ดร.ภากร ปีตธวัชชัย คือกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เพิ่งรับตำแหน่งในวาระที่สองเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ในวาระแรก The Cloud เคยชวนเขาคุยเรื่องเส้นทางชีวิตจากเด็กวิศวะ (ที่เกือบจะเลือกเรียนสถาปัตย์) มาสู่เส้นทางการเงินการลงทุน จนกลายมาเป็นผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ และบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในวันนั้น

รอบนี้ เรากลับมาคุยกับเขาอีกครั้งเรื่องวิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ที่ว่า To Make the Capital Market “Work” for Everyone กับงานมากมายที่ทำให้ตลาดแห่งนี้ตอบโจทย์ความต้องการของคนตัวเล็ก ทั้งนักลงทุนและผู้ระดมทุน จนเกิดแพลตฟอร์มใหม่ LiVE เพื่อใช้ระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีลักษณะเฉพาะตัวอย่าง Startup และ SMEs

นั่นคือบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ที่เราอาจนึกไม่ถึง

และอีกเรื่องที่เราอยากชวนเขาคุยก็คือ การรับตำแหน่งผู้บริหารองค์กรที่มีลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้ เขามีหลักคิดในการบริหารงานอย่างไร

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน

งานในฝันของคุณคือสถาปนิก มันเหมือนกับงานบริหารตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันของคุณยังไง

มันเป็นงานออกแบบ ทำพิมพ์เขียวเหมือนกัน ทำพิมพ์เขียวให้ปัจจุบันใช้งานได้ดีและขยายต่อได้ในอนาคต ผมมักจะวาดรูปหนึ่งให้น้อง ๆ ในทีม บอกว่าตอนนี้ธุรกิจเรามีอะไรบ้าง แล้วอีกสองสามปีคุณจะต่อมันออกไปยังไง พิมพ์เขียวอันนี้สำคัญว่าจะต่อยอดจากของเก่าหรือทำใหม่ จะมาเสริมกับรูปเดิมให้ใหญ่ขึ้นสวยขึ้นได้ยังไง ถ้าพิมพ์เขียวไม่ดีโอกาสขยายต่อก็ยาก

การอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารที่มีวาระมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง

ข้อดีคือ เราต้องมีความชัดเจนในการวางนโยบายขององค์กรให้พัฒนาได้ภายในเวลาที่สั้น เราต้องแสดงให้เห็นว่า มีกลยุทธ์มีวิธีการที่จะทำให้ประสบความสำเร็จภายในเวลา แล้วต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดีว่าอะไรคือความสำเร็จระยะสั้น อะไรคือแผนระยะยาว ข้อเสียคือ แผนระยะยาวอาจถูกลดความสำคัญลง ไปเน้นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้เร็ว

ผมพยายามบาลานซ์สิ่งนี้ตลอด เวลาวางแผนผมจะมีสิ่งที่เรียกว่า Low-hanging Fruit คือความสำเร็จที่เก็บเกี่ยวได้เร็ว กับสิ่งที่ผมเรียกว่า Home Run คือความสำเร็จในระยะยาวที่แม้ผมไม่อยู่แล้วแต่ก็เป็นประโยชน์กับทั้งองค์กรและอุตสาหกรรม

ความรู้สึกตอนรับตำแหน่งวาระสองต่างจากวาระหนึ่งไหม

โล่งใจขึ้นเยอะ (หัวเราะ) แปลว่าอย่างน้อยคุณทำอะไรประสบความสำเร็จพอที่คณะกรรมการของเราเห็น จึงให้โอกาสเราทำตรงนี้ต่อ ทำให้เราสบายใจว่าเรามาถูกทางแล้ว การได้ทำต่อก็ดีตรงยังมีงานบางอย่างที่ยังไม่เสร็จ ตอนหมดวาระเทอมหนึ่งผมเตรียมตัวส่งต่อเรียบร้อยแล้วว่า คนที่จะมารับหน้าที่มีอะไรที่ต้องทำต่อบ้าง อะไรคือ Cash Cow ที่จะสร้างกำไรสร้างความสำเร็จให้คุณอย่างต่อเนื่อง และอะไรคือ Home Run ของคุณ เช่น การทำให้ตลาดทุนเป็นที่ที่คนตัวเล็กเข้าถึงได้ทั้งนักลงทุนและผู้ระดมทุน ทำให้ตลาดไทยเป็นที่ซึ่งนักลงทุนต่างชาติเข้ามาระดมทุน และทำให้ตลาดไทยมีผลิตภัณฑ์การระดมทุนแบบเดิมและแบบดิจิทัล สามเรื่องนี้ไม่ได้สำเร็จเร็วต้องทำต่อไป

ตลาดหลักทรัพย์มีรูปแบบงานที่หลากหลายมาก ตัวองค์กรเองก็เป็นกึ่งเอกชนกึ่งรัฐ ผู้บริหารที่นี่ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน

คุณ คนเก่งทุกอย่างหายากนะ ผมใช้หลักการสร้างทีม เราจะมีคนเก่งหลาย ๆ ด้านมารวมกันเป็นทีม เราเรียกว่า Management Comittee ช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจ แล้วผมก็อยากให้คนเก่งถ่ายทอดความเก่งของเขาให้คนอื่นด้วย สิ่งสำคัญคือการฟังและคิดร่วมกัน พอคนเก่งด้านต่าง ๆ มารวมกันและฟังกัน เราจะรู้ว่าเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ต่อให้บางเรื่องที่เราเก่ง เราก็อาจจะไม่เคยคิดแบบนี้ เพราะวิธีคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ผู้บริหารแต่ละหน่วยต้องคุยข้ามกำแพงกันได้ เพื่อให้พร้อมปรับตัวตลอด ถ้าเกิดปัญหาเราจะปรับตัวได้เร็วถ้าเราเป็นทีม ถ้าเป็นคนเดียวนะคุณ ไม่มีทาง เพราะเราจะคิดแต่เรื่องงานปฏิบัติการของตัวเอง

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน

หลายคนมองว่า การเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นหมุดหมายความสำเร็จใหญ่ของธุรกิจ คุณเห็นด้วยไหม

ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้าคุณเป็นบริษัทที่เข้ามาเพื่อระดมทุนเพิ่ม เพื่อขยายกิจการ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ลงทุนมากขึ้น และมีการทำเรื่องธรรมาภิบาลให้มากขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้าเข้ามาเพื่อขายกิจการหรือ Exit นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเข้ามาจดทะเบียน นี่เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก เราพยายามตรวจสอบเต็มที่ พยายามปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ แต่ถามว่ามีไหมก็มี เพราะบางคนเข้ามาแล้วก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูด เราต้องดูกันต่อว่าในอนาคตจะมีวิธีติดตามที่เข้มงวดขึ้นหรือการคัดออกอย่างไร

อะไรทำให้ช่วงนี้ตลาดหลักทรัพย์ให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็กเป็นพิเศษ

ตลาดหลักทรัพย์มีวิสัยทัศน์ว่า To Make the Capital Market “Work” for Everyone คุณเคยได้ยินหนังสือเรื่อง Capital in The Twenty-first Century ของ โทมัส พิเก็ตตี ไหม จากข้อมูลบอกเราว่า ไม่มีทางเลยที่ผลตอบแทนของแรงงานจะตามผลตอบแทนของตลาดทุนทัน ถ้าเราไม่สามารถทำให้คนตัวเล็กเข้าถึงตลาดทุนได้ ความไม่เสมอภาคทางรายได้จะยิ่งห่างขึ้น พวกเรามีแต่เงินเดือน ไปทำธุรกิจแข่งกับบริษัทใหญ่คงยาก วิธีที่คุณทำได้เหมือนเขาก็คือ ซื้อหุ้นบริษัทเขา คุณก็จะได้ผลตอบแทนเหมือนบริษัทนั้น ตลาดทุนมีประโยชน์กว่าที่พวกเราคิดเยอะ ทำให้คนตัวเล็กเป็นเจ้าของกิจการได้เหมือนคนตัวใหญ่

เมื่อก่อนตลาดฯ คือพื้นที่ของบริษัทใหญ่ สำหรับคนมีเงิน หุ้นปูนฯ ราคาสองสามร้อยบาท ต้องซื้ออย่างต่ำร้อยหุ้น กว่าจะได้หุ้นปูนต้องใช้เงินเยอะนะ ในขณะที่คุณซื้อกองทุนรวมได้ตั้งแต่ห้าสิบบาทร้อยบาท ในอนาคตเราจะทำให้นักลงทุนซื้อหุ้นได้เป็นตัว ๆ ด้วยซ้ำ หรือมีเงินสองสามร้อยบาทก็ซื้อได้

แล้วก็ยังเปิดกระดาน LiVE ให้ธุรกิจแบบ Startup หรือ SMEs เข้าไประดมทุน กระดานนี้ต่างจาก SET และ mai ยังไง

ถ้าเราตั้งโจทย์ว่าต้องการทำให้ตลาดทุนทำงานให้ทุกคน ก็ต้องมาทำกับธุรกิจเล็ก ๆ เมื่อก่อนบริษัทที่จะเข้ามาระดมทุนได้ต้องมีขนาดเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ ตอนนี้เราออกแพลตฟอร์ม LiVE มาสำหรับ Startup SMEs เรามีโปรแกรมบ่มเพาะ มี Mentorship Program มีระบบให้คุณทำ Due Diligence (การตรวจสอบประเมินทรัพย์สิน หนี้สิน) ระหว่างนักลงทุนกับบริษัทได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คุณระดมทุนง่ายขึ้น

ตลาด Private Equity กับ Venture Capital ในเมืองไทยไม่ได้โตมาก มี Angel Investor เยอะก็จริง แต่ทำมาเป็นสิบปีก็ยังไม่เกิด เราอยากให้ LiVE เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยระดมทุน PE หรือ VC ก็เข้ามาใช้ได้ นอกจากเสนอขายให้นักลงทุนรายย่อยแล้ว นักลงทุนสถาบันก็ซื้อไปทำเป็นกองทุนรวมขายรายย่อยได้ นี่คือสิ่งที่ตลาดทุนสร้างประโยชน์ให้ Real Sector กับเศรษฐกิจของประเทศ

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน

การลงทุนใน SET กับ LiVE ใช้หลักคิดชุดเดียวกันไหม

เป็นคำถามที่ดีมาก Startup นี่ Evaluate ยากมากนะ คุณต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ถ้าจะลงทุนใน Startup คุณต้องเห็นข้อมูล ต้องรู้ว่าเขาทำอะไร และต้องยอมรับความเสี่ยง ดูแค่สตอรี่ไม่พอ แพลตฟอร์มนี้ทำให้คุณเข้าไปดูข้อมูลสำคัญของเขาได้ อย่างน้อยก็เห็นว่า Cash Flow วิ่งยังไง ผมพยายามสนับสนุนให้กองทุนรวมเข้ามาซื้อหุ้นบริษัท Startup แล้วตั้งเป็นกองทุนเอาไปขายนักลงทุนรายย่อยต่อ นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับรายย่อยในการซื้อบริษัท Startup เพราะต้องการความหลากหลาย Startup 80-90 เปอร์เซ็นต์ อาจไปต่อไม่ได้ แต่ 10 เปอร์เซ็นต์ที่รอด ผลตอบแทนมันมหาศาล อาจจะ 20X หรือ 200X เอามาทดแทนบริษัทที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คุณเห็นการเข้าตลาดฯ ของบริษัทไหนที่น่าสนใจบ้าง

หลายเคสเลยครับ ที่ผมดีใจมาก ๆ คือ เคสที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของไทยแต่ใช้เทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การทำกลิ่นอาหาร ซึ่งสังเคราะห์จากแล็บออกมาให้เหมือนกลิ่นต่าง ๆ แล้วเอาไปเติมในอาหาร นี่คือมูลค่าเพิ่มของประเทศไทย จุดแข็งของเราคือทุกอย่างที่เป็น Well-being คนมักจะพูดว่า ธุรกิจพวกนี้มันน่าเบื่อ แต่มันเป็นจุดแข็งของเรา ทำไมไม่พยายามทำให้มันดีขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้ล่ะ

อย่างบริษัทผลิตอาหารคน ก็ขยายมาผลิตอาหารแมวอาหารหมาจนมูลค่าบริษัทลูกโตกว่าบริษัทแม่แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมเห็นแล้วมีความสุข เขาสร้างมูลค่าเพิ่มจากจุดแข็งที่มี แก้กระบวนการ ใส่เทคโนโลยี เปลี่ยนลูกค้า เปลี่ยนพื้นที่ ตรงนี้จะเป็นฐานให้คุณสร้างธุรกิจ S-curve ต่อได้ เราทำเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หรอก ต้องต่อยอดสร้างสิ่งใหม่ ๆ

ฟินเทคทำให้เราลงทุนในกองทุน คริปโต แม้กระทั่งทองได้ง่ายขึ้น มันทำให้คนรุ่นใหม่สนใจลงทุนในหุ้นน้อยลงไหม

คนทุกรุ่นมีวิธีคิดไม่เหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างคือ Asset Allocation คนกลุ่มไหนชอบสินทรัพย์แบบไหนผมบอกไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าวิธีที่เขาจะตัดสินใจลงทุนได้ครบถ้วนคือมีทางเลือก มีความหลากหลาย เพราะแต่ละคนรับความเสี่ยง และต้องการผลตอบแทนไม่เท่ากัน ถ้าคุณกระจายความเสี่ยง แล้วเลือกสัดส่วนให้เหมาะสม คุณจะได้ประโยชน์จากตรงนั้นมากกว่า ตลาดฯ บอกไม่ได้หรอกว่าคุณควรจะลงในอะไร นักลงทุนควรจะปรึกษา Financial Advisor ส่วนเราก็ควรมีทางเลือกให้

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย เปิดตลาดหลักทรัพย์ให้ Startup เข้ามาระดมทุน และคนตัวเล็กมาใช้งาน

การลงทุนที่คนไทยคุ้นเคยที่สุดคือลอตเตอรี่…

สำหรับผมลอตเตอรี่ไม่ใช่งานลงทุนนะ TFEX (ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า) ก็ไม่ใช่ มันเป็นการเก็งกำไร คริปโตก็ไม่ใช่ เพราะไม่มีอะไรจะบอกได้ว่า ความสามารถในการทำกำไรของมันคืออะไร แต่การลงทุนในหุ้นคุณเข้าไปดูบริษัทจดทะเบียนที่คุณซื้อหุ้นได้ เห็นสตอรี่ เห็นตัวเลข ผมว่ามันไม่เหมือนกัน

ถ้าอยากชวนคนเปลี่ยนจากการซื้อลอตเตอรี่มาซื้อหุ้นมากขึ้น เราต้องให้ข้อมูลอะไร

มันเป็นเรื่องที่เปลี่ยนใจกันยาก บางคนอยากรวยเร็ว หรือฝันว่าถ้าถูกลอตเตอรี่จะเอาเงินไปทำอะไร ตอนนี้ลอตเตอรี่ได้รับความนิยมมากเพราะแอปฯ เป๋าตังค์ เมื่อวานพ่อผมยังถามเลยว่าจะลงแอปฯ ยังไง พ่ออยากเล่นบ้าง ผมฟังแล้วหัวเราะเลย คำตอบของผมเหมือนเดิมคือ คุณต้องมีทางเลือกเยอะ ๆ มีความเสี่ยง มีผลตอบแทนที่ต่างกัน ตั้งแต่ลอตเตอรี่ คริปโต TFEX หุ้น ไปจนถึงตราสารหนี้ มีทางเลือกให้หมด แล้วทำให้ทุกอย่างซื้อง่าย

ผมว่ามี 3 เหตุผลที่ทำให้คนชอบลงทุนในคริปโตคือ หนึ่ง ง่าย เปิดบัญชีได้ใน 2 นาที สอง ซื้อขายได้ตลอดเวลา สาม ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ผมถึงพยายามทำให้การซื้อหุ้นง่ายขึ้น ทำให้ลงทุนด้วยเงินที่น้อยลงได้ เข้าถึงระบบซื้อขายง่าย ตอนนี้เราขยายเวลาซื้อขายมากขึ้น พวก Fractional DR (ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ) ซึ่งอิงกับหุ้นต่างประเทศ เราก็เปิดให้ซื้อขายตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ สิ่งที่สำคัญในอนาคตคือการเข้าถึงการลงทุนทุกประเภท คุณห้ามไม่ให้เขาลงทุนบางแบบไม่ได้หรอก แต่เราต้องมีทางเลือก ต่อไปในมือถือคุณต้องซื้อได้ทั้งลอตเตอรี่ คริปโต หุ้นต่างประเทศ ให้คนได้เลือก นี่คือสิ่งที่ควรจะทำ

เราควรวัดความสำเร็จของตลาดหลักทรัพย์จากอะไรดี

เรามี KPI หลายอย่างทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เช่น เราอยากให้มีบัญชีนักลงทุนเยอะขึ้น แต่ต้องดูว่าเขาเข้ามาลงทุนต่อเนื่องหรือเปล่า เราใช้คำว่า ‘ต่อเนื่อง’ เพื่อดูว่าเขาขาดทุนหรือเปล่า เราพบว่าอัตรา Exit ของนักลงทุนไทยในปีแรกคือ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงมาก ความรู้ทางการเงินจึงสำคัญมาก เราต้องวิเคราะห์ว่า นักลงทุนที่เข้ามามีกี่แบบ แต่ละแบบมีอัตรา Exit เป็นยังไง สิ่งที่แต่ละกลุ่มต้องการคืออะไร แล้วเราจะจัดโปรแกรมร่วมกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือจัดอบรมเองให้กับนักลงทุนเหล่านี้ แล้วก็ยังดูพวกมูลค่าการ IPO หรือ Secondary Offering ในแต่ละปี สภาพคล่องเป็นยังไง Market Cap โตแค่ไหน

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กับงานบริหารตลาดหลักทรัพย์วาระสอง และภารกิจปรับตลาดให้คนตัวเล็กทั้งนักธุรกิจและนักลงทุนเข้ามาใช้งาน

ช่วงปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกทรง ๆ ทรุด ๆ เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ยังไง

ต้องบอกว่า 3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต เจอทั้งโควิด สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าต่าง ๆ ขึ้น ดอกเบี้ยก็กำลังจะขึ้น แล้วก็ยังมีเรื่องสหรัฐกับจีนทำให้เราส่งออกได้ไม่เต็มที่ เป็นวิกฤตที่มีปัจจัยเข้ามาชนกันหลายอันมากเป็น Perfect Storm เลยคุณ

คุณจะสังเกตว่าประเทศที่ฟื้นตัวก่อนคือพวกโรงงานอุตสาหกรรมหรือไอที เช่น สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ฟื้นตัวเร็วมากใน 2 ปีแรก แล้วปีนี้ตกลงมา เวียดนามตก 30 เปอร์เซ็นต์ สหรัฐฯ ตก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไทยไม่ได้ฟื้นตัวเร็วนัก แต่อาจจะตกไป 5 ขึ้นมา 2 นี่คือความแตกต่างของพื้นฐานแต่ละประเทศ

ตอนนี้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสูงกว่าช่วงโควิดแล้วนะ แต่อุตสาหกรรมที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวคือพวก Well-being เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามา เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวเข้ามา 40 ล้านคน ปีที่แล้วหลักแสน ปีนี้มี 10 ล้าน จุดนี้ผมมองว่า เรามีโอกาสเติบโตในปีหน้ามากกว่าประเทศอื่น นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกคาดการณ์ว่า ปีหน้าไทยจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่จะมีการเติบโตมากกว่าปีนี้ ปีหน้าเราน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ครับ

ทำไมคุณถึงชอบขับรถ

แก้เครียดได้นะ เวลาขับรถคุณต้องมีสมาธิมากโดยเฉพาะขับขึ้นเขา พวกผมที่ไปขับรถกันเราเครียดกว่าทำงานอีกนะ เพื่อนผมขับไปเช็ดเหงื่อที่มือไป เพราะเราตั้งใจกันมาก ห่วงทั้งตัวเองทั้งคนบนถนน มันทำให้เรามีสมาธิไม่คิดอะไร ได้ใช้สมองอีกด้าน ได้พักผ่อน คุณไปขับรถจะเห็นเลยว่าประเทศไทยน่าอยู่จริง ๆ ยิ่งภาคเหนือ แถวแพร่ น่าน เชียงราย พะเยา กับฝั่งแม่ฮ่องสอน ปาย

ทางเส้นโปรดของคุณคือ

จากน่านไปบ่อเกลือ แต่ที่จริงมันดีหมดเลยคุณ จากบ่อเกลือคุณไล่มาน่านไปพะเยา เข้าเชียงราย เข้าเชียงใหม่ สวยมาก ถนนทั้งคดเคี้ยวทั้งชัน อีกฝั่งหนึ่งที่ไปจากเชียงใหม่วิ่งขึ้นดอยอินทนนท์ไปลงปายเข้าแม่ฮ่องสอนก็สวย

ทำยังไงให้ไม่เมารถ

เออ แฟนผมเขาเก่งนะ เขาไม่มีปัญหาเรื่องเมารถเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม (หัวเราะ)

10 Things you never know

about Pakorn Peetathawatchai

1. อยากให้ลูกน้องเรียกคุณว่า

พี่ปุย

2. อะไรคือสิ่งที่คนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณ

คนมักจะมองว่าผมไม่ค่อยยิ้ม ผมดุ แต่ผมไม่ดุนะ (หัวเราะเสียงดัง)

3. ตื่นมาต้องตามข่าวอะไรเป็นอย่างแรก

ตัวเลขตลาดอเมริกา เพราะเป็นดัชนีสำคัญที่มีผลต่อตลาดเอเชีย แล้วก็มี ETF ของประเทศไทยตัวหนึ่งอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์กชื่อ THD เมื่อก่อนเป็นตัวชี้วัดที่ส่งผลต่อตลาดไทย เพราะบอกว่านักลงทุนกลุ่มสถาบันในอเมริกามองตลาดหุ้นไทยยังไง

4. วันที่เข้าออฟฟิศกินข้าวกลางวันที่ไหน

ที่ห้องทำงาน ส่วนใหญ่ผมจะทานคนเดียวเร็ว ๆ แล้วไปทำงาน ไปประชุมต่อ ผมเป็นอย่างนี้ตั้งแต่สมัยผมเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องเฝ้าหน้าจอ

5. ช่วงเวลาที่ชอบสุดในรอบวัน

สักทุ่มนึงถึงเที่ยงคืน ได้กลับไปพักผ่อนกับครอบครัว ได้คิดแบบไม่มีอคติ คุยกับคนที่บ้านซึ่งเขาไม่เกี่ยวกับงานเรา บางทีก็โดนดุว่าทำไมเราคิดแบบนี้ ทำให้รู้ตัว (หัวเราะ)

6. หนังเกี่ยวกับหุ้นที่ชอบสุด

GameStop ใน Netflix เป็นเรื่องของนักลงทุนรายย่อยที่ฟังการวิเคราะห์ของพอดแคสเตอร์คนหนึ่งแล้วรวมตัวกันทำให้ราคาในตลาดเปลี่ยน ซึ่งเมื่อก่อนมีแต่สถานบันการลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำได้ ดูแล้วรู้ว่าปัจจุบันมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวได้ซึ่งต่างจากอดีต

7. สถาปนิกคนโปรด

คุณพิเนต บุณยรัตพันธุ์ เขาเป็นเพื่อนผมที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน เขาออกแบบบ้านให้ผม

8. วิธีแก้เครียด

นอน กับ ตีกอล์ฟ

9. ถ้าได้พักร้อนหนึ่งเดือนคุณจะ

ขอให้ได้หยุดจริง ๆ ก่อนนะ แล้วผมจะมาตอบ (หัวเราะ)

10. ของที่อยากได้สุดตอนนี้

สิ่งที่ผมได้ทำน้อยมากช่วงที่ทำงานที่นี่คือ ซื้อของ ถ้าผมรีไทร์เมื่อไหร่ผมจะไปซื้อของที่อยากได้ แต่ขอไม่บอกว่าเป็นอะไร (หัวเราะ)

Writer

ทรงกลด บางยี่ขัน

ทรงกลด บางยี่ขัน

ตำแหน่งบรรณาธิการโดยอาชีพ เป็นนักเดินทางมือสมัครเล่น แบ่งเวลาไปสอนหนังสือโดยสมัครใจ และชอบจัดทริปให้คนสมัครไป

Photographer

Avatar

นินทร์ นรินทรกุล ณ อยุธยา

นินทร์ชอบถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ซื้อฟิล์มให้ไม่ยั้ง ตื่นเต้นกับเสียงชัตเตอร์เสมอต้นเสมอปลาย เพื่อนชอบชวนไปทะเล ไม่ใช่เพราะนินทร์น่าคบเพียงอย่างเดียวแน่นอน :)