เวลาเราพูดถึงธุรกิจครอบครัว เรามักจะนิยามว่าเป็นธุรกิจที่มีคนหลายคนจากครอบครัวเดียวกันเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นอย่างเดียว หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงาน บริหาร หรือตรวจสอบควบคุมการดำเนินกิจการด้วยก็ได้

และต้องเป็นธุรกิจที่มีการส่งต่อจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง โดยการส่งต่อนี้อาจเกิดขึ้นไปแล้วในอดีตหรือมีแผนการที่จะส่งต่อในอนาคต

ดังนั้น บทบาทสำคัญของครอบครัวธุรกิจ คือการรักษาธุรกิจเพื่อส่งต่อให้ทายาทรุ่นต่อไป

ตัวอย่างของครอบครัวธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับบทบาทนี้อย่างมากคือครอบครัว Stern เจ้าของกิจการ ‘Patek Philippe’ ธุรกิจครอบครัวแห่งสุดท้ายในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสนั่นเอง

Patek Philippe ธุรกิจครอบครัวที่อยู่มา 180 กว่าปี แม้คนทำไม่ใช่คนในครอบครัวผู้ก่อตั้ง

ตระกูลผู้ก่อตั้ง

ธุรกิจนาฬิกา Patek Philippe ก่อตั้งในปี 1839 ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย Antoni Norbert Patek และ Franciszek Czapek เมื่อแรกเริ่มนั้นเป็นบริษัทผลิตนาฬิกาพกที่มีชื่อว่า ‘Patek, Czapek & Cie’

เมื่อธุรกิจดำเนินมาได้เพียงแค่ 6 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งคู่ก็เกิดขัดแย้งกันขึ้นมาจน Czapek แยกตัวออกไปตั้งบริษัทใหม่ ส่วน Patek ก็ได้ Adrien Philippe มาร่วมธุรกิจด้วย และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘Patek, Philippe & Cie’ ในปี 1851

ซึ่งภายหลังจากที่ Antoni Patek และ Adrien Philippe เสียชีวิต กิจการสืบต่อไปยังลูกชายและลูกเขยของ Adrien

ธุรกิจดำเนินต่อไปจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์วิกฤตตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกตกต่ำในปี 1929 ซึ่งทำให้ความต้องการนาฬิกาหรูตกฮวบ ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าไม่มีเงินจ่าย

Patek Philippe จึงตัดสินใจขายธุรกิจให้ Charles และ Jean Stern พี่น้องเจ้าของธุรกิจผลิตลานนาฬิกา Stern Frères ที่เป็นซัพพลายเออร์ของ Patek Philippe มาเป็นเวลานาน

ถือเป็นจุดเริ่มต้องของกิจการ Patek Philippe ภายใต้การบริหารของตระกูล Stern ที่สืบทอดมาจนถึงรุ่นสี่ในปัจจุบัน 

Patek Philippe ธุรกิจครอบครัวที่อยู่มา 180 กว่าปี แม้คนทำไม่ใช่คนในครอบครัวผู้ก่อตั้ง

สู่ตระกูลผู้สืบทอด

ธุรกิจนาฬิกา Patek Philippe ภายใต้การบริหารของตระกูล Stern เติบโตมากในรุ่นสองที่นำโดย Henri Stern ลูกชายของ Charles

เดิมทีเดียวนั้น Henri ทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตลานนาฬิกาของครอบครัว แต่เขาขอย้ายตัวเองไปเมืองเจนีวาเพื่อทำงานที่โรงงาน Patek Philippe

Henri ยังเป็นผู้นำของกิจการ Patek Philippe Incorporated of America ซึ่งทำให้เขาเข้าใจตลาดอเมริกาอย่างลึกซึ้ง ต่อมาในปี 1946 เขาตั้งธุรกิจ Henri Stern Watch Agency ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นบริษัทส่วนตัวของเขาเอง เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาในสหรัฐอเมริกา

ความสำเร็จของเขาในการขยายตลาดในสหรัฐฯ Henri ทำให้เขาได้รับแต่งตั้งเป็น President ของกิจการ Patek Philippe ในปี 1958

Patek Philippe ธุรกิจครอบครัวที่อยู่มา 180 กว่าปี แม้คนทำไม่ใช่คนในครอบครัวผู้ก่อตั้ง

ในปี 1977 Henri ส่งต่อธุรกิจให้ Philippe Stern ทายาทรุ่นสาม ลูกชายของเขา ซึ่ง Philippe ก็ทำให้ธุรกิจครอบครัวประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก

ผลงานชิ้นโบแดงของ Philippe คือการทำให้นาฬิการุ่น ‘Nautilus’ ประสบความสำเร็จจนเป็นนาฬิกาที่โด่งดัง หายาก และราคาสูงมาก ทั้ง ๆ ที่เมื่อ Nautilus ออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 1976 นั้นไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากมายแต่อย่างใด

ส่วนผู้นำธุรกิจรุ่นปัจจุบันคือ Thierry Stern ทายาทรุ่นสี่ ลูกชายของ Philippe เขาเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจนาฬิกาตั้งแต่เด็กจากการสนทนาบนโต๊ะอาหารระหว่างปู่และพ่อของเขากับตัวแทนจำหน่ายและเพื่อนฝูง หลังจากทำงานในธุรกิจครอบครัวมาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาได้ขึ้นเป็น President ของบริษัทในปี 2009

Patek Philippe ธุรกิจครอบครัวที่อยู่มา 180 กว่าปี แม้คนทำไม่ใช่คนในครอบครัวผู้ก่อตั้ง

ครอบครัวในธุรกิจครอบครัว

Philippe ทายาทรุ่นสามกล่าวไว้ว่า “ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ถ้าเราขายธุรกิจ เราก็จะเปล่าเปลี่ยว” จึงไม่น่าแปลกใจว่าครอบครัว Stern ไม่เคยมีแผนขายธุรกิจแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับคำพูดของ Thierry ทายาทรุ่นสี่ที่ว่า ถึงแม้การขายธุรกิจไปจะทำให้ครอบครัวได้เงินมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุขขึ้น เพราะพวกเขาต้องเสียธุรกิจไป ซึ่งการทำธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่พวกเขารัก

การที่ครอบครัว Stern มองว่าครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนั้น ทำให้สมาชิกครอบครัวเข้าไปร่วมเกี่ยวข้องกับธุรกิจในทุกขั้นตอน ไม่ได้เป็นแค่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารเท่านั้น

เช่น Sandrine ภรรยาของ Thierry ก็ทำงานที่ Patek Philippe มาตั้งแต่ปี 1996 โดยดูแลกิจการด้านนาฬิกาสำหรับผู้หญิง หรือน้องสาวของ Thierry ก็บริหารร้านหลักของธุรกิจในเมืองเจนีวา

Patek Philippe ธุรกิจครอบครัวที่อยู่มา 180 กว่าปี แม้คนทำไม่ใช่คนในครอบครัวผู้ก่อตั้ง

การสร้างนวัตกรรมคือธรรมเนียมปฏิบัติ

ถึงแม้ว่าธุรกิจนาฬิกา Patek Philippe จะอยู่ภายใต้การบริหารของตระกูล Stern มา 4 รุ่น รวมเวลาเกือบ 100 ปีแล้ว แต่ทายาทครอบครัวก็ยังคงชื่อแบรนด์ไว้เช่นเดิมตลอดมา

นอกจากชื่อแบรนด์แล้ว สิ่งสำคัญที่ตระกูล Stern ยังคงรักษาและสืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน ก็คือกรรมวิธีการผลิตของ Patek ที่ใช้ช่างฝีมือที่ใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอน

แม้แต่ในปัจจุบันนี้ Thierry ยังเป็นคนตรวจสอบนาฬิกาที่ตีบอกเวลาด้วยเสียงหรือ Minute Repeater ทุกเรือนก่อนออกจากโรงงาน เช่นเดียวกับที่ Henri และ Philippe ปู่และพ่อของเขาเคยทำมาในอดีต

อย่างไรก็ตาม การรักษาธรรมเนียมปฏิบัติเดิมนี้ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจไม่มีนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

ในทางตรงกันข้าม การสร้างนวัตกรรมถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาในกิจการ Patek Philippe ดังคำกล่าวของ Thierry ที่ว่า “Being innovative is a tradition.”

ตัวอย่างเช่น Philippe Stern ริเริ่มนำซิลิคอนมาใช้ในส่วนประกอบของนาฬิกา 

หรืออย่าง Thierry เองที่ถึงแม้ว่านาฬิกา Patek Philippe เรือนแรกที่เขาได้รับเมื่อเขาอายุ 20 ปีจะเป็นรุ่น Nautilus สายโลหะ แต่เมื่อเขาเข้ามาบริหารธุรกิจ เขาก็ไม่ได้ลังเลที่จะเริ่มผลิตนาฬิการุ่น ‘Aquanaut’ ที่มีสายทำด้วยยาง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมไม่แพ้รุ่น Nautilus

ธุรกิจครอบครัวสุดท้ายในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ ยึดมั่นในหลักการจนเป็นแบรนด์นาฬิกา 180 กว่าปีที่มีแต่คนนับถือ

คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

Patek Philippe ยึดหลักว่า สินค้าแบรนด์หรูต้องไม่ไขว้เขวไปตามความต้องการของลูกค้าที่สูงขึ้น เพราะการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มหรือการให้ใบอนุญาตจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น จะทำให้มูลค่าของแบรนด์ลดลง เรียกกันว่า Brand Dilution

Patek Philippe จึงเน้นการเติบโตของมูลค่ามากกว่าการเติบโตของปริมาณ โดยจำกัดการขายต่อปี รวมถึงพยายามป้องกันการซื้อนาฬิกาไปขายในตลาดมือสองที่มีราคาสูงกว่ามาก ถ้าหากทราบว่าผู้แทนจำหน่ายรายใดขายนาฬิกาให้กับลูกค้าที่ตั้งใจเอาไปขายต่อ Patek Philippe จะยุติการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายรายนั้น

แต่การจำกัดปริมาณการผลิตก็มีข้อเสีย เพราะทำให้แบรนด์เข้าถึงผู้คนน้อย คนทั่วไปอาจไม่รู้จักแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ก็แก้ปัญหานี้โดยการเปิดพิพิธภัณฑ์ขึ้นในปี 2001

พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงประวัติอันยาวนานของศาสตร์ในการทำนาฬิกาของ Patek Philippe ให้สาธารณชนรับทราบ ทำให้แบรนด์เข้าถึงคนจำนวนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความพิเศษในการเป็นเจ้าของนาฬิกา Patek Philippe ในกลุ่มคนเฉพาะที่มีจำนวนจำกัดไว้ได้

ธุรกิจครอบครัวสุดท้ายในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ ยึดมั่นในหลักการจนเป็นแบรนด์นาฬิกา 180 กว่าปีที่มีแต่คนนับถือ

เมื่อบทบาทของครอบครัวคือการรักษาธุรกิจเพื่อส่งต่อ

ครอบครัว Stern ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้ง Patek Philippe และไม่เคยพยายามจะเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นชื่อของตระกูลตนเอง 

พวกเขามองบทบาทของตนว่าเป็นเพียงผู้รักษาแบรนด์ หรือ ‘Brand Guardian’ เท่านั้น

ดังที่ Philippe Stern กล่าวไว้ว่า “เราไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจครอบครัว เราเป็นแค่ผู้รักษาธุรกิจ”

การให้ความสำคัญอย่างมากกับบทบาทนี้ สะท้อนให้เห็นจากทุกแง่มุมในการดำเนินธุรกิจของตระกูล Stern

เช่น โฆษณาของบริษัท Patek Philippe ที่นำเสนอบทสนทนากับสมาชิกครอบครัว Stern โดยเน้นความผูกพันและรากเหง้าของครอบครัวกับธุรกิจที่มีมายาวนานเกือบ 100 ปี และใช้สมาชิกครอบครัว 2 รุ่นเพื่อแสดงให้เห็นความต่อเนื่อง

หรือการสื่อสารกับลูกค้าด้วยคำขวัญที่ว่า “You never actually own a Patek Philippe. You merely look after it for the next generation.” ซึ่งแปลว่า ตัวลูกค้าเองก็ไม่ได้เป็นเจ้าของนาฬิกา Patek Philippe หรอก แต่เป็นเพียงคนดูแลรักษานาฬิกานี้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป

และยิ่งไปกว่านั้น สำหรับครอบครัว Stern เองแล้ว Thierry ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในครอบครัวของเรา เราไม่เพียงแค่ส่งต่อนาฬิกาให้ทายาทรุ่นต่อไปเท่านั้น แต่เราส่งต่อธุรกิจทั้งหมดให้พวกเขา” ซึ่งครอบครัว Stern ทำหน้าที่ในการรักษาธุรกิจเพื่อส่งต่อนี้ได้เป็นอย่างดี

โดยการรักษาคุณภาพของสินค้าและเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ การไม่หยุดสร้างสรรค์นวัตกรรม และที่สำคัญคือการบ่มเพาะความผูกพันต่อธุรกิจให้แก่สมาชิกครอบครัว

ธุรกิจครอบครัวสุดท้ายในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ ยึดมั่นในหลักการจนเป็นแบรนด์นาฬิกา 180 กว่าปีที่มีแต่คนนับถือ
ข้อมูลอ้างอิง
  • Schwass, Joachim and Anne-Catrin Glemser, Wise Family Business: Family Identity Steering Brand Success (IMD), Palgrave Macmillan, 2016.
  • “The History of Patek Philippe from 1839 Until Today…” www.patek.com/en/company/history#1839-1877
  • “Patek Philippe: a family-owned company that has existed for generations” www.lgt.com/global-en/market-assessments/insights
  • “How a family can guard a luxury brand” www.imd.org/research-knowledge/articles
  • “CEO Thierry Stern On Why Patek Philippe Will Stay Family-Owned” www.forbes.com/sites/christianbarker
  • “Patek Philippe Commands the Future” www.nytimes.com/2020/01/12/style
  • www.scmp.com/magazines/style/watches/article
  • www.bialczynski.pl/2016/10/11
  • www.lgt.com/global-en/market-assessments/insights
  • www.patekmagazine.com/2011/05
  • www.nytimes.com/2020/01/12/style
  • www.thejewelleryeditor.com/images
  • www.patek.com
  • www.swisswatches-magazine.com/blog
  • www.revolutionwatch.com

Writer

Avatar

ดร.กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ University of California, San Diego นักวิชาการผู้หลงใหลเรื่องราวจากโลกอดีต รักการเดินทางสำรวจโลกปัจจุบัน และสนใจวิถีชีวิตของผู้คนในโลกอนาคต