บ้านเรือนเริ่มบางตาลงตามระยะทางที่รถของผมเคลื่อนผ่าน ผมออกเดินทางออกจากตัวเมืองอุบลราชธานีมาได้ประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว เป็นเวลาพอจะพาผมให้ห่างออกจากแสงไฟของเมือง เพื่อไปร่วมงาน ‘Dark Sky Star Party’ ซึ่งเป็นงานดูดาวที่ใหญ่ที่สุด ณ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม 1 ใน 12 พื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานท้องฟ้ามืดในประเทศไทย

อุทยานท้องฟ้ามืด คือเขตอนุรักษ์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่รักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ด้วยวิธีการใช้แสงสว่างอย่างระมัดระวัง โดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสง หรือ Light Pollution ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ มีค่าความมืดท้องฟ้าอยู่ในระดับที่สังเกตเห็นวัตถุท้องฟ้าได้ ให้เป็นพื้นที่สำหรับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว

แล้วทำไมเราต้องอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดไว้? 

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

นอกจากแสงสว่างที่เกินพอดีจะเป็นอุปสรรคในการดูดาวแล้ว มันยังเป็นภัยต่อส่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ซึ่งมีกลไกการใช้ชีวิตสัมพันธ์กับแสงสว่างในการหาทิศทาง เช่น นกหรือเต่าทะเล นอกจากนั้นยังส่งผลเสียต่อมนุษย์อย่างเรา ๆ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยมลภาวะทางแสงจะไปรบกวนนาฬิกาในร่างกาย ส่งผลต่อการนอนหลับและการสร้างฮอร์โมนในตัว 

และถ้าคนชอบบอกว่าความเงียบทำให้เราได้ฟังเสียงในใจของตัวเอง ความมืดก็น่าจะทำให้เราเห็นทิศทางในใจเราได้เหมือนกัน ไม่แน่ว่าตอนนี้เราอาจกำลังหลงทิศหลงทางจากมลภาวะทางแสงไม่ต่างจากฟูงนกที่บินกลับบ้านไม่ถูกเหมือนกัน

การจะทำให้ประเทศไทยยังมีท้องฟ้ามืด สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT จึงจัดทำโครงการเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด เพื่อรณรงค์ให้เกิดการอนุรักษ์เขตท้องฟ้ามืด โดยมีเงื่อนไขว่า สถานที่นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อุทยาน พื้นที่ชุมชน หรือพื้นที่ส่วนบุคคล ต้องมีการควบคุมการใช้แสงสว่างในเวลากลางคืน สังเกตเห็นดวงดาวในเวลากลางคืนได้ชัดเจน เพื่อที่ผู้คนจะได้สัมผัสความงดงามของท้องฟ้า ดวงดาว และปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ได้

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

ผมมาถึงสถานที่จัดงานก่อนฟ้ามืด บนลานหินของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เห็นกล้องดูดาวจำนวนมากตั้งเรียงรายและได้ยินผู้คนพูดคุยกันเต็มพื้นที่ ผมอดอุทานด้วยความแปลกใจไม่ได้ เพราะไม่นึกมาก่อนว่าในประเทศไทยจะมีผู้คนที่สนใจเรื่องดาราศาสตร์ขนาดนี้ ทั้งกลุ่มผู้สูงวัย แก๊งเพื่อนวัยรุ่น และคุณพ่อคุณแม่ที่จูงมือพาลูกลองส่องกล้องดูดาว ทุกคนดูตื่นเต้นกับกิจกรรมในค่ำคืนนี้มาก

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย
เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

ผมรีบเดินเข้างานด้วยความตื่นเต้นกับบรรยากาศตรงหน้า แต่น้อง ๆ ที่ดูแลงานหยุดผมไว้ก่อน พร้อมยื่นกระดาษแก้วสีแดงสำหรับใช้หุ้มไฟฉายจากมือถือ เพราะในงานนี้อนุญาตให้ใช้เพียงแสงสีแดงที่ไม่สว่างเกินไปจนรบกวนสายตาให้เป็นมลภาวะทางแสงในกิจกรรมคืนนี้

หลังจากหุ้มเจ้าตะเกียงตัวเก่งเรียบร้อย ผมลองเดินสำรวจในงานที่แบ่งเป็นหลายโซนตามกิจกรรมที่จัดไว้ เริ่มจากโซนแรก Wisdom Forest ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของป่าและภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมชงชาเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย
เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

แล้วไปต่อกับกิจกรรม Night Nature Walk ที่จะพาไปเดินเทรลตามเส้นทางภาพเขียนสีโบราณของอุทยานฯ ผาแต้ม ชมความงามของผืนป่ายามค่ำคืน

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย
เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

แต่ไฮไลต์ของงาน Dark Sky Star Party ก็ไม่พ้นกิจกรรมดูดาว ที่นอกจากโซนสังเกตวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องสองตาหรือกล้องดูนก และการดูดาวด้วยแอปพลิเคชันบนมือถือแล้ว โซนคาราวานกล้องโทรทรรศน์จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชมรมดาราศาสตร์จากโรงเรียน และกลุ่มชมรมในเครือข่ายภาคอีสาน ที่ขนกันมามากมาย เป็นโซนที่ผมสนใจที่สุด เพราะจะได้สัมผัสประสบการณ์ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์ รวมถึงคนอื่น ๆ ที่มาร่วมงานก็น่าจะคิดเหมือนกันเมื่อดูจากความคึกคักในโซนนี้

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย
เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

พอพระอาทิตย์คล้อยต่ำ แสงสีน้ำเงินที่ความยาวสั้นกว่าก็กระเจิงออกไป เหลือแต่แสงสีส้มที่ย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีเป็นสีส้มแดง เป็นช่วงเวลาสนธยาที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของดาวศุกร์ สร้างความคึกคักให้กับนักท่องเที่ยวที่กำลังฟังการบรรยายจากเหล่าเจ้าหน้าที่ ครู และนักเรียนจากชมรมต่าง ๆ ที่อาสามาเป็นไกด์ ให้ความรู้เกี่ยวกับกล้องหลากหลายขนาดและวัตถุท้องฟ้า

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

 ก่อนที่อีกเพียงไม่นาน ความมืดก็เข้าปกคลุม

ดวงดาวมากมายปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าให้เราได้เห็น แม้วันนี้ท้องฟ้าจะขมุกขมัวจากฝุ่นควันไปบ้าง แต่ก็พอที่จะดูดาวด้วยตาเปล่าได้ ผู้คนในงานเริ่มมารวมตัวกันที่โซนกล้องโทรทรรศน์ บ้างกางเก้าอี้ บ้างก็ปูเสื่อนอน เพื่อรอฟังการบรรยายจาก แจ็ค-ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่จะมาเป็นวิทยากรสอนวิชาการดูดาว 101 ในคืนนี้

เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย
เอนตัวนอนนับดาวนับร้อยนับพันที่ผาแต้ม หนึ่งในอุทยานท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย

เราเริ่มกันที่กลุ่มดาวหมีใหญ่ เพราะการจะเริ่มดูดาวเราต้องมองหาทิศเหนือให้เจอซะก่อน กลุ่มดาวนี้ใช้บอกทิศเหนือและมองเห็นได้ง่าย เป็นกลุ่มดาวสว่างเรียงกัน 7 ดวง มองเห็นเหมือนหมีตัวใหญ่ที่มีหางยาว ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมองเห็นรูปร่างแตกต่างกันไป บางคนก็มองเป็นรูปจระเข้ เมื่อเราเจอทิศเหนือบนท้องฟ้ามืดแล้ว เราก็จะเชื่อมโยงไปมองหากลุ่มดาวอื่น ๆ ต่อไปได้

ในอดีต มนุษย์ใช้ดวงดาวในการดูวันเวลาแทนปฏิทิน เรารู้เวลา 1 วันจากการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ เรานับเวลา 1 เดือนได้ด้วยการดูดวงเดือนหรือดวงจันทร์ที่มีข้างขึ้นข้างแรม ข้างขึ้น 15 วัน ข้างแรม 15 วัน รวมเป็น 30 วันพอดี และดูปีจากการเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์ผ่านกลุ่มดาว 12 ราศี 

วิชาดาราศาสตร์ของมนุษย์เราเริ่มขึ้นมาพร้อมวิชาโหราศาสตร์ คนที่จะดูดวงได้ต้องมีวิชาดูดาวติดตัว รู้จักกลุ่มดาวต่าง ๆ รู้ว่าดาวไหนเป็นดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ใช้การแทนความหมายต่าง ๆ ให้กับดาวเคราะห์แต่ละดวงที่เคลื่อนไปตามกลุ่มดาว 12 ราศี เพราะดาวเคราะห์เป็นดาวที่เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ไม่อยู่กับที่ตามแผนที่ดวงดาว ยกตัวอย่างดาวพฤหัสบดีที่เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของความโชคดี เมื่อเคลื่อนไปใกล้ราศีไหนก็จะเชื่อกันว่าราศีนั้นจะโชคดีในช่วงนั้น 

อย่างคำว่า ‘ชั่ว 7 ที ดี 7 หน’ ก็มีที่มาจากดาวยูเรนัส หรืออีกชื่อคือดาวมฤตยู เพราะดาวยูเรนัสจะใช้เวลา 7 ปีในการเปลี่ยนตำแหน่งจากกลุ่มดาวแต่ละกลุ่ม ถ้าดาวยูเรนัสไปอยู่ใกล้กับราศีไหน ก็นับไปเลยว่ามีเคราะห์ไปอีก 7 ปี 

หันมาทางทิศตะวันออกจะเจอดาวฤกษ์ส่องสว่างสีส้มเหลือง คือดาวบีเทลจุส ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวนายพราน หรือโอไรออน ลากมาเป็นหัวไหล่ 2 ข้าง ลงมาเป็นหัวเข่า ไล่ลงมาบริเวณใต้เข็มขัดของนายพราน ตรงใต้เข็มขัดนั้นก็คือ… ดาบของนายพราน

บริเวณนั้นจะมองเห็นดาวดวงเล็ก ๆ ดวงหนึ่ง ซึ่งเมื่อดูผ่านกล้องโทรทรรศน์จะพบวัตถุท้องฟ้ามีลักษณะคล้ายกลุ่มเมฆ เรียกว่า เนบิวลา เป็นภาษาละติน แปลว่าเมฆ แต่ความจริงเป็นกลุ่มแก๊สไฮโดรเจนที่อยู่ในอวกาศ ใหญ่กว่าระบบสุริยะกว่า 20,000 เท่า และแสงที่เราเห็นก็เป็นแสงจากอดีตที่เดินทางมาด้วยระยะทางที่ไกลมาก 

ใกล้ ๆ กับกลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวหมาใหญ่ มีจุดสังเกตเป็นดวงดาวสว่างสีขาวฟ้าที่อายุน้อยกว่าและมีความร้อนมากกว่าดาวที่มีสีส้ม ชื่อว่า ซิริอุส คนไทยเรียกดาวนี้ว่า ดาวโจร ถือเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าที่เราเห็น ที่มาของชื่อดาวโจรมาจากในอดีต ก่อนโจรจะออกปล้นต้องดูฤกษ์ด้วยดาวดวงนี้ โดยหากดาวดวงนี้ส่องสว่างในช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันออก จะตรงกับช่วงฤดูหนาว นั่นหมายความว่าเป็นช่วงหลังการเก็บเกี่ยวเรียบร้อยแล้ว แสดงว่าแต่ละบ้านจะมีทรัพย์สมบัติจากการขายผลผลิตเก็บไว้ เป็นโอกาสดีที่โจรจะขโมยทรัพย์สินได้เยอะกว่าช่วงอื่น ๆ

ถัดมาเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ตรงบริเวณท้องของกลุ่มดาวราศีวัว เราทุกคนน่าจะรู้จักหมด คือกลุ่มดาวที่เรียกว่า กระจุกดาวลูกไก่ เป็นกระจุกดาวฤกษ์ 7 ดวงที่อยู่กันอย่างหลวม ๆ แต่สายตาเราอาจนับได้เพียง 6 ดวง เชื่อกันว่าในอดีต ทหารกรีกโรมันใช้ในการทดสอบสายตาเวลารับสมัครทหารใหม่ ใครจะเป็นทหารได้ต้องเห็นกระจุกดาวลูกไก่ครบ 7 ดวง แสดงว่ามีสายตาดี 

จากนั้นมองไปอีกทางบนท้องฟ้า เจอดวงดาวอีก 2 ดวงใกล้ ๆ กัน ดวงที่สว่างกว่าชื่อว่า พอลลักซ์ อีกดวงชื่อว่า คาสเตอร์ ก็คือบริเวณหัวของกลุ่มดาวคนคู่ เป็นสัญลักษณ์ของราศีเมถุน และถือเป็นกลุ่มดาวแห่งฤดูใบไม้ผลิ จากดาว 2 ดวงที่ส่องสว่างเคียงคู่กันจึงเป็นที่มาของชื่อดาวคนคู่ เหมือนเห็นฝาแฝดยืนกอดกันอยู่บนท้องฟ้า โดยดาวทั้ง 2 ดวงมีระยะห่างตามการวัดระยะเชิงมุมที่ 5 องศา ตามวิธีการวัดด้วยการเหยียดแขนออกไปจนสุดแล้วชู 3 นิ้ว เท่ากับระยะเชิงมุม 5 องศา

ดาว 2 ดวงที่ห่างกันเพียง 3 นิ้วมือ แต่ในความเป็นจริงมีระยะห่างกันถึงหลายปีแสง เป็นระยะทางที่หากเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับแสงแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ช่างเป็นอ้อมกอดที่ห่างเหินเหลือเกิน – ผมคิด

การบรรยายจบลง แต่ผู้คนที่มาร่วมงานยังคงทำกิจกรรมกันต่อ ผมเองก็ยังคงนอนมองดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

ถ้าตอนนี้ผมนอนอยู่ที่บ้าน และในเมืองที่ผมอยู่รวมถึงหลายพื้นที่ในไทยมืดลงอีกหน่อย จะเป็นยังไงนะ

ผมหลับตาลง

ขอบคุณ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

สุวิชา พุทซาคำ

สุวิชา พุทซาคำ

อาร์ตไดเรกเตอร์ผู้เชี่ยวชาญการก่อกองไฟ และกางเตนท์ พอๆกับที่เชี่ยวชาญการใช้โปรแกรมออกแบบ สนใจเรื่องราวสิ่งแวดล้อมพอๆกับที่ชื่นชอบอุปกรณ์ไอที ถ้า IG : @sleepbird มีการเคลื่อนไหว แสดงว่าเพิ่งออกจากป่า