงมากินอยู่กับบ้านเอาชัวร์ไว้ก่อน หลายๆ ร้านก็จัดรายการออกเมนูน่ากินเต็มไปหมด แต่ละคนก็ช่วยกันอุดหนุนร้านโปรดของตัวเอง ร้านเล็กร้านน้อยของเพื่อนบ้าง ของพี่ของน้องบ้าง สลับวนไป
บางร้านปรับตัวจนถึงตอนนี้ก็ยังคงให้สั่งกลับบ้าน ไม่สะดวกเปิดให้นั่งกินที่ร้าน ตัวเราเองบางทีก็สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่จนเคยตัวไปแล้ว นานเข้าก็เกิดปัญหาโลกแตก คือคิดไม่ออกว่าจะกินอีกอะไรดี
บางครั้งก็คิดสนุกว่าการสั่งอาหารให้มาส่งถึงบ้าน นอกจากอาหาร เราได้บรรจุภัณฑ์รูปทรงหลากหลายแบบ พัฒนาการกล่องอาหารเดลิเวอรี่ก็สวยงามขึ้นทุกวัน ครั้นจะพยายามใช้วนซ้ำก็มากเกินเก็บ และปัญหาใหญ่อีกอย่างที่ตามมาคือบรรจุภัณฑ์จะเต็มถังขยะ
และในการสั่งเดลิเวอรี่ เราจะได้ผักแนมมากมายหลายชนิดติดมาด้วย และส่วนใหญ่มักเหลือกินไม่หมด พอจะทิ้งก็เสียดาย
แต่ถ้าหากรู้ว่ากดสั่งเมนูแบบไหน แล้วจะได้ผักอะไรแถมมาด้วย และหากเรารู้วิธีที่จะชุบชีวิตมัน ก็น่าสนุกที่จะนำผักเหลือทิ้งมาปลูกต่อได้ และได้กินอีกเรื่อยๆ จะให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการสั่งมาครั้งเดียว ก็ปลูกด้วยภาชนะที่ใส่มันมานี่แหละ
ใช้เวลาไม่นาน ผักที่เราชุบชีวิตไว้ก็จะกลายเป็นสวนผักขนาดย่อมๆ มุมผักโปรดส่วนตัว ใกล้มือ เด็ดยอดสะดวก บางทีก็ไม่ต้องไปซื้อที่ไหนไกล แก้เบื่อ แก้เซ็ง อยากตื่นมาดูมัน
วิธีง่ายๆ เมื่อเริ่มต้นลงมือชุบชีวิตผัก ก่อนอื่นเลย เวลากดสั่งอาหารจากที่เน้นอร่อยถูกใจอย่างเดียว มาลองพินิจพิเคราะห์กันว่า เราพอจะชุบชีวิตผักอะไรบ้างจากกดสั่งอาหารให้มาหนึ่งครั้ง
เริ่มจากโฟกัสกวาดสายตา ตามหาผักในเมนูต่างๆ กันก่อน
เทคนิคไม่ลับจากลุงรีย์คือ ต้องมองให้ออกว่าผักอะไรที่จะต่อชีวิตให้โตต่อไปได้
ปกติแล้วจะนิยมกันอยู่ 3 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มที่ชุบชีวิตจากกิ่งก้าน




2. กลุ่มที่ชุบชีวิตจากหัว


3. กลุ่มที่ชุบชีวิตจากราก

สรุปที่มาของผักต่างๆ

ทีนี้มาถึงเรื่องของภาชนะสำหรับใช้ปลูกผักที่ได้มาจากการสั่งเดลิเวอรี่ จะแบ่งการใช้งานให้เหมาะกับการชุบชีวิตผักรูปแบบต่างๆ มีให้เลือกหลากหลายรูปทรงเลยทีเดียว

1. กลุ่มภาชนะทรงถ้วย ทรงแก้วน้ำใส ขวดใส
ใช้ในขั้นตอนการจุ่มแช่ช่วงทำให้เกิดราก สร้างรากเพิ่มให้กับกลุ่มชุบชีวิตด้วยก้าน เช่น โหระพา สะระแหน่ และกลุ่มชุบชีวิตด้วยราก เช่น ต้นหอม ผักบุ้ง
วิธีปลูก
1. ล้างภาชนะให้สะอาด
2. ตัดกิ่งผักยาวไม่เกิน 1 คืบ ไม่อ่อน-ไม่แก่เกินไป

2. เล็มใบใหญ่ออก เตรียมยอดให้พร้อม โดยใช้กรรไกรตัดโคนอีกครั้งให้ก้านคม และรีบแช่น้ำให้เร็วที่สุด

3. ทิ้งไว้จนรากอ่อนงอก คอยเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ หรือทุกวัน จะช่วยให้รากไม่เน่าง่าย เคล็ดลับคือการไม่ให้ยอดพืชจมน้ำ ทำได้โดยเสียบในฟองน้ำ จะทำให้ปลูกได้มากขึ้น และผักจะไม่ทับซ้อนกัน ช่วยทำให้อัตราการงอกสูง วิธีนี้นิยมทำกับสะระแหน่และกลุ่มชุบชีวิตด้วยกิ่งก้าน
4. เมื่อรากงอกแล้ว เตรียมนำไปปักลงดินยามเย็น เพื่อชุบชีวิต เด็ดยอดใหม่กิน

2. กลุ่มภาชนะที่มีฝาปิด
ภาชนะที่ใช้ในขั้นตอนบ่มรากได้อย่างดีกับกลุ่มชุบชีวิตด้วยหัว เช่น กระเทียม หอมแดง หัวหอมใหญ่ และกลุ่มชุบชีวิตด้วยก้านบางชนิดอย่างโรสแมรี่
- นำผักล้างน้ำให้สะอาดและแช่น้ำให้อิ่มตัว

- ผสมดินให้โปร่ง โดยเน้นใส่ขุยพร้าวร่อนและแกลบดำเข้าไปในอัตราส่วน 1 : 1 ถ้าเนื้อดินเกิดจากการหมักเศษผักส่วนเกินหรือขยะอาหาร 3 – 4 เดือนขึ้นไปยิ่งดี
- ผสมวัสดุปลูก เพิ่มความโปร่งตามสะดวก นำยอดโรสแมรี่มาปักลงในภาชนะ ส่วนหัวกระเทียมวางบนทิชชูชุบน้ำไว้ในตู้เย็นหรืออุณหภูมิห้อง จนรากงอกค่อยนำลงปลูก

- ส่วนโรสแมรี่ หากครอบฝาบ่มไว้ 1 – 2 วันแรก จะช่วยทำให้อัตรารอดดีขึ้น ค่อยออกแดดอ่อนๆ ช่วงเช้า รอให้รากงอกเต็มแตกยอดอ่อน และเมื่อรากเต็มแล้วก็เตรียมขยายภาชนะได้เลย ข้อดีของการปลูกผักในภาชนะทั้งสองแบบนี้คือ เราไม่ต้องการดินในการปลูกมากนัก

- เมื่อผักงอกใบอ่อน ยอดอ่อนมา ตัดผักใช้งานได้ เหมือนตกแต่งโต๊ะ ประดับร้านและบ้านไปในตัว

เท่านี้ก็หมดปัญหาแดดไม่ถึง เทคนิคการปลูกแบบนี้แสงแดดไม่จำเป็นเท่าไร ถ้าตัดปัจจัยนี้ออกไปก็ปลูกผักในร่มได้ สบายๆ ทำตามได้ไม่ยาก เมล็ดก็ไม่ต้องใช้ กระถางก็ไม่ต้องซื้อ
เห็นแบบนี้แล้ว แล้วเมนูที่จะสั่งเดลิเวอรี่ครั้งหน้า อยากชุบชีวิตผักอะไรกัน คิดเมนูรอกันได้เลย