‘อ้วยอัน’ เป็นภาษาจีนแปลว่า สะอาดและปลอดภัย

อ้วยอันโอสถ เป็นแบรนด์สมุนไพรที่อยากให้คนมีชีวิตที่ดี

จากร้านขายยาขนาด 2 คูหาที่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า โดยคุณปู่เสถียร สมบูรณ์เวชชการ หมอแมะจับชีพจรและจ่ายยาสมุนไพร มีชื่อเสียงเรื่องยาลูกกลอน เช่น ยาบรรเทาอาการริดสีดวงและยาแก้น้ำเหลืองเสีย ซึ่งยังมีขายอยู่ถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี 2529 คุณพ่อสิทธิชัย สมบูรณ์เวชชการ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สอง เข้ามารับช่วงต่อและขยายธุรกิจเปลี่ยนจากร้านขายยามาเป็นบริษัทอ้วยอันโอสถจำกัด โรงงานผู้ผลิตยาสมุนไพร หรือยาไทยที่มีชื่ออยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน พัฒนารูปแบบเป็นยาแคปซูล

ทายาทรุ่นสามอ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

นับจนถึงวันนี้ อ้วยอันโอสถ มีอายุ 72 ปี อยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นสาม ผู้พัฒนาและผลิตยาสมุนไพรใหม่ๆ ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคนี้ ไม่ใช่แค่ยาฟ้าทะลายโจรแก้หวัดหรือขมิ้นชันแก้ทองอืด แต่มียาที่ทำให้นอนหลับลึก ยาที่ช่วยแก้ปัญหาสายตา ยาที่คิดมาเพื่อให้นักวิ่งฟื้นตัวได้ดีขึ้น ยาสมุนไพรสำหรับเด็กที่ดี สะอาดและปลอดภัย เรื่อยมาถึงครีมบำรุงผิวจากขมิ้นนาโน

ต่อให้ไม่เคยรู้จักยาแคปซูลใดๆ ของอ้วยอันโอสถ คุณก็ต้องเคยกินหรือเห็นยาอมสมุนไพรแก้ไอ ตรามังกรทอง รสบ๊วยเค็ม รสมะนาว หรือรสเปลือกส้ม อย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง

ทายาทรุ่นสามอ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

The Cloud มีคอลัมน์ชื่อทายาทรุ่นสอง ที่พูดคุยกับทายาทธุรกิจครอบครัว ถึงการต่อยอดสร้างสรรค์ให้ธุรกิจยังคงดำรงอยู่และแข่งขันได้ในตลาด เพราะอยากเห็นธุรกิจสัญชาติไทยเติบโตยาวนาน 

บ่ายวันศุกร์ที่โรงงานย่านบางแค เรามีนัดกับทายาทรุ่นสามอ้วยอันโอสถ คุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ และคุณทานุ สมบูรณ์เวชชการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด พูดคุยเรื่องการรักษาจุดแข็งเรื่องการผลิตสมุนไพรสูตรต่างๆ และการปรับตัวตามวิธีคิดที่ทำให้สมุนไพรเป็นได้มากกว่าสมุนไพร 

“งานของเราคือคิดเสมอว่าสิ่งที่ทำตอบโจทย์วิถีชีวิตอย่างไร จะปรับบริการและคิดค้นยาสูตรใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอย่างไร” ทั้งสองช่วยกันเล่าเสริม

ชนรรค์และทานุทำได้อย่างไร มาฟังพร้อมกัน

ทายาทรุ่นสามอ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

ธุรกิจ : อ้วยอันโอสถ (พ.ศ. 2490)

ประเภท : โรงงานผลิตยาสมุนไพร

เจ้าของและผู้ก่อตั้ง : ท่านเสถียร สมบูรณ์เวชชการ 

ทายาทรุ่นที่สอง : คุณสิทธิชัย สมบูรณ์เวชชการ

ทายาทรุ่นที่สาม : คุณนิชา คุณชนรรค์ และคุณทานุ สมบูรณ์เวชชการ

โจทย์คือ นำความรู้ที่มีเปลี่ยนสมุนไพรให้น่าใช้

อ้วยอันโอสถ เป็นแบรนด์ยาสมุนไพรอายุกว่า 72 ปี ที่เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายยาเล็กๆ ที่ เชิงสะพานพุทธ โด่งดังเรื่องการรักษาด้วยวิธีแมะจับชีพจรและจ่ายยาลูกกลอนรักษาโรค 

“คุณพ่อเล่าว่า สมัยนั้นลูกทั้งแปดคนของอากงมีหน้าที่ช่วยกันปั้นและตากยาลูกกลอนกันจนเต็มลานบ้าน” ชนรรค์เป็นตัวแทนเล่าบรรยากาศธุรกิจครอบครัวเมื่อครั้งเริ่มต้น ต่อมาลูกๆ ทั้ง 8 คนต่างแยกย้ายไปทำธุรกิจที่สนใจ โดยบางส่วนเลือกเข้ามารับช่วงต่อหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาสมุนไพรและอาหารเสริมรวมกันเป็นบริษัทในเครือ หนึ่งในนั้นคือ คุณพ่อสิทธิชัย ซึ่งก่อตั้งบริษัทอ้วยอันโอสถ เมื่อ 33 ปีก่อน เพื่อผลิตยาสมุนไพรไทยในรูปแบบใหม่ๆ 

ภาพจำเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวของชนรรค์และทานุในวันนั้น พวกเขามีหน้าที่ช่วยงานพับกล่องในช่วงปิดเทอม ก่อนแยกย้ายไปเรียนต่อและเติบโตในต่างประเทศ 

ชนรรค์เลือกเรียนด้านวิทยาศาสตร์การอาหารที่สหรัฐอเมริกาที่เดียวกับพี่สาว (นิชา สมบูรณ์เวชชการ) ซึ่งเลือกเรียนด้านการเงิน หลังเรียนจบปริญญาตรีและโทด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ชนรรค์เข้าทำงานในบริษัท ฟรีสแลนด์คัมพินา (FrieslandCampina) บริษัทผลิตโปรตีนระดับโลกจากเนเธอแลนด์ เจ้าของแบรนด์โฟร์โมสต์ทั่วโลก ระยะหนึ่งก่อนกลับมาช่วยงานที่บ้านเต็มตัว

ขณะที่ทานุเลือกเรียนด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากจบไฮสคูลจากออสเตรเลีย จากนั้นเข้าทำงานในบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการตลาดกับสถาบันการเงินและหน่วยงานระดับชาติเป็นเวลา 3 ปี

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

แม้สามพี่น้องทายาทรุ่นสามจะร่ำเรียนมาในทางธุรกิจและเติบโตต่างแดน แต่พวกเขาก็ใกล้ชิดกับสมุนไพรกว่าคิด 

“เราโตมากับสมุนไพรนะ ไม่สบายก็กินฟ้าทะลายโจร ท้องอืดก็กินขมิ้นชัน งานของเราคือนำความรู้จากสิ่งที่เรียนมาใช้พัฒนาให้ยาสมุนไพรมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้บริโภคอยากใช้ และแม้จะคลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังต้องศึกษาหาองค์ความรู้เพิ่มเติม เพราะเราจะอยู่กับธุรกิจนี้อีกนาน ยิ่งเราเชี่ยวชาญมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งรักษาระดับความน่าเชื่อถือนี้” พี่ชายคนรองเล่า

วิธีขายงานพ่อแม่ นำเสนอข้อมูลให้ท่านเห็นเป็นภาพ

สถานการณ์ของอ้วยอันโอสถในช่วงปีแรกๆ ที่ชนรรค์กลับมาทำงานที่บ้าน เขาพบว่า หนึ่ง กระบวนการผลิตไม่ทันรับรองกับความต้องการ สอง อ้วยอันโอสถไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และสาม ถึงแม้ยอดขายจะอยู่ในระดับที่ดีแต่ไม่มีใครรู้จักแบรนด์

“เวลาใครถามว่าอ้วยอันคืออะไร เราจะต้องหยิบยาอมให้ดูเสมอ เขาถึงรู้ว่าอันนี้คืออ้วยอันโอสถ เรื่องการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหน้าที่ของผม ส่วนพี่สาวคนโตดูแลเรื่องการสร้างแบรนด์” ชนรรค์เล่าที่มาของการแบ่งฝ่ายงานรับผิดชอบ

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

หลังจากคอยสังเกตการทำงานของพ่อมา 2 เดือน ชนรรค์เล่าว่าเขาเริ่มตีสนิทและเรียนรู้จากผู้จัดการโรงงานซึ่งเป็นมือขวาของพ่อ 

“หลักการสำคัญของการมาทำธุรกิจของที่บ้าน ได้แก่ หนึ่ง ต้องลืมว่าเรามีความรู้นี้อยู่ก่อนแล้วยอมที่จะเรียนรู้ใหม่ เพราะเรื่องที่เรียนมาบางเรื่องอาจจะใช้งานไม่ได้ สอง ลดความถือตัวเอง ต้องยอมรับว่าเขาอยู่กับเครื่องมาห้าถึงสิบปี ใช่ว่าอยู่ๆ จะไปสั่งให้เขาทำอะไร ต้องเรียนรู้ให้เท่าเขาหรือมากกว่า ก่อนหาอะไรใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีหรือเครื่องมือจากต่างประเทศ มาเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ต้องได้ใจพวกเขา ไม่ใช่ชี้นิ้วสั่ง” ชนรรค์เล่า

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

กับงานที่เกี่ยวข้องกับคนรุ่นเก่า ชนรรค์เล่าว่าวิธีพูดคุยกับพ่อแม่ หรือนำเสนอความคิดใหม่ๆ แก่ธุรกิจ สำคัญคือต้องทำให้พวกท่านมองเห็นภาพที่ตรงกับเรา

“เราต้องนำเสนอข้อมูลให้ท่านเห็นภาพ ว่าธุรกิจเรามีปัญหาอะไร สิ่งใหม่ที่นำเสนอดีกว่าสิ่งเดิมอย่างไร และจะช่วยอะไรได้บ้าง เช่น หากนำเครื่องใหม่มาช่วยแก้ปัญหาผลิตไม่ทันความต้องการ ซึ่งลดปัญหาคอขวดในบางขั้นตอน แต่ถ้าเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งครอบครัวจะเห็นด้วยยากก็เพียงเรื่องการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา”

แบรนด์ยาสมุนไพรที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้น

อ้วยอันโอสถเป็นแบรนด์ที่อยากช่วยให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้น

ผ่านยาสมุนไพรที่คิดมาอย่างเข้าอกเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของผู้บริโภคมากกว่าจะทำเพื่อให้แบรนด์มีชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

หลักการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ประกอบด้วย หนึ่ง สรรพคุณที่ได้ต้องใหม่ ไม่ซ้ำเดิม และสอง หากมีสรรพคุณเท่าเดิมก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่หรือเพิ่มความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่มีเพิ่มกลุ่มลูกค้า

หากติดตามอ้วยอันโอสถช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปรวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าใช้ไปทั้งหมด ยิ่งได้ฟังว่ามียาสมุนไพรรักษาอาการไอ น้ำมูกไหล แก้อาการหวัด ในราคาหลักสิบหลักร้อย ก็นึกโกรธคุณหมอที่จ่ายยาราคาแพงมาให้ไม่หาย

หัวใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอ้วยอันโอสถ คือ ความเห็นอกเห็นใจ 

สมุนไพร ยารักษาเด็กด้วยวิถีธรรมชาติ

เมื่อรู้จากคุณพ่อว่าในอดีตคุณปู่ก็เคยรักษาเด็กด้วยสมุนไพร ทายาทรุ่นสามจึงเลือกพัฒนายาแก้ไอสำหรับเด็ก ชนรรค์รวบรวมข้อมูลว่าผู้ปกครองชอบและไม่ชอบอะไรในยาแผนปัจจุบันที่พวกเขาเลือกให้ลูก อยากได้อะไร คำนึงถึงเรื่องอะไร จนพบว่าพ่อแม่ให้ความสำคัญต่ออาการแพ้และผลข้างเคียง แล้วจึงค้นหาและพัฒนาสูตรที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และมีผลข้างเคียง 

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

เช่น ยาน้ำแก้ร้อนในเขากุย มีตัวยาหลักอย่าง เขากุย กั๊วลิง เต็งซิม เลี้ยงเคี้ยว กิกแก้ กิมงิ่งฮวย ซึ่งยาเหล่านี้มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนภายใน นอกจากนี้ยังมียาน้ำแก้ไอเด็ก รักษาทางเดินหายใจและภูมิแพ้

“ต่อให้ยามีประโยชน์แค่ไหน แต่ถ้ารสชาติไม่อร่อยเขาก็ไม่ต้องการ เราจึงพัฒนารสชาติพร้อมๆ กับสรรพคุณ” ชนรรค์เล่าพร้อมชวนให้ลองชิมรสชาติ

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

ยาสมุนไพรที่ช่วยให้วิ่งและฟื้นตัวได้ดีขึ้น

ชนรรค์บอกว่าการรับช่วงต่อธุรกิจจำเป็นต้องอาศัยความกล้าในการสร้างความแตกต่าง ความกล้าที่จะทำของฝ่ายผลิตและพัฒนา และความกล้าที่จะนำเสนอลูกค้าของฝ่ายการตลาด 

“เป็นเรื่องธรรมดา ใครก็ย่อมนึกกลัวว่าสิ่งที่ทำจะไปได้ดีในตลาดมั้ย หรือเราคิดว่าสิ่งนี้ดีอยู่คนเดียวหรือเปล่า” ชนรรค์เล่า

สิ่งที่ทายาทรุ่นสามทำ คือการเปลี่ยนภาพจำของสมุนไพรโบราณด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ทันสมัยขึ้น จับกลุ่มตลาดเฉพาะทางมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรวีโอทู (VO2) ยาสมุนไพรสำหรับนักวิ่ง มีสมุนไพรที่มีสรรพคุณดูแลกระดูกและกล้ามเนื้อทำให้ฟื้นตัวได้ดี กลับมาซ้อมได้เร็วขึ้น 

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

“ส่วนตัวพวกเราสองคนเป็นนักวิ่งอยู่แล้ว ตั้งใจหาข้อมูลและทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นพิเศษ รู้สึกว่าหากช่วยเพิ่มความเร็วได้หนึ่งถึงสิบวินาที ก็มีความหมายมาก” ชนรรค์เล่าและแนะนำให้เรารู้จักสมุนไพรที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ส่วนผสมของกระชายดำ ลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ งาดำสกัด เสริมสร้างกระดูกและข้อต่อ และดอกคำฝอย บำรุงเลือดไหลเวียนและนำออกซิเจนไปใช้

เพราะรู้ว่านักวิ่งกลุ่มเป้าหมาย มีร่างกายที่แข็งแรงดีไม่จำเป็นต้องไปร้านขายยา วิธีการประชาสัมพันธ์จึงไม่ใช่การจ้างพรีเซนเตอร์ แต่พวกเขาสร้างทีมวิ่งอ้วยอันขึ้นมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งประกอบด้วยคนหลากหลายเพศและวัย โดยไม่จำเป็นต้องสวยหล่อแต่มีความตั้งใจ และเชื่อในสมุนไพร ทั้งยังมีโค้ชทีมชาติมาฝึกสอนทีมทุกวันพฤหัสบดีเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพไปด้วยกัน จนทีมคว้าถ้วยรางวัลทุกรายการแข่งขัน วิธีการนี้สร้างต้นแบบแก่นักวิ่ง และยังช่วยให้สื่อสารภาพแบรนด์เรื่องสมุนไพรกับชีวิตที่ดีได้ชัดมากยิ่งขึ้น

เป็นมากกว่ายาสมุนไพร

แค่ได้รู้ว่าอ้วยอันโอสถมียาสมุนไพรที่รักษาโรคฮิตของคนเมืองอย่างเราก็น่าตื่นเต้นแล้ว ยาสมุนไพรที่ช่วยให้หลับลึก แก้กรดไหลย้อนและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ราวกับเจอทางเลือกที่แก้ความเจ็บป่วยที่มี

เริ่มจาก ยาคอส (Ya Cozz) ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ช่วยให้นอนหลับลึก จากตำรับยาจีน ซวนเจ่าเหริน สมุนไพรรักษาอาการนอนไม่หลับนับร้อยนับพันปีมาแล้ว ช่วยผ่อนคลายเซลล์ประสาทที่เหนื่อยล้าให้รู้สึกสงบ และไป๋จื่อเหริน บำรุงการทำงานของหัวใจและรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้ปกติ

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้
ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

ตามด้วยสินค้าขายดีตลอดกาลของอ้วยอันโอสถอย่างขมิ้นชัน ที่ทายาทรุ่นสามนำมาต่อยอดเป็นขมิ้นชันพลัส แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้แผลในกระเพาะอาหาร จากโจทย์ที่อยากให้ผู้บริโภคลดการรับประทานขมิ้นชัน จาก 3 – 4 แคปซูลต่อวันให้เหลือเพียง 1 แคปซูลต่อวันโดยที่ประสิทธิภาพไม่ลดลง วิธีการคือ คิดค้นตัวเร่งที่ทำให้สารสำคัญในขมิ้นชันซึมซับในร่างกายเร็วขึ้น มากขึ้น โดยสรรพคุณที่มากกว่าขมิ้นชันทั่วไป ได้แก่ ช่วยบรรเทาเรื่องกรดไหลย้อนและแผลในกระเพาะอาหารได้มากกว่า แม้ในฉลากจะเขียนเหมือนกัน ลูกค้าก็เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างจนเกิดเป็นกระแสปากต่อไป

ไม่เพียงชนรรค์และทานุจะนำความหลงใหลมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ที่มี พี่สาวคนโตของครอบครัวซึ่งสนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและดูแลผิว ก็ลุกขึ้นมาพัฒนาขมิ้นไบรท์ (Kamin Bright) ครีมขมิ้นสมุนไพร ภายใต้ชื่อ Ouay Un Cosmetic เป็นครีมที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ด้วยเทคโนโลยีขมิ้นนาโนและโสมสกัด อีกผลิตภัณฑ์คือ ขมิ้นไบรท์ VIT C เซรั่มเพื่อการดูแลผิวที่เข้มข้น

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

ไม่มีคำว่าช้าไปสำหรับการสร้างแบรนด์

อ้วยอันโอสถเริ่มสร้างแบรนด์อย่างจริงจังในปี 2014 หรือเมื่ออายุครบ 67 ปีพอดี 

เริ่มด้วยแคมเปญโฆษณาผ่านโทรทัศน์ครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมาอ้วยอันโอสถไม่เคยทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อใดๆ มาก่อน จนกระทั่งปี 2017 ทานุก็เข้ามาเสริมทัพเรื่องการตลาดออนไลน์ ปรับแบรนด์ตามพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพิ่มช่องทางการจำหน่ายจนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งคุณพ่อเปิดโอกาสและวางใจให้เหล่าทายาทรุ่นสามคิดทำสิ่งใหม่ๆ 

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้
ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

หากคุณปู่เป็นผู้บุกเบิก คุณพ่อเป็นผู้ขยายธุรกิจ

ในยุคของคุณ พวกคุณอยากให้คนจดจำอ้วยอันโอสถว่าอย่างไร เราถามชนรรค์และทานุ

“เราตื่นเต้นกับตัวเลขเจ็ดสิบสองปีของแบรนด์มากๆ เจ๋งมากที่อยู่มายาวนานขนาดนี้ ถ้าถามว่าอยากให้คนจดจำพวกเรายังไง ก็ขอให้จดจำว่า อ้วยอันโอสถในยุคของพวกเรามีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค” ทานุเป็นตัวแทนตอบ ก่อนชนรรค์จะทิ้งท้ายความรู้สึกที่มีต่อการรับช่วงต่อธุรกิจนี้ของครอบครัวว่า

“พวกเรารู้สึกดีและภูมิใจทุกครั้ง เมื่อได้ยินว่าลูกค้าที่ใช้ยาสมุนไพรของเรารู้สึกดีขึ้นจากการอาการป่วย แค่ได้รู้ว่ายาสมุนไพรที่เราตั้งใจทำเป็นประโยชน์ก็รู้สึกมีความหมาย การมารับช่วงต่อธุรกิจไม่เพียงต่อยอดให้กิจการมีรายได้เป็นตัวเงิน แต่เพิ่มโอกาสที่อยู่และทำงานร่วมกันระหว่างเราและคนสำคัญ เหล่านี้ต่างหากที่สร้างมูลค่าทางจิตใจ เราภูมิใจที่มาถึงจุดนี้ แล้วธุรกิจเรายังเติบโตไปได้เรื่อยๆ นี่เป็นหน้าที่ เป็นความกดดันของพวกเราทั้งสามที่จะทำให้สิ่งนี้ให้มีความสำเร็จมากกว่านี้ และยั่งยืนมากกว่านี้”

ทายาทรุ่นสาม อ้วยอันโอสถ ผู้ต่อยอดยาสมุนไพรสูตรใหม่ๆ จนคนอยากใช้

Writer

นภษร ศรีวิลาศ

นภษร ศรีวิลาศ

บรรณาธิการธุรกิจ The Cloud 4.0 แม่บ้านและฝ่ายจัดซื้อจัดหานิตยสารประจำร้านก้อนหินกระดาษกรรไกร ผู้ใช้เวลาก่อนร้านเปิดไปลงเรียนตัดเสื้อ สานฝันแฟชั่นดีไซเนอร์ในวัย 33 ปัจจุบันเป็นแม่ค้าที่ทำเพจน้องนอนในห้องลองเสื้อบังหน้า ซึ่งอนาคตอยากเป็นแม่ค่ะ

Photographer

Avatar

ธันวา ลุจินตานนท์

หุ้นส่วนร้านล้างฟิล์มที่ถูกทักเสมอว่าไม่เห็นอยู่ร้าน ชอบถ่ายรูปผู้คนเพราะสนุกเวลาได้ฟังหรือพูดคุยกับเค้า และชอบแดดฤดูหนาวเพราะความคมกับโทนของมันช่างสวยงามแต่คนรอบข้างไม่มีใครเข้าใจ