14 กุมภาพันธ์ 2025
9 K

ผมรู้จักป๊อปที่สวีเดน

เขาเป็นหนึ่งในสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่ได้รับเชิญไปเดินป่างาน Fjällräven Classic Sweden ที่สวีเดนเมื่อกลางปี 2023

พวกเขาเดินทางมาด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นสาวน้อยผมเปียชื่อ ออน-สุนีย์ มงคลชูชื่น เจ้าของเพจ ตัวแทนหมู่บ้าน : Sunee

อีกคนชื่อ ป๊อป-ภานุพงศ์ ศรีรัตนพงษ์ เจ้าของอินสตาแกรม poppanupongs

ผมไม่ได้ติดตามบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวมากนัก เลยพยายามถามเพื่อนร่วมทางว่า ป๊อปไหน เขาทำเพจอะไร คำตอบก็คือ เขาคือ ป๊อปเฉย ๆ ไม่ได้ทำเพจอะไร ทำแต่ไอจี

“ที่เวลาไปเที่ยวเขาจะโพสต์รูปคู่แฟนน่ะ” เพื่อนร่วมทริปของผมพยายามอธิบาย

เวลาไปเที่ยวใคร ๆ ก็โพสต์รูปคู่แฟนหรือเปล่าวะ – ผมคิดในใจ

แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไอจีของป๊อปดู

เฮ้ย! เจ๋งว่ะ มิน่าถึงได้รับเชิญมา – ผมคิดในใจอีกครั้ง

พวกเราต่างคนต่างเดินทางกันมา แล้วนัดรวมตัวที่สถานีรถไฟกลางของเมืองสต็อกโฮล์ม ป๊อปกับออนเดินมาโน่นแล้ว ตั๋วรถไฟตู้นอนของเราแต่ละห้องมี 4 เตียง ผมได้ตั๋วร่วมห้องกับพวกเขาพอดี ยิ่งไปกว่านั้น ทริปนี้ยังเดินทาง 20 กว่าชั่วโมง ผมเลยได้ฟังเรื่องของพวกเขาแบบฉ่ำใจ

หลังจากนั้น ผมก็ได้เห็นชีวิตของพวกเขา – อย่างที่บอกว่าคอนเซปต์ของป๊อปคือการลงรูปคู่เรื่อยมา พวกเขาเป็นบล็อกเกอร์ขยันเที่ยว ที่เที่ยวของเขาเป็นแนวแคมปิ้งและที่พักแนวบ้านไม้ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งตรงจริตผมมาก เลยกด Favorite รูปของเขาเก็บไว้ตามรอยอยู่บ่อยครั้ง

ป๊อปกับออนอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อผมมาเชียงใหม่ ก็เลยขอนัดคุยกับ ป๊อป poppanupongs วิศวกรที่ลาออกจากงานประจำมาเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว ซึ่งมีคอนเซปต์คือลงภาพถ่ายคู่กับแฟน – เขียนแบบนี้ดูจืดชืดไปนิด และดูภาพถ่ายคู่กับแฟนไม่ได้พิเศษเท่าไหร่

เอาใหม่ เมื่อผมมาเชียงใหม่ ก็เลยขอนัดคุยกับ poppanupongs วิศวกรที่พบรักระหว่างเดินป่า เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำภายใน 1 เดือนหลังจากพบกันครั้งแรก แล้วชวนกันมาอยู่เชียงใหม่ ใช้ชีวิตเป็นบล็อกเกอร์เต็มตัว หลังจากนั้นภาพถ่ายของเขาก็มีแต่ภาพคู่

ถ้าดูจากอินสตาแกรมของป๊อป ยากจะบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนของประเทศ เพราะเขาอัปรูปเดินทางถี่ยิบ เฉลี่ยแล้วเขาออกจากบ้านไปเที่ยวสัปดาห์ละ 2 ทริป

ผมกำลังจะเดินทางออกจากเชียงใหม่ ส่วนป๊อปก็เพิ่งกลับจากการเดินทางเข้ามาที่ตัวเมืองเชียงใหม่พอดี เราได้ได้นัดคุยกันในคาเฟ่แห่งหนึ่งแถว ๆ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ใกล้ ๆ กับที่พักของเขา

ป๊อปมากับออน บรรยากาศการสนทนาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ คล้ายบนรถไฟที่สวีเดน

ป๊อปเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าเมื่อ พ.ศ. 2555 และทำงานเป็นวิศวกรในโรงงาน วันธรรมดาทำงาน วันเสาร์-อาทิตย์ออกเที่ยวแนวแคมปิ้ง คือขับรถไปกางเต็นท์สวย ๆ ตามที่ต่าง ๆ ในยุคที่แนว Car Camping เพิ่งเริ่มต้นฮิตในเมืองไทย เที่ยวแล้วก็ถ่ายรูปโพสต์ลงอินสตาแกรมไปเรื่อย ๆ ทำไป 3 – 4 ปีก็เริ่มมีคนส่งของแนวไลฟ์สไตล์มาให้รีวิว จากนั้นก็มีคนจ้างรีวิว จึงเริ่มมีรายได้จากการท่องเที่ยวบ้าง แต่ป๊อปก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีงานประจำที่มั่นคงมากรองรับอยู่แล้ว

“เขาอกหัก” ออนพูดถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของป๊อป

การไปคาร์แคมปิ้งนั้นต้องไป 2 คน เพราะต้องช่วยกันกางเต็นท์ เมื่อเหลือคนเดียวจึงการไปกางเต็นท์แบบเดิมจึงทั้งเหงาและวังเวง เพราะป๊อปกลัวผี

“ผมเลยเปลี่ยนไปเดินป่าแทน มีคนบอกว่าอกหักต้องเดินป่า” ป๊อปหัวเราะ เขาใช้วิธีสมัครไปร่วมกับทริปที่มีคนจัด นัดขึ้นรถตู้ไปด้วยกัน เข้าสู่วงการนี้ได้ไม่นานนัก เขาก็ได้ไปทริปภูสอยดาวที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แล้วก็เจอออนในทริปนี้

“ผมไปกับเพื่อนอีกคน แต่งตัวไปอย่างเท่ อุปกรณ์ครบ แต่เดินไม่เป็น เพิ่งหัดเดิน สักพักก็เหนื่อยต้องเดินรั้งท้าย หมดสภาพมาก” ป๊อปบอกว่าตอนนั้นออนเป็นพนักงานร้ายขายของเดินป่า ทักษะการเดินป่าและใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าขั้นเทพ ออนเห็นป๊อปกับเพื่อนเดินแบบหมดสภาพห้อยอยู่ท้ายกลุ่มก็เลยสงสาร มาเดินด้วย

“ในกรุ๊ปไลน์สมาชิกทริปใคร ๆ ก็รู้จักออน เขาเป็นคนดัง ผมเลยไปส่องเพจเขามา ก็น่ารักดี ตอนเดินด้วยกันยังไม่ได้คิดอะไร มันเหนื่อยอยู่ จนกระทั่งขึ้นถึงยอดเขา ตอนกลางคืนเลยได้คุยกัน ได้ช่วยกางเต็นท์ ได้หัดถ่ายภาพดาวด้วยกัน ก็เริ่มประทับใจ”

ป๊อปเล่าต่อว่า ตอนเช้าวันต่อมา ป๊อปกำลังแอบถ่ายรูปออนจากระยะใกล้ ภาพออนที่เห็นผ่านวิวไฟน์เดอร์ดูสวยมาก เหมือนนางเอกในหนัง แล้วจู่ ๆ หนังยางมัดผมของออนก็ขาด เธอเลยสะบัดผมเพื่อจัดผมให้เข้าทรงโดยไม่ได้คิดอะไร

แต่ชายหนุ่มที่แอบมองจากระยะไกลผ่านกล้องถ่ายรูปรู้สึกว่า

“อู้ยยยยย ช็อตนั้นผมตายไปเลยครับ เขามีเสน่ห์มาก”

จบทริปแรกก็แยกย้าย แลกไอจีกัน แล้วป๊อปก็เป็นฝ่ายทักไปหา แบบที่ออนรู้ว่ากำลังจีบ

พวกเขาชวนกันไปทริปต่อ ๆ ไป

ในสุดสัปดาห์ถัดไป

สุดสัปดาห์ถัดไป

และสุดสัปดาห์ถัดไป

สัปดาห์ที่ 4 ป๊อปชวนออนไปเที่ยวเชียงคาน เป็นการชวนไปกัน 2 คนโดยไม่ต้องพึ่งกรุ๊ปทัวร์แล้ว

ช่วงนั้นโควิดเพิ่งซา นักท่องเที่ยวได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศได้ หลังจากอัดอั้นมานาน ออนก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อไปเที่ยวจอร์เจีย และตั้งใจจะใช้ชีวิตแบบบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว

พวกเขาเลยนัดไปเที่ยวเชียงคานด้วยกันก่อนทริปยาวของออน แล้วก็ขอเป็นแฟนที่เชียงคาน เมืองที่มีบรรยากาศริมโขงยามเย็นโรแมนติกมาก

1 เดือนก่อนหน้า ป๊อปยังไม่เคยคิดเรื่องลาออก แต่พอได้ยินข่าวว่าแฟนสาวตัดสินใจลาออกไปเดินทาง เขาจึงตัดสินใจลาออกบ้าง เพราะเขาเคยตั้งเป้าว่า ถ้ามีเงินเก็บถึงจุดนี้อยากลาออกไปเปิดที่พัก ซึ่งเขาก็มีถึงแล้ว และยังมีอาชีพบล็อกเกอร์เป็นอีกแหล่งรายได้

พวกเขาถ่ายรูปคู่ด้วยกันครั้งแรกที่เชียงคาน

จากนั้นภาพคู่กับออนก็กลายเป็นลายเซ็นในไอจีของป๊อป

“เมื่อก่อนภาพถ่ายผมไม่มีคนเลยครับ พอมีแฟนก็ลงรูปคู่ มันมีความรู้สึกในภาพมากกว่าภาพผมหรือภาพออนคนเดียว เขาน่ารักด้วยแหละ เราอยากไปอยู่ข้าง ๆ” ป๊อปหันไปยิ้มกับออน

“ก่อนไปเราจะทำการบ้านดูภาพที่พัก แล้วเลือกชุดคู่ว่าจะใส่สีอะไร ใส่ชุดไหน” ออนเสริมว่าภาพคู่ของป๊อปนั้นตั้งใจและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

วิธีการถ่ายภาพของป๊อป คือเขาจะไม่สนใจว่าตรงไหนคือมุมมหาชนที่สวยสุดของที่นั่น ๆ แต่เขารู้สึกว่ามุมไหนสวยก็จะเลือกมุมนั้น พอได้มุมก็ให้ออนไปยืนรอในเฟรม ส่วนตัวเขาตั้งกล้องบนขาตั้งแล้วตั้งเวลา จากนั้นก็เดินมาเข้าเฟรม มองวิวบ้าง มองหน้ากันบ้าง ถ่าย 2 รอบก็เรียบร้อย

จากนั้นก็เริ่มถ่ายวิดีโอต่อ ป๊อปสารภาพว่าเขาถ่ายวิดีโอไม่เก่ง เลยใช้เฟรมเดียวกับภาพนิ่ง ตั้งกล้องทิ้งไว้แล้วมายืนคุยกันหัวเราะกัน

“เราจะไม่มองกล้อง พยายามจะมองวิว มองกันเองมากกว่า จะได้ไม่รู้สึกตั้งใจมาก” นั่นคือเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนชอบภาพของป๊อป เพราะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ในภาพ และอยากพาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นบ้าง

“เคล็ดลับการถ่ายรูปของพวกเรา คือต้องไม่ทะเลาะกัน ไม่งั้นถ่ายไม่ได้” ป๊อปหัวเราะ “มันต้องรู้ใจกัน ต้องเป็นธรรมชาติ ช่วยกันดูมุม แล้วก็พยายามเอนเตอร์เทนกัน ตอนถ่ายคุยกันไม่เป็นภาษาหรอก เอาให้มู้ดมันดูหัวเราะ ๆ ก็พอ”

พอถ่ายรูปคู่เสร็จก็แยกย้ายไปถ่ายภาพตามสไตล์ของตัวเอง

“เมื่อก่อนช่วงเย็นเราจะไม่ทำอะไรเลย เตรียมตัวถ่ายรูปกับแสงพระอาทิตย์ตก ติดทำคอนเทนต์จนเป็นนิสัย จนเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ออนบอกว่าเราไม่เคยดูพระอาทิตย์ตกจริง ๆ เลยนะ เลยพยายามเผื่อเวลาที่จะอยู่ด้วยกันแบบไม่จับกล้องในช่วงเวลาที่บรรยากาศดี ๆ ด้วย”

พวกเขาใช้ชีวิตเป็นบล็อกเกอร์อาชีพมา 3 ปีกว่า

“เราเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวทั้งคู่ ชอบธรรมชาติ มีแผนว่าจะทำโฮมสเตย์ที่เชียงดาว ก็เลยเลือกมาอยู่เชียงใหม่ เพราะเดินทางไปทำคอนเทนต์ง่าย ช่วงแรกชีวิตงงมาก ไม่เคยมีชีวิตแบบไม่มีงานประจำ เพื่อนก็ไม่มี ไม่รู้จะทำอะไรเลย”

แต่สุดท้ายชีวิตก็เข้าที่เข้าทาง

ป๊อปเป็นคนกลัวเครื่องบิน เลยไม่ค่อยไปทริปต่างประเทศเท่าไหร่ พวกเขาเลยมีทั้งทริปที่ไปด้วยกันและทริปที่แยกกันไป

“ข้อดีของการที่เราเป็นบล็อกเกอร์กันทั้งคู่คือช่วยกันดูมุม ช่วยกันจัดการทริปได้ แต่ข้อเสีย คือถ้าทะเลาะกันก็คือทำอะไรไม่ได้เลยครับ” ป๊อปหัวเราะ

ตอนนี้ป๊อปเที่ยวเป็นอาชีพ มีทั้งทริปที่ไปเอง ทริปที่มีคนเชิญไป แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังต้องรักษาวินัยเที่ยวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ยังมีงานต่อเนื่อง และต้องหาที่ใหม่ ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นคนอาจจะลืม

“ทุกทริปมีค่าใช้จ่ายครับ แต่มันก็คืออาชีพของเรา ตอนนี้ผมมีรายได้ต่อเดือนจากการเป็นบล็อกเกอร์เกือบเท่าตอนเป็นวิศวกร แต่วิศวกรมีโบนัสปลายปี ซึ่งบล็อกเกอร์ไม่มี” ป๊อปหัวเราะ “แต่บล็อกเกอร์มีเวลาว่างมากกว่า”

ตอนนี้ป๊อปกับออนเริ่มทำธุรกิจนำเที่ยวชุมชนด้วย โดยหุ้นกับรุ่นน้องที่เป็นมัคคุเทศก์อาชีพ ติดตามได้ผ่านเพจ Know Thailand Better

“การเดินทางด้วยกันทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นนะครับ ได้เห็นกันหลาย ๆ มุม ความเหนื่อยจะทำให้เราเห็นแฟนในอีกมุม”

ป๊อปยืนยันว่ายังอยากถ่ายภาพคู่ไปเรื่อย ๆ แต่ในอนาคตอาจไม่ใช่แค่ภาพท่องเที่ยว ภาพในฝันคือถ่ายภาพคู่ในบ้านตัวเอง ทำสวน เลี้ยงแมว วาดรูป อยู่กับบ้าน

เมื่อย้อนกลับไปดูภาพคู่ภาพแรกที่เชียงคาน ป๊อปเห็นอะไร

“ในภาพคู่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวในภาพ แต่ยังทำให้นึกถึงว่าช่วงชีวิตตอนนั้นเป็นยังไง เราผ่านอะไรกันมา 3 ปีแล้ว มันผ่านไปเร็วมากเลยนะ เห็นภาพนี้แล้วผมรู้สึกว่า หลังจากนั้นเราไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร เพราะมันคือชีวิตที่เราไม่คุ้นเคย แต่สุดท้ายพวกเราก็ผ่านทุกช่วงเวลากันมาได้” ป๊อปปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

ภาพ : ภานุพงศ์ ศรีรัตนพงษ์
Instagram : poppanupongs

Writer

ทรงกลด บางยี่ขัน

ทรงกลด บางยี่ขัน

ตำแหน่งบรรณาธิการโดยอาชีพ เป็นนักเดินทางมือสมัครเล่น แบ่งเวลาไปสอนหนังสือโดยสมัครใจ และชอบจัดทริปให้คนสมัครไป