เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บริษัทใหญ่ที่มีอายุหลายทศวรรษไม่อาจนิ่งนอนใจได้เหมือนเคย ต้องปรับตัวให้เท่าทันทั้งทางด้านเทคโนโลยีและสังคม
แต่การสร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมภายใต้โครงสร้างเดิมที่มีอยู่เป็นเรื่องไม่ง่าย อาจติดขัดกระบวนการ ใช้เวลานาน ต้องฝ่าฟันผู้คนหลายด่านกว่าไอเดียบนกระดาษจะเห็นแสงตะวัน
บริษัทใหญ่จึงมักตั้งหน่วยงานขนาดเล็กแยกออกมา เพื่อให้ทดลอง ลงทุนในนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม เปรียบเสมือนเรือลำเล็กที่เดินทางไปผจญภัยในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ได้อย่างอิสระเสรีกว่า โดยยังมีทรัพยากรจากเรือลำใหญ่พกติดตัวไปด้วย
ปตท. คือบริษัทพลังงานระดับประเทศที่ทำเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน ผ่านหน่วยงานที่ชื่อ ‘ExpresSo’ (ย่อมาจาก Express Solutions) ด้วยสมาชิกหลักสิบชีวิตที่มีเป้าหมายการสร้างธุรกิจใหม่ให้ ปตท. โดยไม่จำกัดอยู่แค่เรื่องพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คน ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ว่า ‘Powering Life with Future Energy and Beyond’

ภายใน ExpresSo มีทั้งหน่วยงานที่ร่วมมือและลงทุนในกองทุน สตาร์ทอัพและบริษัทเพื่อการเติบโตร่วมกัน หรือที่เรียกว่า Venture Capital (VC)
และหน่วยงานที่ลงมือสร้างนวัตกรรมหลากหลายขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์ด้วยตัวเอง โดยอาจต่อยอดจากเทคโนโลยีที่ VC ไปศึกษาหรือลงทุนมา เรียกว่า Venture Builder (VB)
ในวันที่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ทั่วโลกถูกท้าทาย ต้องตื่นตัวและมองหาช่องทางการปรับเปลี่ยนให้ธุรกิจตัวเองปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) หรือกระทั่งเป็นลบ ด้วยการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่มากกว่าเพื่อรับผิดชอบสังคม The Cloud นัดหมาย 4 ตัวแทนของทีมงานคนรุ่นใหม่ใน ExpresSo ที่ต่างเคยทำงานในหน่วยงานอื่นของ ปตท. ก่อนเข้ามารับภารกิจสำคัญนี้ เพื่อคุยถึงเบื้องหลังการทำงานที่หลายองค์กรน่าเรียนรู้และนำไปใช้งาน
เพราะอนาคตมักมาถึงเร็วกว่าที่คิด และการรักษาโลกใบนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รอไม่ได้ ถึงเวลาแล้วที่องค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต้องปรับความคิด วิธีการทำงาน และเดินหน้าหาโอกาสใหม่ไปร่วมกัน
ลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคต
แม้จะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างลึกซึ้ง แต่ไม่มีใครรู้และทำเองได้ทุกอย่าง
VC จึงเป็นหน่วยงานสำคัญที่ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อช่วยให้องค์กรใหญ่ๆ มีโอกาสเรียนรู้จากสตาร์ทอัพที่ถนัดเฉพาะด้านและเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว แลกกับการลงทุนเพื่อช่วยผลักดันการเติบโต โดย VC ของ ExpresSo สนใจด้านพลังงานหมุนเวียน ความยั่งยืน และโซลูชันสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมเป็นหลัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ
“เวลาพิจารณาการลงทุน เราดูว่ากองทุนหรือบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนทำสิ่งที่ตรงกับวิสัยทัศน์ของ ปตท. หรือเปล่า ถ้าทิศทางตรงกัน เราจะดูว่าขนาดของตลาดใหญ่เพียงพอต่อการขยายไหม หลังจากนั้นดูว่าทีมที่ทำงานมีประสบการณ์และศักยภาพจะแก้ปัญหาที่เขาทำได้ดีไหม พวกเขาเชื่อในสิ่งเดียวกันจริงหรือเปล่า เพราะทำสตาร์ทอัพจะมีช่วงที่เครียดอยู่แล้ว เกิดไม่รักกันจริง อาจวงแตกตั้งแต่ไม่กี่เดือนแรก” ไกด์-เปรมปรีดี กิติรัตน์ตระการ Investment Director กล่าว เขาอยู่ ปตท. มานานกว่า 10 ปี และมีประสบการณ์นำการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน

การลงทุนของ ExpresSo ไม่ได้เป็นเพียงทางการเงินเท่านั้น แต่จะช่วยให้คำปรึกษา เชื่อมโยงกับบริษัทอื่นๆ ในเครือข่าย และนำเสนอโซลูชันให้บริษัทในเครือ ปตท. ได้ใช้งาน กลายเป็นว่าสตาร์ทอัพมีโอกาสเติบโตและได้ทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์กับลูกค้าจริง เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
ยกตัวอย่างเช่น Sunfolding บริษัทในสหรัฐอเมริกาที่พัฒนาระบบ Solar Tracking ช่วยให้การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มีต้นทุนถูกลง และสูญเสียพลังงานในการผลิตระหว่างกระบวนการน้อยลง ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดของ ปตท.
และ HG Robotics (HiveGround) บริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์อัตโนมัติและโดรนสัญชาติไทย แม้ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจหลักที่ดำเนินการเป็นปกติของ ปตท. แต่โซลูชันของ HG Robotics ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนดีขึ้นอย่างมาก เช่น การใช้โดรนทางการเกษตรที่แบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อยของเกษตรกรและทำงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นตลาดแห่งอนาคตที่ ปตท. หันมาให้ความสำคัญ

นี่คือ 2 ตัวอย่างเท่านั้น ExpresSo ยังดูแลอีกหลายการลงทุนและเปิดรับโอกาสใหม่
“ตอนนี้ในไทยยังมีผู้เล่นด้านความยั่งยืนน้อย เราอยากเชิญชวนคนที่สนใจลองคิดถึงการทำงานในแวดวงนี้ดู อาจเป็นเรื่องยากในตอนเริ่มต้น แต่ถ้าได้ทำงานร่วมกันกับ ปตท. ที่มีประสบการณ์และสนใจด้านนี้อยู่แล้ว น่าจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น” ไกด์ฝากถึงคนที่กำลังปลุกปั้นสตาร์ทอัพหรือธุรกิจของตัวเอง เพราะประเทศเรายังคงต้องการคนคิดโซลูชันด้านนี้อีกมาก
ทดลอง เรียนรู้ สร้างนวัตกรรม
ในส่วนการสร้างธุรกิจใหม่ เราขอหยิบยก 3 โปรเจกต์และสตาร์ทอัพของ 3 ผู้ประกอบการภายในบริษัท ที่ถือเป็นดาวรุ่งน่าจับตาอย่าง Swap & Go, ReAcc และ MekhaTech
ก่อนที่ 3 ไอเดียนี้จะเกิดขึ้นจริงเป็นธุรกิจ ทีม ExpresSo ทดลองไอเดียอื่นมาเยอะ ผิดพลาดและค่อยๆ เรียนรู้ว่าไอเดียใดมีโอกาสไปต่อ มีคนในองค์กรพร้อมทำ จังหวะตรงกับพัฒนาการของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดที่ใหญ่เพียงพอ จนกลายมาเป็นธุรกิจแบบทุกวันนี้
แม้จะทำงานกันคนละด้าน แต่โจทย์ที่พวกเขาเจอระหว่างทางล้วนมีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ การปรับตัวตามโลกแห่งความเป็นจริงที่มีรายละเอียดซ่อนอยู่เยอะ การสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายให้เข้าใจความสำคัญของนวัตกรรมที่อาจมาทดแทนสิ่งดั้งเดิม และแบกรับความเสี่ยงที่ต้องเกิดขึ้น เมื่อลงมือสร้างสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้คำตอบ ตามธรรมชาติของการสร้างนวัตกรรม
Swap & Go สถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนและบริษัทใหญ่ๆ เช่น บริษัทขนส่งหรือเดลิเวอรี่ หันมาให้ความสนใจและใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สอดคล้องกับการตื่นตัวเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
แต่ปัญหาที่ผู้ใช้งานต้องเจอในประเทศนี้คือ การชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้งยังต้องใช้เวลานาน ทำให้ไม่อาจขับขี่หรือทำงานได้อย่างต่อเนื่องเท่าที่ควร และอาจไม่รู้ว่าจะไปชาร์จที่ไหนดี
Swap & Go มองเห็นช่องว่างตรงนี้ จึงสร้างแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสถานีสลับแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ ตามหาสถานีสลับแบตเตอรี่และจองแบตเตอรี่ล่วงหน้า เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว เพียงสมัครแพ็กเกจกับบริษัท เชื่อมต่อกับรถผ่านแอปพลิเคชันและชำระเงิน ก็สลับเอาแบตเตอรี่ใหม่ไปใช้ได้เลย ไม่ต้องรอชาร์จนานเหมือนเคย ง่าย สะดวก และทันสมัย รวมทั้งปลอดภัยตามมาตรฐานระดับสูงของ ปตท.
“ไอเดียนี้เกิดขึ้นจากที่ VC ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพด้านโซลูชันการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์สี่ล้อแล้วเราลองวิเคราะห์โอกาสดู เห็นว่าตลาดรถยนต์สองล้ออาจจะเวิร์กในไทย เพราะเรามีจำนวนรถประเภทนี้มากถึงยี่สิบล้านคันในประเทศ ถ้าเราเปลี่ยนให้คนหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่แบบนี้ได้ ก็เปลี่ยนสังคมได้ประมาณหนึ่งเลย” ขวัญ-อาวีมาศ สิริแสงทักษิณ Venture Builder Team Lead และ Managing Director ของ Swap & Go กล่าว

แม้จะแยกออกมาจดทะเบียนเป็นบริษัทใหม่ที่อยู่ภายใต้และได้รับการสนับสนุนจาก ปตท. ที่วางกลยุทธ์จะเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร แต่การสร้างสิ่งใหม่ในระดับที่ปรับเปลี่ยนทางออกเดิม ด้วยสมาชิกเพียง 5 คน ย่อมท้าทายและเผชิญปัญหาระหว่างทางไม่ต่างอะไรกับสตาร์ทอัพทั่วไป
“การทำสิ่งนี้ยากมาก เพราะไม่มีอะไรเหมือนในทฤษฎีที่เราคิดกันเป็นหลายร้อยหน้า มันมีกระบวนการที่ซ่อนอยู่เยอะ ทั้งปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ กฎหมายที่ยังไม่มีรองรับ เพราะเราทำของใหม่มาก ต้องไปบุกเบิกขึ้นมาร่วมกับหน่วยงานภายนอก รวมถึงมีสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
“ตัวเทคโนโลยีทั้งรถมอเตอร์ไซค์และแบตเตอรี่พัฒนาขึ้นใหม่ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ใช้งานได้เหมาะสม แล้วจะสื่อสารกับผู้คนอย่างไร ในไทยเอง พฤติกรรมผู้ใช้งานแต่ละกลุ่มก็แตกต่างกันมาก ส่วนในต่างประเทศที่เราอยากขยายไป เช่น จีน เขาไม่ได้มีพฤติกรรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนเรา จะเจรจากับเขาอย่างไรให้พัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะกับสิ่งที่เราทำ หรือในอนาคตที่เราผลิตแบตเตอรี่เอง จะทำอย่างไรให้เขาใช้แบตเตอรี่ของเรา
“สรุปคือ ต้องลงมือทำจริง ถ้าไม่ทำจะไม่รู้รายละเอียดเหล่านี้เลย”


เป้าหมายต่อจากนี้ของ Swap & Go หลังผนึกกำลังกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (มหาชน) (OR) คือการจดทะเบียน ผลักดันให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ออกแบบสามารถวิ่งบนท้องถนนได้จริง และการขยายตู้สลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ครอบคลุมมากขึ้น เริ่มต้นจาก 22 แห่งทั่วกรุงเทพมหานครในปีนี้
“ในฐานะที่ ปตท. เป็นบริษัทพลังงานระดับประเทศ เราอยากสนับสนุนเรื่องการสร้าง Infrastructure ที่ไม่ค่อยมีใครทำ เพราะต้องลงทุนเยอะ แต่ถ้าไม่มีใครทำ การพัฒนาใหม่ๆ แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย
“นอกจากนี้ เราพยายามหาพาร์ตเนอร์ที่พัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เข้ากับแบตเตอรี่ของ Swap & Go ที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้เขาประหยัดต้นทุนการผลิต ส่วนเราก็ขยายออกไปได้เร็วและคุ้มค่าขึ้น” ขวัญสรุปก้าวสำคัญต่อไป

ReAcc (Renewable Energy Acceleration Platform) แพลตฟอร์มซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์ทางด้านพลังงานหมุนเวียนด้วย Blockchain
ReAcc เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกให้แก่บริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติที่มีสถานประกอบการในประเทศไทยที่มีเป้าหมายการจัดหาพลังงานหมุนเวียน โดยรองรับการให้บริการ 3 โมดูลหลัก
หนึ่ง ซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate หรือ REC) เพื่อสนับสนุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนของชุมชนหรือหน่วยงานอื่นแทนการผลิตขึ้นเองทั้งหมด โดยบริษัทผู้ซื้อจะได้หลักฐานรับรองว่ามีความตั้งใจในการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
สอง การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Corporate Power Purchase Agreement (CPPA)
และสาม การใช้พลังงานหมุนเวียนกับยานยนต์ไฟฟ้า
ที่ผ่านมา กระบวนการเหล่านี้ในไทยมีข้อจำกัดอยู่มาก ExpresSo จึงหยิบปัญหานี้ขึ้นมาพัฒนาเป็น ReAcc ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการประกาศรับรองการใช้พลังงานทดแทนระดับนานาชาติ (I-REC Standard) ถือเป็นโครงการแรกของไทยและภูมิภาคที่เป็นแบบแพลตฟอร์มและครบวงจรในที่เดียว
“ไอเดียนี้เริ่มจากการที่เราได้เข้าร่วม Energy Web Foundation ที่ทำงานด้านพลังงานแบบกระจายศูนย์ โดยอาศัยเทคโนโลยีอย่าง Blockchain ที่ช่วยให้ตรวจสอบกลับไปได้ว่าพลังงานไฟฟ้ามาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนหรือเปล่าอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัย พอลองศึกษาตลาดประเทศไทยก็เห็นว่ามีปัญหาด้านนี้อยู่จริง
“บริษัทต่างชาติหลายแห่งมีความตั้งใจจริง และเข้าร่วมกลุ่มกัน หนึ่งในนั้นคือ RE100 (กลุ่มบริษัทที่มุ่งมั่นจะใช้พลังงานทดแทน 100 เปอร์เซ็นต์) แต่การหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนในไทยยังทำได้ยากและมีข้อจำกัด หากบริษัทเหล่านั้นไม่คุ้นเคยกับตลาดที่ห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ของเขา เช่น การเข้าถึงแหล่งผลิตท้องถิ่นที่ทำได้ยากและกระจัดกระจาย ในขณะที่ต้องพิจารณาหลายๆ แง่มุมประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นราคาคือผลกระทบที่มีต่อท้องถิ่น การติดตามความคืบหน้าที่ยังค่อนข้าง Manual ทำให้ต้องใช้เวลาและอาจเกิดข้อผิดพลาด รวมทั้งการตรวจสอบซัพพลายเชนเพื่อยืนยันความถูกต้องยังแพงและใช้เวลาเหมือนกัน
“โจทย์ของเราคือการสร้างเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดตรงนี้ ช่วยเข้าไปแก้ปัญหาให้ลูกค้า” อ้อม-สุภรัตน ฤทธิชัย ทอร์น Project Director ของ ReAcc เล่าจุดกำเนิดความคิดที่ช่วยขยายฐานลูกค้าจากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเรื่องไฟฟ้า ไปสู่บริษัททั่วไปที่สนใจพลังงานหมุนเวียน

“ตลาดตรงนี้ค่อนข้างใหญ่และมีการดำเนินการทั่วโลก หน้าที่ของเราคือการพา ปตท. ไปหาโอกาสในตลาดที่ไม่คุ้นเคยนี้ แม้จะเสี่ยงกว่า แต่เป็นความเสี่ยงที่รับได้และไปได้ไกลถึงระดับนานาชาติ”
หากเข้าไปในแพลตฟอร์มตอนนี้ จะเห็นรายการชุมชนและโรงงานที่ผลิตพลังงานหมุนเวียนภายในเครือข่ายของ ปตท. เพื่อให้เกิดการซื้อขายได้ เช่น โซลาร์ฟาร์มของสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้ง อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยเตรียมจะเปิดให้บริการในวงกว้างช่วงปลายปีนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ให้ชุมชนด้วย
“บางบริษัททำบริการด้านนี้โดยคิดเรื่องเทคโนโลยีเป็นหลัก แต่จริงๆ เราค้นพบว่าลูกค้าเขาให้ความสำคัญว่าเม็ดเงินของเขาไปถึงชุมชนท้องถิ่นจริงหรือเปล่ามากกว่า เราจึงออกแบบบริการโดยให้ความสำคัญความต้องการของลูกค้าเป็นหลักมากกว่า”
ส่วนความท้าทายที่ต้องเจอนั้นไม่ต่างกับ Swap & Go เช่น การหาช่องทางการทำงานที่ไม่ไปติดขัดกับระบบการทำงานแบบเดิม และการรอข้อบังคับใหม่เพื่อให้ ReAcc ปฏิบัติตามได้อย่างถูกระเบียบ
“ความท้าทายคือเราเป็นเหมือนคนตรงกลางที่ต้องบริหารและสื่อสารกับทั้งคนภายในและภายนอกให้เห็นภาพเหมือนเรา ข้อดีคือเราเริ่มทำตรงนี้เร็วและได้เรียนรู้เยอะ ต่อไปถ้ามีทีมไหนใน ปตท. อยากเรียนรู้ด้านนี้ เราจะพอมีความรู้ไปแบ่งปันเพื่อที่พวกเขาจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำแบบเรา”

MekhaTech บริการด้าน Cloud เพื่อการ Digital Transform ขององค์กร
นอกจากด้านพลังงาน เมื่อต้นปีนี้ ปตท. จัดตั้ง MekaTech ขึ้นมาเพื่อสร้างบริการด้านคลาวด์ของตัวเอง สำหรับบริการบริษัทในเครือและลูกค้า ช่วยให้มีระบบการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลผ่านทางออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ แทนการเก็บข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทที่ต้องเสียต้นทุนค่าฮาร์ดแวร์ เป็นการทำงานในลักษณะเดียวกันกับบริการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Microsoft ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เชื่อมต่อได้ทุกหน่วยธุรกิจและทำให้โครงสร้างทาง IT เข้มแข็งขึ้น
“บริการนี้จะ Disrupt ระบบเดิมที่ใช้งานกันอยู่ แต่ถ้าบริษัทอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร สุดท้ายคนจะหันไปใช้ Public Cloud ที่เป็นเทรนด์ของโลกอนาคตอยู่ดี เราเลยคิดว่าสร้างขึ้นมาใหม่ดีกว่า เป็นช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ และการทำตรงนี้จะผลักดันให้เราต้องดึงดูด Developer ที่ถนัดในอุตสาหกรรมใหม่ให้กับ ปตท. ด้วย ซึ่งทำให้เรามี Talent พร้อมรองรับนวัตกรรมในอนาคต” อู๋-ชาคร เลิศอรรฆยมณี Venture Lead ด้าน Partnership ของ ExpresSo และ Head of Partnership ของ Mekha Technology อธิบาย
ข้อได้เปรียบของ ปตท. คือความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมัน ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าในอุตสาหกรรมที่อยากปรับเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน MekhaTech มีลูกค้าภายนอกแล้วแม้เพิ่งดำเนินการได้ไม่นานและและกำลังพัฒนาบริการต่อไป

จับมือกับพันธมิตร
อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของอู๋ใน ExpresSo คือส่วน Venture Partner (VP) ที่มีหน้าที่คือการจับมือเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพหรือ Accelerator ที่ผลักดันสตาร์ทอัพอีกทีหนึ่ง เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันตามแนวคิด Open Innovation
เช่น จับมือกับ Elemental Excelerator ในสหรัฐอเมริกาที่ผลักดันการลงทุนให้สตาร์ทอัพที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมามากกว่าร้อยราย
รวมถึงการพาร์ตเนอร์กับบริษัทในเครือ ปตท. เอง เพื่อสร้างแนวคิดการทำงานด้านนวัตกรรมเข้าไปให้กับธุรกิจที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงใดๆ เป็นธรรมชาติ เพราะอาจเกิดอันตรายได้หากผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย
“ปตท. เป็นบริษัทขนาดใหญ่มาก เราเปลี่ยนคนเดียวไม่สำเร็จอยู่แล้ว สิ่งที่เราทำได้คือการสร้าง Champion ด้านนวัตกรรมให้แต่ละหน่วยธุรกิจ ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่อาจคุ้นชินกับวัฒนธรรมของการทำให้ความเสี่ยงเป็นศูนย์ ในขณะที่การสร้างนวัตกรรมมีความเสี่ยงเสมอ ในส่วนนี้เราต้องพยายามเป็นวุ้นแปลภาษา สื่อสารให้คนที่ทำงานในโรงกลั่นหรือโรงไฟฟ้าไม่กลัวความล้มเหลว เพราะการทำงานแบบสตาร์ทอัพมีความเสี่ยง เพียงแต่เราบริหารให้อยู่ในระดับที่รับได้ ชั่งกับผลตอบแทนแล้วคุ้มค่าที่จะทำ”
Express Solutions
ExpresSo เป็นหน่วยงานที่รวมพลคนมากฝีมือ หลายคนมองจากภายนอกแล้วเห็นภาพการทำงานที่สวยหรู แต่ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน ทุกคนต่างต้องเผชิญความท้าทายและเรียนรู้ใหม่อยู่ตลอดเวลา
“การทำงานตรงนี้ทำให้เราได้รับความเชื่อมั่นและความคาดหวังจากผู้ใหญ่ ซึ่งมาพร้อมความรับผิดชอบด้วย เราต้องพัฒนาวิธีการบริหารงานให้ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ที่มีอยู่ตอนแรก โดยต้องคิดสิ่งที่จะทำเอง ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าเราทำต้องทำอะไร” อู๋เล่าการเติบโตที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อทำงานที่นี่
“พอทำเรื่องใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกคนเหมือนเริ่มจากศูนย์ สิ่งสำคัญคือ ทำให้คนที่มาอยู่ด้วยกันกล้าคิด กล้าแสดงออก มองไปข้างหน้าร่วมกัน เมื่อก่อนองค์กรใหญ่อาจมีระบบอาวุโส คนนี้พูดเมื่อไรถูกต้องเสมอ แต่ทีมเราไม่ค่อยมีเรื่องนี้ เราฟังคนที่เด็กกว่าและมีพื้นที่ให้ถกเถียงกันด้วยเหตุผลและความเชี่ยวชาญของแต่ละคน
“แต่บางอย่างเราก็ต้องฟังผู้ใหญ่เหมือนกัน หลายอย่างคนที่ผ่านมาก่อนเขาจะเห็นอะไรนอกเหนือจากที่เราเห็นจริงๆ ทำให้เรียนรู้ว่าการเปิดรับทุกคนและความเชื่อใจสำคัญมากในการผลักดันโปรเจกต์หนึ่งให้เกิดขึ้น” เพื่อนร่วมทีมร่วมแบ่งปันชีวิตการทำงานในองค์กรที่มีความหลากหลาย


“ถึงเราจะแยกกันทำงาน แต่เรามีแชร์กันทุกสัปดาห์ว่า ความคืบหน้าของแต่ละโปรเจกต์เป็นอย่างไรบ้าง ต้องการให้คนช่วยตรงไหนไหม เช่น ลองค้นหาสตาร์ทอัพที่ทำด้านนี้ หาโอกาสการลงทุน เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันหมด”
หลังจากดำเนินธุรกิจมาได้ 5 ปี ExpresSo ช่วยขับเคลื่อน ปตท. ให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และทำให้คนเข้าใจธรรมชาติของการสร้างนวัตกรรมที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องเผชิญความผิดพลาดระหว่างทางเพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในอนาคต แบบที่ทีม ExpresSo ฝ่าฟันอยู่
เมื่อทุกองค์กรต้องปรับตัว ผู้คนและหน่วยงานค้นหาและสรรสร้างนวัตกรรมแบบ ExpresSo ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์กรก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และพร้อมมุ่งสู่อนาคตที่กำลังเกิดขึ้นแล้ววันนี้

ภาพ : ExpresSo