The Cloud x TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง 

แม่น้ำโขงและพระธาตุพนม อาจเป็นภาพจำแรกๆ ของจังหวัดชายแดนอีสาน แต่เอกลักษณ์ที่เราสัมผัสได้ชัดเจนคือบรรยากาศความชิลล์ของผู้คน ที่ใช้ชีวิตเนิบนาบเอื่อยเฉื่อยข้างสายน้ำที่กั้นอาณาเขตไทย-ลาว มองออกไปเห็นบ้านเรือนและทิวเขาเขียวของเพื่อนบ้านได้ใกล้นิดเดียว

จะว่าขี้เกียจก็ไม่ใช่ ต้องบอกว่าชาวนครพนมมี Art of Living แบบฉบับของตัวเอง ไม่รีบร้อนทำงานหามรุ่งหามค่ำ ผลิตสิ่งต่างๆ ทีละมากๆ แต่เน้นใช้ชีวิตที่มีสมดุลและคุณภาพ จังหวะการใช้ชีวิตที่ช้ากว่ากรุงเทพฯ หลายเท่าตัว ทำให้เราอยากชวนให้คุณใช้เวลารู้จักกับเมืองนี้มากหน่อย นอนมองพระอาทิตย์ขึ้นและตกริมโขง แล้วออกไปสัมผัส 10 สถานที่ในนครพนมที่น่าประทับใจอย่างช้าๆ เยี่ยมเยียนโบสถ์โบราณและตึกเก่าสไตล์โคโลเนียล จิบกาแฟ อ่านหนังสือ ซื้อเครื่องหนังทำมือ ทานอาหารตำหรับเวียดนามเคล้าประวัติศาสตร์ ชิมไก่งวงแสนอร่อย แล้วจะพบว่าสวรรค์แห่งการพักผ่อนอยู่ที่ริมโขงนี่เอง

01

 สตูดิโอเครื่องหนังทำมือของสถาปนิกคู่รัก ซึ่งกลับบ้านมาสร้างเรือนรังอบอุ่น

Mahaasamud Space

“พอเห็นวิวแม่น้ำโขงเลยขอมาอยู่ด้วย”

ทราย-จุฑามาศ แก้วเรือนศิลป์ สถาปนิกชาวโคราชเอ่ยเหตุผลที่ติดตามคนรัก เจ-เจษฎา แก้วบุดตา มาอยู่นครพนมด้วยกันราว 4 ปีก่อน ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ทำงานออกแบบในกรุงเทพฯ จนเมื่อชีวิตในห้องพักเล็กๆ ในเมืองหลวงชักไม่ตอบโจทย์ ทรายเริ่มฝึกเรียนรู้การทำเครื่องหนังด้วยตนเอง เริ่มจากเย็บสมุดสเก็ตช์ปกหนังเหลือทิ้งมาใช้ และขยับขยายจนเปิด Mahaasamud แบรนด์เครื่องหนังทำมือเช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด สายคล้องกล้อง ซองนามบัตร สมุดหลายรูปแบบ รวมถึงบ้านแมวสานจากต้นกกนครพนม กิจการเล็กๆ นี้ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาปลูกสตูดิโอน้อยน่ารักและสวนร่มรื่นเขียวชอุ่มข้างบ้านคุณพ่อของเจ

ปัจจุบันแบรนด์เข้าสู่ปีที่ 7 อย่างช้าๆ ทว่ามั่นคง แม้ไม่ตระเวนออกร้าน ล่ารางวัล หรือฝากสินค้าขายที่ไหน แต่ลูกค้าที่แนะนำกันปากต่อปากและกลับมาสั่งงานใหม่ทางหน้าร้านออนไลน์ ทำให้มหา-สมุด เติบโตได้ในจังหวะที่เจและทรายต้องการ ทักษะสถาปัตย์ที่ติดตัวทั้งคู่บวกกับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผลงานของมหา-สมุด มีเอกลักษณ์ชัดเจน ทั้งความเนี้ยบกริบในความเรียบง่าย และฟังก์ชันที่คิดมาอย่างดี 

“สมัยก่อนเราทำงานไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน พี่เจเคยนั่งทำงานออกแบบจนเก้าอี้เปื่อย เราเลยแค่อยากหารายได้แม้กลับบ้านมาทำงานที่บ้าน ได้ทำงานที่ชอบทุกวัน ไม่ถนัดไปแข่งขันกับใคร ถ้าต้องทำปริมาณเยอะๆ ก็กดดันและไม่สนุก โชคดีที่มีคนชอบงานและสั่งอยู่เรื่อยๆ และมีคนมาให้ออกแบบงานระยะยาวปีละชิ้นสองชิ้น

“เราอยากให้คนมาเยี่ยมเราบ้างถ้ามานครพนม ไม่รู้เขาจะมองบ้านนอกของเรายังไง แต่ถ้าเขามาซึมซับบรรยากาศ เราคิดว่าจะให้อะไรเขาได้บ้าง ก็คงเป็นเครื่องดื่ม และวิถีธรรมดาอย่างที่เราเป็น”

ทรายวางกาแฟที่เธอเพิ่งชงให้ลงบนโต๊ะ คาเฟ่ไพรเวตน้อยๆ ของสองนักออกแบบเปิดเฉพาะกิจ เมื่อมีลูกค้านัดแวะมาเยี่ยมสตูดิโอหรือมารับสินค้าที่นครพนมบ่อยๆ พวกเขาเลยเปิดมุมน่าสบายและเครื่องดื่มไว้รับแขกพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งในอนาคตอาจเปิดเป็นคาเฟ่ แต่ต้องรอให้หลายอย่างลงตัว รวมถึงให้ทรายคลอดเจ้าตัวเล็กก่อนนะ

ที่ตั้ง : บ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลนาราชควาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : โทรนัดล่วงหน้าเท่านั้น 

โทร : 09 4542 2423

Facebook : Mahaasamud

02

โบสถ์คริสต์เก่าแก่ริมโขง ศูนย์รวมจิตใจชาวคริสต์แห่งนครพนม

วัดนักบุญอันนา หนองแสง

รองอาสนวิหารนักบุญอันนามีประวัติศาสตร์ยาวนาน เกี่ยวพันกับหลายชาติพันธุ์และสงครามในอินโดจีน เมื่อคณะสงฆ์มิชชันนารีจากปารีสเข้ามาเผยแผ่ศาสนาในแถบอุบลราชธานี สกลนคร และนครพนม หนองแสงเป็นสถานที่แรกๆ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางมิสซังราว 130 กว่าปีก่อน เริ่มจากสร้างเป็นตึกแบบง่ายๆ และพัฒนาปรับปรุงเป็นอาสนวิหารแบบตะวันตกที่ใหญ่โตสวยงามริมน้ำโขง แต่ถูกทำลายลงในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีน เพราะทหารไทยยึดไปใช้หอระฆังส่องดูข้าศึกฝรั่งเศสบนฝั่งลาว จึงถูกฝั่งตรงข้ามยิงอาคารจนเสียหาย 

ต่อมาใน พ.ศ. 2515 วัดนักบุญอันนาจึงได้รับการก่อสร้างใหม่ โดยอิงจากสถาปัตยกรรมหอคอยคู่เดิม แม้ตัวอาคารจะปรับเปลี่ยนไปหลายครั้งตามกาลเวลา แต่ตลอดเวลาร้อยกว่าปี วัดนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นแหล่งศึกษาพระธรรมของชาวคริสต์หลากหลายในนครพนม ทั้งชาวเวียดนาม ชาวไทย ชาวลาว ชาวจีน ฯลฯ ปัจจุบันประกอบพิธีมิสซาทุกวัน ทั้งยังมีมิสซาที่โรงพยาบาลและเรือนจำทุกเดือน แสดงถึงความศรัทธาของชุมชนที่เข้มแข็งมาก

นอกจากอาคารหลักที่งดงาม ข้างๆ ยังมีอาคารมูลนิธิบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ สถาปัตยกรรมโคโลเนียลเก่าแก่ที่สร้างใน พ.ศ. 2495 เป็นที่ทำการศาสนกิจของบาทหลวงนิกายคาทอลิก ก่อตั้งโดยคุณพ่อเอดัวร์ เจ้าอาวาสวัดนักบุญอันนาที่ชาวหนองแสงรักใคร่นับถือมาก ด้านหลังวัดเป็นสุสานชาวคริสต์ ส่วนด้านข้างโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น 

เมื่อก้าวเข้าอาณาเขตวัดนักบุญอันนา หนองแสง เราไม่ได้เห็นเพียงความสง่างามของสถาปัตยกรรม แต่ยังสัมผัสได้ถึงความสงบ และคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งบรรจุประวัติศาสตร์ของนครพนมไว้ภายใน

ที่ตั้ง : 28 ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : มิสซาทุกวันธรรมดา 06.15 น. วันเสาร์ 06.30 น. วันอาทิตย์ 07.00 และ 19.00 น. 

โทร : 0 4251 6050

Facebook : วัดนักบุญอันนา หนองแสง

03

คาเฟ่ริมโขงแสนเก๋ที่ชุบชีวิตอาคารโคโลเนียลร้างขึ้นมาอีกครั้ง

76A The Space

76A เป็นเลขที่บ้านในอังกฤษ สถานที่ที่ บิ๋ม-อลิศา และสามี บิ๊ก-ธนพัต ทีฆธนานนท์ ได้พบกันครั้งแรก และยังเป็นบ้านที่ทั้งคู่ชอบไปทานขนมและกาแฟร่วมกัน เมื่อย้ายกลับมาดูแลกิจการจำหน่ายรถยนต์ของครอบครัว ทั้งคู่เปิดร้านกาแฟในร้านขายรถยนต์เพื่อบริการลูกค้า ผลตอบรับยอดเยี่ยมทำให้สองสามีภรรยาขยายกิจการไปทั่วตัวเมือง โดย 76A The Space เป็นทำเลที่วิวสวยที่สุด อาคารเก่าแก่สีเหลืองหันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง ชมวิวสายน้ำและประเทศเพื่อนบ้านได้ถนัดตา

บิ๋มและสามีชอบบ้านเก่าร่วมร้อยปีหลังนี้มานาน ต่อมาทราบว่าเจ้าของเป็นพ่อค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาด แม้มีคนมาขอซื้อที่ดินทำเลนี้นักต่อนัก คุณลุงก็ไม่เคยขาย เพราะใครๆ ก็อยากทุบอาคารเดิมเพื่อสร้างตึกใหม่ อดีตกราฟิกดีไซเนอร์จึงตกลงเช่าสถานที่ทำคาเฟ่ โดยรีโนเวตตึกใหม่ให้สวยงาม ไม่ทำลายโครงสร้างเดิม ตัวห้องนอนกลายเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ ส่วนชั้นสองบันไดไม้ค่อนข้างชัน จึงปรับเป็นที่เก็บของกึ่งหนึ่ง อีกครึ่งรื้อไม้ที่ผุออกให้เพดานโปร่งโล่ง ส่วนห้องประชุมด้านหลังปรับจากห้องครัวเดิม รอบร้านตกแต่งด้วยประติมากรรมและภาพวาดสุนัขสีขาวตัวโตขี้เล่นของ Bloody Hell Big Head นักวาดภาพประกอบซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนของบิ๋ม 

“คาเฟ่นี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว และคนในเมืองที่พาแขกมา ร้านนี้เน้นกาแฟ Specialty คั่วอ่อน ชีสทาร์ต และครัวซองต์ เราอยากทำคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน เพราะคนมาเที่ยวนครพนมส่วนใหญ่มาไหว้พญานาคกับพระธาตุฯ แล้วไม่มีอะไรทำต่อ เราเลยอยากทำสถานที่ให้คนมานั่งชิลล์ นั่งแช่มองแม่น้ำโขงได้นานๆ” 

บิ๋มแอบกระซิบว่า ในอนาคตเธอจะขยับขยายร้านกาแฟไปในตึกปลูกใหม่ด้านหลัง ส่วนอาคารเก่าแสนสวยหลังนี้จะกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกจากนครพนม ใครสนใจคาเฟ่ฮอปปิ้งจริงจัง ถัดไปใกล้ๆ กันยังมีคาเฟ่ในเครือของบิ๋มและบิ๊ก คือ 76A The Club และ Babe Tea Bar ซึ่งอยู่ในตัวเมือง ร้านแรกมีวาฟเฟิลกับเค้กน่าลอง ส่วนร้านชาไข่มุกก็เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นมากเชียวล่ะ 

ที่ตั้ง : ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

โทร : 09 3548 9246

Facebook : 76A The Space

04

บ้านอดีตผู้นำเวียดนามที่ลี้ภัยและมื้ออาหารชาวเวียดนามพลัดถิ่น

บ้านลุงโฮจิมินห์ 

‘บ้านลุงโฮจิมินห์’ ในหมู่บ้านนาจอก หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม เป็นบ้านไม้เล็กๆ ที่อดีตประธานาธิบดีเวียดนามและกลุ่มวีรชนเวียดนามเคยพักอาศัยถึง 7 ปี ครั้งลี้ภัยเข้ามาอยู่ในไทย ก่อนจะกลับไปยึดเวียดนามคืนจากฝรั่งเศส ภายในบ้านมีโต๊ะทำงาน ข้าวของเครื่องใช้ของลุงโฮจิมินห์ ภาพถ่ายและเรื่องราวของผู้นำเวียดนามคนนี้มากมาย สวนไม้ดอกรอบบ้านหลังนี้สวยสะพรั่ง หน้าบ้านมีต้นมะพร้าวและต้นมะเฟืองที่ลุงโฮจิมินห์เคยปลูกไว้ ยามหน้าฝน สวนที่นี่มีผีเสื้อเต็มไปหมด ชาวเวียดนามที่รักใคร่นับถืออดีตผู้นำสูงสุดคนนี้แวะเวียนมาเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานแห่งนี้มากมาย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและคนสำคัญในประเทศ 

มาถึงบ้านลุงโฮแล้ว อย่าจากไปด้วยท้องว่างเปล่า เดินออกจากบ้านหลังนี้ไปไม่กี่เมตรไปในซอยเดียวกัน ชาวบ้านเชื้อสายเวียดนามจากจังหวัดฮาติงยังรับจัดมื้ออาหารแบบภาคกลางเวียดนาม เช่น จ๋าจึ๋ง-ไข่อบหม้อญวน ยาเกย-หมูอบสมุนไพร แกงเราได-แกงเลียงผักปอสูตรเวียดนาม โหน่มฮวาจ๋วย-ยำปลีกล้วย และก๋าคอ-ปลาโจกต้มเค็ม ซึ่งมีตามฤดูกาล ปิดท้ายด้วยขนมใบป่าน แป้งสีดำเหนียวนุ่มหุ้มถั่วเขียวและมะพร้าวอ่อน ต้องสั่งล่วงหน้าเพราะทำยาก กินคู่กับชาร้อนแล้วละมุนเป็นที่สุด 

ใครอ่านแล้วน้ำลายสอ อยากลองชิมอาหารตำหรับเวียดแท้ๆ โปรดโทรจองมื้ออาหารล่วงหน้าก่อนไปเยี่ยมบ้านลุงโฮ เลือกได้ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น แถมชุมชนที่นี่ยังมีฟ้อนรำเวียดนามกับโฮมสเตย์ให้นอนพัก เปิดโอกาสเรียนรู้เรื่องราวของชาวเวียดนามพลัดถิ่นได้อย่างเต็มที่

ที่ตั้ง : 48 หมู่ 5 บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน 08.00 – 17.00 น. แต่มื้ออาหารจองล่วงหน้าเท่านั้น

โทร : 08 8036 6218 (กำนันจันทร์ไทย)

Facebook : บ้านลุงโฮจิมินห์

05

ฟาร์มไก่งวงและร้านอาหารเมนูไก่งวงของชุมชนชาวคริสต์

วิสาหกิจไก่งวงคำเกิ้ม 

‘หมู่บ้านคำเกิ้ม’ เป็นชุมชนชาวคริสต์เก่าแก่ที่มีโบสถ์สวยงามอายุร้อยกว่าปี นอกจากมีชื่อเรื่องศาสนา ที่นี่ยังมีชื่อเรื่องฟาร์มไก่งวง ซึ่ง เชษฐา กัญญะพงศ์ เกษตรกรชาวคำเกิ้มเป็นผู้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2545 เลิกเลี้ยงไปเมื่อเกิดมรสุมไข้หวัดนก และกลับมาเลี้ยงไก่งวงอีกครั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2552 โดยสะสมประสบการณ์จนเลี้ยงสัตว์ปีกที่ขึ้นชื่อว่าเลี้ยงยากได้สบาย ไก่แข็งแรงและน้ำหนักตัวดี 

ปัจจุบันไก่งวงในฟาร์มของเชษฐามีหลายร้อยตัว ไก่เหล่านี้กินรำข้าว เมล็ดข้าวโพด กากถั่วเหลือง ผสมสมุนไพรและผักหญ้าหลายชนิด ยามหน้าร้อนและหน้าแล้งจะถูกเลี้ยงอย่างอิสระในทุ่งกว้าง เฉพาะหน้าฝนเท่านั้นที่จะเลี้ยงในโรงเรือนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ จึงเป็นไก่ Free Range ที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ เจ้าของฟาร์มไก่เล่าว่าแผนในอนาคต จะปรับปรุงฟาร์มให้ร่มรื่น มีนาบัวสัตตบงกช และทางเดินท่องเที่ยวในพื้นที่ 11 ไร่ สำหรับต้อนรับผู้สนใจมาเยือน

ส่วนคนที่สนใจพิสูจน์รสชาติ เชิญไปลองที่ร้านคำเกิ้มลาบไก่งวง มีเมนูหลากหลายทั้งอาหารฝรั่งและไทยอีสาน แนะนำต้มแซ่บ ลาบไก่งวง ไก่งวงทอดกระเทียม และไก่งวงรมควัน อร่อยจนถ้าคิดถึงคำเกิ้ม ต้องคิดถึงไก่งวงเป็นอันดับแรก

ที่ตั้ง : หมู่บ้านคำเกิ้ม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอาทิตย์) 10.00 – 20.00 น.

โทร : 08 7227 2241

Facebook : ร้านคำเกิ้ม ลาบไก่งวง

06

ร้านหนังสืออิสระและคาเฟ่ Slow Bar ของวิศวกรกลับบ้าน

 พนม บุ๊คสโตร์ 

อภิบาลบัญชาเป็นถนนสายเศรษฐกิจของอำเภอเมืองนครพนม คุณพ่อของ แมน-ธรรมนิตย์ พนมศักดิ์ เคยเปิดร้านตัดผมในอาคารพาณิชย์ขนาดหนึ่งคูหาอยู่หลายปี ก่อนจะเปิดให้คนอื่นผลัดเปลี่ยนมาเช่าทำร้านค้า เมื่อวิศวกรหนุ่มตัดสินใจกลับบ้านเกิด เขาเนรมิตตึกแถวเก่านี้ใหม่เป็นสถานที่รวมสิ่งที่เขาชอบไว้ด้วยกัน

“ชอบฟังเพลงโฟล์กก็เปิดเพลงโฟล์ก ชอบอ่านหนังสือก็ขายหนังสือที่ชอบ ชอบกินกาแฟก็ชงกาแฟ ชอบแมวก็มีแมว ชอบอะไรก็มีทุกอย่าง” เจ้าของร้านเท้าความหลังของพนม บุ๊คสโตร์ ให้ฟัง เขาออกแบบและตกแต่งร้านเองทั้งหมด จนเป็นร้านเดียวในนครพนมที่เป็นทั้งร้านหนังสืออิสระและคาเฟ่ในตัว 

“ถ้ามีแต่หนังสืออย่างเดียวคงเหงาแน่นอน เดือนหนึ่งน่าจะมีคนเข้าร้านสักสิบคน แต่พอมีกาแฟด้วยก็ไม่เหงาแล้ว หนังสือถ้าขายไม่ออก ยังไงผมก็อ่าน” แมนเอ่ยยิ้มๆ ถึงบรรดาหนังสือที่คัดมาวางในร้าน ทั้งนวนิยาย เรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และสารคดี จากปลายปากกานักเขียนไทยและเทศชื่อดัง แต่ละเล่มการันตีคุณภาพด้วยรางวัลหลายสำนัก 

หลังจากเปิดร้านมาปีกว่าๆ วัยรุ่นในเมืองเล็กที่แวะเวียนเข้ามาไม่ได้เพียงเข้ามาถ่ายรูปในคาเฟ่ใหม่ แต่ติดใจรสชาติกาแฟดริป Slow Bar ที่เน้นเมนูน้อยๆ เรียบง่าย กับบรรยากาศสบาย ปนเสียงเพลงนุ่มหวานที่เปิดคลอทั้งวัน

“ถ้าทำแบบเขาก็ไม่เป็นแบบเรา ร้านกาแฟอื่นๆ อาจแข่งกันว่าเครื่องใครแพงกว่า ถ้าเราไปเดินตามเขา มีแมชชีนมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเราก็จะยืนข้างๆ เขา ดีไม่ดีเขาอาจถีบเราตกลงมา แต่ถ้าเราไม่มี ถึงล้มก็อยู่ในที่ของเราเอง ร้านเราเลยมีอุปกรณ์น้อยมาก อยากกินก็ต้องรอหน่อยนะ”

แมนเล่าปรัชญาธุรกิจที่ฟังดูอินดี้ แต่ก็ไปได้สวยจนเจ้าตัวบอกว่าจ่ายค่าอาหารแมวได้สบาย แขกที่เข้าร้านมีตั้งแต่หนุ่มสาวชาวกรุง และขาประจำที่แวะมาจิบกาแฟแถมซื้อหนังสือสม่ำเสมอ นอกจากเสิร์ฟวัฒนธรรมการอ่านและการดื่ม บางครั้งพนม บุ๊คสโตร์ ยังแปลงโฉมเป็นสถานจัดคอนเสิร์ตโฟล์กไทยขนาดย่อม บางคราวมีงานอ่านบทกวี และกิจกรรมเชิงศิลปวัฒนธรรม ที่เปิดโอกาสให้ชาวนครพนมคอเดียวกับเจ้าของร้านได้มาเสพงานศิลป์ร่วมกัน 

“มันไม่เหมือนกรุงเทพฯ เนอะ พอมาอยู่บ้านเราก็อีกเรื่อง แต่ก็อยากให้มีของแบบนี้ที่บ้านบ้าง”

หนุ่มนครพนมกล่าวตบท้ายพลางเกาคางเจ้าสุขใจ แมววิเชียรมาศแสนเชื่อง บรรยากาศแสนรื่นรมย์ในร้านเล็กๆ ชวนให้สุขใจตามชื่อแมวประจำร้านจริงๆ

ที่ตั้ง : 906 ถนนอภิบาลบัญชา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) 9.30 – 17.00 น.

โทร : 08 0194 3996

Facebook : พนม บุ๊คสโตร์

07

 ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า แหล่งเก็บหนังสือโบราณของนครพนม 

หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม

อาคารเก่าก่ออิฐถือปูนสองชั้นครึ่งหลังนี้เดิมเป็นศาลากลางจังหวัดที่สร้างใน พ.ศ. 2458 – 2462 ตึกนี้สร้างเป็นทรงฝรั่งเศส ใช้กระเบื้องดินเผามุงหลังคา โดยช่างชาวญวนชื่อนายก่าย ส่วนลูกกรงบันไดไม้แสนสวยเป็นฝีมือช่างชาวจีนชื่อนายเส็งกับนายยอด หลังผ่านการใช้งานมานานจนทรุดโทรม และเมืองขยับขยายจนต้องย้ายศาลากลางจังหวัดไปไว้ที่อื่น สถาปัตยกรรมงดงามนี้จึงแปลงโฉมเป็นหอสมุดแห่งชาติ หนึ่งในบรรดาหอสมุดแห่งชาติ ที่มีทั้งหมด 11 สาขาในประเทศไทย และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น พ.ศ. 2540 

ภายในหอสมุดมีทั้งหนังสือทั่วไปตามหมวดต่างๆ หนังสือออนไลน์ ห้องคอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล ห้องเก็บราชกิจจานุเบกษาใต้หลังคา และที่พิเศษสุดคือห้องเก็บหนังสือโบราณ หอสมุดนี้มีคัมภีร์ใบลานจารึกอักษรธรรมอีสานกว่า 3,000 มัด รวมแล้วกว่า 20,000 ผูก ทั้งหนังสือก้อมท่อนสั้น และหนังสือผูกหรือหนังสือเทศน์ท่อนยาว ทั้งยังมีสมุดไทยดำ สมุดไทยขาว ซึ่งบรรจุความรู้หลากหลาย ทั้งพระธรรมคำสอน กฎหมายโบราณ ตำรายา ไปจนถึงตำรับคุณไสยต่างๆ ซึ่งประชาชนมาอ่านได้หมด (ยกเว้นอย่างสุดท้าย ห้ามคัดลอกไปเล่นของเด็ดขาด) 

งานสำคัญหนึ่งของบรรณารักษ์ที่นี่คือตามหาคัมภีร์โบราณตามวัดต่างๆ ทุกปี เพื่อจัดทำบันทึกข้อมูล และช่วยดูแลทำความสะอาด เช็ดใบลานด้วยแอลกอฮอล์ ตามด้วยน้ำมันมะกอก แล้วผึ่งแห้งก่อนเก็บใส่ผ้าห่อคัมภีร์ แถมยังมีวิธีไล่แมลงแบบออร์แกนิก คือนำพริกไทยดำ การบูร และพิมเสน มัดใส่ห่อผ้าเล็กๆ แล้วนำไปวางตามมุมตู้คัมภีร์ 

ข้อดีมากๆ ของหอสมุดนี้ คือเปิดรับให้ทุกคนมาอ่านหนังสือและนั่งทำงานอย่างเงียบสงบ ใครมาเที่ยวนครพนมแล้วมีเวลาอ้อยอิ่ง อย่าแค่ถ่ายรูปกับตึกสวยด้านนนอก มานั่งอ่านนิยายหรือศึกษาคัมภีร์ในตึกเก่า จะได้สัมผัสเสน่ห์นครพนมอย่างลึกซึ้งน่าประทับใจ

ที่ตั้ง : 350 ถนนอภิบาลบัญชา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอาทิตย์-วันจันทร์) 9.00 – 17.00 น.

โทร : 0 4251 0200

Facebook : หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม

08

ร้านกาละแมห่อใบตองแบบโบราณสูตรธาตุพนม

 กาละแมพรประเสริฐ 

หัวกระไดไม่แห้ง น่าจะเป็นคำอธิบายบรรยากาศหน้าร้านของฝากเก่าแก่แห่งอำเภอธาตุพนม ซึ่งรถแวะเวียนเข้ามาสั่งขนมสีดำหนุบหนับกันรายละ 5 ถุง 10 ถุง หากกังขาในรสชาติ ลองแกะห่อใบตองแห้งแล้วคว้ากาละแมเข้าปาก รับรองว่าชิ้นเดียวไม่มีทางพอ

ส่วนผสมกาละแมของร้านพรประเสริฐเป็นความลับ แต่แน่ใจได้ว่าทำสดใหม่วันต่อวัน เคลือบน้ำมันมะพร้าวหอม เคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้กาละแมที่นี่เด็ดดวงนักคือใบตองแห้ง คัดเฉพาะใบกลาง ไม่อ่อนไม่แก่เกินไปมาตัดเป็นแผ่น รีดด้วยเตารีดโบราณให้แห้งหอมกรุ่น หยอดกาละแมเหนียวนุ่มลงไป กลัดห่อด้วยไม้ไผ่บาง กลิ่นใบตองอุ่นๆ จะกำซาบเข้าไปในเนื้อกาละแม ได้รสชาติหอมหวานละไมกำลังดี เนื้อเด้งดึ๋งแต่ไม่เหนียวติดฟัน ชิมแล้วตรึงใจลืมไม่ลง สมเป็นความภูมิใจอันยาวนานของเมือง 

เพราะขนมที่นี่ไม่ได้ใส่สารกันบูด เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ทางร้านแนะนำว่าซื้อแล้วควรกินภายใน 3 – 5 วัน อย่ามัดปากถุงแน่นนัก ให้อากาศเข้าได้บ้าง และถ้าแช่ตู้เย็น วางพักให้คลายเย็นสักชั่วโมงก่อนค่อยรับประทาน นอกจากกาละแม ร้านพรประเสริฐยังขายขนมของฝากอื่นๆ จำพวกบ๊วย ผลไม้แช่อิ่ม และเค็มบักนัด (สับปะรดหมักปลาร้า) ด้วย แค่แวะมาร้านนี้ก็ได้ของดีธาตุพนมกลับไปฝากที่บ้านเพียบ

ที่ตั้ง : 62 หมู่ 13 ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน 8.00 – 18.00 น.

โทร : 0 4254 1012

09

ที่พักขนาด 6 ห้องของทายาทนายฮ้อยอุ่น จันทศ 

บ้านอิงอุ่นเกสต์เฮาส์ 

นายฮ้อยอุ่น จันทศ เป็นพ่อค้าควายผู้ประกอบธุรกิจหลายอย่างในอำเภอธาตุพนม เขาสร้างตึกเฟรนช์โคโลเนียลแสนสวย 2 ชั้น ขนาด 5 คูหาอยู่ใกล้ๆ พระธาตุพนมใน พ.ศ. 2479 หรือราวๆ 80 ปีก่อน เป็นออฟฟิศสำหรับธุรกิจรถรับส่ง ค้าไม้ โรงเรียน ฯลฯ ตัวตึกจำลองโครงสร้างตะวันตก แต่มีกันสาดไม้ค้ำยันแบบอีสานยื่นออกมาบังแดด เป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวิถีท้องถิ่น

ต่อมาทายาทสกุลจันทศ นำโดย อดิพงษ์ จันทศ และภรรยา กมลชนก จันทศ จึงเปิดเกสต์เฮาส์เล็ก ๆ ขนาด 6 ห้องข้างบ้านนายฮ้อยอุ่น 1936 THE HERRITAGE ให้คนที่มาพักได้สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายสงบในเมืองเล็ก โดยเข้าไปเยี่ยมและถ่ายรูปในอาคารเก่าที่จัดแสดงข้าวของโบราณในสมัยนายฮ้อยอุ่น เสมือนพิพิธภัณฑ์ประจำตระกูลที่ช่วยให้แขกที่มาได้เห็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่นี่

เรื่องราวของบ้านอิงอุ่นเกสต์เฮาส์อยู่ใกล้พระธาตุพนม ชนิดมองนอกหน้าต่างออกไปก็เห็นทันที ทำให้นักท่องเที่ยวที่มองอำเภอธาตุพนมเป็นเมืองผ่าน มาไหว้พระธาตุพนมแล้วกลับ ได้ลองสัมผัสประสบการณ์นอนค้างพักผ่อน ทำความรู้จักอำเภอธาตุพนมให้นานขึ้น ยิ่งตื่นมากินอาหารเช้าเป็นไข่กระทะร้อนๆ รู้ตัวอีกทีอาจหลงรักที่พักของตระกูลจันทศไปโดยไม่รู้ตัว

ที่ตั้ง : 19 หมู่ 11 ถนนพนมพนารักษ์ ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน

โทร : 0 4254 0111

Facebook : บ้านอิงอุ่นเกสต์เฮาส์

10

 ร้านข้าวปุ้นน้ำปลาแดกบีบเส้นสดแบบภูไทในเรณูนคร 

ขนมจีนแม่วัน

เอกลักษณ์แห่งนครพนมคือข้าวปุ้นน้ำปลาแดก หรือขนมจีนน้ำปลาร้า ซึ่งหาทานได้ทั่วไปในอำเภอเมือง แต่ถ้าอยากลิ้มรสชาตินัวแบบดั้งเดิมกลางทุ่งนา ขอเชิญที่ตำบลหนองย่างชิ้น อำเภอเรณูนคร ชุมชนภูไทนี้ทำขนมจีนบีบเส้นสดกันทั้งหมู่บ้าน แถมยังมีตำรับน้ำปลาร้าหมักเฉพาะตัว แม้อยู่นอกเมืองไปนิด แต่ความอร่อยและทุ่มเทของขนมจีนแม่วัน คุ้มค่าการขับรถดั้นด้นไปลองชิมสักครั้ง

แม่วัน-ญาณวรรณ สายแก้ว เปิดร้านขนมจีนหน้าบ้านตัวเองมา 8 ปี แต่เรียนรู้การทำข้าวปุ้นน้ำปลาแดกมาเนิ่นนานจากบรรพบุรุษ แม้ดูเรียบง่าย แต่ทุกขั้นตอนยังคงวิถีดั้งเดิม ตั้งแต่การเตรียมน้ำปลาร้าต้มสุก ซึ่งเธอและครอบครัวออกไปดักจับปลาเล็กปลาน้อยมาหมักข้ามปี หมายความน้ำปลาร้าหอมเค็มที่เรากินวันนี้ เธอได้หมักอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีน้ำยากะทิให้เลือกด้วยนะ พริกสดและเม็ดกระถินข้างเคียง เธอก็ตำและแกะเสิร์ฟสดๆ เดี๋ยวนั้น ไม่ใช้ของสำเร็จรูป ขนาดพริกป่นยังตำเอง ไม่ใช้ของสำเร็จรูปสักอย่าง

ส่วนเส้นขนมจีนมีให้เลือก 2 แบบ คือเส้นขนมจีนยาวๆ ผอมๆ ทั่วไป กับเส้นด๊องแด๊ง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเส้นหัวไก่ ท่อนอวบสั้นๆ แม่วันจะผสมแป้งข้าวเจ้าทำแป้งขนมจีน บีบเส้นใส่แม่พิมพ์แล้วต้มบนเตาฟืน แช่น้ำเย็นแล้วตักใส่ชาม สดใหม่เหมือนอุด้งหรือโซบะเส้นสดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นหรูหราชอบขายในเมืองหลวง แต่ของแม่วันมีจำนวนจำกัด ทำวันละถังเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย เส้นเด้งดึ๋งหนึบสู้ฟัน ไม่นิ่มแบบเส้นขนมจีนส่วนใหญ่ที่เรากินทั้งชีวิต ซึ่งเป็นเส้นจากโรงงานที่บีบค้างคืน ตัดขาดง่าย 

ขนมจีนบีบสดๆ นี้ได้รับความนิยมมาก ขนาดร้านอาหารในกรุงเทพฯ ยังมาสั่งวัตถุดิบ คนนครพนมก็นิยมซื้อเส้นกลับไปกินที่บ้าน หรือพกเข้าเมืองหลวงมากิน เพียงแช่แข็งแล้วอยู่ได้ 2 – 3 วัน เอามานึ่งหรือลวกน้ำร้อนใหม่ก็กินได้อร่อย จะเอาไปใส่ส้มตำก็เข้าที ตักเข้าปากแล้วพูดได้คำเดียวว่าแซ่บหลาย 

ที่ตั้ง : ตำบลหนองย่างชิ้น อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม (แผนที่)

วัน-เวลา : เปิดทุกวัน 8.30 – 15.00 น.

โทร : 08 7109 2566 (แม่วัน)

ขอบคุณข้อมูลจากคุณณัฐพงศ์ แซ่หู และคุณดนัย พลอยพลาย