แม้ไม่เคยได้วาดฝันไว้ และไม่เคยนึกภาพตัวเองออกเดินทางและทำงานที่ต่างประเทศพร้อมกับภรรยาและลูกน้อยมาก่อน แต่ทันทีที่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในจังหวะชีวิตหนึ่งของการทำงานที่ต้องออกเดินทางอีกครั้ง ในขณะที่มีลูกชายตัวน้อยอายุ 6 เดือนกว่า จิตใจเบื้องลึกก็ไม่รีรอ บอกให้ผมตัดสินใจออกเดินทางไกลพร้อมครอบครัวครั้งแรก…ไปแอฟริกา

นั่นคือเมื่อเกือบ 4 ปีก่อน เมื่อเราออกเดินทางจากประเทศไทย ลูกชายยังเป็นทารก แน่นอนว่าเขายังเดินเหินและพูดไม่ได้ แต่ละวันเขาเพียงแต่นอน สลับกับดูดนมและขับถ่าย เราจับเขาใส่ตะกร้าอุ้มเด็ก แล้วกระเตงขึ้นเครื่องบินระยะเวลายาวนานกว่า 16 ชั่วโมง กว่าจะถึงประเทศโมซัมบิก ที่ที่ลูกชายของผมจะต้องเติบโตขึ้น

ในวันที่เราเดินทางกลับเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ลูกชายเพิ่งอายุครบ 4 ขวบหมาดๆ เขาพูดจ้อเจื้อยแจ้ว ร่างกายแข็งแรงยืดหยุ่น เดินเหินวิ่งเล่นคล่องแคล่ว และมีอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก… ผิดกับตอนที่เราพาเขาออกเดินทางครั้งแรก ที่เขายังเป็นเพียงเด็กแบเบาะคนหนึ่ง

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ

ลูกชายใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในแอฟริกา มากกว่าในประเทศไทย บ้านเกิดของเขา

แม้ตอนนั้นคนรอบตัวจะทัดทานการเดินทางไปแอฟริกาของผมพร้อมกับลูกน้อย เพราะทุกคนคาดการณ์ว่าชีวิตความเป็นอยู่อาจไม่สะดวกสบาย โรคภัยอาจน่ากลัว การศึกษาและการสาธารณสุขอาจยังไม่เข้าขั้น แต่ผมไม่เคยเสียดายโอกาสที่จะไปที่อื่นที่ ‘เขาว่า’ ดีกว่านี้เลย

ผู้ใหญ่หลายคนเป็นห่วง ถามผมว่า ลูกเล็กแค่นี้จะเลี้ยงได้อย่างไรกันในที่แบบนั้น ผมก็อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปเลี้ยงลูกที่แอฟริกา พอหลายคนถามเยอะเข้า ตอนหลังๆ ผมก็เลยตอบไปว่า “เลี้ยงแบบเมาคลี”

เมาคลีแบบในหนังสือ The Jungle Book ของ รัดยาร์ด คิปลิง (Rudyard Kipling) ที่เติบโตท่ามกลางความหลากหลายของผู้คน ธรรมชาติ อำนาจ และโอกาส ที่ไม่เท่าเทียมกัน 

ระยะเวลาเกือบ 4 ปีในโมซัมบิกได้ฟูมฟักหล่อหลอม-อย่างน้อยที่ผมเห็นและหวังไว้ ให้ลูกชายมีโอกาสเติบโตขึ้นเป็น ‘พลเมืองที่ดี’ คนหนึ่งของโลกได้ เพราะผมเชื่อมั่นและมุ่งหมายในคุณค่าของสิ่งนี้มากกว่าสิ่งไหนๆ

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ

เขาได้เห็นผู้คนที่หลากหลาย

ในช่วงปีแรกที่ลูกชายยังแบเบาะเกินกว่าจะพาออกไปทำอะไรได้ ชีวิตที่ผ่านมาและล้อมรอบของเขาคือผู้คนที่หลากหลาย ต่างชาติ และต่างผิวพรรณ โดยเฉพาะคนที่มีสีผิวและรูปร่างหน้าตาต่างจากเรา ทั้งฝรั่งผิวขาว แขกผิวน้ำตาล และคนแอฟริกาผิวดำคล้ำ ผมดีใจที่ลูกชายไม่ได้ร้องไห้จ้าเมื่อมีคนหน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่มาแหย่เล่นหยอกล้อเขาในตะกร้าที่เราใช้แบกอุ้มเขาไปที่โน่นที่นี่

การที่เราได้ทำงานและใช้ชีวิตในประเทศพหุสังคมอย่างโมซัมบิก ที่มีทั้งคนแอฟริกา คนฝรั่งที่ถ้าไม่ใช่ชาวยุโรปก็เป็นลูกหลานซึ่งอยู่ที่นั่นมาแต่อาณานิคม หรือคนแขกจากอินเดียที่ถูกจ้างมาเป็นแรงงานทั้งในยุคปัจจุบัน หรือตั้งรกรากมายาวนานพร้อมเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส อาจช่วยให้ลูกชายเติบโตขึ้นโดยไม่กลัว หรือรังเกียจ หรือรัก อย่างผิวเผินเพียงแค่เห็นจากภายนอก

ลูกชายอาจโชคดีสักหน่อยที่มีพี่เลี้ยงเป็นคนท้องถิ่น ซึ่งมาช่วยภรรยาของผมทำงานบ้าน ผมดีใจที่เขาเล่นกอดหยอกล้อปีนป่ายพี่เลี้ยงของเขาอย่างเป็นกันเอง และแอบนึกชื่นชมว่าเด็กตัวน้อยก็เป็นเด็กที่สดใสเหมือนผ้าขาวอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ

หลายครั้ง ผมและภรรยาแอบบ่นว่าพี่เลี้ยงที่มาช่วยงานเรานี้มีกลิ่นตัวแรงจนพานให้เรานึกกังวลไปต่างๆ นานา แต่ลูกชายกลับไม่สนใจเพราะไม่มีอคติอันใดแฝงอยู่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้จากลูกชายให้มาก

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ
นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

อีกเรื่องที่เราต้องเรียนรู้จากเขา ผมจำได้แม่นถึงสายตาที่ไร้เดียงสาของลูกชาย เมื่อเขาพบเจอชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทะเลสาบมาลาวี ผู้เป็นแม่นุ่งกระโจมอกด้วยผ้าคาปูลานาสีสดของโมซัมบิก มือข้างหนึ่งถือชามพลาสติกเต็มไปด้วยปลาตัวเล็กๆ ที่เขาเพิ่งดักตาข่ายได้ อีกข้างหนึ่งถือมีดเก่าๆ เพื่อมาขอดเกล็ด เตรียมนำไปปรุงอาหารในคืนนั้น

หากเป็นเราก็คงจะรู้สึกสงสารหรือเห็นใจอย่างคนที่อาจจะเรียกว่า มีโอกาสที่ดีกว่า แต่สายตาของลูกชายกลับใส่ใจกับปลาที่อยู่ในชามนั้นมากกว่า และมองภาพชาวบ้านที่เราเห็นพร้อมๆ กันอย่างปกติ ซึ่งนั่นควรเป็นสายตาที่เรามองคนอื่น แทนที่จะตัดสินเขาตั้งแต่แวบแรกมิใช่หรือ

โลกในวันนี้และในวันข้างหน้าควรเป็นโลกที่หลากหลาย รูปลักษณ์ภายนอกอาจไม่มีความสำคัญมากเท่ากับจิตใจและความคิดที่ซ่อนอยู่ภายใน คนสีผิวหนึ่งก็มิอาจเรียกร้องให้คนอื่นคิดว่าเป็นใหญ่หรือมีอำนาจมากกว่าคนอีกสีผิวหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับความเก่งและความดีงามที่ไม่จำกัดอยู่แค่สิ่งที่เห็นภายนอก

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

เขาได้เห็นธรรมชาติที่เป็นจริง

ลูกชายทำให้ผมเชื่อจริงๆ ว่า มนุษย์เราโดยสันดานมีจิตใจที่รักและเชื่อมโยงกับธรรมชาติอยู่แล้วทุกคน มิจำเป็นจะต้องสั่งสอนหรืออบรมบ่มนิสัยความรักในธรรมชาตินี้ให้กัน ดังที่นักวิทยาศาสตร์อย่าง เอ็ดเวิร์ด ออสบอร์น วิลสัน (Edward Osborne Wilson) เรียกคุณสมบัติหนึ่งของมนุษย์ข้อนี้ว่า ‘Biophilia’ 

ด้วยความที่ประเทศโมซัมบิกที่เราอยู่ยังเพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติซึ่งยังไม่ถูกรุกรานจากความเป็นเมือง เราจึงโชคดีที่ธรรมชาติจริงๆ ซึ่งฝรั่งเรียกว่า Wilderness ล้วนอยู่รอบตัว และรายล้อมเราโดยไม่ต้องขวนขวายใช้ทุนทรัพย์หรือใช้เวลาเดินทางไปเสาะหา

ในวันหยุดจากการทำงาน เราพากันไปที่ชายทะเล ตอนแรกลูกชายยังกลัวเสียงและรูปลักษณะคลื่นที่ซัดถาโถมเข้ามาอย่างแรง แต่ผืนทรายและซากสรรพชีวิตทั้งแมงกะพรุน กุ้ง ปลา และปู ที่กองเกลื่อนถูกซัดพัดเข้ามาก็เรียกความสนใจจากเขาได้ไม่น้อย 

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

แม้เขายังวิ่งเร็วสู้ปูลมที่วิ่งฉิวอยู่บนแนวทรายไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยหยุดเรียกร้องให้ผมใช้สรรพกำลังและทักษะทั้งหมดที่มีวิ่งรี่จับปูลมมาให้เขาดูใกล้ๆ แม้เขาเพียงแค่สนุกที่ได้วิ่งเหยียบย่ำไปในแอ่งน้ำตามแนวหินยามน้ำลด (Tidal Pool) แต่เขาก็ได้เห็นและใกล้ชิดสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้น เมื่อผมลองให้เขาเอื้อมมือไปให้ดอกไม้ทะเล (Sea Anemone) ใช้ปลายหนวดยาวดูดนิ้วมือเบาๆ พอให้จั๊กจี้

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

เมื่อเขาโตขึ้นมาอีกหน่อย ผมชอบพาเขาไปดูต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามแนวชานเมือง ซึ่งเป็นเขตแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายที่มีต้นไม้แปลกตาสำหรับคนที่มาจากเขตร้อนชื้นอย่างเรา ทั้งต้นไม้ที่ไม่มีใบแต่ออกดอกพรึ่บอย่างชวนชมชนิด Adenium multiflorum ซึ่งออกดอกสีชมพู หรือต้นไม้วงศ์ต้นปีบชนิด Rhigozum zambesiacum ออกดอกสีเหลืองเต็มต้นในหน้าแล้ง หรือต้นไม้ในวงศ์โป๊ยเซียนหรือพญาไร้ใบในสกุล Euphorbia ที่รูปร่างหน้าตาประหลาดเป็นแท่งๆ ไม่มีใบ

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก
นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

เราเรียกชื่อต้นไม้กันด้วยชื่อวิทยาศาสตร์ จนลูกชายชอบกลับมาเล่าให้แม่เขาฟังว่า วันนั้นเขาเจอต้น Adenium แม่รู้ไหมว่าคือต้นอะไร เขาใบ้ต่อว่า ถ้าไปเล่าให้คุณยายที่เมืองไทยฟังคุณยายคงไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าต้นชวนชมคุณยายก็คงร้องอ๋อ

แสงแดดแรงและอากาศแห้งๆ ไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลย ผมจำได้ดีวันที่เขาหยิบเศษกิ่งไม้ยาวขึ้นมาจากพื้นดินในทุ่งหญ้าริมอ่างเก็บน้ำชานเมือง เขาเห็นกิ่งไม้ดั่งมีชีวิตและเป็นเพื่อนเล่นของเขา มือข้างที่เขาถือจับกิ่งไม้จิ้มปักไปข้างหน้าพร้อมกับวิ่งเล่นฉิวไปดงหญ้าที่ตอนนั้นแห้งกรอบเป็นสีน้ำตาลเพราะเข้าสู่หน้าแล้งแล้ว เมื่อเหนื่อยหอบเขาก็ไม่วายล้มตัวลงนอนคลุกเคล้าไปบนพื้นดิน

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

ผมได้แต่หวังว่า ในวันหนึ่งเมื่อลูกชายเติบโตขึ้น ธรรมชาติที่เขาพานพบจะทำให้เขาระลึกถึงความสวยสดและงดงามที่เขาได้เล่นสนุก เขาคงจะเชื่อในคุณค่าของสิ่งที่อยู่รอบตัวเหล่านั้น ซึ่งน่าจะทำให้เขาและคนอื่นๆ ในโลกใบเดียวของเขามีความสุขและรักษาไว้อย่างดีเท่าที่จะทำได้

เขาได้เห็นโอกาสที่คนมีไม่เท่ากัน

การได้มาทำงานที่โมซัมบิกครั้งนี้ถือเป็นโอกาสหนึ่งในชีวิตที่ได้คลุกคลีใกล้ชิดกับคนท้องถิ่น ด้านหนึ่งผมได้รับผิดชอบการทำโครงการให้ความช่วยเหลือพัฒนาหมู่บ้านเล็กๆ ในต่างจังหวัดของโมซัมบิก ในอีกด้านหนึ่งผมได้รู้จักคุ้นเคยกับพนักงานทำความสะอาด เพราะเขานั่งรถไปดูต้นไม้ในชานเมืองเป็นเพื่อนผมกับลูกชาย

หลายครั้งที่ผมพาภรรยาและลูกชายไปหมู่บ้านในต่างจังหวัด ที่ชาวบ้านยังต้องกินแต่แป้งข้าวโพดเคียงกับผักต้มแกนๆ และต้องเดินหลายร้อยเมตรหรืออาจเกือบถึง 1 กิโลเมตรเพื่อมารองน้ำไปใช้กินใช้ดื่มจากคันโยกน้ำบาดาลไม่กี่จุดในชุมชน

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

บ้านของพนักงานทำความสะอาดอยู่ในหมู่บ้านที่อาจพัฒนามากกว่า มีระบบประปาชุมชนที่ต่อท่อตรงมาถึงบ้าน แต่เขาก็ยังต้องใช้น้ำอย่างกระเหม็ดกระแหม่ เพราะน้ำมีราคาแพงและมีมาไม่สม่ำเสมอ ต้องรองใส่ถังไว้ใช้ในยามจำเป็น

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

ภาพเหล่านี้ประกอบกับบ้านเรือนอย่างคนรายได้น้อยยิ่งทำให้เห็นถึงโอกาสของคนที่ไม่เท่าเทียมกัน บางบ้านเป็นเพียงบ้านที่นำหญ้ามาประกบเป็นกำแพงและหลังคา บางบ้านใช้อิฐบล็อกปูนแบบหยาบๆ ก่อกันเป็นกำแพงและมีหลังคาสังกะสี ไม่มีแม้แต่มุ้งลวด หากไม่นับประตูที่ทำจากเศษไม้แผ่นที่ราคาถูกที่สุดหรือไม่ก็สังกะสีเหลือใช้จากหลังคา ห้องน้ำเป็นส้วมหลุมขุดอยู่นอกบ้านและกลิ่นโชย เพราะไม่ได้เป็นส้วมแบบคอห่านที่มีน้ำหล่อกันกลิ่นจากด้านหลังพุ่งขึ้นมา

เด็กๆ ในวัยเดียวกับลูกชายมีของเล่นเพียงไม่กี่ชิ้น ของที่นิยมที่สุดเห็นจะเป็นวงล้อหรือยางรถจักรยานกลมที่นำแท่งไม้มาพยุงให้วิ่งลิ่วไปข้างหน้า ผิดกับของเล่นของลูกชายที่มีอยู่นับร้อยชิ้น ทั้งที่คนให้มาและเราขนมาจากประเทศไทยเพราะเห็นว่าเขาจะต้องมาอยู่ไกลถึงแอฟริกา

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

ผมชอบบ่นแม้ไม่เคยกล้าห้ามภรรยาว่า ทำไมถึงยอมให้ลูกชายเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำในที่พักของเรา ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ในตึกใหม่และหรูหราที่สุดใจกลางกรุงมาปูโต เมืองหลวงของโมซัมบิก เพราะในใจลึกๆ แล้ว ผมอยากให้ทั้งภรรยาและลูกชายรู้สึกในเชิงเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราได้ไปพบเห็นมา ยังดีที่ลูกชายไม่เคยงอแงเมื่อเราขอแบ่งของเล่นหรือเสื้อผ้าที่เขามีอยู่มากมายเหลือคณาให้กับคนอื่นๆ

แม้จะเข้าใจดีว่าอาจเป็นการยากที่จะให้ผู้คนทั้งโลกนี้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกันหมดในทุกเรื่อง แต่การได้รับรู้เรื่องของคนที่มีโอกาสแตกต่างจากเรา ก็น่าจะทำให้เราพอใจกับโอกาสที่ได้รับและเพียรพยายามแสวงหาโอกาสให้ได้ดั่งคนที่มีโอกาสมากกว่าเรา แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การต้องคิดถึงคนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าเรา และมีน้ำใจที่จะหยิบยื่นโอกาสให้กันและกันได้

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

วันก่อนมีเรื่องให้ผมดีใจ ลูกชายต่อเลโก้เป็นบ้าน เขาอธิบายว่า นี่คือบ้านของคนรายได้น้อยที่ไม่มีหลังคา แต่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา คนในบ้านต้องนอนอยู่ในเปลนอกบ้านและเข้าห้องน้ำที่อยู่อีกทางหนึ่ง แค่นี้ผมก็ยิ้มไม่หุบแล้ว อย่างน้อยสิ่งที่เขาเห็นก็ได้ซึมซับอยู่ในความทรงจำของเขาไปแล้ว อาจจะยังติดอยู่นิดเดียวที่เขายังตอบคำถามจากพ่อของเขาที่ ‘อิน’ กับเรื่องนี้แบบนี้อย่างผมไม่ได้ว่า เขาจะช่วยเจ้าของบ้านเลโก้ที่เขาเพิ่งต่อขึ้นเองนี้ให้มีหลังคากันแดดกันฝนได้อย่างไร

ทั้งหมดนี้เขาได้เห็นที่แอฟริกา

เวลาที่ผ่านมาในแอฟริกา เป็นเวลาที่ผมหวนคิดคำนึงถึง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมและลูกชายได้ผจญภัยด้วยกันในทวีปที่ผมรู้สึกว่า เราจะต้องทำความรู้จักให้มากขึ้น เพื่อที่จะเข้าใจโลกใบนี้และสังคมอย่างที่เป็นจริง ผมรู้สึกมาตลอดว่า เด็กที่โตในเมืองไทยอย่างผมและเพื่อนๆ รู้จักทวีปนี้น้อยมาก จนทำให้เราไม่อาจรู้จักโลกใบนี้ได้อย่างครบถ้วน เต็มใบ และที่เป็นจริงได้เลย

แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจยืนยันไม่ได้ว่าลูกชายของผมจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นพลเมืองที่ดีของโลกคนหนึ่งได้จริงอย่างที่ผมวาดหวังไว้หรือไม่

แม้เขาอาจจะเด็กเกินกว่าจะจำความได้หรือรู้ประสา แต่ความหลากหลายของผู้คน ความงดงามของธรรมชาติ  และโอกาสที่คนได้รับอย่างไม่เท่าเทียมกันที่ได้รายล้อมชีวิตในวัยหนึ่งของเขา จะย้อนกลับมาหาเขาในอยู่ใต้จิตสำนึกในเบื้องลึกของจิตใจ และเป็นส่วนหนึ่งของการคิดประมวลใช้เหตุผล ไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวหรือส่วนรวม

แม้ผมจะรู้ว่า หน้าที่ในการเลี้ยงดู ‘พลเมือง’ คนหนึ่งของโลกให้เติบโตขึ้น จะยังมีอยู่ไปสักพัก แม้จะอีกไม่นานนักก็ตาม

นักการทูตผู้เลี้ยงลูกแบบเมาคลีที่แอฟริกา ให้ผจญภัยในทวีปที่น้อยคนจะรู้จักจริงๆ, การเลี้ยงลูก

Write on The Cloud

บทเรียนจากต่างแดน

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ บทเรียนจากต่างแดน’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เรามีของขวัญส่งให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

Avatar

อาทิตย์ ประสาทกุล

ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และแฟนคลับ The Cloud