ช่วงเวลาการเป็นแม่ คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงแข็งแกร่งและอ่อนแอที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากที่สุด อย่างที่แม่ทุกคนรู้ดี 

แม่บางคนเป็น Working Woman ต้องทำงานไปด้วยขณะตั้งครรภ์ บางคนชอบออกไปเจอผู้คน พบปะสังสรรค์ แต่เมื่อร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง จากชุดเดรสสวย ๆ ที่เคยใส่ประจำ ต้องกลายมาเป็นชุดคลุมท้องที่ไม่ค่อยดีต่อใจนัก แถมหลังคลอดยังต้องให้นมลูกอีกอย่างน้อย 6 เดือน ชุดให้นมลูกก็เช่นกัน ใส่แล้วแทนที่จะทำให้ใจฟูเป็นคุณแม่สวย ๆ ในโมเมนต์นั้น แต่บางทีกลับใจฝ่อแทน

มีคุณแม่คนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า เธอเคยขึ้นรถไฟฟ้า อีกแค่ไม่กี่สถานีก็จะลงแล้ว แต่ด้วยอานุภาพของชุดคลุมท้องที่ใส่อยู่ ทำให้ชายคนหนึ่งลุกให้เธอนั่งด้วยความสงสารและเป็นห่วง แต่จริง ๆ แล้วเธอค่อนข้างแข็งแรงดีและเพิ่งเริ่มตั้งครรภ์ได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

จุ๋ม-ธาธินี ภู่เทพอมรกุล อดีต Product Specialist ของบริษัทยามะเร็งและโรคเลือด และเจ้าของแบรนด์ Mommy Moment ก็เคยเจอปัญหาเดียวกันตอนตั้งครรภ์ เธอเป็นคนทำงาน รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวสวย ๆ และเข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงตัดสินใจทำชุดคลุมท้องและชุดให้นมที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก ที่สำคัญต้องใส่สบายและใช้งานได้จริง โดยหวังว่าชุดของเธอจะช่วยให้ช่วงเวลาการเป็นแม่นั้นมีความสุขมากขึ้น

Mommy Moment ชุดคลุมท้องที่อยากให้แม่ใส่แล้วมีความสุข น่ารักจนคนไม่ตั้งครรภ์ยังสั่งซื้อ

ธุรกิจ Blue Ocean

Mommy Moment คือแบรนด์ชุดคลุมท้องที่ อาจารย์เกด-ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ แนะนำกองบรรณาธิการมาเมื่อปีกลาย เพื่อนคนหนึ่งของอาจารย์เล่าเรื่องความดีงามของชุดคลุมท้องนี้ให้ฟัง พร้อมบอกว่า ‘ใส่แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่มีความสุข’ 

แต่ชุดคลุมท้องแบบไหนกันที่ทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกแบบนั้นได้

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วตอนจุ๋มตั้งท้องลูกคนแรก เธอเป็นคนชอบแต่งตัว จึงมองหาชุดคลุมท้องสวย ๆ ตามประสาผู้หญิงที่อยากดูดี แต่ตามท้องตลาดนั้นไม่มีชุดที่ถูกใจเอา เลยถอดใจเพราะคิดแบบคุณแม่หลาย ๆ คนว่า ‘ชุดใส่แค่ไม่กี่ครั้ง ไม่สวย แถมแพงอีกต่างหาก’

แต่จนแล้วจนรอด เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ ขนาดหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเธอต้องจำใจซื้อใส่อยู่ดี

เมื่อ 7 ปีก่อน ชุดคลุมท้องที่ว่าหายากแล้ว ชุดให้นมลูกยิ่งยากกว่า เพราะมีคนทำน้อย 

“ตอนลาคลอดแรก ๆ อยู่บ้านก็ไม่เป็นไร ใส่เสื้อนอน ใส่เสื้อยืด แต่พอครบกำหนดต้องกลับไปทำงาน เรากลับมาเป็นผู้หญิงสวยอีกแล้ว เลยไปหาชุดตามงานแม่และเด็ก มันก็มีนะชุดที่สวย ๆ แต่ราคาก็มากกว่าตัวละ 3,000 ถ้าซื้อ 3 ชุดก็หมื่นหนึ่งแล้ว 

“มันเป็นธรรมชาติของแม่ลูกเล็ก ที่จะมีลิสต์ของเยอะแยะที่อยากซื้อให้ลูก แต่พอจะซื้อให้ตัวเองเราคิดหนัก พอไปดูตัวที่ราคาถูกลงมาก็แบบไม่สวย ผ้าไม่ดี ตัดเย็บก็ไม่ดี เราคิดว่ามันต้องมีสิ สักร้านที่ตรงใจเรา ราคาจับต้องได้ที่คนเป็นแม่พร้อมจะจ่าย”

Mommy Moment ชุดคลุมท้องที่อยากให้แม่ใส่แล้วมีความสุข น่ารักจนคนไม่ตั้งครรภ์ยังสั่งซื้อ

จนมีลูกคนที่สอง เธอตัดสินใจว่าจะลาออกจากงาน แต่ด้วยตัวเองเป็น Working Women อยู่แล้ว จึงอยากหาธุรกิจที่ทำและดูแลลูก ๆ ไปด้วยได้ และเพราะอยากตัดชุดให้นมให้ตัวเองใช้อยู่แล้ว จึงเกิดเป็นแบรนด์ชุดคลุมท้องที่จุ๋มทุ่มเทมาก ๆ ทั้งหาข้อมูล ออกแบบแพตเทิร์น เลือกเนื้อผ้าและลายผ้าเองทั้งหมด

“เรารู้ว่ามันขายได้ เพราะเคยเป็น User มาก่อน เรารู้ว่าคนเป็นแม่ต้องการชุดคลุมท้องแบบไหน ชุดให้นมแบบไหน Pain Point ของลูกค้าอยู่ตรงไหน แบรนด์ต้องเป็นชุดคลุมท้องและชุดให้นมที่น่ารัก ใส่ได้ไม่เบื่อ ราคาจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไปที่คนเป็นแม่จะตัดสินใจซื้อ”

หัวอกคนเป็นแม่

ชุดของแบรนด์ออกแบบจากหัวอกคนเป็นแม่ 

จุ๋มใช้วิธีวาดเบื้องต้นด้วยตัวเอง ก่อนส่งไม้ต่อให้กับทีมช่างเพื่อทดลองชุดทำตัวอย่าง เธอขอให้ช่างทำแม้กระทั่งซับใน ยอมเพิ่มต้นทุนมากขึ้น เพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไม่อยากให้คุณแม่ที่สวมใส่หรือลูก ๆ ของพวกเขารู้สึกระคายเคืองหรือไม่สบายตัวขณะใช้งาน 

เมื่อตัดชุดตัวอย่างเสร็จเรียบร้อย จุ๋มจะเป็นคนทดลองด้วยตัวเองทั้งหมด 

“คันไหม รั้งไหม เปิดให้นมยังไง แล้วเราก็จะให้ลูกมากินนมจริง ๆ เขากินนมไหม กินง่ายไหม ไม่สะดวกตรงไหน ก็จะปรับแพตเทิร์นจนกว่าทุกอย่างจะลงตัวพร้อมส่ง เด็ก ๆ ก็แฮปปี้เพราะกินนมได้สะดวก และดีใจที่คุณแม่ของเขาสวย” เธอหัวเราะ

Mommy Moment ชุดคลุมท้องที่อยากให้แม่ใส่แล้วมีความสุข น่ารักจนคนไม่ตั้งครรภ์ยังสั่งซื้อ

ช่วงหลัง ๆ เริ่มมีลูกค้าร้องขอเข้ามาว่า ต้องการปรับแก้จุดต่าง ๆ ทางร้านก็ยินดีทำให้ เพราะเข้าใจถึงความรู้สึก ลูกค้าบางคนอาจจะไม่ได้ชอบเนื้อผ้าแบบเดียวกับเราเสมอไป และหลายครั้งไอเดียใหม่ ๆ ก็มาจากการรับฟังคำติชมเหล่านี้ 

หลายครั้งลูกค้ารับชุดไป ลองใส่แล้วไม่เหมาะกับตัวเอง จุ๋มก็ให้เปลี่ยน เธอว่าถ้าจะไม่ยอมให้เปลี่ยนก็ทำได้ เพราะขายชุดไปแล้ว แต่เพราะทำธุรกิจด้วยหัวใจ เธอคงทนไม่ได้แน่หากชุดของแบรนด์ต้องถูกทิ้งในตู้เพราะลูกค้าไม่ชอบ 

กรณีที่ลูกค้าได้รับชุดไปแล้วแต่ขนาดไม่พอดีหรือต้องการเก็บทรงเพิ่ม ก็ส่งกลับมาให้ร้านแก้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ ร้านจะส่ง Messenger ไปรับชุดที่บ้านสำหรับคุณแม่ที่ไม่สะดวกเดินทางออกมา เพราะจุ๋มเข้าใจดีว่าคนเป็นแม่ลูกอ่อนไม่มีเวลาออกมาหาร้านแก้ทรงชุด หรือแม้กระทั่งออกมาส่งของด้วยตัวเอง 

“อย่างล่าสุด มีคุณแม่สั่งตัดชุดไปออกงาน แล้วชุดที่ได้ใหญ่กว่าตัวคุณแม่ไปนิดหนึ่ง เขาก็ไม่ว่าอะไร บอกแต่ว่าหลังจบงานจะขอส่งกลับมาให้แก้ ตอนนั้นยังเหลือเวลาอีก 2 วัน เราเลยให้แมสเซนเจอร์วิ่งออกไปรับแล้วแก้ด่วนให้เลย โดยให้คุณแม่มาร์กขนาดที่จะให้แก้ไว้ และส่งชุดที่พอดีมาให้เป็นไกด์ไลน์ด้วย เขาก็เกรงใจ แต่มันเป็นความผิดพลาดของเรา

Mommy Moment ชุดคลุมท้องที่อยากให้แม่ใส่แล้วมีความสุข น่ารักจนคนไม่ตั้งครรภ์ยังสั่งซื้อ
Mommy Moment ชุดคลุมท้องที่อยากให้แม่ใส่แล้วมีความสุข น่ารักจนคนไม่ตั้งครรภ์ยังสั่งซื้อ

“ผลลัพธ์คือคุณแม่ถ่ายรูปกลับมาให้ดู ใส่แล้วสวย เราก็ภูมิใจ ลองคิดถึงแม่ลูกเล็กที่นาน ๆ ทีจะไปออกงาน เป็นเรา เราก็อยากสวย ใส่ชุดหลวมก็คงไม่มั่นใจ เราอยากให้เขาใส่ชุดเราแล้วภูมิใจ ให้คนมาชมเขาว่า คุณแม่สวยจังเลยวันนี้ นั่นคือที่สุดแล้ว”

ทุกวันนี้เลยเป็นร้านชุดตามใจคุณแม่ ซึ่งเลือกแบบ เลือกเนื้อผ้า ปรับขนาด ปรับความยาว เพิ่มรายละเอียดอย่างระบายได้ แต่ยังคงแพตเทิร์นหลักตามเอกลักษณ์ของร้านไว้อยู่ 

ชุดคลุมท้องที่ลูกค้าไม่ใช่แค่คนท้อง

เพราะเคยทำงานด้านเซลส์มาก่อน อยู่ในบริษัทต่างชาติมาถึง 13 ปี สิ่งที่ติดตัวจุ๋มจนนำมาบริหารแบรนด์นี้ต่อคือ หัวใจนักบริการ

ด้วยหลักการอาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่ต้องใช้พลังใจมหาศาลในการทำให้เกิดขึ้นจริง

“เราทำธุรกิจแบบ เราอยากได้แบบไหน เราทำแบบนั้น เราเคยเป็นคนที่ใช้บริการ เราเคยเป็นคนซื้อของทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ถ้าอยากได้แบบไหน เราจะทำแบบนั้น

“สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกค้า Feel Good คืออะไร เราจะทำ สิ่งที่แย่ที่สุด เราจะไม่ทำแน่ ๆ เราไม่เคยคิดว่าวันนี้เรื่องของเราจะไปถึง The Cloud หรือจะไปได้ไกลแค่ไหน ลูกค้าจะบอกต่อกันมากเท่าไหร่ ขอแค่เขาชอบชุดเรา รู้สึกดีเวลาใส่ชุดเรา อยากใช้เร็ว เขาได้ใช้เร็ว ชอบแบบที่เราดีไซน์ เขาแฮปปี้เราก็แฮปปี้แล้ว ธุรกิจเราไปได้เพราะลูกค้าจริง ๆ”

Mommy Moment ไม่ค่อยโฆษณา จะจ่ายค่าโฆษณาก็ในช่วงที่การขายซา ๆ หรือมีบ้างก็ตอนออกคอลเลกชันใหม่ แม้จะเป็นสินค้าที่ลูกค้าบางคนซื้อแค่ครั้งเดียว แต่จุ๋มบอกว่า ธุรกิจนี้อยู่ได้เพราะลูกค้าเก่า

“มีลูกค้าคนหนึ่งซื้อทุกครั้งที่เราลงผ้าใหม่ เขาชอบแบบนี้ เขาก็ตัดแต่แบบนี้ แล้วก็จะมีลูกค้าที่เลิกให้นมไปแล้ว แต่ยังกลับมาตัดกับเราอยู่ เขาก็จะให้ตัดแบบไม่ใส่ซิปนม ตัดเป็นชุดเที่ยวทั่วไปนี่แหละ เพราะเขาชอบดีไซน์ร้าน ชอบผ้าที่เราเลือกมา ลูกค้าบางคนตัดซ้ำจนช่างจำชื่อได้ จำได้ว่าดีเทลของคนคนนี้ต้องทำต่างจากคนอื่นยังไง”

ส่วนลูกค้าใหม่จะลองสั่งตัวแรกก่อน แล้วค่อยกลับมาสั่งอีก จนกลายเป็นลูกค้าเก่า

ที่ว้าวไปกว่านั้นคือ ช่วงหลังมานี้ ชื่อเสียงเรื่องดีไซน์สวยของแบรนด์มีมากขึ้นจนไปถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เป็นคุณแม่ 

“เขาเห็นพี่สาวใส่ชุดคลุมท้องแล้วสวย เลยตามมาสั่ง บางคนก็ทักมาเลยว่า ไม่ได้ท้องนะคะ แต่ชอบแบบที่ร้านมาก ขอสั่งได้ไหม” จุ๋มหัวเราะ “พอเขาไปใส่แล้วมีคนชมถามว่าชุดแบรนด์อะไร พอตอบว่า Mommy Moment คนถามก็ตกใจ แต่มันก็ตรงกับความตั้งใจของเราแต่แรก เราไม่ได้อยากให้ใส่ชุดร้านเราแล้วรู้สึกเป็นคุณแม่ เราอยากให้ใส่แล้วรู้สึกว่าฉันสวย ฉันอยากใส่ออกไปเที่ยว ออกไปเที่ยวแล้วฉันก็ให้นมลูกได้ด้วยนะ”

วันนี้และอีก 5 ปีข้างหน้า

5 ปีของชีวิตแม่คือการได้เห็นพัฒนาการของลูก เห็นลูกฝึกตั้งไข่ หัดพูดคำแรก ไปโรงเรียนวันแรก เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ที่ต้องการการวางแผนสำหรับเติบโตในขวบปีต่อไป

Mommy Moment เองก็ตั้งใจเติบโตไปใน 3 เรื่อง อย่างแรก การทำหน้าร้าน เพราะประสบการณ์การซื้อเสื้อผ้าต้องอาศัยการสัมผัสและการลอง จุ๋มอยากให้ลูกค้าได้ลองจับผ้า เลือกหลายผ้า เลือกแบบที่จะตัดด้วยตัวเอง ชอบไม่ชอบตรงไหน อยากปรับแก้ตรงไหน จะได้ทำอย่างแม่นยำ

อย่างที่สอง การขยายทีมช่าง ทุกวันนี้แบรนด์มีช่างทั้งหมด 4 คน ทำให้การตัดเย็บครั้งหนึ่งใช้เวลานาน เพราะยึดมั่นในฝีมือและความประณีต ถ้าพัฒนาขยายทีมช่างให้แข็งแรง ก็สามารถรองรับความต้องการลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงการส่งมอบสินค้าที่เร็วยิ่งขึ้น

อย่างที่สาม การเปิดแบรนด์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่คุณแม่ โดยยึดแพตเทิร์นและเนื้อผ้าตามสไตล์ของ Mommy Moment เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกเขินอายเวลาใส่เสื้อผ้าของจุ๋มออกไปข้างนอก หรือเวลาที่คนถามว่าซื้อชุดจากไหน และยังแนะนำต่อ ๆ กันได้โดยไม่ต้องกังวล

ช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด

ทุกวันนี้อัตราการตั้งครรภ์ต่ำลงกว่าเก่ามาก แต่ครอบครัวที่คิดจะมีลูกมักวางแผนและเตรียมตัวมากกว่าที่เคย 

สโลแกนแบรนด์ที่ว่า ‘เพราะช่วงเวลาของการเป็นแม่คือช่วงเวลาที่พิเศษที่สุด’ จึงไม่เกินจริงเลยสำหรับจุ๋ม เพราะเป็นช่วงที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะอ่อนแอที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงบางคนอาจได้สัมผัสช่วงเวลานี้แค่ครั้งเดียวในชีวิต มันคือโอกาสเดียวของพวกเธอ 

ความสุขทุกครั้งที่คุณแม่ได้ดูรูปถ่ายตัวเองในชุดคลุมท้องกับลูกน้อย Mommy Moment จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่คนเป็นแม่มีความสุขที่สุด ด้วยการสร้างชุดคลุมท้องและชุดให้นมที่จะทำให้แม่ผู้สวมใส่มีความสุขที่สุด 

“เราไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรหรอก เราทำจากว่าตัวเองอยากได้อะไร ตอนท้องเรารู้สึกยังไง เราว่าทุกคนอยากเป็นแม่ที่สวย ทุกคนอยากเป็นแม่ที่แฮปปี้ พอได้ใส่ชุดสวย ๆ สบาย ๆ เราก็มีความสุข แล้วความสุขของเราก็จะส่งผ่านไปยังลูก”

Lessons Learned

  • ทำธุรกิจด้วยหัวใจและความเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า เอาใจเขามาใส่ใจเรา มองเห็นถึงปัญหาของลูกค้าที่ไม่ได้กล่าวออกมา แต่รับรู้ได้ด้วยการสังเกตจากพฤติกรรมและประสบการณ์ตรงจากการเป็นผู้ใช้จริง
  • น้อมรับทุกคำติชมด้วยความเข้าใจ แก้ไขและพัฒนาทีมอยู่สม่ำเสมอ เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้และได้รับไอเดียใหม่ ๆ จากความผิดพลาดของตนเอง

Writers

พิมพ์อร นทกุล

พิมพ์อร นทกุล

บัญชีบัณฑิตที่พบว่าตัวเองรักหมามากกว่าคน

Avatar

ตรีเนตร จตุพร

นักเขียนฝึกหัดที่ชื่นชอบงานศิลปะ ธรรมชาติ และบทกวี หลงใหลในความย้อนแย้งของโลกใบนี้ เช่น การกินไอศกรีมในหน้าหนาว

Photographer

Avatar

ณัฎฐาจิตรา ชินารมย์รัตน์

ช่างภาพที่ชอบการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลงและหลงรักในความทรงจำ