มีเรื่องน่ารักจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
เมตตาไปแข่งอ่านหนังสือกับเพื่อนมา ฟังดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ แต่ในความเป็นจริง มันสนุกมากกกกกก
งานสนุกและน่ารักนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Oregon Battle of the Books’ หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า OBOB (โอบ็อบ) ค่ะ
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เป็นงานที่ให้เด็กนักเรียนมาแข่งอ่านหนังสือกัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม มีตั้งแต่ชั้นประถม 3 – 5, มัธยม 1 – 3 และไฮสคูล แต่ละกลุ่มจะมีหนังสือที่กรรมการเลือกมา 16 เล่มให้อ่าน เด็กคนไหนสนใจ ก็รวมกลุ่มกันกับเพื่อนอีก 3 – 4 คน ตั้งชื่อกลุ่มขึ้นมา แล้วแบ่งกันอ่านหนังสือ (ทุกคนจะอ่านให้ครบ 16 เล่มเลยก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ครบ) พอถึงวันที่กำหนด ก็จะไปแบทเทิลหรือดวลกันตอบคำถามที่มาจากในหนังสือ
อุ้มรู้สึกว่านี่เป็นวิธีการส่งเสริมให้เด็กอ่านหนังสืออย่างแยบยลมาก ๆ เลยค่ะ เพราะลำพังจะมาบอกว่า เอ้า! เด็ก ๆ มาอ่านหนังสือกันนะจ๊ะ มี 16 เล่มนี้นะ อ่านให้จบล่ะ เด็กที่ไหนมันจะอ่าน! แต่พอมีเป้าหมาย มีการแข่งขันกันให้พอสนุก ๆ เด็กก็รู้สึกตื่นเต้น ตั้งอกตั้งใจอ่านกันใหญ่ แล้วไม่ใช่แค่อ่านธรรมดา แต่ว่าอ่านแบบสนใจรายละเอียดด้วย เพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้องไปตอบคำถาม
เมตตากับอนีคานี่เป็นเด็กชอบอ่านหนังสือมากถึงมากที่สุด แล้วความสนใจก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ช่วงที่ผ่านมาเมตตาชอบ Graphic Novels หรือหนังสือการ์ตูน กับ Chapter Books หรือหนังสือที่แบ่งเป็นตอน ๆ (อย่างเรื่อง ราโมนา, บ้านเล็กในป่าใหญ่, ฯลฯ) ก็จะอ่านอยู่นั่น พอมี OBOB ขึ้นมา ก็ดีอีกอย่างตรงที่หนังสือ 16 เล่มที่เขาเลือกมาให้อ่าน หลายเล่มเป็นหนังสือที่เมตตาจะไม่มีวันเลือกมาอ่านเอง เท่ากับเป็นการขยายขอบเขตความสนใจในประเภทของหนังสือให้เด็ก ๆ ไปในตัว
เมตตารวมทีมกับเพื่อนสนิทอีก 3 คน แล้วตั้งชื่อกลุ่มว่า Book Lizards (แผลงมาจากคำว่า Book Wizards) พ่อแม่รู้จักกันอยู่แล้ว ก็เลยแมสเซสกันใหญ่ สรุปว่าจะแบ่งกันซื้อหนังสือบ้านละ 4 เล่ม แล้วให้เด็ก ๆ สลับกันอ่าน อุ้มนี่ก็เป็นพวกบ้าทำตาราง เลยทำ Google Sheet ให้แม่ ๆ ดูกันว่าตอนนี้ใครอ่านอะไร แล้วเล่มไหนมีคนอ่านไปบ้างแล้ว จะได้เฉลี่ยความรับผิดชอบกันได้ถูก
เด็ก ๆ 4 คนน่าเอ็นดูเป็นที่สุด มีการนัดเจอกันวันหยุดเพื่อซ้อมตอบคำถาม เล่น Kahoot! ออนไลน์ลองซ้อม แล้วระหว่างพักกลางวันที่โรงเรียน ก็มีการท่องชื่อหนังสือกับชื่อนักเขียนแต่ละเล่มกันเอง เพื่อนในห้องหลายคนก็มีกลุ่ม OBOB เลยเป็นที่พูดถึงในโรงเรียนกันคึกคักทีเดียว
ย้อนไปนิดหนึ่งเรื่องว่าใครเป็นคนต้นคิด OBOB ขึ้นมา ก็ต้องเล่าว่าเป็นผู้ปกครองด้วยกันนี่แหละค่ะ ที่คงจะคุยกันไปมาว่าทำไงดีนะจะให้เด็ก ๆ สนใจอ่านหนังสือ สรุปคือต้องมีแข่งตอบคำถามกันเสียหน่อย ทางที่ดีคือให้แข่งกันเองในโรงเรียนก่อน แล้วให้ตัวแทนโรงเรียนมาแข่งกันอีกที งานนี้ต้องทำทีเดียวทั้งรัฐ จะได้สนใจกันกว้างขวาง แล้วก็ไปหาทุนหาสปอนเซอร์มาได้ด้วย
งานนี้มันคึกคักจริง ๆ นะคะ เพราะเวลาไปร้านหนังสือ ส่วนที่เป็นหนังสือเด็ก ก็จะมีชั้นหนึ่งหรือหน้าหนึ่งเลยบนเว็บไซต์ที่มอบให้หนังสือโอบ็อบ ที่ห้องสมุดก็มีหนังสือในลิสต์ทุกเล่มให้ยืมได้ ทั้งแบบที่เป็นเล่มกับเป็นหนังสือเสียง แล้วในเว็บไซต์ของโอบ็อบเองก็มีตัวอย่างคำถาม มีแบบฝึกหัด มีรายชื่อหนังสือของปีที่ผ่าน ๆ มาให้เข้าไปตามอ่านได้ด้วย
ที่คั่นหนังสือ ร้าน Powell’s ทำที่คั่นหนังสือสำหรับเตือนความจำว่าอ่านเล่มไหนไปบ้างแล้ว ดาวน์โหลดไปใช้ได้เลย
มาเล่าถึงบรรยากาศการแบทเทิลกันหน่อยดีกว่าค่ะ
ปีที่ผ่าน ๆ มา เขาจะไปเช่าสถานที่แล้วให้เด็ก ๆ ไปแข่งกัน แต่ปีนี้ก็อย่างที่รู้กันดีว่ามีโควิด-19 (กุติดยังว้า) การประลองความจำก็เลยต้องย้ายมาใช้บริการ Zoom แทน
รอบแรกที่แข่งกับทีมในโรงเรียนเดียวกัน (นักเรียน ป.3-5 โรงเรียนเมตตามี 300 กว่าคน มีเด็กลงทะเบียนแข่งตั้ง 144 คน เท่ากับ 1 ใน 3 แน่ะค่ะ นับว่าเยอะมาก) ทีมของเมตตาต้องดวล 4 รอบ แล้วสุดท้าย เขาจะเอาผลคะแนนของทุกทีมมาจัดลำดับ 10 ทีมแรกที่คะแนนสูงสุด ก็จะผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศ
แต่ละรอบ ทุกทีมต้องตอบคำถาม 8 คำถาม ครึ่งหนึ่งเป็นคำถามว่ามาจากเล่มไหน อย่างเช่น
– หนังสือเล่มไหน มีตัวละครในครอบครัวเดียวกัน 2 คน ที่มีตาสีฟ้าเหมือนน้ำทะเลลึก (Deep Deep Blue Sea)
– หนังสือเล่มไหน มีรูปภาพของเด็กผู้หญิงนั่งเล่นเปียโน
– หนังสือเล่มไหน ตัวละครได้รับกล่องไม้สีแดงเข้มที่ทำจากไม้พะยูง (Rosewood)
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของคำถาม จะเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือ เช่น
– ในหนังสือ Guts ตัวละครหลักชื่อเรน่า เป็นโรคอะไร (คำตอบ IBS หรือ Irritable Bowel Syndrome)
– ในหนังสือ Some Places More Than Others คุณยายเกรซโตที่เมืองอะไร (คำตอบคือ Alabama)
– ในหนังสือ Lety Out Loud อาสาสมัครใส่เสื้อผ้าอะไร 2 ชิ้น ตอนที่ตักอาหารหมาใส่ถุง (คำตอบคือ ผ้ากันเปื้อนสีขาวกับถุงมือสีเหลือง)
คือพ่อ ๆ แม่ ๆ นั่งฟังคำถามแล้วอ้าปากค้างไปเลยอะค่ะ ใครมันจะไปจำได้ฟระ แล้วเวลาตอบนี่ ต้องตอบให้ตรงเป๊ะ ๆ ด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่ผ้ากันเปื้อนกับถุงมือ แต่ต้องบอกว่าสีอะไรด้วย แล้วทำไมรู้มั้ยคะ เด็ก ๆ ดั๊นจำได้อี๊กกก! พ่อแม่นี่กรี๊ดกันอย่างกับไปเชียร์บอลอะค่ะ ความรู้สึกก็คล้าย ๆ กันด้วยนะคะ คือได้แต่ลุ้น เพราะพ่อแม่ไม่มีใครได้อ่านหนังสือเลยสักคน ได้แต่กลั้นใจรอให้ทีมเรายิงลูกเข้าประตู เอ๊ย ตอบคำถามถูกอย่างเดียวเลย
ผลปรากฏว่า ทีมเมตตา ถึงแม้จะเด็กกว่าใครเพื่อน แล้วก็เพิ่งลองแข่งเป็นครั้งแรก ผ่านเข้ารอบค่ะ!
คือปริ่มจะตกรอบมิตกรอบแหล่ แต่แค่นี่พ่อ ๆ แม่ ๆ ก็ภูมิใจกันแทบแย่ แล้วก็เตรียมรอลุ้นรอบต่อไป ซึ่งจะจัดอีกทีใน 2 อาทิตย์ข้างหน้า
ระหว่างนี้อุ้มเองก็คอยถามเมตตาว่าได้ทบทวนเล่มที่อ่านไปแล้วบ้างหรือยัง แล้วมีเล่มไหนที่ยังไม่ได้อ่านแล้วอยากอ่านอีกบ้าง วันหนึ่งเมตตาคงเพลียแม่เต็มที เลยหันมาบอกว่า “แม่คะ จะชนะหรือไม่ชนะโอบ็อบมันก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะความสนุกจริง ๆ สำหรับหนู มันอยู่ตรงตอนตอบคำถาม ไม่ใช่ตอนอ่านหนังสือ” งือ แม่ก็เลยถอยมา 2 ก้าว ไม่ผลักดันแล้วก็ด้ะ (แต่แอบส่องอยู่นะว่าวันนี้อ่านอะไร)
แล้วพอปล่อยให้ลูกรับผิดชอบตัวเองนะคะ ปรากฏว่าเมตตาก็ไปจัดตารางของตัวเอง เล่มไหนที่มีเพื่อนในกลุ่มอ่านไปแค่คนเดียว เมตตาก็ไปเอามาอ่านเพื่อจะได้เป็นแบ็กอัป เดี๋ยว ๆ ก็มาบอกว่าวันนี้ซ้อมท่องชื่อหนังสือกันเองจนขึ้นใจ เวลาไปตอบใน Zoom จะได้ไม่ตื่นเต้นจนลืม ก่อนหน้าจะถึงวันแข่ง อุ้มลองถามว่าพร้อมไหม เมตตาก็ยิ้มมั่นใจ แล้วบอกว่า “พร้อมค่ะ นี่ถ้าทีมหนูชนะ ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนก็คงดีนะคะ” อะ ไหนเมื่อวันก่อนบอกไม่เป็นไร ไอ้เจ้าตึ๋งหนืดเอ๊ย
พอวันแข่งรอบสุดท้ายมาถึง เนื่องจากทีมเมตตาเป็นหนึ่งในทีมบ๊วย ๆ ก็เลยต้องเริ่มแบทเทิลกันเองก่อน ทีแรกพ่อ ๆ แม่ ๆ ก็เตรียมแค่ของว่างกับอาหารกลางวันมา เพราะลึก ๆ ในใจต่างพากันคิดว่า ลูกเราเด็กกว่าเพื่อน แถมรอบแรกคะแนนก็ไม่ได้ดีมาก คงไม่ได้เข้ารอบไปลึก ๆ หรอก เดี๋ยวหลังเที่ยงก็แยกย้ายกันกลับบ้านแหละ
ปรากฏว่า Book Lizards ชนะไปเรื่อยเลยค่ะ! แข่งตั้งแต่ 10 โมงครึ่งไปจนถึง 6 โมงเย็นอะค่ะ ทีมเดียวที่ชนะทีมเมตตา ชื่อว่า Book Destroyers เป็นเด็ก ป.4 และเป็นทีมที่กลายเป็นตัวแทนโรงเรียน ทีมเมตตาเด็กที่สุด และชนะเป็นอันดับ 2 ของโรงเรียน เก่งมากเลยเจ้าหนูน้อย!
แต่ตกเย็นวันนั้น อุ้มนี่ถึงกับขาสั่น เพราะลุ้นมาทั้งวัน (ไม่ได้เวอร์นะคะ เข่าอ่อนจริง ๆ) เพื่อนเมตตาคนหนึ่งในทีมคือเครียดจัดจนลงไปนอนร้องไห้ แบบหนูไม่ไหวแล้ว หนูตอบต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ส่วนเมตตาขึ้นรถมา บอกแม่ว่า “เหมือนหนูดื่มกาแฟไป 10 แก้ว กับกิน Energy Bar อีก 10 แท่ง” โถ เอ็นดูด้วย สงสารด้วย อะดรีนาลีนคงหลั่งแทบหมดตัว
แต่สุดท้าย ทุกคนในทีม ทั้งเด็ก ๆ เอง ทั้งพ่อ ๆ แม่ ๆ เอง ทุกคนรู้สึกตรงกันหมดว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ทุกคนรู้สึกสนิทกันมากขึ้น ในกลุ่มมีทั้งเด็กที่อ่านเร็วจำได้เยอะ กับเด็กที่อ่านช้าจำได้น้อยกว่า แต่ทุกคนกลับช่วยกัน ให้กำลังใจกัน พ่อแม่ทุกคนก็กลายเป็นเพื่อนกัน แล้วก็ตั้งใจว่าปีหน้า Book Lizards จะกลับมาแข่งอีก แต่ตอนนี้ขอกลับบ้านไปพักเหนื่อยก่อนนะจ๊ะ
“รายชื่อหนังสือโอบ็อบของปีหน้าออกมาแล้ว เรามาเริ่มอ่านกันเลยนะ” เมตตากับเพื่อน ๆ ตะโกนบอกกันก่อนแยกย้าย
แม่ยังไม่หายขาสั่นเลยลูกเอ๊ยยยย แต่อ้ะ สั่งหนังสือใหม่ให้ก็ด้ะ ปีนี้แม่จะอ่านด้วย (ให้จริงเฮ้อออ)