เอ่ยถึงราชบุรี เชื่อว่าหนึ่งในของดีที่หลายคนพูดถึงคงเป็นโอ่งมังกร จนลืมไปเลยว่าเมืองเล็ก ๆ ใกล้กรุงแห่งนี้มีแม่น้ำแม่กลองทรงเสน่ห์พาดผ่าน แถมยังมีวิถีอื่น ๆ ให้เราหลงใหล คล้ายว่าแวะราชบุรีทีไร แม้จะไม่ได้รับแสงสีซู่ซ่ากลับมา เราก็จะได้ความสบายใจเป็นของฝากที่มีคุณค่า
Normal Cafe and Stay คาเฟ่และที่พักริมแม่น้ำแม่กลองของคนที่รักการเดินทางอย่าง วิน–อิทธิพัทธ์ จิตติโชติพงศ์ และ ตู่–อภินันท์ ปัญญากร เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจนั้น ไม่ว่าจะอาหารเครื่องดื่มที่หาทานได้ยากจากที่อื่น เครื่องหอมกลิ่นเฉพาะที่ช่วยบรรเทาวันแย่ ๆ เพลย์ลิสต์เพลงที่สร้างบรรยากาศให้สมบูรณ์ และห้องพักที่อยากให้ทุกคนได้รับพลังจากแม่น้ำแม่กลองกลับไป
“ตอนเริ่มทำ คำถามแรกที่ผมถามตู่คือใครจะมา เขาจะมาทำอะไร เพราะมันไม่มีอะไรให้ทำ มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีสวนสาธารณะ แต่เมื่อต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ผมเลยสร้าง Normal Cafe and Stay ขึ้นมาด้วยความเชื่อว่า ถึงไม่มีอะไรให้ทำก็ไม่เป็นอะไร แต่ที่นี่ต้องเป็นอีกสถานที่ที่ทำให้คนอยากมา” วินบอกกับเราอย่างนั้น
ทั้งสถานที่ กลิ่น รส และมวลบรรยากาศที่เราจะได้รับจาก Normal Cafe and Stay จึงเป็นสิ่งที่มัณฑนากรอย่างวินตั้งใจออกแบบทั้งสิ้น พร้อมกับตู่ช่วยเสริมและสร้างไอเดียบางอย่างให้กลมสมบูรณ์เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้โอบอุ้มความธรรมดาที่อบอุ่นหัวใจไว้ได้
Normality
“เดิมที พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นร้านหมูกระทะ” ตู่เริ่มบทสนทนาหลังจากเราผลักประตูเข้าไปด้านใน
ก่อนขยายความให้ฟังว่าทั้งสองคนหลงรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อว่างจากการงาน พวกเขาจะเสาะแสวงหาที่พักดี ๆ ไว้ผ่อนคลายและฝันอยากสร้างที่พักใกล้กรุงเป็นของตัวเองไว้เช่นกัน
พื้นที่ขนาด 20 ตารางเมตรขนานริมแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้จึงเหมาะเจาะนัก นอกจากจะใกล้กรุงก็ยังมอบวิวสวย ๆ ให้ด้วย แต่ครั้นจะสร้างเป็นบ้านพักส่วนตัวเพื่อพักผ่อนเพียง 2 วันต่อสัปดาห์ก็อาจไม่คุ้มเสีย ตู่ผู้เป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์ จึงนำไอเดียการสร้างคาเฟ่และที่พักไปเสนอมัณฑนากรอย่างวิน
“พื้นที่ตรงนี้ลาดชันลงจากถนน ถ้าเราให้ห้องพักอยู่ด้านล่างติดกับสนามหญ้าและแม่น้ำ ลูกค้าที่เข้าพักก็จะได้ทั้งวิวดี ๆ และความเป็นส่วนตัว ซึ่งแยกทางเข้า–ออกจากโซนคาเฟ่ด้านบน แม้ลูกค้าจะไม่ได้ลงมาสัมผัสแม่น้ำจริง ๆ แต่วินก็ออกแบบให้เห็นโค้งน้ำแม่กลองได้” ตู่ระบุฟังก์ชันของพื้นที่แห่งนี้ให้วินไปพัฒนาต่อ
“เราสองคนสร้างที่นี่ขึ้นมาจากความชอบของตัวเองล้วน ๆ คอนเซ็ปต์ของที่แห่งนี้ คือความเข้าถึงง่าย ตรงไปตรงมา และไม่ต้องตีความเยอะ ที่สำคัญอาคารและบรรยากาศทั้งหมดยังคงความเป็นท้องถิ่นของพื้นที่ตรงนี้และจังหวัดราชบุรีผสมอยู่ด้วย” วินเสริม
แล้ว Normal Cafe and Stay หลังสีขาวติดริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ตั้งใจเสิร์ฟความเรียบง่ายแต่น่าจดจำแห่งนี้ ก็ค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่าง
Relax, Refresh, Recharge
เมื่อคอนเซ็ปต์คือความเรียบง่าย ผสมผสานกับวิถีท้องถิ่นและความชอบส่วนตัว การออกแบบอาคารและการตกแต่งภายในจึงตรงตัวที่สุด
“เราชอบพื้นที่ตรงนี้ตรงที่มันเป็นชุมชนเล็ก ๆ ในถนนเล็ก ๆ แยกออกมาจากถนนใหญ่ ซึ่งให้ความรู้สึกเงียบสงบ เหมือนเราก็อยู่ของเราตรงนี้ง่าย ๆ” วินอธิบาย
หากดูจากภายนอก อาคารแห่งนี้คืออาคาร 1 ชั้นที่ดูมินิมอลเหมือนยกคาเฟ่ญี่ปุ่นสมัยใหม่มาตั้งไว้ แต่ถ้าพูดถึงความตั้งใจจริงของคนออกแบบอย่างวิน ทรงอาคารง่าย ๆ และหลังคาลอนคู่ธรรมดาที่ประกอบเข้าด้วยกันคือการเลียนแบบบ้านพักอาศัยของชาวบ้านบริเวณนี้ เพราะเขาอยากให้ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ ไม่ใช่ของแปลกใหม่ที่เข้ามารุกล้ำ
สไตล์การออกแบบในโซนคาเฟ่และที่พักนั้นคล้ายกัน เน้นความเรียบง่ายของวัสดุและสีสัน จะว่ามินิมอลก็ไม่ใช่ จะดิบแบบลอฟต์ก็ไม่เชิง เป็นความกลาง ๆ แต่ไม่จืดชืด ทำให้อยากนั่งพักอ่านหนังสือไปพลาง ชมวิวแม่น้ำไปพลาง
“ปกติเวลาผมออกแบบงานให้ลูกค้า มักจะเต็มไปด้วยงานบิลต์อิน พอมาทำของตัวเองเลยอยากให้ผ่อนคลายมากที่สุดและไม่ประดิษฐ์เยอะ อยากให้เป็นห้องเปล่าโล่ง ๆ ที่เราเอาอันนั้นอันนี้มาแต้มก็พอ เฟอร์นิเจอร์กว่า 70 เปอร์เซ็นต์จึงเป็นเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่คุณตู่สะสม”
ส่วนห้องพักขนาด 49 ตารางเมตร 1 ห้อง และ 26 ตารางเมตร 2 ห้องด้านล่างก็เช่นเดียวกัน วินและตู่บอกว่ามันอาจไม่หรูหรา แต่รับรองว่าเมื่อเดินเข้าไปก็จะรู้สึกสงบจนอยากนอนพักหลาย ๆ วัน สิ่งสำคัญคือที่นี่ไม่ได้เป็นโรงแรมจ๋าที่มีพนักงานต้อนรับตลอดเวลา แต่เป็นที่พักสไตล์ Bed and Breakfast ที่ลูกค้าควบคุมเวลาเข้าออกได้เอง
“แขกบางคนมาพักหลายครั้งมาก เขาบอกว่ารู้สึกเหมือนได้หนีจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ จนบางครั้งก็เหมือนแว้บหายไปจากโลก บางคนก็มาพักแล้วไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน เขาอยู่แต่ในห้องเงียบ ๆ เพราะมันสงบมาก” ตู่บอก
Good Mood
นอกจากการออกแบบสถานที่ให้อบอวลด้วยความสบายอกสบายใจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้พิเศษกว่าที่ไหน ๆ จนทำให้ลูกค้าหลายคนรวมถึงเราหัวใจเต้นแรง คือการใส่ใจสร้างมวลบรรยากาศ
“ผมอยากให้ลูกค้าและแขกที่เข้าพักรู้สึกถึงความผ่อนคลาย ผมจึงสร้างเพลย์ลิสต์เพลงเองสำหรับคาเฟ่และห้องพัก เพลย์ลิสต์ในคาเฟ่จะออกแนวชิลล์ ๆ ส่วนเพลย์ลิสต์สำหรับห้องพักจะค่อนข้างผ่อนคลายและสงบกว่า” วินอธิบายความแตกต่างให้เราฟังด้วยแววตาเป็นประกาย
อีกอย่างที่น่ารักสุด ๆ และช่างเข้ากับยุคสมัยที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องผัสสะ คือการที่วินออกแบบกลิ่นเฉพาะสำหรับแชมพู ยาสระผม และเทียนหอม ที่แรกเริ่มมีแต่แขกที่เข้าพักเท่านั้นที่จะได้สูดดม แต่เมื่อมีเสียงเรียกร้องมากขึ้น วินและตู่ก็เปิดโซนหนึ่งไว้ให้คนเลือกซื้อกลับบ้าน
“แรกเริ่ม แชมพูกับครีมอาบน้ำที่ทำขึ้นเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นคล้ายกลิ่นธรรมชาติ ต่อมาผมก็ออกกลิ่น So Normal ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามหญ้าริมแม่น้ำกลองสำหรับใช้เป็นสเปรย์แอลกอฮอล์และสบู่ล้างมือ”
ฟังแค่นี้ก็ใจบาง จนอยากเป็นแขกของทั้งคู่บ้างแล้ว
“Normal Cafe and Stay เป็นที่พักและคาเฟ่แห่งแรกของเรา เราเลยอยากทำให้มันออกมาดีที่สุด อะไรที่เราคิดได้และอะไรที่เราควบคุมให้มันไปในทางเดียวกันได้ เราก็จะทำ” วินกระตุ้นให้อยากสมัครเป็นแขกของที่พักด้วยคำอธิบายนี้
Good Food
อารัมภบทถึงรายละเอียดส่วนอื่นมานาน ตู่จึงเอ่ยบอกว่าอาหารที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากวินจะออกแบบมวลอารมณ์ทั้งหมดในฐานะศิลปินและมัณฑนากรแล้ว เขายังเป็นคนที่รักการทำอาหารเป็นที่สุด เมนูต่าง ๆ ในร้านจึงร่วมคิดและออกแบบขึ้นระหว่างวินและเชฟ
“ผมเน้นอาหารที่เตรียมง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีความผสมผสานและมีกิมมิกบางอย่าง เพราะผมเป็นคนชอบทำอาหารและชอบการหยิบนั่นผสมนี่อยู่เสมอ ลูกค้าเรามักเป็นผู้ใหญ่และแนวครอบครัว แทนที่จะมีแต่พาสต้าครีม ผมก็เอาครีมมาปั่นกับพริกแกง แล้วใส่ปลาทอดลงไป” วินอธิบายก่อนตู่จะพูดถึงเมนูเอกลักษณ์ที่เราไม่เคยได้ยินที่ไหน
“ร้านเราตั้งอยู่ตรงตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหัวไชโป๊ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก วินเลยเอาไชโป๊สับกับพริกแห้งผัดกระเทียมมาทำเป็นเมนูที่ชื่อราชบุรีอ็อมเล็ต” ส่วนเบเกอรี่หลากรสชาติในร้าน แม้วินจะไม่ได้อบเองแต่ความเป็นนักกินและนักทำของเขา วินก็ปรับสูตรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้หาทานได้แค่ที่นี่เท่านั้น
อีกสิ่งที่กิ๊บเก๋จนอยากบอกใคร ๆ คือเมนูเครื่องดื่มที่แต่ละเดือนที่ผันผ่านไป บาริสต้าจะรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ให้ทุกคนได้ชิม นาน ๆ ครั้งหากวินปิ๊งอะไรน่าสนใจได้ เขาก็จะร่วมแจมด้วย
“ผมชอบหาอะไรสนุก ๆ ทำ อย่างเมษายนที่เป็นช่วงสงกรานต์ ผมก็เริ่มทำเทียนหอมกลิ่น Jasmine Splash ขึ้นมาก่อน เป็นกลิ่นมะลิผสมส้ม โรสแมรี่ และมะกรูด ออกซ่า ๆ เย็น ๆ จากนั้นก็ให้น้องบาริสต้าลองทำกาแฟที่ใช้ส่วนผสมเดียวกันขึ้นมา นั่นคือนำนมมาต้มกับส่วนผสมเหล่านั้น เพื่อทำเป็นกาแฟที่เข้าคู่กับเทียนหอมอีกที” วินว่า
“น้อง ๆ ที่มาทำงานกับเราเคยเป็นพนักงานสายบริการในโรงแรมมาก่อน พวกเขาจึงมีมุมมองของการบริการสูงมาก แล้วเขาก็มีความรู้เรื่องเครื่องดื่มมากกว่าเราสองคน เราจึงให้อิสระในการคิดเมนูต่าง ๆ
“น้องบาริสต้าของเราคนหนึ่งเขาก็เป็น Mixologist ที่ทำค็อกเทลเก่ง เราไม่อยากให้คนเก่ง ๆ ต้องเสียของไป เลยเปิดเป็นไนต์บาร์ตอนคืนวันศุกร์ถึงอาทิตย์ให้เขาได้แสดงฝีมือ” ตู่เสริม
“มันเป็นบาร์ที่ไม่ตื๊ดนะ” วินหัวเราะ “เป็นแนวผ่อนคลายมากกว่า เพราะเราก็มีอายุแล้ว เพลงที่เปิดก็จะช้า ๆ ไฟก็เปิดแบบสลัว ๆ”
Sense of Place
ถ้าให้เปรียบกับอะไรสักอย่าง สำหรับเรา Normal Cafe and Stay คงเป็นอาหารจานเก่งของแม่ที่อาจไม่ได้หวือหวาเหมือนอาหารของเชฟดัง แต่เป็นอาหารที่ทานกี่ครั้งก็อบอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัย แม้คอนเซปต์ของที่นี่คือความธรรมดาและเรียบง่าย สิ่งต่าง ๆ ที่ทั้งคู่ตั้งใจออกแบบก็กลับทำให้สถานที่พิเศษขึ้นมาสำหรับคนต้องการชาร์จแบต
“เราอยากให้ลูกค้าอยู่กับเรานานที่สุด เราเคยไปนั่งร้านที่สวยมาก ๆ แต่เรากลับไม่อยากอยู่นาน ๆ สำหรับโซนคาเฟ่ เราเลยตั้งใจสร้างสถานที่นี้ให้เป็นสถานที่ที่ลูกค้ามาอยู่ได้สบาย ๆ นั่งเพลิน ๆ ไม่ต้องรีบ ทุกจุดของโต๊ะจึงมีปลั๊กให้เขาเสียบชาร์จคอมพิวเตอร์หรืออะไรก็ตาม โดยที่ไม่มีใครไปวุ่นวายกับเขาเลย ส่วนที่พักก็เหมือนกัน เวลาเราไปเที่ยว เราจะไม่ค่อยอยู่โรงแรมใช่ไหม แต่เราอยากทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากอยู่ที่พักของเรานาน ๆ เหมือนกับว่า ถึงเขาไม่รู้จะออกไปไหน เขาก็พักอยู่ที่นี่ได้ แถมได้รับบรรยากาศที่ดีด้วยเหมือนกัน” ตู่บอกคอนเซ็ปต์สำคัญที่เขาให้วินไปตีโจทย์
ถึงแม้ทั้งคู่จะบอกว่าที่พักแห่งนี้น่าจะเหมาะกับคนอารมณ์ศิลปินที่ชอบการพักผ่อนในห้องเงียบ ๆ แต่พวกเขาก็ยังลิสต์รายการอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นรอบข้าง ที่ทั้งคู่ว่าดีและควรไปเพื่อทำความรู้จักราชบุรีที่ทั้งสองคนหลงใหลให้ดีขึ้นกว่าเก่า
“เราสองคนสร้างที่นี่ขึ้นมาด้วยความเชื่อว่าทุกจังหวัด ทุกสถานที่มีเสน่ห์ในตัวเอง เพียงแต่ว่าเราจะเจอไหมแค่นั้นเอง ประเด็นมันอยู่ตรงนั้น หน้าที่ของเราคือการขุดเสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้และพื้นที่รอบข้างให้ลูกค้าได้เห็น
“ตั้งแต่ที่เราเปิดมา เรามีความสุขที่ลูกค้ามาแล้วเขายิ้มได้ บางครอบครัวก็เหมาที่พัก 3 ห้อง สำหรับคน 3 รุ่น แต่บางคนก็มาเป็นคู่ บางคนก็มาเดี่ยว หลายคนมานั่งประชุม มันเป็นความรู้สึกว่าที่นี่ตอบโจทย์ความสบายของคนได้หลากหลายจริง ๆ” ตู่ทิ้งท้าย
Normal Cafe and Stay
ที่ตั้ง : 1241 ตำบลบางโตนด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
เปิดบริการนจันทร์-วันพฤหัสบดี, วันอาทิตย์ เวลา 07.30 – 18.00 น. และ วันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 07.30-21.00 น.
โทรศัพท์ : 081 813 7400
Facebook : normal.cafe