The Cloud x สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
ในชีวิตคนเรามีสิ่งที่ชอบถึงขนาดเรียกว่าเป็น ‘ความรัก’ จนถึงขั้น ‘หลงใหล’ อยู่เพียงไม่กี่อย่าง
คนชอบดื่มกาแฟย่อมต้องรักการดื่มกาแฟ หรือถ้าถึงขนาดเป็นเจ้าของกิจการที่มีหน้าที่ชงให้คนอื่นดื่ม ยิ่งต้องทวีความรัก ความชอบ และความหลงใหลมากกว่าใคร ครั้นจะรักการชงและชิมแต่ในร้านของตัวเอง ก็เหมือนกับการอยู่แต่ในกะลา ไม่กล้าออกจากเซฟโซนไปไหน วลีเด็ดจาก สามก๊ก แว่วมากระทบหูว่า ‘รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง’ เป็นการเปรียบเปรยให้เห็นว่า คุณควรออกไปแสวงหากาแฟร้านอื่น ๆ ดื่มบ้าง เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เขาพัฒนากันไปถึงขั้นไหน มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ หรือหลุดหายไปจากวงโคจรบ้าง เพลานี้มีเมล็ดกาแฟอะไรเด็ดแบบไม่ควรพลาด มีวิธีชง เครื่องมือ อุปกรณ์แบบไหนมาใหม่ หรืออะไรกำลังเป็นที่กล่าวขวัญและควรรู้
จะแค่ตามหารสชาติ ตามหาแรงบันดาลใจ หรือจะอะไรก็ตาม แต่เหนือสิ่งอื่นใด การ ‘รู้เขารู้เรา’ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนทำธุรกิจ ที่ต้องรู้ท่าทีของคู่แข่งหรือคู่ค้าของเรา นับรวมถึงธุรกิจร้านกาแฟด้วย
คอลัมน์ Take Me Out ครั้งนี้ ป้าพิม-เพลินพิศ เรียนเมฆ ขอชวนคุณเดินสายตระเวนชิมกาแฟทั่วราชอาณาจักร เป็นการแนะนำร้านกาแฟที่ชอบในแบบที่ใช่ตามสไตล์ป้า กับ ‘5 ร้านทั่วเมืองกรุง’ ยังไม่เลยไปต่างถิ่น ต่างแดน ต่างประเทศ ขอแบบใกล้ ๆ ตามไปง่าย ๆ กันก่อน และตามประสาป้าก็ต้องชอบร้านในแบบฉบับป้า ๆ ที่เจ้าของหรือคนชงล้วนเป็นคนปลายหลัก 6 ทะลุข้ามหลัก 7 นอกจากจะแตกต่างด้วยวิธีการของแต่ละร้านแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
01
หน่ำเฮงหลี : ร้านเก่า กาแฟแก่

ถ้านับอายุตึกแถวห้องนี้ ก็ไม่น่าจะมากกว่าเจ้าของร้านกาแฟ ‘หน่ำเฮงหลี’ รุ่นปัจจุบันสักเท่าใด พี่น้อง 3 สาวแต่ละคนวัยเกือบ 70 รับช่วงร้านมาจากเตี่ย และยังคงดำเนินกิจการสืบต่อมาจนบัดนี้
ตัวอาคารยังคงงดงามตามกาลเวลา แม้ผ่านมาเนิ่นนาน ร้านนี้เคยเป็น ‘สภากาแฟ’ อันโด่งดังในยุคที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีอิสระทางความคิดและมีการพบปะของนักเขียน นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ หรือคนวัยทำงาน มาจับกลุ่มพูดคุยถกเถียงถึงประเด็นร้อน และสารพัดเรื่องราวจนมืดค่ำกันเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนความคึกคักนั้นจะค่อยถอยห่างจางหาย เหลือเพียงอดีตให้เล่าขานและจดจำ โต๊ะและเก้าอี้ชุดเก่ายังจัดวางอยู่ที่เดิม พัดลมเพดานยังตรึงอยู่บนขื่อ แม้ใบพัดไม้จะถูกถอดออกเพราะหมดอายุการใช้งาน แต่การนั่งดื่มกาแฟร้อนใส่นมข้นแกล้มขนมปังสังขยายังทำได้อยู่

แม้ ‘กาแฟกลิ่นคาราเมล’ สูตรเด็ดของร้านจะไม่หวนกลับมาให้ได้ลิ้มรสอีก และรสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคยจะเข้ามาแทนที่ แต่เสน่ห์ของหน่ำเฮงหลียังเด่นชัดเสมอ กาแฟยังคงเข้มขลัง ขนมปังยังหอมกรุ่น สังขยาไข่ไม่ใส่แป้งสียังคงตุ่น ป้า 3 คน ยังยืนหยัดชงกาแฟ ปิ้งขนมปัง ปาดสังขยา และเสิร์ฟให้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
แวะเยี่ยมเยือนกันได้ พวกเธอคงดีใจ

หน่ำเฮงหลี
ที่ตั้ง : 212 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 15.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2281 2134
02
ซ้อแห้ง : กาแฟโบราณในร้านโชห่วย

วิถีของคนรุ่นก่อนในถิ่นเก่าที่ยังคงมีชีวิตผูกพันกับสายน้ำ เฉกเช่นชุมชนริมคลองบางหลวง บ้านแต่ละหลังตั้งเรียงรายแนบชิดติดกัน จนหลังคาทับซ้อนเกยกันมาเนิ่นนาน และอยู่อย่างสงบร่มเย็นเป็นสุขมาโดยตลอด
ร้านโชห่วยในบ้านของ ซ้อแห้ง ขายสินค้าครัวเรือนแทบทุกชนิด ทั้งข้าวสาร ถ่าน กะปิ น้ำปลา และสารพันของจำเป็น ไม่เคยขาดหรือหายไปจากช่องชั้นที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แต่ก็หากันจนเจอเสมอ

อีกสิ่งที่ไม่เคยขาดหายไปเช่นกัน คือ โอเลี้ยง โอยัวะ ในกระป๋องนมผูกหูด้วยเชือกที่ซ้อแห้งชงขายมามากกว่า 50 ปี กาแฟโบราณหวานเข้มถึงใจ ปลุกยามเช้าให้ตาตื่น เพิ่มความสดชื่นยามร้อนในตอนบ่าย เตาตั้งหม้อต้มกาแฟยังเป็นแบบเก่า ถูกซ้อนด้วยหัวแก๊สเพื่อความสะดวก ไม้ทุบน้ำแข็งอันเดิมถูกปลดระวางวางเกะกะสุมกันอยู่

ซ้อแห้ง ป้าแห้ง หรือยายแห้ง วัย 74 ยังคงแข็งแรง สดใส ยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าทุกวัน
ถ้าไปดูโขนหรือเสพงานศิลป์ที่บ้านศิลปิน แวะไปชิมกาแฟโบราณจากมือชงรุ่นเก๋า และถามไถ่เรื่องราวแต่หนหลังของชาวริมคลองแห่งนี้ได้ ซ้อชอบเล่าแบบไม่มีพัก ไม่มีเบรก จนรู้ลึก รู้ดีแทบทุกตารางนิ้วของพื้นที่
ร้านซ้อแห้งกาแฟโบราณ บ้านศิลปินคลองบางหลวง
ที่ตั้ง : 309 ซอยเพชรเกษม 28 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
โทรศัพท์ : 08 4880 7340
Facebook : บ้านศิลปิน คลองบางหลวง Artist House Bangkok
03
Simply Caf : สปีดบาร์ก็มี
สาวน้อยผมสีทองแดงวัย 64 ปี สวมถุงมือดำ กดช็อตเอสเปรสโซ่จากเครื่องชงอัตโนมัติราคาค่อนล้านคนเดียว ในร้านกาแฟชื่อ ‘Simply Caf’ สาวเท่คนนี้มีชื่อว่า ดวงสมร ตันกายา มีบัดดี้คู่ใจเป็นวิศวกรหนุ่มหน้าใสผู้ไม่อยากจากแม่ไปทำงานไกล จึงตัดสินใจเปิดร้านกาแฟที่เรียบง่ายสมชื่อร้านในย่านรัตนาธิเบศร์

การตกแต่งน้อยแต่มาก ทันสมัย อุปกรณ์ชงกาแฟและเครื่องมือเครื่องใช้ทุกชิ้น ล้วนอยู่ในระดับท็อปฮิตทั้งราคาและคุณภาพ เมล็ดกาแฟหลากหลายในร้านคั่วโดย ‘คุณลูก’ หรือบัดดี้คนที่ถูกเอ่ยถึง ส่วนคุณแม่เป็นมือหลักในการชงกาแฟ และช่วยคุณลูกเป็นงานรอง ส่วนคุณลูกที่คั่วกาแฟขายเป็นหลัก ยามว่างก็มาเสริมทัพเป็นบาริสต้ากับคุณแม่

กาแฟนมรสชาติดี อเมริกาโน่ก็เยี่ยม ขอยกความเด่นให้ช็อตเอสเปรสโซ่ที่นวลละมุน หอมกรุ่นมาก การใช้เครื่องชงคุณภาพเยี่ยมตามราคาค่าตัว ร่วมกับการคั่วเมล็ดอย่างเหมาะสม ทำให้กาแฟแก้วนี้ตราตรึงใจ จนต้องย้อนกลับไปจิบอีกหลายครั้ง ที่สำคัญ ราคาไม่แรง รสชาติกวาดโค้งเข้าเส้นชัย นำโด่งไร้คู่แข่ง แม้จะอยู่ในย่านชานเมืองก็ตาม
Simply Caf
ที่ตั้ง : 20 ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี (แผนที่)
(ร้านอยู่ริมถนน ถัดจากคอนโด Skyline ประมาณ 50 เมตร ข้าง 7-Eleven ก่อนถึงทางเข้าคอนโดฯ ลุมพินี)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
โทรศัพท์ : 08 9894 3129
04
Oak-Rong Cafe : เมื่อถึงทีของสโลว์บาร์
สำหรับกาแฟสายพิเศษหรือสเปเชียลตี้ที่เรียกกันว่า ‘สโลว์บาร์’ มีวิธีชงแบบเนิบช้า
ส่วนการชงแบบดริปหรือ Pour Over หมายถึง การรินน้ำลงบนผงกาแฟอย่างทะนุถนอมค่อยเป็นค่อยไป เพื่อดึงเอารสชาติเด่นของกาแฟให้ออกมาแสดงตัวตนได้เต็มที่ น้ำกาแฟจึงยังคงความนุ่มนวลหอมกรุ่นเสมอ
การจะได้ผลลัพธ์เช่นนั้นต้องอาศัยการฝึกปรือบ่อย ๆ จนชำนาญ เฉกเช่นเดียวกับ ป้านก-อรวรรณ สนิธวรรณะ ผู้จัดสรรพื้นที่ของบ้านให้เป็นคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด สำหรับยืนดริปกาแฟให้ผู้ที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน คู่กับลูกชายที่ยังคงชื่นชอบการชงแบบสปีดบาร์ด้วยเครื่องชงเอสเปรสโซ่แมชชีน

กาแฟในถุงจากหลายโรงคั่วที่ตั้งเรียงรายให้เลือก ต้องผ่านการเห็นชอบจากคนทั้งคู่ ด้วยความชอบในวิธีการชงที่แตกต่างกัน ผู้ชื่นชอบกาแฟจึงเลือกเมล็ดกาแฟและวิธีการชงในแบบที่ตนชอบได้ ถ้าเป็นคนรักนมจะเลือกเมนูลาเต้ลายสวยก็ได้ หรือสายดำจะเลือกแบบดริปที่ให้กลิ่นหอมจนทะลุแมสก์ก็ได้ดั่งใจ
นอกจากเสิร์ฟกาแฟเป็นหลักแล้ว ยังบริการเครื่องดื่มอื่น ๆ และเค้กรสชาติดี เสริมด้วยอาหารจานเดียวง่าย ๆ อารมณ์คล้ายไปกินข้าวบ้านเพื่อน โดยมีแม่เพื่อนเป็นผู้ลงมือปรุงให้อย่างเต็มใจ

Oak-Rong Cafe & Aramta Studio
ที่ตั้ง : 134 ซอยติวานนท์ 40 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 07.00 – 17.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 07.00 – 15.00 น. (ปิดวันอังคาร)
โทรศัพท์ : 09 1452 9955
Facebook : Oak-Rong Cafe & Aramta Studio
05
ร้านกาแฟลุงต่าย : เป็นหนึ่งเรื่องหม้อ
ถึงวัยจะไม่ทะลุหลัก 6 แต่ต้องยอมใจให้เขาคนนี้ สมชาติ บางต่าย หรือ ลุงต่าย มีชื่อลือลั่นในการเป็นมือหนึ่งด้านการใช้อุปกรณ์ชงกาแฟอย่าง ‘หม้อต้มแบบอิตาลี’ ที่เรียกหน้าตาและวิธีการของมันว่า Moka Pot

Moka Pot เป็นหม้อต้มกาแฟหน้าตาแปลก แยกออกเป็น 2 ส่วน บนและล่าง มีกรวยใส่กาแฟและวางตรงกลางระหว่างหม้อด้านล่างที่เอาไว้เติมน้ำไม่ให้เกินวาล์วของตัวหม้อ นำหม้อด้านบนมาประกบหมุนให้แน่นพอตึงมือ แล้วนำไปต้ม เมื่อน้ำเดือดจะดันตัวทะลุกรวย ผ่านผงกาแฟบดขึ้นไปให้น้ำกาแฟรินไหลออกทางช่องเล็ก และค้างนองอยู่บนหม้อด้านบนที่ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล ก่อนนำไปผสมให้เกิดเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น อเมริกาโน่น้ำมะพร้าว แต่ที่น่าทึ่งคือการทำกาแฟดำให้ไม่ขม ไม่เข้ม หากแต่นุ่มละมุนลิ้น หนักแน่นด้วยบอดี้ และชูกลิ่นของกาแฟตัวนั้น ๆ ให้ทวีความหอม

ร้านลุงต่ายเรียงรายด้วยหม้อต้มที่แขวนอยู่ริมผนัง แต่ละใบเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ผ่านกาลเวลามาเกือบสิบปี ตั้งแต่ผมลุงยังดำสนิท เปลี่ยนเป็นแซมขาวแบบไม่ใช่แค่ประปราย จวบจนวันนี้ วันที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือการใช้หม้อที่เชี่ยวชาญชำนาญยุทธของวงการกาแฟบ้านเรา
ร้านกาแฟลุงต่าย
ที่อยู่ : ถนนบรมราชชนนี-คลองบางระมาด แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 18.00 น. (ปิดบริการวันจันทร์และวันพฤหัสบดี)
โทรศัพท์ : 09 0974 5962
Facebook : ร้านกาแฟลุงต่าย

The Cloud Golden Week คือแคมเปญสนุก ๆ ที่ทีมงานก้อนเมฆขอประกาศลาพักร้อน 1 สัปดาห์ เนื่องในโอกาสฉลอง The Cloud ครบ 5 ปี เราเลยเปิดรับวัยอิสระ อายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งนักเขียน ช่างภาพ และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ เข้ามาประจำการแทนใน The Cloud Golden Week ขอเรียกว่าเป็นการรวมพลังวัยอิสระมา ‘เล่าเรื่อง’ ในฉบับของตนเองผ่านสื่อดิจิทัลบนก้อนเมฆ เพราะเราเชื่อว่า ‘ประสบการณ์’ ของวัยอิสระคือเรื่องราวอันมีค่า เราเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงตัวเลข ไม่ใช่ข้อจำกัดของการเรียนรู้
แคมเปญนี้เราร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้วัยอิสระกล้ากระโจนเข้าหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ออกมาพูดคุยกับเพื่อนวัยเดียวกัน พร้อมแบ่งปันเรื่องราวอันเปี่ยมด้วยคุณค่า เพื่อเติมฟืนไฟให้กาย-ใจสดใสร่าเริง
นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมงาน The Cloud มีสมาชิกอายุรวมกันมากกว่า 1,300 ปี!
