ถ้าบทความนี้กำลังจะเขียนเล่าว่า หม่ำ จ๊กมก หรือ เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา คือใคร 

คงจะล้าสมัย และคุณคงปิดหน้าเว็บไซต์ก้อนเมฆหนีไปเสียก่อน เพราะเรามั่นใจว่าคุณรู้จักชายคนนี้ดี ผ่านเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และน้ำตา จากจอแก้วและจอเงิน จากงานเบื้องหน้าและงานเบื้องหลัง

ครั้งนี้เราชวนชายที่เพิ่งอายุ 57 หมาด กำลังนอนเหยียดขาอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยท่าทางสบาย ๆ บนพื้นมีรองเท้าหนังหลุยส์ป่าตอง ซื้อจากภูเก็ต (เขาว่างั้น) มือข้างหนึ่งถือยาดมหลอดจิ๋ว ก่อนจะสูดเข้าจมูกฟอดใหญ่ สนทนาถึงชีวิต ความคิด หนัง เพลง ความรัก โทรศัพท์ และอนาคต ของ หม่ำ จ๊กมก

เราชวนเขาทบทวนชีวิตจากอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดยโสธร จนถึงวันที่เปิดบั้งไฟฟิล์ม ค่ายหนังที่ผลิตหนังไทยมากว่า 40 เรื่อง นายห้างเพลงยุ้งข้าวเรคคอร์ดที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอน และพระเอกจากภาพยนตร์ LOVE เลย 101 หนังรักต่างวัยของหญิงสาวกับดาบตำรวจวัยเกษียณ เล่าเรื่องคลอกับเพลงของ สายัณห์ สัญญา ซึ่งหม่ำกลับมารับบทพระเอกหนังโรแมนติก-คอเมดี้ในรอบ 7 ปี หลังจากรับบท สมบัติ ใน เฉิ่ม 

บทสนทนาขนาดกระชับนี้ ถูกเล่าด้วยน้ำเสียงของหม่ำ บนโซฟาและยาดมตราโป๊ยเซียน

หม่ำ จ๊กมก ในวันที่อายุ 57 เป็นเจ้าของค่ายหนัง นายห้างเพลง และพระเอกหนังรัก

ชีวิตหม่ำ

เราอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ ของยโสธร สมัยก่อนยังไม่เจริญเท่าที่ควร ประปาไม่มี ต้องเอากะปีบไปขนน้ำมาใช้ดื่ม ใช้กิน ตอนเด็กชอบดูหนัง ฟังเพลง ก็ไม่แปลกที่มาทำหนัง ทำเพลง เราชอบความบันเทิง ชอบรำ ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบแสดง เพราะมันเป็นตัวเรา เป็นชีวิตเรา แล้วมันก็เป็นความจริง เท่านั้นเอง

แต่เรื่องพวกนี้ต้องมีความรักกับมันด้วยนะ

เด็กต่างจังหวัดยุคนั้นคิดแต่ว่าจะทำมาหากินอะไร มีความฝัน อยากเป็นดารา อยากเป็นนักแสดง อยากเป็นตลก อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นคนทำหนัง มันเป็นแรงบันดาลใจให้เราเข้ากรุงเทพฯ 

เพื่อนส่วนใหญ่เกเร เราเป็นปลาตัวเดียวที่แยกออกมาจากฝูง มาดูแลชีวิตตัวเองให้เป็นตัวของตัวเอง

ตอนนี้ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง สิ่งที่เราทำเรียกได้เต็มปากว่ามันคือตัวตนของเรา

ทุกวันนี้เราตื่นนอน 2 รอบ ตื่นตอนตี 4 ครึ่ง หลับอีกที 6 โมง แล้วก็ตื่นอีกที 9 โมง หลังจากนั้นก็ทำงาน ทำงานแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ถ้าไม่มีอะไรทำก็ลงไปแทงสนุกเกอร์ข้างล่าง ปัจจุบันก็ขายหม่ำแซบ น้ำปลาร้าพรีเมี่ยมจากทะเล แล้วก็มิกกี้หม่ำ น้ำปลา ซอยหอยนางรม น้ำมัน ผงชูรส ผงปรุงรส

เพิ่งอายุ 57 ครับ 57 เต็มเปี๊ยะเลย แก่ขึ้น เดินเหินไม่เหมือนเมื่อก่อน บางทีคิดอะไรได้ เดินสามสี่ก้าวก็ลืม วันก่อนดูหนัง นางเอกเล่นเป็นนักมวย มานึกชื่อได้ตอนหนังจบว่าคือ Hilary Swank 

พออายุมากขึ้นเราเรียนรู้ว่าต้องรักสุขภาพเยอะ ๆ คนเรามัวแต่คิดเรื่องอื่น ไม่ค่อยคิดเรื่องสุขภาพ เราไม่รู้หรอกว่าจะป่วยเป็นอะไร คนก็เหมือนเครื่องยนต์นะ ใช้มามาก ก็ต้องตรวจสภาพบ่อย ๆ

ความสุขทุกวันนี้คือดูหนัง ฟังเพลง นั่งคนเดียว คิดคนเดียว

หม่ำ จ๊กมก ในวันที่อายุ 57 เป็นเจ้าของค่ายหนัง นายห้างเพลง และพระเอกหนังรัก

ความคิดหม่ำ

พอเข้ากรุงเทพฯ ก็อยู่วงดนตรีลูกทุ่ง ตามประสาคนที่มาดิ้นรน (หัวเราะ)

มันโอเคนะ เราเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ พอมาเป็นตลกคาเฟ่ ก็เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ อีก ทำให้ชีวิตเราแข็งแกร่งขึ้น เราเป็นคนขวนขวายอยู่แล้ว อัปเดตกับทุกเรื่อง ตอนนี้คนทำอะไร กินอะไร ดูอะไร ซื้ออะไร โพสต์อะไร คอมเมนต์อะไร มันเลยได้เปรียบ เวลาเล่นตลกก็เล่นไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะคิดไม่เหมือนเขา เช่น เวลาคนตาย ทำไมต้องใส่ชุดดำ ทำไมต้องเปิดเพลง ธรณีกรรแสง แค่นี้ก็เศร้าพออยู่แล้ว

เราเป็นพวกมีมุมมองที่พิลึกกว่าคนอื่น 

ทัศนคติในการทำงาน เราต้องรักษามาตรฐาน รักษาเพดานบินของตัวเองไว้ ถ้ามันไม่ขึ้น ก็ให้มันอยู่ที่เดิม แต่อย่าให้มันลดลง บางคนถามเราว่า ‘ทำไมผมไม่มีงาน’ ก็มึงไม่อัปเดต มึงไม่รู้ว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว วันนี้เขาพูดเรื่องไฟไหม้ที่สัตหีบกันแล้ว มึงรู้เรื่องหรือเปล่า มันตอบง่ายมากเลย แบบนี้ใครจะให้งาน

(อะไรทำให้ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา กลายเป็น หม่ำ จ๊กมก ในวันนี้)

ตัวตน เราเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องอาศัยฝีมือล้วน ๆ

(โอกาสเกี่ยวไหม) 

โอกาสก็มีส่วน โชคชะตาก็ใช่ พรหมลิขิตก็ไม่เชิง ทุกอย่างถูกขีดไว้หมดแล้วว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ คนเห็นเราก็ต้องยิ้มก่อน เจอหน้าเราก็ต้องยิ้มก่อน ยังไม่ทันทำอะไรเลย ยิ้มก่อนแล้ว 

ในวันที่ทำงานแล้วไม่มีคุณค่าก็มี ถ้าทำตัวให้มีคุณค่า ทำอะไรก็มีคุณค่า เราไม่ชอบอยู่เฉย ๆ ว่างต้องหาอะไรทำ ได้ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมให้หลาน อีก 3 ปีก็ 60 พอดี อาจจะหยุดสักพัก ถ้าให้เลิกคงไม่ได้หรอก เพราะฝังอยู่ในตัวแล้ว คงหยุดสักพักเพื่อพักผ่อนสมอง พักผ่อนปากตัวเอง พาลูกหลานไปเที่ยว

หม่ำ จ๊กมก ในวันที่อายุ 57 เป็นเจ้าของค่ายหนัง นายห้างเพลง และพระเอกหนังรัก
หม่ำ จ๊กมก ในวันที่อายุ 57 เป็นเจ้าของค่ายหนัง นายห้างเพลง และพระเอกหนังรัก

หนังหม่ำ

เราเริ่มมีมุมมองทำบั้งไฟฟิล์มจาก บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาคแรก เราเล่นหนังมาเยอะแล้ว เราคิดว่าเราทำได้ เราอาจไม่รู้จักกล้อง ไม่รู้จักอะไรก็แล้วแต่ แต่คนมันใฝ่ พอเรามีวิธีของเรา มันก็เป็นเรื่องง่าย 

เป็นโปรดิวเซอร์บ้าง เป็นผู้บริหารบ้าง ไม่ต่างกันหรอก เพราะเราเข้าใจมันทั้งหมดอย่างถ่องแท้ การทำบั้งไฟฟิล์ม เราอยากให้คนมีความสุข ให้คนมีรอยยิ้ม ไม่ค่อยกล้าสร้างหนังดราม่า แต่ก็มีบ้าง สูตรการทำหนังก็ต้องเดาใจคนดูนะ บางทีเล่าเรื่องเก่าให้เป็นเรื่องใหม่ เล่าเรื่องใหม่ให้เป็นเรื่องเก่า เสี่ยงเหมือนกันว่าจะเดาใจถูกมั้ย และต้องถูกใจคนให้ตังค์ทำหนังด้วยนะ ไม่ใช่ทำสองสามเรื่องแล้วขาดทุน ดูจากรายได้หนังก็รู้แล้ว

เทรนด์หนังมันเปลี่ยนแปลงทุกปี ความคิดก็เปลี่ยนแปลงทุกปี 

การทำหนังเยอะ ๆ ทำให้รู้วิธีมากขึ้น รู้เรื่องราวชีวิตจริงของคนมากขึ้น เช่น ครูรักกับนักเรียน พระดูดบุหรี่ พระดูดม้า ข้าราชการตรวจสอบไม่ได้ ชีวิตจริงมันมี แต่หนังถูกตีกรอบให้นำเสนอไม่ได้ 

ขอถามกลับ ถ้านำเสนอไม่ได้ ก็อย่าทำข่าวสิ ให้คนรับรู้ทำไม แปลกมั้ยบ้านเมืองเรา

เราไม่ชอบทำหนังที่มียาเสพติด มีกินเหล้าเมามาย ถ้าเป็นฉากเลิฟซีนเห็นก้น เห็นหน้าอก ไม่ชอบ ไม่ใช่ทาง วิธีตลกมีเยอะแยะ เราอยากทำหนังให้ทุกคนดูได้ ดูเพลิน ไม่หยาบคายมาก เอาแค่พอดี

หนังที่เราทำเกี่ยวกับคนอีสาน เพราะคนอีสานมีเยอะ มีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะขายอะไร ตลาดใหญ่คือคนอีสาน แต่คนอีสานเขาไม่อยากพูดภาษาอีสานหรอก อาย ขนาดคนอำนาจฯ ยังพูดไทยใส่เลย แล้วจะแนะนำทำไมว่าเป็นคนอำนาจฯ แต่ถ้าบอกว่า ผมคนอำนาจเด้ออ้าย เออนั่นใช่ ผมคนอุบลฯ​ เด้ออ้าย เออนั่นใช่

นี่แหละคือรากเหง้า

หม่ำ จ๊กมก ในวันที่อายุ 57 เป็นเจ้าของค่ายหนัง นายห้างเพลง และพระเอกหนังรัก

พระเอกหม่ำ

พอมาเล่นหนัง LOVE เลย 101 ก็เป็นหนังอีกสไตล์หนึ่ง เป็นหนังรักใส ๆ พูดถึงความรักต่างวัยที่อายุห่างกันไม่รู้กี่รอบ และเป็นรักครั้งแรกของผู้หญิงคนนี้ เราเล่นเป็นพระเอก บทคือตำรวจ ด้วยวัยต่างกันก็คิดคนละอย่าง มันไม่เหมาะหรอก เป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องจริงมันมี มีอยู่แล้ว ก็แค่เปิดใจรับมัน ซึ่งหนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดเฉพาะรักต่างวัย พูดเรื่องความรักอีกหลายรูปแบบ หญิงรักหญิง ชายรักชาย เราคิดถึงประเด็นนี้ก่อนจะออกกฎหมายสมรสเท่าเทียมอีก แล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนัง 2 เวอร์ชันนะ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะได้ฟังเวอร์ชันพากย์เสียงภาษาใต้ คนพากย์มี เอกชัย ศรีวิชัย,​ บ่าววี,​ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น 

LOVE เลย 101 สนุกตรงที่หนังเล่าผ่านเพลงของ สายัณห์ สัญญา แล้วนางเอกก็ไม่รู้จักสายัณห์ด้วย เขาไม่ฟังเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว พอรู้จักดาบแดงทำให้เขาเริ่มรักเพลงลูกทุ่ง เริ่มรักคนที่ชื่อดาบแดง ที่เราเลือกเพลงสายัณห์มาประกอบในหนังเรื่องนี้ เพราะเกิดยุคนั้นพอดี ยุค 40 ปีที่แล้ว ใครที่ชอบเพลงสายัณห์ ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะอินเป็นพิเศษ​แน่นอน พาลูกพาเต้าไปดูได้ ไปเล่าให้ลูกฟังว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่รักเพลงพวกนี้

เพลงที่อยู่ในหนังเราก็เลือกเองทั้งหมด มันตรงกับชีวิตรักเราบางช่วงด้วย ช่วงผิดหวัง ช่วงชื่นมื่น ช่วงที่อาจเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ช่วงโดนกีดกัน อย่างเพลง รักคนแก่ดีกว่านะน้อง มันก็ตรงกับหนังเลย

LOVE เลย 101 ของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และบทบาท หม่ำ จ๊กมก ในวันนี้

เพลงหม่ำ

(ฟังเพลง ตำนานเสี่ยว ของน้าหม่ำมา ชอบมาก)

เจ็บเจ็บ จำจำ เจ้าบ้านนอก กิ๊กกิ๊ก ก็อกก็อกจากอีสาน เป็นอยู่อย่างนี้มานมนาน สืบทอดลูกหลานตำนานเสี่ยว – เอ็กซ์ก็ชอบ (วัชรพงษ์ ปัทมะ – ผู้กำกับ LOVE เลย 101) เพลงนี้ประมาณ 30 ปีได้ เนื้อหาเพลงยังเข้ากับปัจจุบัน พี่จ้อ เป็นคนแต่งเนื้อ หนู มิเตอร์ ทำดนตรี พี่ต้อย เศรษฐา เป็นเจ้าของค่าย

 ก่อนอยู่บ้านนาเขาเรียกกันว่าทองดี ไปอยู่กรุงเทพไม่กี่ปี กลายเป็นวลีสีทันดร จากเด็กท้องนาไปอยู่เมืองฟ้า เมืองนคร จากลูกชาวนาไปยืนฟู่ฟ่ากับแสงนีออน คงไม่เหมือนแต่ก่อนเพราะบังอรลืมเด่นดัง – เพลง น.ส. ทองดี ก็ชอบนะ มีอีกเพลง ไอ้ป๋อง (กพล ทองพลับ) เปิดบ่อย เพลง อสูรกายครวญ ออกร็อก ๆ หน่อย 

ตอนนี้เป็นนายห้างของยุ้งข้าวเรคคอร์ดมา 3 – 4 เดือน สนุกดี มันเริ่มจากใจเราชอบ ใจเรารัก ถ้าไม่รักทำไม่ได้หรอก เราอยู่กับเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก คลุกคลีตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ ทำให้เราเข้าใจเนื้อหา เข้าใจความเป็นเพลงลูกทุ่ง ยากนะ เป็นผู้บริหารค่ายเพลงที่มานั่งเลือกเพลงให้นักร้อง ร้องไกด์เอง ทำเอ็มวีเอง คิดสตอรี่เอง คุมงานเองทุกอย่าง แล้วการเลือกเพลงให้นักร้องแต่ละคนก็ต้องดูลักษณะเสียง ดูคาแรกเตอร์ ดูเนื้อหาเพลงให้เหมาะกับนักร้อง ไม่ใช่จู่ ๆ สักแต่ว่าร้อง ไม่ใช่นะ ความหมายของเพลงลูกทุ่งมันมีอยู่

แต่ก็นั่นแหละ การทำเพลงก็เหมือนเล่นการพนัน จะป๊อกแปด ป๊อกเก้าตอนไหนก็ไม่รู้ เดาใจคนดูยาก เดาใจคนฟังยาก เกิดมันจะดัง มันก็ดังเลย อย่าง ไรอัล กำลังมาแรงเพลง รักเก่าข้างกองฟาง ไรอัลร้องเพลงเร็วก็ดี ร้องเพลงช้าก็ดี เรามองเห็นบางอย่างในตัวเขา เขาทำได้มากกว่านั้น แต่ไม่มีใครบอกเขา

เราว่าการเกิดขึ้นของยุ้งข้าวฯ มันซัพพอร์ตทั้งคนฟัง นักร้อง และคนทำงานในค่าย

มันเอื้อกันเป็นวงเวียน เหมือนล้อเกวียน หมุนไปเรื่อย ๆ เมื่อก่อนนะ นักร้องขอให้เสียงดีอย่างเดียว หน้าตาไม่เกี่ยว เพราะคนหล่อเขาไม่กล้าร้องเพลงกันหรอก อาย 

(ทำไม) 

ก็มันอาชีพเต้นกินรำกิน สมัยก่อนคนยอมรับที่ไหน 

แต่เรามองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพอิสระ อย่าคิดแบบเมื่อก่อน อาชีพนี้ก็งานเหมือนกัน เรารักเพลงลูกทุ่ง รักการแสดง รักภาพยนตร์ รักอาชีพตัวเอง ที่สำคัญต้องวางมาตรฐานตัวเองให้ดี รักษาเพดานบินเอาไว้ 

เพลงลูกทุ่งร้องขึ้นมาปั๊บ เห็นภาพทันที ตีความง่าย ว่างจากงานหว่านไถ มันก็บอกอยู่แล้ว จะร้อยมาลัยใบข้าว ใบข้าวเอามาร้อย ห้อยคอสาวจำปา เห็นภาพท้องทุ่งนา เหมือนเล่านิทาน เล่าให้คนร้องไห้ยังได้ ขวัญหาย จดหมายจากแม่ส่งมา เนื้อจดหมายเขียนว่า นาฝนแล้ง เพลงบอกหมดแล้วด้วยเนื้อหาของมัน

แต่เพลงลูกทุ่งแปลกอย่าง ถ้าดังจะดังนานมาก เพลง สมศรี 1992 ก็ร้องอยู่นั่นแหละ เลิกแล้วค่ะ ก็ร้องอยู่นั่นแหละ จะขอก็รีบขอ ก็ร้องอยู่นั่นแหละ มันไม่ไปไหนหรอก เสน่ห์ของเพลงลูกทุ่งคือมันเป็นอมตะ

เพลงลูกทุ่งไม่มีวันตายหรอก และไม่มีทางหายไปจากประเทศไทยด้วย 

ชีวิต ความคิด หนัง เพลง ความรัก โทรศัพท์ และอนาคต ของ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และบทบาท หม่ำ จ๊กมก ในวันนี้

ความรักหม่ำ

ชื่นมื่น ชื่นมื่น

ก็เหมือนในหนัง มาเจอกันโดยบังเอิญ ตอนนี้อยู่ด้วยกัน 40 ปี คงเป็นพรหมลิขิต เขาขีดเขี่ยไว้แล้วให้เป็นเนื้อคู่ จริง ๆ แล้วเรื่องความรักมันไม่มีอะไรหรอก แค่เข้าอกเข้าใจกัน จะถูกคอกันมันมีแค่นี้แหละ คนเป็นคู่ผัวตัวเมีย มันรู้กันอยู่แล้ว โกหกไม่ได้ เพราะสายตามันฟ้อง ถามว่าอยู่ได้ถึงขนาดนี้เพราะอะไร ก็เพราะรักกันนี่แหละ ไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่ารักหรอก รักที่สุด รักมาก รักเลยร้อยเอ็ด (หัวเราะ)

(ถ้าให้เลือกเพลงที่ตรงกับความรักของ หม่ำ จ๊กมก)

คงเป็นเพลง ‘เธอจะอยู่คอยใคร’ ตอนรู้จักกับเขาใหม่ ๆ ยังไม่ได้รักกันหรอก

เธอจะอยู่คอยใคร หัวใจฉันเฝ้าถามหา เพลงของ สายัณห์ สัญญา

โทรศัพท์หม่ำ

ไม่มี 

ไม่มีโทรศัพท์ มันเป็นเรื่องของเมีย ดูโทรศัพท์เมียนั่นแหละ 

แต่เคยมีนะ มี 5 6 7 เครื่อง ลืมที่กองถ่ายบ้าง ลืมบนรถแท็กซี่บ้าง เลยไม่มีดีกว่า

อนาคตหม่ำ

อยากเป็นรัฐมนตรี

Writer

Avatar

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล