7 มิถุนายน 2025
1 K

ร้านนี้ชื่อว่า ‘งัว’ ครับ

จากชื่อก็คงพอเดาได้ว่าน่าจะขายเมนูจากเนื้อวัว และถ้าไม่ใช่อาหารเหนือก็ต้องเป็นอาหารอีสานแน่ ๆ 

ร้านงัวขายอาหารที่ทำจากเนื้อล้วน ๆ และใช้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของอาหารเหนือและอีสานมาคิดเป็นจานใหม่ที่ปรับให้อาหารจานเนื้ออร่อยขึ้นไปอีก

เบสท์-ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ เจ้าของร้านข้าวผัดอเมริกันสุดฮิตอย่าง Lucky’s Hungry ใน Haus Ari อารีย์ซอย 3 เปิดร้านงัวเฉพาะช่วงเย็น ในพื้นที่เดียวกันกับร้านข้าวผัดอเมริกัน 

ไฮไลต์คือข้าวเนื้ออบและสเต๊กเนื้อ แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายเมนูที่ใช้เนื้อวัวเป็นส่วนประกอบหลัก เบสท์ใช้ทั้งวัตถุดิบ เครื่องปรุง และวิธีปรุงทั้งอาหารเหนือและอีสาน อย่างมะแขว่น ข้าวเบือ และสาโท หยิบยืมรูปแบบอาหารจากที่อื่น ๆ อย่างเช่นข้าวอบหม้อดินแบบฮ่องกง การใช้สมุนไพรในข้าวยำแบบปักษ์ใต้มาสร้างเมนูด้วย

จาน ‘ลิ้นวัวย่างเตาถ่าน’ ที่ใช้ลิ้นวัวเคลือบด้วยทาเระหรือซอสข้น ๆ ที่ผสมข้าวเบือและสาโท ย่างบนเตาถ่านหอมกลิ่นควัน ลิ้นวัวจะมีรสหวานและความหอมจากสาโทนิด ๆ เสิร์ฟคู่กับไข่ดองมะแขว่น น้ำจิ้ม 2 ชนิดถือเป็นส่วนสำคัญของจานนี้ครับ มีน้ำย้อยมาโยที่ใช้มายองเนสผสมกับน้ำพริกน้ำย้อย น้ำพริกเจียวแห้ง หอมน้ำมันพริก พบได้เยอะแถวจังหวัดแพร่ น้ำพริกน้ำย้อยพอผสมเข้ากับมายองเนสแล้วเข้ากันดีมากและเหมาะกับลิ้นวัวย่างเสียด้วย น้ำจิ้มอีกอย่างคือแจ่วพริกป่น

‘บีฟทาร์ทาร์ลาบเมือง’ ที่ใช้เนื้อดิบสับละเอียดเคล้ากับไข่แดงจนเนื้อครีม กับพาร์เมซานชีส ผสมรวมกับเครื่องพริกลาบนิด ๆ ไม่ได้แรงแบบลาบเมืองแท้ แต่แค่พอเอากลิ่นอาย แต่ผสมเคเปอร์ทอด หอมเจียว แต่งกลิ่นด้วยผักชีลาว ผักชีฝรั่ง ก่อนให้เราบีบมะนาวแล้วคลุกให้เข้ากันก่อนกิน รสนวล ๆ ไม่จัดจ้านมาก ถือเป็นลาบที่เบาหน่อย แต่เป็นทาร์ทาร์ที่ไอเดียน่าสนใจ กินแกล้มกับแคบวัวและข้าวตัง

ใช่ว่าเมนูร้านงัวจะมีแต่เนื้อครับ สลัดผักอย่าง ‘แบล็กการ์ลิก แอนด์ กรีน’ ก็มี เป็นผักพื้นบ้านอย่างผักกาดฮีน ผักที่ถูกเปรียบกับวาซาบิเนื่องจากกลิ่นฉุนขึ้นจมูกและมีรสเผ็ดซ่า เป็นส่วนผสมหลักของสลัด รวมกับผักสลัดอื่น ๆ ราดด้วยน้ำสลัดจากกระเทียมดำ น้ำส้มหมักจากสับปะรด และน้ำส้มยูสุ สั่งจานนี้คั่นเนื้อให้สดชื่นขึ้นหน่อย 

กับอีกจานที่ผมชอบมากคือ ‘มันบดกับบีฟจูส์ เห็ดป่า’ มันบดที่ราดด้วยบีฟจูส์ ซอสที่เคี่ยวจากกระดูกวัว สาโท และเห็ดป่า เป็นเหมือนมันบดที่มีน้ำเกรวี่ข้น ๆ หอมเนื้อมาก ๆ ครับ

มาถึงร้านงัวต้องสั่งเนื้อย่างครับ มี 2 แบบที่น่าสั่ง คือเนื้อย่างจิ้มกับแจ่ว เสิร์ฟพร้อมดอกเกลือ พริกไทย และแจ่ว กับเนื้อย่างอีกแบบซึ่งผมคิดว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ คือ ‘ชาโตบริยองด์ย่างเนยข้าวคั่วน้ำปลา’ เป็นจานที่ใช้เนื้อส่วนกลางสันในย่าง ก่อนนำมาเสิร์ฟบนจานร้อนที่มีเนยน้ำปลาเดือดปุดอยู่แล้ว จานนี้หอมมากจากซอสที่อุ่นมา เข้ากับเนื้อนุ่ม ๆ ดี

ไฮไลต์จานสุดท้ายคือ ‘ข้าวอบงัว’ ข้าวอบหม้อดินที่หอมฉุยตั้งแต่เปิดฝาหม้อ ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวสันป่าตองอบสวยเรียงเม็ด หุงด้วยซุปกระดูกวัว มันวัว และรากหอมชู โรยด้านบนด้วยแหนมมันเนื้อกรอบ ๆ กับเนื้อกังปาหรือเนื้อเค็มแบบยูนนาน เพิ่มรสและกลิ่นเนื้อที่ซับซ้อนขึ้น กลิ่นคล้ายข้าวผัดแหนม หลังจากนั้นจะใส่เครื่องให้กลิ่นอีกหลายอย่าง เช่น มะม่วงเปรี้ยว ขมิ้นขาว ผิวส้มซ่า เพื่อให้กลิ่นหอมสดชื่น ตัดกลิ่นของมันวัว ถ้าอยากเพิ่มรสอีกนิดจะมีน้ำปลาพริกดองมะแขว่นมาให้เพิ่มรสอีก 

ผมคิดว่าอาหารของร้านงัวอร่อยและมีความพิเศษตรงความสร้างสรรค์ของเชฟ ในการเอาอาหารกับวัตถุดิบของภาคอีสานและภาคเหนือมาผสมกับรูปแบบอาหารของวัฒนธรรมอื่น ๆ ได้เป็นหลายจานที่ทั้งไอเดียสนุกและอร่อย เราจะได้กลิ่นของเครื่องปรุง เครื่องเทศ สมุนไพรท้องถิ่นทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ เช่น มะแขว่น ขมิ้น น้ำปลา สาโท ผสมกับวัตถุดิบในวัฒนธรรมอื่น ๆ อย่างเนย เคเปอร์ มายองเนส แต่สุดท้ายอาหารที่ออกมาก็ยังอร่อยคุ้นปาก 

งัวยังนำเสนอเนื้อในรูปแบบที่หลากหลายและน่าสนใจมากด้วย ที่สำคัญ อาหารที่ให้ความสำคัญเรื่องกลิ่นและอุณหภูมิถือว่าได้เปรียบไปกว่าครึ่งครับ

ร้านไม่ใหญ่มาก แนะนำให้จองที่ก่อนไปนะครับ 

งัว
  • 9/1 ซอยอารีย์ 3 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ (แผนที่)
  • เปิด-ปิด : เปิดเวลา 17.00 – 22.00 น.
  • 08 8696 6556
  • ngua.bkk
  • สำรองที่นั่ง www.luckyshungry.com

Writer & Photographer

Avatar

จิรณรงค์ วงษ์สุนทร

Art Director และนักวาดภาพประกอบ สนใจเรียนรู้เรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังของอาหารกับกาแฟ รวบรวมทั้งร้านที่คิดว่าอร่อย และความรู้เรื่องอาหารไว้ที่เพจถนัดหมี และรวมร้านกาแฟที่ชอบไปไว้ใน IG : jiranarong2