1 กรกฎาคม 2025
821

ไม่นานมานี้เรามีโอกาสรู้จักกับร้านหนังสือน่าสนใจแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้ว เยื้องกับกาดสวนแก้ว ร้านหนังสือนี้มีชื่อว่า ‘Nowhere Bookstore’ เมื่อเข้าไปทำความรู้จัก ก็ยิ่งพบความน่าสนใจของต้นความคิดที่ทำให้เกิดร้านหนังสือนี้ขึ้นมา ตั้งแต่เบื้องหลังชื่อของร้านที่ตั้งใจเขียนให้กำกวม อ่านได้ทั้ง No Where (ไม่มีที่ไป) และจริง ๆ อ่านว่า Now Here (คุณอยู่ตรงนี้ หรือ ที่นี่คือที่ของคุณ) ซึ่งเหตุผลของชื่อร้านมาจากความตั้งใจดีที่อยากสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางความคิดให้กับชาวจีนที่ต้องย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศมาอยู่เชียงใหม่ และยังตั้งใจเป็นสะพานที่สร้างความเข้าใจระหว่างคนจีนกับคนท้องถิ่น ผ่านหนังสือภาษาจีนต่าง ๆ ภายในร้าน และกิจกรรมในร้านที่จัดขึ้นทุกสัปดาห์

ความตั้งใจอยากให้ Nowhere Bookstore มีบทบาทในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นเริ่มต้นมาจากความคิดของ แอนนี่ เจียผิง จาง (Annie Jieping Zhang) สื่อมวลชนและนักข่าวชาวจีนที่ออกจากประเทศจีนเช่นเดียวกับอีกหลายคน

แอนนี่เล่าให้ฟังถึงที่มาของร้านหนังสือว่า เริ่มต้นจากช่วงปี 2020 ฮ่องกงประกาศใช้กฎหมาย International Law ทำให้ผู้คนนับหมื่นที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและความคิดอย่างนักเขียน ผู้กำกับภาพยนตร์ ศิลปิน รวมถึงนักข่าวอย่างเธอต้องย้ายออกจากฮ่องกงไปอยู่ไต้หวันเป็นจำนวนมาก ช่วงเวลาที่อยู่ไต้หวัน เธอเจอร้านหนังสือร้านหนึ่งก่อตั้งโดยชาวฮ่องกงที่ย้ายมาอยู่ไต้หวัน เป็นร้านหนังสือที่จัดกิจกรรมเป็นประจำ และเป็นพื้นที่ให้ผู้คนมาแลกเปลี่ยนทางความคิดกันอย่างเสรี ร้านหนังสือที่ว่านี้จึงกลายเป็นพื้นที่อุดมปัญญา มีผู้คนเข้ามาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แอนนี่เจอร้านหนังสือนี้แล้ว ไม่กี่วัน เธอก็ทราบจากเจ้าของว่าเขาจำเป็นต้องย้ายไปอังกฤษและจะปิดร้านหนังสือแห่งนี้แล้ว 

“พอทราบข่าวการปิดตัวของร้านหนังสือ ฉันและชาวฮ่องกงหลายคนรู้สึกเสียใจและเสียดายมาก ๆ เพราะร้านนี้เป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะที่ผู้คนมาเรียนรู้และแสดงความคิดกัน” แอนนี่ย้อนความ

หลังจากทราบข่าวร้ายไม่นาน ด้วยความเสียดายในบทบาทที่ร้านหนังสือแห่งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้ ในที่สุดแอนนี่ก็ตัดสินใจรับช่วงต่อร้านหนังสือนี้เอาไว้ เธอปรับให้ร้านหนังสือจัดกิจกรรมมากขึ้นกว่าเดิม ล้วนเป็นกิจกรรมทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นงานเสวนา บุ๊กคลับ มูฟวี่คลับ รวมถึงงานดนตรี ร้านนี้จึงกลายเป็นพื้นที่สาธารณะของผู้คนฮ่องกงและคนท้องถิ่นในไต้หวันที่ตบเท้าเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันเป็นจำนวนมาก และเธอก็ตั้งชื่อร้านหนังสือนี้ว่า ‘Nowhere Bookstore’

ปัจจุบัน Nowhere Bookstore มีสาขาทั้งหมด 4 แห่ง สาขาแรกอยู่ที่ไต้หวัน ตามมาด้วยเชียงใหม่ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ เพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เปิดกว้างทางความคิดให้กับชาวจีนรวมถึงผู้คนท้องถิ่นในประเทศต่าง ๆ ที่ร้านหนังสือไปตั้งอยู่ แอนนี่อธิบายว่าการเกิดขึ้นของสาขาต่าง ๆ นั้นล้วนเกิดขึ้นมาจากความต้องการของผู้คนที่นั่น

“หลังจากเปิดร้านที่ไต้หวันได้ 1 ปี ฉันมีโอกาสเดินทางไปทั่วโลกเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและบทเรียนจากการทำร้านหนังสือนี้ ซึ่งร้านสาขาต่าง ๆ ที่ตามมารวมถึงที่เชียงใหม่ ฉันก็มีโอกาสได้เจอกับคนที่นั่น ที่เข้ามาถามฉันว่า จะมีร้าน Nowhere Bookstore ที่เชียงใหม่หรือประเทศต่าง ๆ ที่ฉันไปบ้างไหม เพราะแต่ละสาขาที่เปิด เราทำงานกันเป็นหุ้นส่วนกับผู้คนในประเทศนั้น ๆ 

“สำหรับเชียงใหม่ ฉันตกใจมาก ๆ เพราะไม่รู้มาก่อนว่าที่เชียงใหม่มีคนจีนอาศัยอยู่เยอะมาก พวกเขาอธิบายถึงชุมชนชาวจีนในเชียงใหม่ให้ฉันฟังว่า ชาวจีนที่นี่คล้ายกับที่ไต้หวัน แต่ก่อนเคยมีบทบาทเป็นนักเขียน นักข่าว นักสิทธิมนุษยชน กลุ่ม LGBTQ+ คนทำงานสร้างสรรค์ด้านต่าง ๆ และอีกมาก พวกเขาต้องย้ายมาเชียงใหม่เพราะที่นี่เปิดกว้างกว่า พวกเขาจึงทำงานสร้างสรรค์และแสดงความคิดกันได้อย่างเสรี

“ร้านของเราจึงขึ้นอยู่กับผู้คนมากกว่าสถานที่ ฉันไม่ได้เปิดแผนที่เพื่อเลือกเมือง แต่ละร้านเริ่มต้นมาจากฉันมีโอกาสได้ไปอยู่ที่นั่นแล้วมีผู้คนเดินมาขอให้ช่วยเปิดร้านที่ที่พวกเขาอยู่ได้ไหม ซึ่งพอมองย้อนกลับไป ฉันก็ค้นพบว่ามันก็มีหลักการอยู่หน่อยนะ เพราะผู้คนที่เข้ามาขอให้เปิดร้านในเมืองที่พวกเขาอยู่นั้น ส่วนใหญ่ก็คือเมืองที่มีผู้อพยพหรือผู้คนที่จำต้องย้ายมาอยู่เป็นจำนวนพอสมควร”

เดือนตุลาคม ปี 2023 ร้าน Nowhere Bookstore สาขาเชียงใหม่จึงเกิดขึ้นมาจากความคิดและความต้องการที่เธอเล่า

การออกแบบเนื้อหาของหนังสือและกิจกรรมภายในร้านก็ขึ้นอยู่กับผู้คนในพื้นที่เช่นเดียวกัน

“ฉันคิดว่าร้านเป็นพื้นที่สาธารณะที่พวกเขามารวมตัวพูดคุยเรื่องหนังที่ชอบ หนังสือที่ชอบ แสดงความคิดเห็น หรือร่วมหัวข้อเสวนาต่าง ๆ ซึ่งเนื้อหาก็ปรับเปลี่ยนตามผู้คนในประเทศที่ร้านตั้งอยู่ แต่ฉันก็มีการเลือกผู้คนก่อนเช่นกัน อาจเพราะทำงานด้านสื่อมวลชนมา จึงเข้าใจว่าการคัดเลือกเนื้อหาการสื่อสารนั้นมีพลังที่จะสร้างให้เกิดชุมชนแบบใดขึ้นมาได้ และเป็นที่มาของหนังสือต่าง ๆ ที่เอามาขาย

“ช่วงแรกเราเลือกหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้คนที่ต้องอพยพและเรื่องราวของอาเซียน รวมถึงหนังสืออีกหลายเล่มที่คุณไม่มีทางเห็นได้ที่ประเทศจีน ต่อมาเราพบว่าชุมชนจีนที่เชียงใหม่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับสิทธิสตรี เชียงใหม่มีกลุ่มคนจีนรุ่นใหม่ค่อนข้างมากที่เป็นนักขับเคลื่อนสังคม นักเรียกร้องสิทธิมนุษยชน NGO ศิลปิน สื่อมวลชน ผู้คนที่ห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของสังคม ซึ่งพวกเขาสนใจเรียนรู้ประสบการณ์ของนักเคลื่อนไหวที่สะท้อนประสบการณ์ของตัวพวกเขาเองที่จีนได้ ด้วยเหตุนี้เราเลยเลือกหนังสือเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของประชาชนในประเทศต่าง ๆ มาไว้ภายในร้าน และหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ ก็มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก”

นอกจากการคัดเลือกเนื้อหา เธอมีความตั้งใจที่จะทำให้พื้นที่ร้านเป็นเสมือน ‘หน้าต่าง’

“ฉันคิดว่าร้านของเราเหมือน ‘หน้าต่าง’ ที่เป็นพื้นที่ให้คนมาสำรวจ เรียนรู้เกี่ยวกับจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ในทางเดียวกันก็เป็นหน้าต่างที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเชียงใหม่ ประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ผ่านกิจกรรมที่ร้านหนังสือจัดขึ้น เราจะชวนนักวิชาการหรือศิลปินไทยมาเล่าเรื่องราวประเทศของพวกเขา เพื่อให้ชุมชนชาวจีนที่นี่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่ และความหลากหลายของประเทศไทย 

“ฉันมองว่าความเข้าใจระหว่างกันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชุมชนชาวจีน เพราะไม่ว่าจะอพยพแบบไหนในประเทศใด ถ้าขาดความเข้าใจและห่วงใยต่อชุมชนในท้องถิ่นที่เขาย้ายไปอาศัย ฉันคิดว่ามันจะไม่แข็งแรง และอาจเกิดปัญหาในอนาคต หากผู้คนที่ย้ายไปไม่รับรู้ถึงความสำคัญนี้ 

“เราพบว่าภาพลักษณ์ของชาวจีนในไทยหรือประเทศงต่าง ๆ ไม่ค่อยดี เห็นได้จากท่าทีของผู้คนเวลาทราบว่าเราเป็นคนจีน เขามีท่าทีเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เราต้องยอมรับ มีคนจากจีนที่เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์จากประเทศที่เขาไปจริง ๆ แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่ ซึ่งมันทำให้ผู้คนมองคนจีนในทางที่ไม่ดี เพราะความเป็นจริงจีนเป็นประเทศใหญ่ มีคนจำนวนมากและหลากหลาย จึงมีทั้งคนที่ดีและไม่ดี เพราะเหตุนี้เราถึงอยากให้กิจกรรมของร้าน ช่วยเชื่อมโยงคนจีนกับคนท้องถิ่นที่นี่ให้ได้เข้าหากัน ทำความเข้าใจกันมากขึ้น 

“Nowhere Bookstore เลยทำหน้าที่เป็นสะพานในการสื่อสารวิถีชีวิต ปัญหา และความยากลำบากของผู้คนท้องถิ่นให้กับชุมชนชาวจีนที่ย้ายมาได้รับรู้ ทำความเข้าใจ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ร่วมกันและยังเกื้อกูลกันได้ด้วย ซึ่งฉันก็พบว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่เอื้อกับความตั้งใจนี้ของเรามาก ๆ ค่ะ

“เชียงใหม่มีมนต์เสน่ห์มาก ๆ ฉันเคยมาที่นี่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และได้มาอีกหลาย ๆ ครั้ง สำหรับฉันเชียงใหม่ไม่ได้มีแค่ความเป็นเมือง แต่มีความเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เป็นสังคมที่เปิดกว้างให้กับทุกคน ซึ่งฉันว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเป็นเหตุผลที่ทำให้เชียงใหม่มีนักสร้างสรรค์ มีศิลปินเข้ามาจำนวนมาก และเป็นเหตุผลทำให้ผู้คนหลงรักเมืองนี้”

ความตั้งใจที่เธออยากให้เกิดขึ้นจาก Nowhere Bookstore ได้แสดงออกมาให้เห็นจากจำนวนกิจกรรมที่ร้านหนังสือแห่งนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เปิด ปลายปีที่แล้วร้านจัดกิจกรรมไปแล้ว 80 งาน ตามความตั้งใจที่อยากให้มีกิจกรรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 งาน ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทางความคิด เสรีภาพการแสดงออก ประเด็นทางสิทธิ รวมถึงเรื่องราววัฒนธรรมต่าง ๆ

“ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขา (ชาวจีนอพยพ) จะได้รับประสบการณ์เหล่านี้ สำหรับบางคน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้าใจความหมายของ ‘เสรีภาพ’ ว่าคุณคิดเรื่องนี้ได้นะ คุณออกมาพูดเรื่องนี้ได้นะ หรือคุณลงไปบนถนนเพื่อร่วมกันเคลื่อนไหวทางสังคมในด้านต่าง ๆ ที่คุณเชื่อได้นะ

“เสรีภาพ เป็นเรื่องที่ฉันคิดว่าต้องฝึกฝนเรียนรู้นะคะว่ามีวิธีการอย่างไร ทำอย่างไร ขอบเขตอยู่ที่ไหน สำหรับคนที่อยู่ในประเทศที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องนี้มาก่อนเลยเป็นเวลานาน วันหนึ่งพอเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา เขาสับสน ไม่เข้าใจ และหวาดกลัว นี่เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราพยายามจัดกิจกรรมจำนวนมาก เพื่อช่วยส่งเสริมประเด็นนี้ในหัวข้อต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้คนออกมาแสดงความคิด แลกเปลี่ยนกันและกัน โดยร้านของเราจะเป็นพื้นที่ที่ให้โอกาสนั้นกับพวกเขาค่ะ”

แอนนี่เล่าให้ฟังว่าเธอมีความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในประเทศจีน เราถามเธอตามตรงถึงสถานการณ์ที่จีนในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับการที่ผู้คนพยายามย้ายออกจากประเทศจำนวนมาก

“ฉันคิดว่าจำนวนของคนที่ออกมาน่าจะเพิ่มขึ้นนะคะ เท่าที่สังเกตจากคนรอบตัว ฉันไม่ได้เห็นตัวเลขทางการจริง ๆ ฉันคิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่นานนี้แน่ ๆ อะไรเก่า ๆ ยืนยงในอนาคตไม่ได้แน่ ๆ เราเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็มองเห็นปัญหานี้เช่นกัน และพยายามที่จะหาหนทางในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันมองจีนเป็นเหมือนกระบวนการ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ถ้าฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ จีนก็เปลี่ยนแปลงได้ นี่คือสิ่งที่ฉันเชื่อ ฉันไม่ได้มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งประเทศได้ แต่ฉันเปลี่ยนตัวเองหรืออาจจะเปลี่ยนคนรอบข้างสัก 10 คนได้ 

“ฉันเชื่อในความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เหล่านี้ที่มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต นี่คือบทบาทของฉัน และบทบาทของ Nowhere Bookstore ที่ฉันตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้น”

Nowhere Bookstore Chiang Mai

ขณะนี้ร้านปิดบริการชั่วคราว จะเปิดทำการอีกครั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568

Writer

อนิรุทร์ เอื้อวิทยา

อนิรุทร์ เอื้อวิทยา

นักเขียน และ ช่างภาพอิสระ ปัจจุบันชนแก้วอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่เชียงใหม่

Photographer

Avatar

ภูพิงค์ ตันเกษม

ชีวิตผม ชอบการเดินทาง ชอบทำอาหาร และรักการบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่าย