วงการไม้ดอกก็เหมือนกับไม้ประเภทอื่น ๆ คือมีการนำเข้าไม้พันธุ์ใหม่ ๆ จากต่างประเทศตลอดเวลา ซึ่งไม้นำเข้าในยุคหลัง ๆ นี้ค่อนข้างคัดสรรกันมาแล้วเป็นอย่างดีว่าจะเจริญเติบโตได้ดีในบ้านเรา นั่นก็หมายความว่า การจัดสวนด้วยไม้ดอกที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ
คอลัมน์ตอนนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ 15 ไม้ดอกจากต่างประเทศพันธุ์ใหม่ ๆ รวมไปถึงพันธุ์ที่อาจจะอยู่มานานแล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก เป็นพันธุ์ที่ออกดอกดกตลอดทั้งปีและเลี้ยงง่าย โดยรวม ๆ คือต้องการแดดจัดและไม่ชอบน้ำแฉะ เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่หาซื้อไม่ง่าย บางชนิดจึงอาจจะไม่พบในท้องตลาด ถ้าใครตามหาต้นไหนไม่ได้ ก็ลองมาสอบถามได้ที่ Little Tree นะครับ

01 ชบาป่าญี่ปุ่น (Hibiscus lobatus)


ชบาป่าญี่ปุ่นเป็นไม้คลุมดินที่จะเลื้อยไปเรื่อย ๆ เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลเยอะ ถ้าปลูกที่สูงก็จะย้อยลงมา ความน่ารักอยู่ที่ดอกซึ่งมีลักษณะบางเบาสีชมพูพาสเทล เวลาโดนลมจะพลิ้วไหวเหมือนเต้นระบำ
02 ต้นไวเท็กซ์แอกนัสแคคตัส (Vitex agnocastus)


ต้นนี้คล้ายกับ คนทีเขมา (Vitex negundo) แต่ช่อดอกฟูกว่า เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ชอบแดดจัด ถ้าลงดินสูงได้ถึง 3 – 4 เมตร ต้นนี้ได้มาโดยบังเอิญ มีคนนำเข้ามาแล้วเขาขยายพันธุ์ไม่ได้ เลยเอามาให้ที่ Little Tree เลี้ยงในกระถางมาได้ 7 ปี พอเอาลงดิน ต้นก็โตและออกดอกเยอะมาก หลายคนลองเก็บเมล็ดไปเพาะก็ไม่ขึ้น จึงไม่มีขายในตลาด ในช่วงโควิดที่ผ่านมาลองตั้งใจเพาะ สุดท้ายก็สำเร็จ
ต้นแม่ดอกเป็นสีม่วง แต่ต้นลูกที่ได้มามีทั้งดอกสีม่วง สีชมพู และสีขาว ตอนนี้ที่ Little Tree เลยมี 3 สีเลย เป็นต้นไม้ที่เอาไปจัดสวนให้ลูกค้าแล้วพอลงรูปในไอจี มีคนพิมพ์ถามมาเยอะมากว่าคือต้นอะไร
03 ราชาวดีออสเตรเลีย (Buddleja davidii ‘White Profusion’)


ราชาวดีออสเตรเลียมีช่อดอกใหญ่กว่าราชาวดีไทย แต่ไม่หอมเท่า เป็นไม้พุ่มที่สูงท่วมหัว สีที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ สีม่วงเข้ม หรือที่เรียกว่าราชาวดีม่วง (Buddleja davidii) รวมไปถึงสีชมพูและม่วงอ่อน แต่สีขาวเป็นไม้ใหม่ที่ยังแทบไม่เห็นในตลาด นอกจากจะเลี้ยงง่ายไม่ต่างจากราชาวดีไทยแล้ว ดอกยังเป็นดอกไม้กินได้ ใช้จัดจานโรยหน้าอาหารได้ด้วย
04 คูลลิ่ง (Helichrysum italicum)


คูลลิ่งเป็นชื่อที่คนไทยเรียกกัน ชื่อภาษาอังกฤษคือ Curry Plant เพราะใบมีกลิ่นฉุนคล้ายผงกะหรี่ อีกชื่อที่เรียกกันคือ โรสแมรี่ขาว เพราะมีลำต้นและใบคล้ายโรสแมรี่มาก แต่ใบมีสีออกเทา ๆ ขาว ๆ ชอบแดดและไม่ชอบแฉะเหมือนโรสแมรี่ คูลลิ่งที่เข้ามาเมืองไทยรุ่นแรกค่อนข้างจะมีทรงพุ่มใบแน่น พอโดนฝนในบ้านเราเลยชื้นจนเป็นเชื้อรา จึงดูแลยาก แต่คูลลิ่งรุ่นใหม่ มีข้อใบที่โปร่งขึ้น จึงเลี้ยงง่ายกว่าเดิม เป็นไม้ที่นิยมใช้จัดสวน นอกจากจะมีสีใบที่สวยแล้ว ยังมีดอกสีเหลืองที่มีกลิ่นหอมด้วย
05 เสจรัสเซีย (Perovskia atriplicifolia)


เสจ (Sage) เป็นสมุนไพรฝรั่งที่มีสรรพคุณมากมาย และเสจหลายพันธุ์ก็มีดอกสวยเหมาะกับการนำมาปลูกประดับ เสจรัสเซียมีลักษณะคล้ายลาเวอร์เดอร์คือเป็นไม้พุ่มมีดอกสีม่วง ดูเผิน ๆ เหมือนเสจจะเป็นไม้เมืองหนาวที่ปลูกยากในเมืองไทย แต่ความเป็นจริงแล้วปลูกง่ายมาก ขึ้นในกรุงเทพฯ ได้สบาย ๆ เคล็ดลับคือต้องการแดดจัดและต้องหมั่นตัดแต่งอยู่เสมอ
06 บลูเสจ (Salvia azurea)


บลูเสจเป็นดอกไม้ที่เพิ่งเข้ามาในเมืองไทย จุดเด่นคือมีดอกสีฟ้า ซึ่งหายากมากในเมืองไทย
07 ซัลเวียบิ๊กบลู (Salvia longispicata x farinacea)


เสจอีกตัวที่อยากแนะนำคือ ซัลเวียบิ๊กบลู ต่างจากซาลเวียอื่น ๆ ตรงที่มีช่อดอกใหญ่กว่า ดอกดกกว่า และสีไม่เข้มเสมอกันทั้งช่อ แต่สีออกเหลือบ ๆ มากกว่า เลี้ยงง่าย ถ้าตัดแต่งดี ๆ อยู่ได้ยาว ๆ 5 – 6 ปีสบาย
08 นีออนออสเตรเลีย


นีออนเป็นไม้พุ่มขนาดกลางถึงใหญ่ จุดเด่นอยู่ที่ใบสีสว่างออกเทา ๆ ขาว ๆ และออกดอกดก นีออนที่ขายกันในบ้านเรา บางคนก็เรียก Texas Sage ดอกมีสีม่วงสดและชมพูอมแดง ออกดอกทั้งปี แต่ต้นที่อยากแนะนำคือนีออนออสเตรเลียที่เพิ่งเข้ามาสู่ตลาดต้นไม้ในเมืองไทย ดอกดกกว่านีออนปกติและดอกมีสีม่วงอ่อน สวยแบบหวาน ๆ มากกว่า
09 พยับเมฆ

คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักต้นพยับหมอก (Plumbago auriculata) ซึ่งมีดอกสีฟ้า เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ออกดอกตลอด ชอบแดดจัด ไม่ชอบน้ำ ไม่ชอบแฉะ เหมาะจะปลูกในกระถางวางไว้ในที่สูง ๆ แต่ตัวที่น้อยคนจะรู้จัก และแทบไม่มีขายเลยก็คือ พยับเมฆ ซึ่งมีดอกสีฟ้าเทา เป็นโทนสีที่ซอฟต์ลงมาแตกต่างจากพยับเมฆ สวยแปลกตากว่าที่เราคุ้นเคยกัน พยับเมฆนี้ไม่ใช่ต้นพยับเมฆที่เป็นอีกชื่อหนึ่งของหญ้าหนวดแมว (Orthosiphon aristatus (Blume) Miq.) แต่อย่างใด
10 พยับขาว


นอกจากจะมีพยับเมฆ ที่เป็นพยับหมอกสีเทาแล้ว ก็ยังมีพยับเมฆที่เป็นสีขาวล้วน หรือที่เรียกว่า พยับขาวด้วย เป็นต้นไม้ที่หายากเช่นกัน ปลูกแล้วให้ความสวยเรียบแบบคลาสสิก แล้วก็ปลูกง่าย เคล็ดลับสำคัญคือ พอดอกโรยต้องหมั่นตัดแต่ง ต้นจะโตเร็วและออกดอกดก
11 ฟอร์เก็ตมีน็อตไต้หวัน

ฟอร์เก็ตมีน็อตไต้หวันเป็นต้นไม้ที่อยู่ในตลาดต้นไม้บ้านเรามาสิบกว่าปีแล้ว แต่ช่วงหนึ่งหายไปจากท้องตลาด เพิ่งจะกลับมาช่วงนี้เอง จุดเด่นของฟอร์เก็ตมีน็อตไต้หวันคือมีดอกสีม่วง ฟอร์เก็ตมีน็อตเป็นไม้ล้มลุกที่มีตอ จึงอยู่ได้นาน จุดเด่นคือเป็นดอกไม้ที่ชูก้านเด่น ซึ่งมีดอกไม้น้อยชนิดมากที่มีฟอร์มของก้านดอกที่ชูและแข็งแรงแบบนี้ การดูแลก็ง่ายมาก ชอบแสงแดด และอยู่ในที่ชื้นแฉะได้ด้วย
12 แมคคาโดเนีย


แมคคาโดเนีย (Mecardonia) เป็นไม้คลุมดินที่เหมาะกับการปลูกเพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น จะไต่ข้อไปเรื่อย ๆ มีดอกสีเหลืองขนาดเล็ก ดอกดก ออกดอกตลอดปี ปลูกง่ายกว่าเดซี่ ควรปลูกในกระถางหรือยกแปลง
13 เดซี่ออสเตรเลีย


เดซี่ออสเตรเลียเป็นไม้ที่อยู่ในบ้านเรามาพอสมควรแล้ว ถือเป็นไม้เลื้อยที่เลี้ยงง่ายกว่าเดซี่ทั่วไป ออกดอกสีขาวดกตลอดทั้งปี ถ้าเลี้ยงในกระถางแล้ววางไว้บนระเบียง ต้นจะย้อยยาวลงมาได้เป็นเมตรเลย
14 ยาร์โรว์ (Achillea millefolium)


ยาร์โรว์เป็นไม้ดอกที่คนยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก จุดเด่นคือช่อดอกที่ประกอบไปด้วยดอกเล็ก ๆ สีขาว เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายมาก ชอบแดดจัด และแทบไม่ต้องการการดูแล ไม่ชอบน้ำแฉะ แตกกอง่ายมาก
15 ดาวกระจายสีเหลืองอ่อน


ดาวกระจายที่เห็นทั่วไปมักเป็นสีเหลืองสด ขาว ชมพู ม่วง แต่การขยายพันธุ์ต้นไม้ด้วยเมล็ดนั้นมักให้พันธุ์ที่ไม่นิ่ง ต้นไม้หลายชนิดที่ Little Tree จริงมีลูกที่ให้ดอกที่มีสีสันแตกต่างออกไป รวมถึงดาวกระจายสีเหลืองอ่อนด้วย ด้วยความที่เป็นสีครีม มีความซอฟต์จึงดูพิเศษกว่าทั่วไป