The Sky Bar
ขอเริ่มเรื่องที่ ‘Mai The Sky Bar’ บาร์ชั้นบนสุดของ Meliá Chiang Mai ที่เราสามารถนั่งกินทาปาส จิบเครื่องดื่ม ท่ามกลางแสงสวย ๆ ยามพระอาทิตย์ตกหลังดอยสุเทพ พร้อมกับมองแสงไฟของเมืองเชียงใหม่แบบ 360 องศาจากบาร์ที่สูงที่สุดในเชียงใหม่ นี่คือไฮไลต์ของโรงแรม ‘Meliá Chiang Mai’ และเราคิดว่าเป็นไฮไลต์ที่กำลังถูกพูดถึงกันมากในเชียงใหม่ขณะนี้ด้วย
Spanish – Lanna
เหตุที่ Meliá มีทาปาสบาร์ เพราะเป็นโรงแรมในเครือจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเน้นหนักในเรื่องอาหารการกินตามวัฒนธรรมสเปน และเราคิดว่าสิ่งนี้ก็เหมาะกับวัฒนธรรมของคนไทยด้วยเช่นกัน ที่นี่มีห้องอาหารและบาร์อยู่ถึง 6 แห่ง กระจายอยู่ทั่วโรงแรม มีทั้ง The Sky Bar ที่เรานั่งดื่มชั้นบนสุด เป็นทาปาสบาร์ที่ใครก็จองเข้ามานั่งชิลล์ได้ มีห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน และอาหารเหนือเสิร์ฟเมนูแบบล้านนาตามต้นตำรับ เรียกว่าครบถ้วนตามแบบฉบับโรงแรมแห่งหัวเมืองเหนือ
หากสังเกตรายละเอียด จะพบว่าหลาย ๆ อย่างใน Meliá สอดแทรกความเป็นท้องถิ่นเข้ามาผสมผสานได้อย่างกลมกลืน ทั้งเรื่องการตกแต่งภายในห้องรับรองที่ใช้โครงสร้างของร่มบ่อสร้างและตุงไส้หมู สร้างความแปลกตาให้กับล็อบบี้ เชื่อมโยงความเป็นงานออกแบบร่วมสมัยกับสไตล์ศิลปะของล้านนาเข้าด้วยกันอย่างน่าประหลาดใจ
ที่เราสนใจมากคือความเชื่อมโยงกันของสเปนกับล้านนาในเรื่องการออกแบบ การตกแต่งภายในของ Meliá Chiang Mai ได้แรงบันดาลใจจากวัดอุโมงค์ วัดสำคัญแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ที่มีลักษณะเป็นอุโมงค์หลังคาแบบโค้ง งานตกแต่งใน YHI Spa ล็อบบี้ หรือในห้องอาหารของ Meliá ก็ใช้เอกลักษณ์ของวัดอุโมงค์มาออกแบบ และทำให้เรารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบอาร์กโค้งที่เห็นได้บ่อยในอาคารเก่าแก่ของสเปน และไม่ใช่แค่การตกแต่ง อาหารของที่นี่เองก็ผสมผสานระหว่างสเปนกับล้านนาด้วยเช่นกัน
ในมื้อค่ำ ‘Mai Restaurant & Bar’ จะเสิร์ฟอาหารล้านนาร่วมสมัยที่ให้ความรู้สึกถึงอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนหรืออาหารตะวันตกในหลาย ๆ จาน เช่น ตอร์ติญาน้ำพริกอ่องในชุดออเดิร์ฟคำเล็ก ๆ หรือข้าวซอยที่ใช้ Pappardelle หรือพาสต้าเส้นแบน ที่ห้องอาหารทำเส้นสดใหม่วันต่อวัน ราดน้ำแกงข้าวซอยเข้มข้นกับเนื้อสไลซ์ ให้ความรู้สึกถึงพาสต้าครีมซอสที่มีกลิ่นเครื่องเทศหอม ๆ แบบล้านนา เป็นไอเดียในอาหารที่เราชอบมาก
Mai Restaurant & Bar อยู่ที่ชั้น 21 ถัดลงมาจาก Mai The Sky Bar มีวิวเชียงใหม่มุมสูงที่สวยเหมือนกัน แต่ให้ความเป็นส่วนตัวกว่า
Eat Well
เชฟบิลลี่-สุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ พยายามใช้วัตถุดิบที่มีให้ได้มากที่สุด ส่วนที่เหลือก็จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อเป็นลำดับขั้น เช่น เมนูข้าวแคบห่อกุ้ง แค่เมนูเดียวต้องผ่านกระบวนการคิดให้วัตถุดิบที่ใช้เกิดประโยชน์ที่สุด น้ำมันที่เหลือจากการทอดข้าวแคบ ทางทีมครัวจะส่งต่อไปรีไซเคิลเป็นไบโอดีเซล หรือกุ้งที่ใช้ในเมนูนี้ก็ผ่านการลวกจากน้ำสต็อกที่ใช้เปลือกและหัวกุ้ง รวมถึงก้านสมุนไพรมาต้มรวมกันก่อน เราคิดว่าหากเป็นที่อื่นคงทิ้งไปตั้งแต่การตัดแต่งแล้ว
วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารเกือบทั้งหมดของ Meliá ได้จาก ORI9IN The Gourmet Farm ฟาร์มออร์แกนิกในท้องถิ่นที่โรงแรมร่วมมือด้วย เศษอาหารที่เหลือจากในครัวทุกห้องอาหารของโรงแรมก็จะถูกส่งกลับไปที่ฟาร์มเพื่อทำเป็นปุ๋ยใช้ในการปลูกอีกครั้งแบบครบวงจร เป็นโปรเจกต์ที่ทำให้คนที่พักอย่างเราสบายใจไปด้วย
The Level
ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ‘The Level’ คือระดับ Business Class และ First Class ของโรงแรมนี้ จะมีบริการพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าพักในห้องพักระดับ The Level โดยเฉพาะ มีเคาน์เตอร์เช็กอินส่วนตัว มีห้องรับรองพิเศษ ‘The Level Lounge’ ที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางพิเศษซึ่งเหมาะมาก ๆ กับการรีแลกซ์ในช่วงบ่าย เครื่องดื่มและของทานเล่นก็กินได้แบบไม่จำกัดในช่วงเวลาเปิดบริการ ข้อดีคือการนั่งเอนหลัง พักสายตาในมุมส่วนตัว มองทั้งวิวฝั่งแม่น้ำปิงหรือฝั่งเมืองเชียงใหม่ที่มีดอยสุเทพเป็นฉากหลัง ก่อนออกไปเที่ยวต่อในช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ
Walk Around
เราชอบ Meliá Chiang Mai เพราะตั้งอยู่ในโลเคชันที่ออกไปเดินเล่น เดินเที่ยวได้สบาย โรงแรมตั้งอยู่บนถนนเจริญประเทศ ถนนเก่าแก่สายวัฒนธรรมที่ขนานไปกับแม่น้ำปิงและตลาดไนท์บาซาร์ ไม่ไกลจากโรงแรมเป็นชุมชนมัสยิดบ้านฮ่อ ทุกวันศุกร์จะมีกาดบ้านฮ่อหรือตลาดนัดจีนยูนนาน รวมสินค้า วัตถุดิบ และอาหารที่มีความเฉพาะตัวตามวัฒนธรรมชาวจีนยูนนานมาขาย ในวันธรรมดาที่ไม่มีตลาดชุมชนก็มีร้านอาหารอิสลามอยู่หลายร้าน
นอกจากชุมชนมัสยิดบ้านฮ่อ เรายังเดินไปถึงตลาดวโรรส เดินข้ามสะพานไปยังชุมชนวัดเกตที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำปิงได้ Meliá เลยเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการเที่ยวชมเมืองและวัฒนธรรมในระยะเดินเท้าได้สบาย
Deep Retreat
ลึกลงไปในชั้นใต้ดิน เป็น YHI Spa เมื่อเข้าไปจะรู้สึกได้ถึงความเย็นและสงบ การตกแต่งชั้นบนเป็นอาร์กโค้ง แล้วค่อย ๆ กลายเป็นอุโมงค์ใต้ดิน ห้องทรีตเมนต์ 7 ห้อง มีคอนเซปต์ที่นักออกแบบตั้งใจ คืออยากทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ใต้น้ำเพื่อความผ่อนคลาย ใช้เทคนิคการบำบัดแบบเอเชียโบราณผสมกับศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบร่วมสมัยมาใช้ทำสปา ช่วยผ่อนคลายในตอนจบวันได้ดีสุด ๆ
การพักที่ Meliá Chiang Mai ทำให้เรารู้สึกได้พักผ่อนตั้งแต่บนชั้นสูงสุดจนถึงใต้ดินลึกสุดของโรงแรม เราว่านอกจากการผ่อนคลายที่ได้จากการบริการของโรงแรม ที่นี่ยังใส่ความสบายใจเข้าไปในรายละเอียดอื่น ๆ อีกด้วย เป็นโรงแรมใหญ่ในเครือต่างประเทศที่ตั้งใจสร้างความเป็นมิตรกับย่านและชุมชนของท้องถิ่น เราเที่ยวได้ง่าย ๆ แบบช้า ๆ ด้วยการเดินเท้าสำรวจย่านรอบ ๆ ได้ลึกและละเอียดขึ้น แถมยังได้กินอร่อยแบบสบายใจ
ภาพ : Meliá Chiang Mai
3 Things
you should do
at Meliá Chiang Mai
01
นั่งชิลล์ที่ Mai The Sky Bar ชมวิวพระอาทิตย์ตกมุมสูงสุดที่เห็นเชียงใหม่แบบ 360 องศา
02
ทำสปาทรีตเมนต์ที่ YHI Spa ในอุโมงค์ชั้นใต้ดิน ด้วยศาสตร์การบำบัดแบบเอเชียโบราณ
03
เดินสำรวจในย่านรอบ ๆ โรงแรมที่มีทั้งย่านการค้า ถนนสายวัฒนธรรม ชุมชนจีนมุสลิม และริมแม่น้ำปิง