ปีกุน สัปตศก จุลศักราช 1357

ท่ามกลางผู้ชมเรือนหมื่น หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งเดินขึ้นมากลางเวทีด้วยสองเท้าที่เปล่าเปลือย ฉับพลันเมื่อมือกีตาร์ที่อยู่เบื้องซ้ายของเธอซึ่งกำลังเล่นท่อนริฟฟ์ช้าเนิบได้สับคอร์ดด้วยจังหวะที่เร่งรีบกระชั้นขึ้นมา เสียงกลองได้พลันระเบิดจังหวะขึ้นมาพร้อมกับมือเบสที่ยืนอยู่เบื้องขวาของตัวเธอที่ขยับเคลื่อนเลื่อนกายไปตามท่วงทำนองอันรุกเร้าใจนั้น…
“แล้วเธอ แล้วเธอ เข้าใจ ข้างใน ว่าเรา เข้ากัน เข้าใจ ไว้ใจ”

วินาทีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นในทุกๆ อย่าง

ก่อนหน้าที่ผู้ชายคนนี้จะขยับจากเบื้องข้างเวทีและก้าวมายืนอยู่เบื้องหน้าในฐานะนักร้องและผู้นำวง

“ช่วงนั้นเป็นช่วงวัยที่ผมหมกมุ่นมาก ขลุกอยู่กับดนตรีตลอดเวลา จะพูดจะคิดจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของดนตรีทั้งนั้น”

จากความหมกมุ่นที่เกิดขึ้นเพื่อหนุนหลังความรัก และความฝันที่บันดาลใจจากเสียงดนตรีและช่วงวัยฮอร์โมนกำลังปะทุและพุ่งพล่านก็มีพลานุภาพมากมายเพียงพอที่จะทำให้ โป้-ปิยะ ศาสตรวาหา ข้ามผ่านตัวตน และแฝงเร้นอัตลักษณ์แต่เดิมมาอยู่ภายใต้นามแฝงแห่งผู้ปฏิบัติโยคะที่ไม่เคยอิ่มเอมในการเสพเมถุนธรรมที่ว่า

‘โยคี เพลย์บอย’

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

เป็นนามแฝงอันย้อนแย้งทั้งในความหมายและพฤติการณ์ หากตัวเขาได้ยืนยันและได้กลายเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์หนึ่ง ทั้งของวงการดนตรีและโลกส่วนตัวของเขาว่า นี่คือฉายาที่เขาเลือกแล้วว่าจะผนึกแน่นกับตัวตนของเขาในวงการดนตรีไปตราบจนกว่าชีวิตในวงการจะหาไม่

ย้อนกลับไป ณ ช่วงเวลาหลายปีก่อนหน้านั้น

ความรักในระดับที่เรียกได้ว่าหมกมุ่นของโป้ มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นนักดนตรีไทยฝีมือดี ซึ่งในที่สุดได้กลายมาเป็นก้าวแรกให้เขาได้มาพบและขยับขยายมาสู่โลกของดนตรีสากลแห่งโลกซีกตะวันตก

“สมัยเรียนมัธยมมีวงหนึ่งเขาต้องการคนไปเป่าขลุ่ยเพลงเพลงหนึ่ง เขาก็เลยชวนผมไป แล้วพอเราได้ไปซ้อมดนตรีกันที่ที่หนึ่งก็ปรากฏว่าวงของ คุณเจอรี่ (ศศิศ มิลินทวณิช) เล่นอยู่ห้องข้างๆ แล้วเขาเล่นเก่งกว่า เราก็เลยเริ่มสนใจ จากนั้นผมก็เข้าไปช่วยเล่นในตำแหน่งมือกีตาร์“ 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของวง ‘คะแนน’ ที่มีสมาชิกเป็นนักเรียนร่วมรุ่นของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ซึ่งที่มาของชื่อวงนั้นบันดาลใจมาจากแนวคิดอันเรียบง่ายประสานักเรียนที่ว่า

“เพราะสมัยเด็กๆ ทุกคนต่างก็อยากจะได้คะแนนจากอาจารย์มากขึ้น คือจะเป็นพวกคะแนนสงสาร เราเลยตั้งชื่อว่า วงคะแนน ครับ”  

เมื่อได้สมาชิกมารวมตัวกันจนครบตำแหน่งเครื่องดนตรีที่ต้องการแล้ว ก้าวต่อไปก็คือเรื่องของความมุมานะพยายามถ่ายทอดบทเพลงแห่งแรงบันดาลใจให้ออกมาใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งโดยไม่รู้ตัว ความพยายามชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าในการฝึกฝนผ่านหนังสือรวมคอร์ดกีตาร์และเทปคาสเซตต์ของศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบก็นับเป็นการเคี่ยวกรำให้พื้นฐานการเล่นดนตรีของแต่ละคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับ

“พอเพื่อนในกลุ่มตั้งวงขึ้นมาแล้ว เราก็เริ่มแกะเพลงกัน ซึ่งก็ได้ทักษะจากการแกะเพลงในช่วงนั้น และช่วยในตอนโตได้เยอะเลย ยุคนั้นก็เล่นพวกเพลงร็อกเป็นส่วนใหญ่ คาราบาวก็เล่น เด็กสมัยนั้นคือชอบเพลงที่มีโซโล่ แล้วก็จะพยายามจัดโซโล่แล้วมาโชว์กัน มาดูกันว่าของใครจะเหมือนกว่ากัน อย่างท่อนโซโล่ของคาราบาว เจอรี่เขาจะแกะออกมาเหมือนเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วผมจะเล่นกีตาร์ริทึมเป็นหลักครับ”

หลังจากนั้นเส้นทางชีวิตของโป้ก็ดำเนินไปสู่สังคมใหม่ๆ ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้ตัวเขาไปสู่อนาคตที่ไม่มีใครแม้แต่ตัวเขาจะกล้าคาดคิด

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี
วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

“หลังจากเรียนจบจากสาธิตฯ ปทุมวัน ผมก็เข้าไปจุฬาฯ ปีหนึ่ง (คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศึกษา) โดยรุ่นของ พี่ป๊อด (ธนชัย อุชชิน) จะเป็นรุ่นพี่ผมปีหนึ่ง ส่วนใหญ่เวลาพวกเราเรียนเสร็จก็จะมานั่งเล่นดนตรีกันใต้ตึก ก่อนที่วันหนึ่งจะนึกสนุกขึ้นมาว่าลองไปเล่นเปิดหมวกกันดีกว่า ก็เลยลองเปิดหมวกกันหน้าคณะ ชักสนุก พี่ป๊อดเลยชวนว่า งั้นเรา คือพี่ป๊อด ผม แล้วก็ นภ พรชำนิ เพื่อนสมัยเด็กของป๊อดไปเปิดหมวกที่ใต้โรงหนังกัน โดยจะทำเมนูให้คนเลือกเพลง เพลงส่วนใหญ่เป็นสากล จะเป็นเพลงของ R.E.M, Lenny Kravitz, Simply Red ตอนนั้นผมเลยมีโอกาสได้ฟังเพลงหลากหลายมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตสายลมแห่งโชคชะตาก็มีอันได้พัดพาให้โป้ต้องข้ามฟากฝั่งของสถาบันแถบสามย่านไปสู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งรังสิต ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต 

ที่นั่นทำให้เขาได้พบกับกลุ่มคนที่กลายมาเป็นสหายทั้งในด้านดนตรีและด้านการใช้ชีวิต ณ เวลาต่อมาอีกยาวนาน คือรุ่นพี่คณะ ทว่าอยู่ในช่วงวัยเดียวกัน นั่นคือ บอย-ตรัย ภูมิรัตน ซึ่งได้มีส่วนสำคัญในการสานต่อความรักในเสียงดนตรีของโป้ให้ลงลึกและทอดยาวไกลออกไปอีก

“ในช่วงนั้นผมก็จะเล่นดนตรีกับกลุ่มปีเดียวกับผม บอยเขาก็จะมีวงของเขาอีกปีหนึ่ง แต่ต่อมาก็มีโอกาสได้มาจอยกันด้วยมีไอเดียอยากหางานพิเศษ คุณบอยเลยชวนไปเล่นที่ผับหน้าปากซอยที่เข้า ม.รังสิต เป็นช่วงระยะสั้นๆ เป็นกีตาร์สองคนครับ แล้วพอสักพักหนึ่งก็ได้เล่นดนตรีเป็นงานพิเศษหน้า ม.รังสิต ต่อ โดยเล่นกับวงรุ่นพี่ของบอย” 

หากจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตโป้ดำเนินมาถึงจุดที่ไม่อาจย้อนกลับอย่างแท้จริง เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง ซึ่งเสียงที่ปลายสายนั้นเป็นเพื่อนเก่าของเขา คือ โต้ง-มณเฑียร แก้วกำเนิด

“ผมเป็นคนเพื่อนเยอะ ก็จะมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือคุณโต้ง ซึ่งก็เป็นเพื่อนของคุณเจอรี่ด้วย  อยู่มาวันหนึ่งเขาก็โทรมาชวนว่า เฮ้ย! เนี่ยมีนักร้องใหม่จะออกกับเบเกอรี่ฯ เป็นผู้หญิงชื่ออรอรีย์ ตอนนี้เขากำลังต้องการมือกีตาร์ซัพพอร์ต เป็นกีตาร์อะคูสติกสองตัว ไปเล่นในงานงานหนึ่ง  เป็นงานที่เขาเล่นเปิดให้กับโมเดิร์นด็อก ที่สนามกีฬากองทัพบก พอหลังจากงานนั้นทางเบเกอรี่ฯ ก็เลยชักชวนให้ผมทำงานร่วมกับคุณอรอรีย์ต่อ”

เมื่อตอบรับคำเชิญชวนดังกล่าว ตัว P ชองชื่อ โป้ ก็กลายเป็นตัวอักษรแรกของชื่อวง P.O.T.D ที่ย่อมาจากชื่อเล่นของเขาและอีก 3 สมาชิก คือ  O-อร T-โต้ง และ D-เดฟ

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

แล้วเรื่องราวหลังจากนั้นก็เป็นประวัติศาสตร์ เมื่อในที่สุดเขาก็เริ่มแต่งเพลงและถ่ายทอดเสียงร้องให้กับศิลปินในค่ายเบเกอรี่มิวสิค อย่าง สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ ซึ่งได้กลายเป็นย่างก้าวแรกของการทำงานเพลงของตัวเองขึ้นมาในที่สุด

“ในช่วงที่ทำงานกับคุณอร ตอนนั้นเริ่มมีไฟและเริ่มรู้สึกอยากทำงานของตัวเอง ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตอนนั้นเข้าไปแล้วก็รู้จักกับคนข้างในของทางเบเกอรี่มิวสิค เลยมีโอกาสได้แต่งเพลงให้กับพี่สมเกียรติเป็นเพลงแรกเลยคือ ตอนนี้ จากนั้น พี่สมเกียรติก็เลยชวนให้ร้องเพลงในอัลบั้มนั้น (Zequence) ซึ่งเป็นเพลงแรกที่ร้องเลยคือเพลง ทางออก หลังจากนั้นก็เลยได้แต่งเพลงให้กับนักดนตรีคนนั้นคนนี้ในเบเกอรี่ฯ เรื่อยๆ มา จน พี่สุกี้ (กมล สุโกศล แคลปป์ ผู้บริหารเบเกอรี่ฯ) ทาบทามว่า เฮ้ย! ลองทำแนวเพลงของตัวเองมั้ย มันก็เลยเป็นที่มาของการที่ได้ร่วมงานกับคุณใหญ่ในอัลบั้มโยคี เพลย์บอย ชุดแรก (Yokee Playboys) ช่วงเรียนอยู่ประมาณปีสี่”

แล้วจากนั้นตลอด 1 รอบปีนักษัตร ถัดจากปีที่อัลบั้มชุดแรกของ โยคี เพลย์บอย ออกวางจำหน่าย เส้นทางของโป้ในนาม ‘โยคี เพลย์บอย’ ก็ได้ทอดยาวออกไป แม้อาจมีบางช่วงที่มีรอยสะดุดหรือห่างหายไปบ้าง ทว่าก็ไม่เคยสาบสูญไปจากวงการและความสนใจของคนรักดนตรี

ปีชวด อัฐศก จุลศักราช 1358 ผ่านไป… ปีฉลู นพศก จุลศักราช 1359 ผ่านไป… 

กระทั่งเวียนวนมาบรรจบครบรอบในปีชวด สัมฤทธิศก จุลศักราช 1370 

อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วงการเพลงถูกรุกรานด้วยเทคโนโลยี จนเป็นจุดเริ่มต้นของ Disruptive Era ที่วงการดนตรีทั่วโลกมีอันต้องหยุดชะงักด้วยความก้าวหน้าของนวัตกรรมการเสพดนตรี ที่นำไปสู่ย่างก้าวอันถดถอยของทั้งค่ายเพลงและศิลปินที่ต้องเผชิญอย่างไม่อาจเลี่ยง

โป้และโยคีเพลย์บอยก็มิใช่ข้อยกเว้น หากเขากลับเลือกที่จะจูบรับให้กับยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยการออกจากพื้นที่ปลอดภัยอย่างค่ายเพลง หันไปยืนหยัดด้วย 2 ขา 1 สมองของตัวเอง

ซึ่งเป็นทางเลือกที่เขายังคงยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเขามาจวบจนปัจจุบัน

“ตอนนั้นกลับไปทำงานสถาปนิกแล้วด้วย แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนใจกลับมาทำเต็มตัวอีกที โดยตั้งเป็นบริษัท โยคีเพลย์บอย ขึ้นมาเพื่อดูแลวง ตอนนั้นเป็นการเริ่มมองว่า ถ้าสมมุติว่าต่อไปการอยู่ค่ายกับการดูแลตัวเองอย่างไหนจะดีกว่ากัน ก็ลองดู ตอนแรกๆ ก็งงเหมือนกันว่าเราออกงานใหม่ไปแล้วก็จะโปรโมตยังไง ตอนนี้ก็ทำมาเรื่อยๆ เริ่มโอเคครับ” โป้ รำลึก ก่อนที่จะตอบคำถามถึงประเด็นสำคัญที่เป็นยาขมเสมอมาของคนที่ตั้งตนเป็นศิลปินหรือนักสร้างสรรค์ผลงาน คือการบริหารจัดการในเรื่องของเงินๆ ทองๆ ซึ่งแน่นอนว่าตัวเขาเองก็เคยอยู่ในข่ายนั้น จวบกระทั่งเส้นทางชีวิตต้องดำเนินไปถึงจุดที่ต้องดูแลผลงานที่กลายมาเป็นธุรกิจของตัวเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“ตอนนี้ผมลุยทุกสถานการณ์แล้วครับ ไม่แหยงเรื่องตัวเลขแล้ว และมองว่าเป็นอะไรที่น่าเรียนรู้ด้วยซ้ำ แต่รู้แล้วเราจะทำเองหรือให้ใครมาทำนี่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องรู้ไว้ จะได้ดูแลตัวเองได้ครับ แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นธุรกิจเต็มตัว แต่ยังคงเน้นในส่วนของโปรดักชัน และจะเซ็ตเรื่องธุรกิจไว้ให้คนอื่นมาช่วยดีลต่อไป”

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

จากก้าวแรกอันกล้าหาญนั้น ก็นำไปสู่การเริ่มต้นสร้าง Commune เป็นของตัวเอง เริ่มสร้างช่องทางของเราเอง เช่น YouTube Official หรือ เฟซบุ๊กของวง “เริ่มเล็กๆ แล้วให้มันค่อยๆ ไปนี่แหละครับ ดีแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้เราก็มีแฟนมาติดตามมากขึ้นๆ”

ถึงจุดนี้โป้ก็ยืนยันได้อย่างเต็มปากว่า ที่สุดแล้ว Disruptive Technology ที่เคยทำลายวงการดนตรีนั้นก็กลับมาเป็นเครื่องมือสร้างชีวิตให้กับผู้ผลิตงานดนตรีได้ ตราบเท่าที่รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 “โซเชียลมีเดียมีประโยชน์มากครับ ด้วยเทคโนโลยี ด้วยสิ่งที่บอกไปนี่มันก็ทำให้เกิด Artist ที่ครัวบ้านไหนก็ได้ เกิดการแข่งขัน เราก็พอมองออกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมพบว่าการเป็นตัวของตัวเองเนี่ยละครับดีที่สุดแล้ว และพยายามเซ็ตระบบเตรียมไว้ เซ็ตช่องทางยูทูบไว้ใช้ในการปล่อยงาน ในการกระจายข่าวของพวกเรา ก็เป็นการรักษาฐานแฟนเพลงไปด้วย เขาได้ใกล้ชิดกับเรามากขึ้น”  แนวคิดการอยู่รอดของศิลปิน ณ ยุคสมัยแห่งปัจจุบันต่างพร่างพรูออกมาอย่างน่าสนใจ

“ถึงตรงนี้ผมก็เริ่มรู้ว่าต้องทำยังไง อย่างที่ทำผลงานเพลงออกมาเป็น Episode ผมก็คิดขึ้นมาเอง ผมมองว่าสิบเพลงนี่มันใช้ต้นทุนสูงและใช้ระยะเวลาเยอะไปกับภาวะปัจจุบัน มันจะทำให้ขาดการติดต่อกับแวดวงนานไป ไม่คุ้ม ควรจะทำซีรีส์อย่างที่ทำดู ออกมาสักสองสามเพลง แล้วไม่ควรออกมาเพลงเดียวด้วย แล้วถ้าเพลงมันติด ปัจจุบันมันก็ไปเร็วเหมือนกัน มันไม่ได้อยู่นาน ผมเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นซีรีส์เพลงสองสามเพลง ถ้าตัวหนึ่งติด ตัวหนึ่งต่อ ก็ยังดี แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันทำให้เรายังมีพื้นที่นานขึ้นอีก”  

ขณะเดียวกันโป้ก็เลือกมองโลกด้วยสายตาที่ยึดมั่นในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของ ร้าน ‘ปรุง’ ร้านอาหารที่เขากับภรรยาร่วมกันปลูกปั้นมา ในเวลาไล่เลี่ยกันกับการเริ่มต้นสร้างครอบครัวเล็กๆ ของทั้งคู่ ซึ่งทั้งสองแพร่งทางนั้นถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขาทั้งในฐานะศิลปิน และในฐานะผู้ชายที่รักดนตรีอีกคนหนึ่ง

“จนถึงตอนอายุใกล้ๆ สี่สิบ ผมก็ยังคงหมกมุ่นในเรื่องของดนตรีอย่างที่เป็นมาตลอดนะครับ คือทั้งชีวิตทำอยู่อย่างเดียว ทั้งงานอดิเรก งานจริง เป็นเรื่องเดียวกันหมดเลยยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำอยู่แต่เรื่องเดียว คุยก็คุยแต่เรื่องดนตรี ไม่เคยออกจากเรื่องนี้เลย จนวันหนึ่งตอนวัยใกล้เลขสี่ แล้ว เป็นยุคที่โตแล้ว เป็นยุคที่เริ่มรู้สึกกลัว และเริ่มตระหนักว่าทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จกับการมีแฟนเลย มันไม่พาเราไปถึงจุดไหนเลย และมันไม่เติมเต็มซะที จนพบว่าตัวเองต้องการมีครอบครัวเท่านั้นเอง จึงได้เริ่มมองกลับมาและพบว่า เออ โลกยังมีมุมอื่นอยู่ด้วยนะ ลองออกมาดูข้างนอก ก็จะได้เห็นตัวเองชัดขึ้น จะได้รู้ว่าตัวเองอยากมีครอบครัวด้วยนะ อย่ามัวแต่ทำอะไรบ้าๆ บอๆ อย่างนั้นเพียงอย่างเดียว” 

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

อย่างไรก็ดี แม้ว่าโป้จะได้ค้นพบคำตอบของชีวิตที่เขาเฝ้าถามมาตลอดในระยะเวลาอันยาวนาน แต่ในอีกด้านหนึ่ง การกรำชีวิตที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินมาถึงจุดที่เขาต้องเริ่มจ่ายคืนให้กับวันเวลาอันหนักหนาที่ผ่านมาแล้ว

“เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมเริ่มมีปัญหาสุขภาพคือมีไขมันพอกตับ ซึ่งสัญญาณแรกมาจากที่ผมทานอาหารแค่นิดเดียว แต่ท้องอืด ส่งผลให้มีความดันบริเวณชายโครง ทำให้มีอาการอึดอัดง่าย เรี่ยวแรงไม่ค่อยมี และเริ่มออกกำลังกายหนักๆ ไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือไขมันในช่องท้องมากกว่าเรื่องของความอ้วน ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งแล้ว”

นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้โป้ตัดสินใจจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปีของโยคีเพลย์บอยขึ้นมา

“ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยได้ไปเล่น ไปเป็นแขกรับเชิญให้กับวงเพื่อนๆ ตามคอนเสิร์ตใหญ่ต่างๆ แต่นี่คือคอนเสิร์ตของโยคีเพลย์บอยที่เราจัดขึ้นเอง เป็นครั้งแรกเลยที่ใหญ่ที่สุดในรอบยี่สิบสี่ปี ก็เท่ากับรอบชีวิตหนึ่งแล้ว เกิดมา โตขึ้นมาเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว นี่คือระยะเวลาที่เราเติบโตมากับแฟนเพลงของพวกเรา”

  นอกจาก Reborn Concert ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 จะเป็นดั่งหมุดหมายของการเฉลิมฉลองสำหรับ 2 รอบปีนักษัตรของโยคี เพลย์บอย ซึ่งถึงตอนนี้ได้เติบโตขึ้นทั้งทางด้านความคิดและมุมมองของชีวิต ณ ปัจจุบันที่จัดสมดุลให้กับความฝัน ความรัก และความจริง ได้อย่างพอดีต่อทั้งสถานการณ์ของชีวิตแล้วก็หัวใจ 

บนเงื่อนไขที่ว่า ดนตรียังคงเป็นส่วนสำคัญกับตัวเขาเสมอ อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป

“ผมถือว่ามีทุกวันนี้ได้เนี่ย ดนตรีเข้ามามีส่วนพัวพันเยอะมากจริงๆ ไม่ว่าจะทีสีสจบของผมก็เกี่ยวข้องกับดนตรี มันหล่อหลอมให้ผมโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ได้ดีพอสมควรในสังคม ทำให้ชีวิตไม่แข็งไป ไม่แรงไป ไม่อ่อนไป ไปแบบ โฟลวๆ โล่งๆ สบายๆ แล้วก็ช่วยทำให้ชีวิตดำเนินไปอย่างสวยงาม อย่างน้อยก็ในความคิดของผมนะครับ ทุกวันนี้ผมก็เอางานเป็นตัวตั้งก่อน แล้วที่เหลือค่อยมาจัดการชีวิตส่วนตัวอีกที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักดนตรีต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดีด้วยนะครับ”  โป้กล่าวย้ำประเด็นที่เขาให้ความสำคัญอย่างหนักแน่นเป็นการทิ้งท้าย

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

 ปีชวด โทศก จุลศักราช 1382

 “ผมเชื่อว่าต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้ครับ ก็เลยไม่สงสัยอะไร แล้วก็แค่ทำให้มันเต็มที่” คือคำกล่าวสำคัญหนึ่งในระหว่างการสนทนา ซึ่งได้ยืนยันถึงจุดยืนที่ผู้ชายเจ้าของฉายา ‘โยคี เพลย์บอย’ ได้ยืนหยัดมาตลอดเส้นทางชีวิตที่เขาเลือก

โดยมีช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งได้พิสูจน์แล้วถึงความเต็มที่ที่เขาได้กล่าวถึงนั้น

รวมไปถึงงานใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้

ที่โลกจะได้ประจักษ์กันอีกครา

ว่าแม้โยคี เพลย์บอย ผู้นี้จะต้องล้มลุกคลุกคลานหรือต้องสะดุดไปบ้าง แต่เขาก็พร้อมที่ลุกขึ้นมายืนหยัดอย่างเข้มแข็งได้เสมอ

ไม่ต่างอะไรกับการถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง และอีกครั้ง

ทว่าในฐานะของโยคี เพลย์บอย คนเดิม คนนี้เท่านั้น

วิธีอยู่รอดของศิลปินโดย โป้ Yokee Playboy กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

Writer

Avatar

พีรภัทร โพธิสารัตนะ

คนรักดนตรีที่เริ่มต้นชีวิตนัก(อยาก)เขียนด้วยการเป็นนักวิจารณ์ดนตรีอิสระที่มีผล งานลงในนิตยสาร a day, Hamburger, Esquire และอีกมากมาย รวมถึงเคยถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตคนดังออกมาเป็นตัวหนังสือประเภทอัตชีวประวัติ มาแล้วหลายคน หลายเรื่องในหลายเล่ม ผ่านทั้งชื่อจริงและนามปากกาอย่าง ภัทรภี พุทธวัณณ นิทาน สรรพสิริ และวรวิทย์ เต็มวุฒิการ ก่อนหน้าที่จะผันตัวเองเป็น “บรรณาธิการตัวเล็ก” ให้กับนิตยสาร DDTแล้วนับจากนั้นบรรณาธิการตัวเล็กคนนี้ก็ไม่อาจหลีกหนีไปจากมนต์เสน่ห์ของานหนังสือได้อีกเลย ปัจจุบันทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารให้กับนิตยสารแจกฟรีภาษาจีนที่ชื่อ “Bangkok Youth” และยังคงฟังเพลง เขียนหนังสือ และเสาะหาเรื่องดีๆ มาประดับความคิดอ่านอยู่เสมอ

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล