ตอนเด็กเรามักถูกเพื่อนหรือคนรอบข้างถามเสมอว่า เราเป็นตุ๊ดหรือเปล่า ในตอนนั้นเรารู้สึกทรมานมากที่ต้องตอบ เรามีคำตอบในใจ 2 ทาง ทางแรกคือ การตอบว่าไม่เป็น เพื่อรักษาสถานภาพทางเพศที่ทุกคนมองว่าปกติ หรือทางเลือกที่ 2 คือ การตอบไปตรงๆ ว่าเราเป็น แต่เพื่อนเราอาจเลิกคบไปเลยก็ได้เพียงเพราะเขามองว่าเราผิดปกติ

ตัวเราตอนเด็กรับไม่ได้อยู่แล้วกับการถูกเพื่อนทอดทิ้ง เราเลยตัดสินใจโกหกทุกคนมาตลอดเพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ พอเราโตขึ้นมาแล้วได้มองย้อนกลับไป เรากลับรู้สึกเสียใจว่าการที่เราเป็นผู้ชายหรือเป็นเพศที่สาม มันคือสิ่งชี้วัดว่าเพื่อนจะคบหรือไม่คบเราจริงหรือ

ตอนนั้นเราอยากสร้างงานศิลปะสักชิ้นที่บอกเล่าเรื่องราวและช่วยคลี่คลายปมในอดีตของตัวเอง แต่รู้สึกว่ามันควรเป็นเรื่องที่คนอื่นก็เข้าใจได้ และมันควรจะช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนผู้อื่นที่มีเพศสภาพอันหลากหลาย ในสังคมที่ประสบปัญหารูปแบบที่ใกล้เคียงกับเราได้

ดอกชบาเหมือนเป็นดอกไม้สามัญประจำวิชาชีววิทยาที่เราต้องเรียนในเรื่องของโครงสร้างดอก และเราติดภาพกับดอกชบาที่ถูกผ่าครึ่งแล้วมีลูกศรโยงออกมาเพื่อบอกว่าดอกไม้ชนิดนี้มีอวัยวะใดบ้าง เลยทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าดอกชบามีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน และองค์ประกอบนี้มันมีความหมายเป็นสากล คนทั่วโลกจะรับรู้และเข้าใจเรื่องราวนี้ได้ตรงกัน

เรานึกกว้างไปถึงสีสันของดอกไม้ การเจริญเติบโตของภูมิลำเนาในแต่ละที่ สภาพดิน สภาพอากาศ มันเลยกลายมาสู่การเดินทางออกไปถ่ายดอกชบาตามเขตต่างๆ ทั้งในและนอกกรุงเทพฯ เพื่อขยายวงกว้างของความหลากหลายที่ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องเพศสภาพเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก สีผิว และพื้นที่ที่ถูกเลี้ยงดูมา ผ่านการเปรียบเทียบของดอกชบาที่มาจากเขตที่แตกต่างกัน แต่ละดอกก็สวยในแบบของตัวเอง

ผลงานชุดนี้ได้รับรางวัล Young Thai Artist Award สาขาภาพถ่ายในปี 2016 ตอนนั้นเราอายุ 25 ปี ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราจะสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ เพราะอายุของเรากำลังจะเกินเกณฑ์การประกวดที่กำหนดไว้

เราจำได้ว่าวันที่ต้องขึ้นรับรางวัลมีชาวต่างชาติเข้ามาเดินดูงาน แล้วมีคนถามเขาว่าชอบผลงานชุดไหนมากที่สุด แล้วชาวต่างชาติคนนั้นก็ชี้มาที่ภาพถ่ายดอกชบาของเรา ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราพอใจแล้ว มันเหมือนเราไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการสื่อสารผลงาน เพื่อเป็นตัวแทนให้ใครอีกหลายคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน และทำให้เขาเข้าใจความหมายของมันได้ในทันที

สิ่งที่เราได้มากที่สุดจากโครงการรางวัลยุวศิลปินไทยหรือ Young Thai Artist Award คือพื้นที่สำหรับแสดงผลงาน แม้ในปัจจุบันจะมีแกลเลอรีใหม่ๆ เกิดขึ้นทั่วประเทศ แต่ศิลปินหลายคนก็ยังไม่ได้โอกาสแสดงฝีมือ เวทีนี้จึงเป็นใบเบิกทางช่วยเปิดโอกาสให้คนแบบเราได้เริ่มต้นสร้างงานศิลปะออกมา

รูปที่ 1 ดอกชบาจากเขตบางแค (Hibiscus from Bang Khae District)

รูปที่ 2 ดอกชบาจากเขตจตุจักร (Hibiscus from Chatuchak District)

รูปที่ 3 ดอกชบาจากเขตตลิ่งชัน (Hibiscus from Taling Chan District)

รูปที่ 4 ดอกชบาจากเขตศาลายา (Hibiscus from Salaya District)

รูปที่ 5 ดอกชบาจากเขตบางบอน (Hibiscus from Bang Bon District)

รูปที่ 6 ดอกชบาจากเขตบางขุนเทียน (Hibiscus from Bang Khun Thian District)

รูปที่ 7 ดอกชบาจากเขตยานนาวา (Hibiscus from Yan Nawa District)

รูปที่ 8 ดอกชบาจากเขตปทุมวัน (Hibiscus from Pathum Wan District)

หากคุณอายุ 18 – 25 ปีแล้วสนใจ ขอบอกว่าโครงการรางวัลยุวศิลปินไทยหรือ Young Thai Artist Award โดยมูลนิธิเอสซีจีประจำปีนี้กำลังเปิดรับผลงานแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงช่วงปลายกรกฎาคม มีทั้งหมด 6 สาขา ประกอบด้วย สาขาศิลปะ 2 มิติ สาขาศิลปะ 3 มิติ สาขาการประพันธ์ดนตรี สาขาวรรณกรรม สาขาภาพยนตร์ และสาขาภาพถ่าย แต่ละสาขามีเงื่อนไขและวันเปิด-ปิดรับสมัครแตกต่างกัน เข้าไปดูรายละเอียดในเพจเฟซบุ๊กได้เลย

ดาวน์โหลดใบสมัครที่นี่

Facebook : YoungThaiArtistAward

Writer

Avatar

นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์

'ดอกไม้' คือสิ่งที่มอบความรู้สึกพิเศษมาตั้งแต่จำความได้ ทุกวันนี้เป็นพนักงานออฟฟิศที่ตั้งใจหาเงินเพื่อซื้อดอกไม้มาสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านการถ่ายภาพ IG @naraphat_s