เราเดินทางท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าของเชียงใหม่ ฝนตกโปรยปรายพอชุ่มฉ่ำ ไปยังบ้านก่ออิฐ กรุผนังไม้หลังกะทัดรัด เพื่อพูดคุยกับ อ้อ-แพรวพร สุขัษเฐียร หนึ่งในสามผู้ก่อตั้ง ‘ใจบ้าน สตูดิโอ’ สตูดิโอออกแบบที่พัฒนามาจากการทำงานสถาปัตยกรรมชุมชนในชื่อ ‘กลุ่มคนใจบ้าน’
พวกเขาเชื่อในผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ว่าอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับงานออกแบบได้อย่างกลมกล่อม
หนึ่งในงานของใจบ้าน สตูดิโอ ที่เราประทับใจเสมออย่าง Akha Ama Living Factory ของ ลี-อายุ จือปา ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อน ลูกค้า และพาร์ตเนอร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำ สิ่งที่พวกเขาเชื่อ มีคนสนใจและยอมรับ
แม้จะอยู่เบื้องหลังการก่อร่างสร้างสรรค์สิ่งปลูกสร้างหลังใหญ่ แต่พวกเขาเลือกเติบโตจากกลุ่มก้อนขนาดเล็กบนพื้นที่ของตัวเอง และไม่เคยหยุดปล่อยพลังความคิด พร้อมเปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่เชื่อในสิ่งเดียวกันเข้ามาต่อยอดอยู่เสมอ
ก่อนจะเจาะลึกไปถึงใจ (บ้าน) สาวนักออกแบบชวนเราทำความรู้จักใจบ้าน สตูดิโอผ่านคำ 2 คำ
ใจ – แก่นกลางหลักของโครงการและการดูแลเอาใจใส่
บ้าน – ความเป็นครอบครัว ความเป็นบ้านเมือง ความเป็นบ้านเกิด หรือถิ่นที่เรามีความรู้สึกและสัมผัสได้ว่ามีคำว่าบ้านอยู่ในนั้น
อ้อเป็นหนึ่งในตัวแทนของใจบ้าน สตูดิโอ ไปฝึกวิทยายุทธ์ ‘พอแล้วดี’ เพื่อน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับธุรกิจ หุ้นส่วน และเพื่อนร่วมงาน อย่างกลมกล่อมกำลังพอดี
มาฟังอ้อเล่าความพอแล้วดีของธุรกิจออกแบบบ้านและพื้นที่ของใจที่ชื่อ ใจบ้าน สตูดิโอ นี้พร้อมกัน
01
ใจ : แก่นแกนชัดแจ๋ว
“แวบแรกของเรา พอเพียงต้องใส่เสื้อผ้าฝ้ายหรือเปล่า” อ้อเล่าความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัว หลังจาก อุกฤษฏ์ วงษ์ทองสาลี พี่ใหญ่ผู้ขับเคลื่อนโครงการ ‘พอแล้วดี The Creator’ ชวนเธอมาทำความรู้จักกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถ่องแท้ ก่อนจะบอกกับเธอว่านำไปใช้กับการทำธุรกิจได้ดีอีกด้วย ทำให้เธอสนใจทันที
“พวกเรามาจากสายออกแบบ เราไม่คุ้นเคยกับงานด้านการตลาดและการบริหาร ต้องเรียนรู้ครั้งใหญ่ พี่ตี๋ (ศุภวุฒิ บุญมหาธนากร), พี่เนท (ทนวินท วิจิตรพร) และเรา สามผู้ร่วมก่อตั้งใจบ้าน สตูดิโอ คุยกันว่าจะไปลองเรียนดูก่อน จึงพบว่าเรากำลังทำความเข้าใจแก่นแกนของชุดความคิดเดิมของเรานี่แหละ ทั้งการตั้งรับ เตรียมพร้อม และคิดถึงอนาคต” นักเรียนดีเด่น ตัวแทนออฟฟิศใจบ้าน เล่าย้อนถึงวันแรก ซึ่งนอกจากจะพบหลักใหญ่ใจความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ความพอแล้วดียังทำให้แบรนด์ใจบ้าน สตูดิโอ ชัดแจ๋วกว่าเดิม
“ในบางมุมก็มีคนเข้าใจว่าเราเป็นนักกิจกรรมหรือองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งเราไม่ได้จำกัดว่าเราต้องมีบทบาทเดียว ภาพที่เราเห็นคือ การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากงานออกแบบ
“พอจุดยืนของแบรนด์ชัดว่าเราสนใจผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้ช่วยให้คนที่ทำงานร่วมกับเราหรือลูกค้าเข้าใจทิศทางการทำงานของเราชัดเจน เราไม่ได้เลือกลูกค้านะ แต่ต้องเป็นลูกค้าที่รู้และเข้าใจตัวเอง รู้ว่างานนี้น่าจะเหมาะกับเรา ซึ่งเราไม่ได้พูดเลยว่าใจบ้านทำอะไร แต่สิ่งที่ใจบ้านทำพูดแทนทั้งหมด”
02
คนรู้ใจ : รู้จักฉันและรู้จักเธอ
การนำกรอบความคิด 3 ห่วง 2 เงื่อนไขมาใช้แบบใจบ้าน ไม่ใช่การกางกระดาษแล้วนั่งสอนสมาชิกของใจบ้าน หุ้นส่วน และพาร์ตเนอร์ ให้ทุกคนเข้าใจ แต่สอดแทรกผ่านการพูดคุย สังเกต และทำงานร่วมกัน
“ถ้าย้อนไปเชิงโครงสร้าง เราเริ่มจากการเข้าใจตัวเองว่าแต่ละคนถนัดอะไร ทำงานไหนได้ และจะรักษาสมดุลอย่างไร ถ้าคิดในแง่การทำธุรกิจ ถ้าปีนี้เราต้องการงานเยอะเลย เพราะต้องการเงินมหาศาล แต่ทีมเราทำไม่ไหว นี่คือความไม่พอดีระหว่างจำนวนงานกับจำนวนคน เราต้องเริ่มให้ความสำคัญตั้งแต่การสร้างคนทำงานที่ดี มีพลังงานที่ดี มีความสุขก่อน เมื่อเราเห็นว่างานที่ทำนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เราก็จะได้รับพลังงานดีๆ ซึ่งนั่นคือส่ิงที่ บอกเล่าความตั้งใจของพวกเรา” ใจบ้านรู้จัก…ตนเอง
“การรู้จักตนเองของใจบ้าน ก่อนรับทำงานหรือเริ่มงาน เราใช้วิธีนั่งล้อมวงชวนกันคิดเพื่อทบทวนตัวเองก่อนว่า ใจบ้านมีแก่นแกนหลักคืออะไร และจะพาใจบ้านไปสู่จุดหมายปลายทางแบบใด ตรงกับที่ตั้งใจไว้ หรือไขว้เขวออกนอกเส้นทาง” ใจบ้านรู้จัก…ใจบ้าน
“ไม่ใช่แค่บริษัทรับออกแบบพื้นที่ แต่ใจบ้านเป็นแพลตฟอร์มที่ขยายหรือเชื่อมกับผู้อื่น อย่างโจทย์ ‘บ้านหารร่วมมาก’ โครงการหนึ่งในงานบ้านและสวนที่เราทำร่วมกับ ‘ฮอมสุข สตูดิโอ’ เมื่อรู้ว่าน้องๆ คิดคล้ายกับเรา ก็คงจะดีถ้าได้ทำงานร่วมกัน” ใจบ้านรู้จัก…พาร์ตเนอร์
03
คุณธรรมประจำใจ : ทำสิ่งที่สมกับเหตุและผล ก่อร่างสร้างภูมิคุ้มกัน
“สมมติว่าฉันรักธรรมชาติ บ้านของฉันต้องไม่มีแอร์
“เราไม่ได้ปักธงแบบนั้น เราแค่ต้องตีโจทย์ของลูกค้าให้ออกว่าเขาต้องการความสมดุลและความสวยยังไง ตัวตนของเขาสัมผัสธรรมชาติได้แค่ไหน เมื่อเราใช้คำว่าธรรมชาติเป็นแกนกลาง งานออกแบบของเราจะพาเขากลับมาสู่แกนกลางที่ว่าได้ยังไง เขาอาจจะชอบการระบายอากาศแบบธรรมชาติ ไม่มีแอร์ แต่ความจริงเขาเป็นคนแพ้ยุง เราจะมีวิธีจัดการยังไง แล้วดีกับคุณภาพชีวิตเขายังไง” อ้อยกตัวอย่างของการคุยกันด้วยเหตุผลระหว่างใจบ้านกับลูกค้า
“เจ้าของโครงการศูนย์การเรียนรู้การฟื้นฟูเหมืองหินปูนลำปาง ตามหากลุ่มสถาปนิกที่น่าจะเข้าใจโครงการ เขาเห็นว่าใจบ้านน่าจะทำได้จึงเริ่มคุยกัน สิ่งที่เราเห็นในเหมืองคือกองดินมหาศาลที่เหลือจากการขุดหินปูนขาว เรากลับมาตั้งคำถามว่า ถ้าอยากให้ที่นี่พูดถึงธรรมชาติและการฟื้นฟู ก็น่าจะนำทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมาสร้างอาคาร
“นิทรรศการด้านในที่ใจบ้านเสนอ เราเลือกการใช้ผนังเป็นกำแพงดินอัด ให้นิทรรศการของเราอยู่กับธรรมชาติ ไม่ติดแอร์ ที่สำคัญ บริเวณที่ก่อสร้างมีต้นไม้เยอะแยะเลย เราจึงเสนอแบบอาคารที่ตัดต้นไม้น้อยที่สุด โชคดีที่เจ้าของโครงการเห็นด้วย นั่นก็คือ ทำงานร่วมกัน เราไม่ได้บิดโจทย์เลยนะ แค่ทำให้ชัดเจนขึ้น” อ้อเล่าตัวอย่างการทำงานในแบบใจบ้านที่ให้ความสำคัญกับโจทย์และการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างชาญฉลาด
“ใจบ้านทำหลายอย่าง ทั้งงานออกแบบและงานชุมชน เราเชื่อเสมอว่าเราไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวได้ เราจึงไม่ลังเลที่จะร่วมทำโครงการกับชุมชน ภาคี และสตูดิโออื่นๆ หรือแบ่งปันความรู้เมื่อมีโอกาส เรารู้ว่าการมีพันธมิตรที่คิดคล้ายกัน มีเป้าหมายเดียวกัน คือภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งสำหรับพวกเรา การทำงานร่วมกับกลุ่มองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านมาจึงเป็นการทำงานร่วมกันอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
การมีภูมิคุ้มกันที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
แต่ต้องควบคู่ไปกับการมีจริยธรรมนำใจ
“เราไม่ได้บอกว่า ฉันเป็นคนดีนะ แต่สิ่งที่เราทำคือ การไม่เบียดเบียนลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่เราต้องทำ เช่น ลูกค้าอยากทำสระน้ำบนดาดฟ้า เราจะไม่ปฏิเสธทันทีว่าทำยากเกินไป หรือตอบรับทันทีเพราะต้องการเอาใจ แต่เราจะช่วยกันหาข้อดีข้อเสีย และทางเลือกอื่นๆ อะไรที่เราควรบอก ต้องชัดเจน ไม่มีการปิดบังเพื่อผลประโยชน์แอบแฝง สำหรับเรานี่คือ คุณธรรมในงานบริการ”
04
พอใจ : พอแล้วจึงมีแต่ความสุขดี
ความพอ…มอบความกล้าให้ใจบ้าน กล้าขยับขยาย กล้าเปิดใจรับพาร์ตเนอร์ร่วมอาชีพ
“หลักการ 3 ห่วง 2 เงื่อนไขเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราวางแผนการทำงานได้อย่างรอบคอบ รู้จักตัวเอง คนในทีม รู้จักโจทย์งานที่เราได้ คิดเป็นเหตุเป็นผลทั้งงาน กำลังคน สิ่งที่จะมาเติมเต็มให้งานลุล่วง มีภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็นความรอบคอบ เครือข่ายที่เราทำงานร่วมกัน ควบคู่กับความรู้และความจริงใจในงานที่เราทำ”
“เราอวบอ้วนได้ แต่ต้องเล็กพอที่จะยึดโยงและอยู่ร่วมกับคนอื่นได้”
ความพอ…ลดความผิดพลาด
อ้อต้องคุยเปิดใจกับสมาชิกภายในบ้านทั้งพี่ใหญ่จนถึงน้องเล็ก คล้ายกับการเช็กระยะเครื่องยนต์ น้องเล็กจะเช็กระยะทุกสัปดาห์ และพี่ใหญ่ทั้ง 3 คนจะเช็กระยะทุก 3 เดือน พูดคุยกันเรื่องงาน ระดับความสุขในชีวิต ไปจนถึงเรื่องระดับจิตใจ เล่าสู่กันฟังอย่างเปิดใจ เพื่อลดข้อผิดพลาดและปัญหาในการทำงาน
ความพอ…ทำให้ใจบ้านไม่รับงานเกินตัว ทุกงานทำด้วยใจ และเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
“อย่างน้อยความสุขที่เกิดขึ้นก็เกิดจากสิ่งเราคิดไตร่ตรองไว้แล้ว เราไม่ได้ทำด้วยอารมณ์ แต่พอทำแล้วมันดี เราก็พบความสุข”
05
ขอเพียงที่พักใจ
สำหรับใจบ้าน สตูดิโอ พอแล้วดีคือสมดุล
พอแล้วดีในการออกแบบคือ การออกแบบให้ไม่มาก ไม่น้อย ให้พอดี
“3 ห่วง 2 เงื่อนไขไม่ใช่แค่ธุรกิจ ไม่ใช่แค่ชีวิต แต่เป็นเรื่องอะไรก็ได้
“ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่า ‘ยากจน ทำธุรกิจไม่ได้ ธุรกิจคือศัตรูของความพอเพียง’ เราไม่อยากให้คิดแบบนั้น แต่จากที่สัมผัสและใช้กับชีวิตจริง ความพอเพียงคือการหาสมดุล ถ้าเราทำงานเหนื่อยมาก ร่างกายจะบอกเองว่า ฉันง่วงแล้ว ฉันเหนื่อย ฉันต้องการพัก แต่บางครั้งเราฝืนร่างกาย ก็ไม่สมดุล ทุกคนมีเส้นความพอดีอยู่แล้ว แต่ว่าระยะห่างไม่เท่ากัน
“ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือหลักคิด ถ้าเราลองเรียนรู้แล้วนำไปใช้ บางทีเราแทบไม่ต้องอธิบายเลย มันอยู่ในทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกคนจะร้อยเรียงอย่างไร จะหาสมดุลให้เจออย่างไรมากกว่า”
ใจบ้าน สตูดิโอ
ประเภท: สตูดิโอบริการออกแบบสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม พื้นที่เกษตรกรรม และการทำงานออกแบบเมืองและชุมชน
ที่ตั้ง: ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ผู้ก่อตั้ง: ศุภวุฒิ บุญมหาธนากร, ทนวินท วิจิตรพร และ แพรวพร สุขัษเฐียร
Facebook : ใจบ้าน สตูดิโอ
พอแล้วดี The Creator
Facebook | พอแล้วดี The Creator