ความรัก ความชอบ ความหลงใหลของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน การสะสมก็เช่นกัน ‘กล่องไม้ขีด’ อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่สำหรับ ต๋า-ช้องโมฬี ลี หญิงสาวมาดเท่วัยใกล้เกษียณ ผู้ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วทุกมุมโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ จำนวนทั้งหมด 1,520 กล่อง ซึ่งทุกกล่องล้วนเปี่ยมด้วยความทรงจำและเรื่องราวมากมาย คงมากเกินกว่าคำว่าชอบหรือหลงใหล

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก
ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

กล่องเหล็กรูปทรงคล้ายถังน้ำมันใบใหญ่ลายการ์ตูน 4 ถัง แต่ละถังเต็มไปด้วยกล่องไม้ขีดสารพัดรูปแบบจากทั่วสารทิศ นักสะสมแบ่งแยกประเภทชัดเจน ทั้งกล่องไม้ขีดจากไทยและจากต่างประเทศ นี่เป็นครั้งแรกที่ต๋าบอกว่ามีคนมาขอถ่ายภาพและสัมภาษณ์ เพราะเธอไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน!

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

ต๋าเท้าความถึงที่มาที่ไปของการเริ่มเก็บกล่องไม้ขีดไฟให้เราฟังว่า “ตั้งแต่จำความได้ กล่องไม้ขีดชุดนี้เป็นชุดแรกที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ” เธอเล่าพลางหยิบขวดชา TWG สีน้ำเงินทรงคลาสสิกออกมา เผยให้เห็นกล่องไม้ขีดไฟที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กระบอกเหล็ก

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก
ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

“เมื่อ 64 ปีที่แล้ว คุณพ่อ (ดร.บุญเสริม วีสกุล) และคุณแม่ (คุณสมทรง วีสกุล) เรียนอยู่ที่ Indiana University Bloomington สหรัฐอเมริกา ทั้งสองใช้เวลาว่างระหว่างเรียนไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ และท่านมักหยิบกล่องไม้ขีดติดมือกลับมาด้วย ซึ่งในโรงแรมมักวางอยู่แถว ๆ ที่เขี่ยบุหรี่หรือห้องอาหาร ส่วนตามซูเปอร์มาร์เก็ตมักวางอยู่แถว ๆ เคาน์เตอร์ และคุณพ่อคุณแม่ก็ยังเก็บกล่องไม้ขีดไฟจากอีกหลายสถานที่ ทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านตัดเสื้อผ้า ร้านรองเท้า มหาวิทยาลัย เป็นต้น

“มีกล่องไม้ขีดไฟของไทยปนด้วยนิดหน่อย เราไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงก่อนท่านไปสหรัฐฯ หรือหลังกลับมา เพราะถามคุณแม่ล่าสุด ท่านก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะตอนนี้ท่านอายุ 90 ปีแล้ว”

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก
ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

ลูกสาวเล่าต่อว่า สมัยก่อนเวลานักเรียนกลับประเทศไทย สัมภาระจะถูกขนส่งมาทางเรือ กล่องไม้ขีดเป็นวัตถุไวไฟ นำขึ้นเครื่องบินไม่ได้ คุณแม่เลยตัดหัวไม้ขีดทิ้งแล้วแพ็กส่งกลับมาทางเรือพร้อมกับข้าวของอื่น ๆ เธอว่าเกิดมาก็เห็นกล่องไม้ขีดเหล่านี้อยู่ในบ้านแล้ว ซึ่งมีอยู่ชุดหนึ่งพิเศษทีเดียว

เป็นกล่องบ็อกซ์เซต เขียนว่า ‘บุญเสริม วีสกุล’ บนกล่องไม้ขีด ซึ่งเป็นชื่อคุณพ่อของต๋า (ตอนนั้นคุณพ่อเป็นรองอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)) ผลิตโดย บริษัท ไม้ขีดไฟไทย มี 4 สี 4 แบบ พร้อมกล่องไม้ จริง ๆ ตัวอักษรด้านหน้าต้องเป็นชื่อนามสกุลย่อคือ BW แต่ทำผิดมาเป็น BV

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

“เราเริ่มเก็บกล่องไม้ขีดไฟตอนราว ๆ อายุ 18 – 19 ตอนนั้นเพิ่งจบมัธยมจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย แล้วย้ายไปเรียนต่อที่เตรียมอุดมศึกษา แต่ป่วยเป็นโรค Anorexia หรือโรคกลัวอ้วนเลยไม่ได้เรียนต่อ

“เพื่อนก็เริ่มชวนเที่ยว ที่แรกไป Diana’s Club สมัยนั้นเรียกดิสโก้เทค อยู่ใต้ถุนโรงแรมโอเรียนเต็ล ตอนนั้นเราเห็นทุกอย่างเป็น Souvenir หมด พอคลับปิด จะกลับบ้าน เราก็หยิบกล่องไม้ขีดมาทั้งกล่อง หยิบแท่งเสียบเชอร์รี่บนแก้วค็อกเทล ส่วนใหญ่ไปเที่ยวสถานที่ละหน เพราะไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน แต่เพื่อนเยอะ เพื่อนชวนเราก็ไป คลับหลายแห่งปิดตัวไปแล้ว แต่สถานที่ที่คนน่าจะรู้จักกันดี คือ The Palace ที่นี่เราไปบ่อยกว่าที่อื่น เราเลยมีกล่องไม้ขีดของ The Palace สะสมอยู่ 2 แบบ” ต๋าย้อนความทรงจำ

เธอกระซิบว่า หลังเทคปิด กลุ่มเพื่อนผู้ชายจะนัดแข่งรถกัน เพราะถนนโล่งมาก ๆ

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก
ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

นักสะสมบอกว่ากล่องไม้ขีดไฟจากโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารในประเทศไทย มีเยอะมาก จนให้ลูกช่วยทำทะเบียนเอาไว้ นับรวมแล้ว 653 กล่อง ซึ่งเธอขอหยิบยกบางส่วนมาเล่าสู่กันฟัง

“เริ่มจากเราฝึกงานแผนกต้อนรับที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน เห็นว่าโรงแรมมีกล่องไม้ขีด เลยเกิดไอเดียอยากเก็บกล่องไม้ขีดไฟในทุกโรงแรมของกรุงเทพฯ ซึ่งจะวางอยู่ตามห้องพัก ที่เขี่ยบุหรี่ และห้องอาหาร อย่างโรงแรม เราก็จะไปนอนพัก แต่ส่วนใหญ่มักขับรถไปจอดแล้วมุ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อขอกล่องไม้ขีดเลย ซึ่งไม่ได้ไปหนเดียวด้วยนะ เพราะบางโรงแรมมีหลายห้องอาหารอยู่ในนั้น

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

“อย่างเซตกล่องไม้ขีดไฟของโรงแรมดุสิตธานี เรามีทั้งจากห้องอาหารเบญรงค์, The Lobby Lounge, The Libraby, Tiara, Tien Dong (ห้องอาหารเวียดนาม), the Mayflower (ห้องอาหารจีน) และ Byblos (ดิสโก้เทค) เราก็ไปตามเก็บจนครบ” ต๋าเล่าการล่ากล่องไม้ขีดด้วยแววตาเป็นประกาย

ช้องโมฬี นักสะสมที่ใช้เวลา 40 ปีเก็บกล่องไม้ขีด 1,520 กล่องจากบาร์ โรงแรม ภัตตาคารทั่วโลก

“เซตนี้จากโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท สมัยก่อนชื่อโรงแรมชวลิต ที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้เรารู้จักการซื้อคูปองอาหาร เวลาแวะมาเอากล่องไม้ขีดของโรงแรมก็ผ่านจะซุ้มขายอาหารต่าง ๆ ลักษณะคล้ายฟู้ดคอร์ต และที่โรงแรมก็มีห้องอาหารฝรั่ง ชื่อ Le Vendôme ไปทานบ่อย ตอนหลังย้ายไปเปิดที่อื่นเราก็ยังตามไปทาน แม้กระทั่งคลับในโรงแรมเราก็ตามเก็บกล่องไม้ขีดไฟจนครบทุกคอลเลกชัน”

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“ปกติเราไม่ชอบทานข้าวนอกบ้าน แต่ก็ต้องไป เพราะรู้ว่าร้านอาหารแต่ละที่มีกล่องไม้ขีด คอลเลกชันร้านอาหารมีหลากหลายมาก ขอเริ่มที่ร้านอาหารไทยก่อน เซตแรก คือจิตรโภชนา เป็นร้านใกล้บ้าน ด้วยความที่มีเพื่อนเป็นลูกหลานร้านนี้ เลยไปขอกล่องไม้ขีดมาเก็บ เซตนี้มี 2 แบบ แบบแรกเป็นกล่องไม้ขีดไฟยุครุ่นคุณพ่อคุณแม่ ส่วนแบบที่สองเป็นกล่องไม้ขีดไฟยุครุ่นเรา” เธอเล่าพลางหยิบมาให้ดู

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“กล่องนี้น่าจะมาจากร้านเอสแอนด์พีเฮาส์สาขาแรก สมัยก่อนคุณย่า (ชูศรี วีสกุล) ชอบพาหลาน ๆ ไปกินไอศกรีม ซึ่งเอสแอนด์พีก็เป็นร้านห้องแถวเล็ก ๆ บริเวณใกล้บ้าน ตอนหลังคุณพ่อพาไปทานบ่อย เวลาไปก็เจอ คุณอมเรศ-คุณภัทรา ศิลาอ่อน ที่มีความคุ้นเคยกันดีกับคุณพ่อก็มาทักทายด้วย 

“ที่ร้านเอสแอนด์พี เราชอบขนมปังเนยสดที่สุด เพราะอร่อยมาก”

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

ถึงคราวของร้านอาหารนานาชาติกันแล้ว ตั้งใจเงี่ยหูให้ดี เธอกำลังจะเล่าให้ฟัง

“Nippon Tei เป็นภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น ในศูนย์การค้าเกสร ฟากหนึ่งเป็น Nippon Tei อีกฟากเป็นรสดีเด็ด เราทำงานประจำอยู่ที่นี่ 3 ปี เพราะคุณพ่อเป็นหุ้นส่วน ร้านนี้เราอยู่ในกระบวนการออกแบบ ทั้งคิดให้มีกล่องไม้ขีด ตั้งชื่อร้าน จนออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ปัจจุบันพื้นที่ตรงนั้นเป็นโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ไปแล้ว

“Korea House ร้านอยู่ในซอยต้นสน ใกล้ ๆ เซนทรัลชิดลม ตอนเด็ก ๆ ชอบไปกับคุณแม่ เมนูที่ชอบมากคือเจ้าหญิงนพเก้า เป็นออเดิร์ฟตรงกลาง แล้วมีเครื่องเคียง 9 ช่องล้อมรอบ มีไข่ขาว ไข่เจียว หั่นเป็นเส้น ๆ มีกุ้ง มีไก่ มีแตงกวาหั่นฝอย เวลากินก็คีบมาใส่แผ่นแป้งแล้วม้วน ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มงา 

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“Fondue House, Sorrento และ Neil’s Tavern 3 ร้านนี้เป็นร้านอาหารฝรั่งที่ทานมาตั้งแต่เด็ก ๆ คุณพ่อพาไปทาน Neil’s Tavern เพราะเป็นร้านใกล้บ้านแถวสุขุมวิท ราคาสูงมากแต่อร่อย ตอนเด็ก ๆ จะขอคุณพ่อให้พาไปประจำ พอเรามีครอบครัวก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อเหมือนเดิม จำได้ว่าร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ทานอาหารกับคุณพ่อ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนท่านก็เสียชีวิต”

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง
นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“ชุดกล่องไม้ขีดของ De Ville Palace โรงแรมเล็ก ๆ ใกล้ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ปัจจุบันเป็น Town in Town) เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตให้ออกเดินทางทั่วโลกเพื่อล่ากล่องไม้ขีด สมัยนั้นละครเรื่อง ยามเมื่อลมพัดหวน ถ่ายทำที่นี่ เราก็เลยขับรถไปกินข้าวที่ห้องอาหารเพื่อเอากล่องไม้ขีด

“พอกลับบ้านมาดูละครจนจบ ก็ซื้อตั๋วไปสวิตเซอร์แลนด์ตามรอยละคร ไปเมือง Grindelwald กล่องไม้ขีดกล่องแรกที่เก็บตอนไปเที่ยวต่างประเทศก็มาจากที่นี่ ประทับใจมาก ตอนนั้นทั้งเมืองมีโรงแรมแค่ 2 โรงแรม อยู่บนภูเขา ลักษณะเป็นชาเลต์ (Chelet) เหมือนภาพที่อยู่บนกล่องไม้ขีดเลย

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“หลังจากนั้นก็ไปอีกหลายประเทศ ทั้งแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ เรื่อยมา สมัยนั้นยังไม่มี Google Maps หรือจีพีเอส มีแต่แผนที่แจกจากสนามบิน แต่ละแผนที่ก็มีรายชื่อโรงแรม ถ้าเมืองเล็ก ๆ เราเดินรอบเมืองเลย ถ้าเมืองกว้างหน่อยก็นั่งแท็กซี่ แล้วบอกโชเฟอร์เลยว่าเราจะไปเก็บกล่องไม้ขีด จอดโรงแรมไหนบ้าง ถ้าลูกไปด้วยก็ให้ลูกไปขอ เรามีกุศโลบายนิดหน่อยว่าถ้าลูกช่วยแม่เก็บกล่องไม้ขีดไฟครบ 30 กล่อง แม่จะซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ให้ 1 ตัว” เธอเล่าย้อนเรื่องราวในอดีตพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ 

นอกจากกล่องไม้ขีดไฟมากกว่า 1,500 กล่อง ทำให้ต๋าจดจำเรื่องราวจากการเดินทางแล้ว บางกล่องยังทำให้เธอนึกถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบที่เรียกว่า Penfriend หรือเพื่อนทางจดหมาย “ตอนนั้นเรียนที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย มีครูต่างประเทศมาสอน เขาถามว่าใครอยากได้ Penfriend บ้าง ให้เราเขียนที่อยู่ไว้ เพราะยุคนั้นยังไม่มีเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม หลังจากผ่านไปครึ่งเทอมก็มีจดหมายมาส่งที่หน้าบ้าน จ่าหน้าผู้ส่งชื่อ มิสเตอร์มารคัส เทียว เป็นชาวสิงคโปร์ เราติดต่อกันผ่านจดหมายมาตลอด จนเรามีโอกาสตามคุณพ่อไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ก็เขียนจดหมายนัดเจอมารคัส เขามารับที่โรงแรม และพาไปเที่ยวผับ Key West นั่นเลยเป็นที่มาที่ไปของกล่องไม้ขีดไฟกล่องนี้”

นักสะสมกล่องไม้ขีดไฟ ตามล่าหากล่องไม้ขีดไฟจากทั่วโลกเป็นเวลา 40 ปี จาก 40 ประเทศ ทั้งหมด 1,520 กล่อง

“จริง ๆ ยังมีเรื่องราวอีกเยอะ ถ้าเอามาเล่าทั้งหมดน่าจะต้องใช้เวลาไม่รู้เท่าไหร่ หลายคนมองว่าของพวกนี้ไร้สาระ ทำไมต้องมีความพยายามในการเก็บกล่องไม้ขีด สำหรับเรามันคือมูลค่าทางจิตใจและเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เราดีใจที่ทุกวันนี้ไม่มีกล่องไม้ขีดวางตามจุดต่าง ๆ เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะถ้ามี เราก็ต้องไขว่คว้า พอไม่มีก็ตัดจบโดยอัตโนมัติ เราเชื่อว่าการสะสมต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ

“อนาคตก็ยังคงเป็นเรื่องของอนาคต ทุกวันนี้ใช้ชีวิตให้มีความสุข ยังคงท่องเที่ยวต่างประเทศ ถ้าเจอสิ่งของที่ชอบก็ยังคงเก็บ แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อนตรงที่ ไม่ตามล่า ปัจจุบันก็หยิบกล่องไม้ขีดมาเปิดดูอยู่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่กลับมาสัมผัส ความทรงจำและเรื่องราวเก่า ๆ มักย้อนกลับมาด้วยเสมอ”

กล่องไม้ขีดจำนวนมากที่เธอสะสมไว้ นอกจากเป็นการบันทึกความทรงจำแล้ว ยังเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของสถานที่ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันได้หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงแต่ ‘ชื่อ’ ที่ปรากฏบนกล่องไม้ขีดอย่างที่ต๋าสะสมไว้

At the core of every collection is the passion of the collector.

Writer & Photographer

อัครชัย อังศุโภไคย

อัครชัย อังศุโภไคย

ช่างภาพอิสระที่ใช้เวลาว่างไปกับการเดินตลาดของเก่า สะสมหนังสือภาพถ่ายเก่า ซอกแซก สำรวจเมือง และหากาแฟอร่อย ๆ กิน