ชวนขยับเท้าย้ายเข้าฝั่งธนฯ ปักหมุดท้ายซอยเทอดไท 4 เดินซอกแซกจนถึงริมคลองบางกอกใหญ่ ผลักประตูเข้าบ้านหลวงประสิทธิ์ (Luang Prasit Canal Home) ของ หมออ๋อ-ทพญ.ศิริจันทร์ พหลโยธิน เจ้าบ้านคนปัจจุบันที่คิดเปลี่ยนบ้านไม้อายุร้อยกว่าปี 2 หลัง เป็นที่พักบรรยากาศครอบครัวเคียงข้างคลองบางหลวง อบอุ่นจนนักนอนเที่ยวบอกต่อ

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

จากจุดเริ่มต้นเพียงบ้านเก่าหลังใหม่ใหญ่เกินจะอยู่แค่ 4 คน หมออ๋อเลยตัดสินใจแบ่งปันความสุขให้คนอื่น ผ่านบ้านอยู่อาศัยบรรยากาศร่มเย็น ขณะเดียวกันก็อนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของไทยเอาไว้เพื่อคนรุ่นหลัง

อ้อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยนะ ตลาดพลูและย่านฝั่งธนฯ คึกคักขึ้นเป็นกอง 

‘หมอฟัน คุณครูภาษาไทย บ้านเก่าร้อยกว่าปีมีของแถมเป็นประวัติศาสตร์’ ฟังดูไม่เกี่ยวกันสักนิด แต่อย่าเพิ่งหนีถ้าได้ลองเงี่ยหูฟังเสียงนกบรรเลงเพลงคู่ใจ คลอเคล้ากับบรรยากาศร่มรื่นสบายตา คุณจะหายสงสัยและกลายเป็นหลงรัก

ก.เอ๋ย ก.ไก่

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

ก่อนนั่งลงสนทนาแบบกันเอง คุณหมอใจดีพาเราเดินสำรวจรอบบริเวณ มีทั้งมุมปลูกพืชผักสวนครัว บ้านพักสำหรับแขก แต่ที่เราชอบมากคงเป็นใต้ถุนบ้านขนาดกว้างมาก ลมพัดเอื่อย พื้นไม้เย็นเฉียบ ดวงตาพริ้มเต็มที อยากขออู้งานแล้วนอนคลายเมื่อยเสียตั้งแต่ตอนนี้ ว่าแล้วก็ขอเอียงคอสงสัยถามเจ้าบ้านถึงประวัติและทำไมต้องเป็นบ้านหลังนี้

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ
บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

“เราอยากมีบ้านริมน้ำ เพราะเป็นคนริมน้ำมาก่อน เกิดมาก็อยู่บ้านคลองรังสิต ส่วนบ้านยายอยู่คลองบางหลวงห่างจากบ้านหลังนี้หน่อยนึง ทีแรกจะปรับปรุงบ้านยายด้วยซ้ำเพราะไม่มีคนอยู่แล้ว แต่จับพลัดจับผลูมาได้ตรงนี้เสียก่อน ” คุณหมอเจ้าบ้านเล่าให้เราฟังอย่างกันเอง

หมออ๋อบอกกับเราว่า หลวงประสิทธิ์อักษรเนติ์ (ใหญ่ นาคามดี) อดีตคุณครูภาษาไทย รร.นายร้อย เป็นเจ้าของบ้านเดิม หลังท่านเสียชีวิตบ้านถูกส่งต่อให้กับลูกหลาน จนกระทั่ง 6 ปีก่อน พรหมลิขิตบันดาลชักพาให้หมออ๋อมาเจอบ้านหลังนี้ ถูกตาต้องใจจนติดต่อขอซื้อเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นานก็เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นที่พักสุดอบอุ่น กรุ่นกลิ่นประวัติศาสตร์ (ที่เหมือนมีชีวิต) แถมสัมผัสความเป็นไทยผ่านวิถีชีวิตคนริมแม่น้ำอย่างแท้จริง มิน่า นักท่องเที่ยวถึงติดใจ! 

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

“เราว่าของเก่ามีเสน่ห์นะ เหมือนเป็นตัวบอกเล่าจากอดีตมาถึงเรา ยิ่งงานสถาปัตยกรรมมันเคยมีชีวิต มีสปิริตมีเนื้อหาที่เราจับต้องได้ อย่างบ้านหลังนี้อยู่มาเป็นร้อยปี คงผ่านเรื่องราวมามากมาย ถ้าเขามีปากคงเล่าให้เราฟังได้ 

“มีเพื่อนคนหนึ่งเคยบอกเราไว้ว่า ‘บ้านหลังนี้คือปัจจุบันของอดีต’ เราฟังแล้วชอบประโยคนี้มาก”

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

ข.ไข่ ในเล้า

ขอเล่าเสริมอีกสักนิด แม้บ้านหลังนี้ถูกปล่อยร้างไว้ 2 ปี แต่สภาพกลับสมบูรณ์ มีเพียงบ้านไม้สไตล์โคโลเนียลที่สีเดิมหลุดลอกจนเห็นเนื้อไม้ เจ้าบ้านเลยหาทางบูรณะให้เหมือนเดิม แต่ความโชคดีมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน เพราะลูกหลานของเจ้าบ้านเดิมเอาภาพบ้านยุคก่อนที่เคยถ่ายลงหนังสือพิมพ์มาให้ เฉลยทันทีว่า เดิมทีสีบ้านเป็นสีเขียว

แต่อีกหนึ่งวิธีน่าสนใจ หมออ๋อกระซิบว่าเธอเช็กสีเดิมด้วยการยกสายไฟตามบ้านขึ้นดู เพียงเท่านี้ก็เห็นว่าอดีตมันเคยเป็นสีอะไร ประจวบเหมาะกับได้เจอสถาปนิกบ้านเก่า แถมเป็นคนตลาดพลูด้วย เลยเข้าที เขาอาสาบูรณะเรื่องสีให้ บ้านหลังนั้นเลยมีชื่อเล่นตรงตัวว่า ‘เรือนเขียว’ ส่วนบ้านไม้อีกหลังตั้งชื่ออยู่ตามลวดลายฉลุด้านบนว่า ‘เรือนฉลุ’ 

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

‘เรือนนก’ ถูกต่อเติมขึ้นใหม่ ขนาดพอเหมาะพอดีเหมือนรังนก มองเห็นวิวสวยอย่างกับ Bird’s Eye View

เรือนสามหลัง 4 ห้องพักใหญ่จุคนได้ทั้งหมด 16 คน บางเรือนมีห้องพักเดียว บางเรือนมีหนึ่งห้องพักใหญ่แต่เปิดประตูถึงกันได้ เลยกลายเป็น 2 ห้องพักเล็ก (ในบางที) แต่ความน่าเอ็นดูอยู่ตรงไอเดียการตั้งชื่อห้อง หมอฟันได้แรงบันดาลใจจากคุณครูภาษาไทย (เจ้าบ้านเดิม) เธอตั้งชื่อห้องเป็นเสียงโฟเนติกของตัวอักษรไทย มีทั้งห้อง ก.ไก่ ห้อง ช.ช้าง ห้อง ป.ปลา ห้อง ม. ม้า ห้อง น.นก (เจ้าบ้านบอกว่าน่ารักกว่า น.หนู เลยกลายเป็น น.นก โดยปริยาย) ยิ่งไปกว่านั้นของตกแต่งก็สอดคล้องกับชื่อห้องด้วย เธอว่าห้อง ก.ไก่ มีของตกแต่งเป็นภาพดอกแก้ว ส่วนห้อง ช.ช้าง มีของตกแต่งเป็นภาพดอกชมนาด ตุ๊กตาช้าง ฯลฯ

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

นอกจากไอเดียจะน่ารักไม่หยอก ยังสอดคล้องและสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์เรื่องราวของบ้านด้วย 

ฃ.ฃวด ของเรา

ฃวดน้ำกระเบื้องภายในห้องพัก เป็นขวดที่หมออ๋อเลือกใช้แทนขวดน้ำดื่มพลาสติก ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยลดขยะและลดปัญหาภาวะโลกร้อน เธอบอกน้ำดื่มขอเพิ่มได้ไม่อั้น แต่แขกบางคนเตรียมตัวมาดี พกกระบอกน้ำติดตัวมาด้วย ก่อนจะออกไปตะลุยบางกอกก็แวะเติมน้ำให้เต็มกระบอกไปเลย! แต่ถ้าน้ำดื่มคลายร้อนไม่อยู่หมัด ไม่ต้องกังวล เพราะหมออ๋อคิดมาให้แล้ว เธอจัดแจงแจกพัดให้แขกทุกท่าน เพื่อความสนุกเพลิดเพลินในการ ‘Survival in Bangkok’

ระหว่างสนทนาเราได้ยินสียงเครื่องยนต์เรือดังสนั่น ท้องเรือหางยาวกระทบผิวน้ำแตกกระเซ็น จนเริ่มชินหูและชินตา บางครั้งก็แอบเผลอโบกมือเป็นมิตรให้นักท่องเที่ยวบนเรือที่ตั้งใจส่งรอยยิ้มมาให้คนริมฝั่งน้ำ แปลกใหม่ แต่อิ่มใจ

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

เจ้าบ้านแอบบอกว่า ไปรษณีย์และเจ้าหน้าที่เก็บขยะยังเดินทางด้วยเรือมาให้บริการถึงหน้าบ้านอยู่นะ

แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่วิถีดั้งเดิมกลับกลายเป็นเสน่ห์ของย่านนี้

ค.ควาย เข้านา

(ใครอ่านมาถึงหมวดค.ควาย เข้านา คงแอบเอาใจช่วยว่าเราจะเขียนไปถึง ฮ.นกฮูก ตาโตได้หรือเปล่า)

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

ก่อนจะไถลนอกเรื่องไปไกล ขอชวนกลับสู่บ้านหลวงประสิทธิ์ บ้านริมน้ำที่รายล้อมด้วยธรรมชาติรอบทิศทาง ดูเหมือนหมออ๋อจะเป็นนักปลูก เธอเล่นปลูกทั้งไม้ดอก ไม้ดม และไม้กิน จากความคิดจ้างนักจัดสวนมาทำให้ภูมิทัศน์สวยงามและกลับไปคล้ายของเดิมให้มากที่สุด กลับกลายเป็นดอกผลงอกงามมากมายหลายชนิด อาทิ ต้นแก้ว ฟอร์มต้นไม้อาจไม่สวยมาก แต่ออกดอกตอนกลางวัน เวลาลมพัดจะส่งกลิ่นหอม ส่วนดอกชมจันทร์ออกดอกและส่งกลิ่นหอมตอนกลางคืน กลายเป็นว่าแขกผู้เข้าพักได้เห็นความสวยงามและกลิ่นหอมหวลของดอกไม้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ
บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

อีกมุมที่เราชอบมาก อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าบ้าน เป็นโซนผักสวนครัวกินได้ มีสมุนไพรบ้าง ผลไม้บ้าง คุณหมออ๋ออนุญาตให้เราเด็ดลูกหม่อนจากต้นมาชิม รสชาติจากธรรมชาติหวานอมเปรี้ยวสดชื่น เสาวรสก็มีด้วยนะ ส่วนมะม่วงรออีกหน่อยได้ทานผล มุมผักสวนครัวก็มีกะเพรา พริก ผักไชยา (แฝดคะน้า) วอเตอร์เครส ฯลฯ ผักผลไม้บางส่วนจะนำมาเป็นวัตถุดิบในวิชาเรียนทำอาหารไทยสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะต้มยำกุ้ง  แกงเขียวหวาน ผัดฉ่าปลา รีเควสมาได้เลย

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ
บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

ฅ.ฅน ขึงขัง

ฅนเข้าพักส่วนใหญ่ของบ้านหลวงประสิทธิ์จับจองมาจาก Airbnb เรามั่นใจว่าคนที่เลือกมาพักบ้านหลังนี้จะต้องชอบธรรมชาติ หลงใหลความเงียบสงบ และต้องการสัมผัสวิถีชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง กินอะไร อยู่ยังไง ไปเที่ยวที่ไหน 

“คนที่มาพักกับเราคงต้องการไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนการพักโรงแรมใหญ่ เวลาเราไปประเทศญี่ปุ่น ก็อยากนอนเสื่อทาทามิ ไปเมืองจีนก็อยากนอนโรงเตี๊ยม ถ้าเขามาประเทศไทยก็คงอยากนอนบ้านไทยจริงๆ”

จะว่าไปธุรกิจที่พักก็ลงสนาม Airbnb กันเกือบหมด แล้วบ้านหลวงประสิทธิ์มีจุดเด่นมัดใจนักท่องเที่ยวอย่างไร 

“ความเป็นตัวเรา” หมออ๋อตอบทันที 

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

“บ้านของเราก็เป็นเอกลักษณ์ มีพื้นที่กว้างใหญ่ บางคนเน้นห้อง แต่เราเน้นอยู่สบาย และเน้นสภาพแวดล้อมด้วย เพราะสิ่งที่แขกเดินมาเห็นก่อนคือ Common Area แล้วค่อยเห็นห้อง ถ้าสภาพแวดล้อมเราสวย ก็ควรให้แขกเห็นตั้งแต่แรกพบ อย่างในภาพที่เราประกาศขาย เราขายทั้งหลัง เห็นแม่น้ำ เห็นตัวบ้าน ไม่ให้เขาเห็นห้องก่อน” เจ้าบ้านอธิบาย 

บ้านพักจะขายได้ไม่ใช่เพราะความสวยงามอย่างเดียว แต่ต้องมีความจริงด้วย จริงใจและจริงตั้งแต่ในภาพ

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ
บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

“ที่พักของเรายังทำตลาดได้อยู่ เพราะว่าโลกออนไลน์ทุกคนจะเห็นจากรูปก่อน แล้วถึงเห็นของจริง บางคนรูปสวยมากแต่ของจริงไม่สวยเหมือนในรูป แขกส่วนใหญ่จะบอกเราว่าของจริงสวยกว่าในรูป เพราะเราทำให้เขาเกิด Eye Contact กับรูปลักษณ์ พอมาแล้วเกิดจากรีวิว จุดขายอีกอย่างคือการได้สัมผัสชีวิตจริงๆ แล้วพวกเราก็เต็มที่ในการดูแลเขา 

“แขกส่วนใหญ่ของเราเป็นต่างชาติมากกว่าคนไทย สำคัญเลยเราดูแลเขาแบบครอบครัว บ้านเราก็เหมือนบ้านเขา อาหารเราก็บริการเฉพาะตอนเช้า ส่วนอาหารเย็นเราอยากให้เขาออกไปกิน ไปเที่ยวข้างนอกบ้าง เราบริการอาหารก็จริง แต่ขณะดียวกันเราก็สนับสนุนคนข้างเคียง ถือว่าเรากระจายรายได้ให้ชุมชน แบ่งความสุขกันต่อๆ ไป” เจ้าบ้านเล่า

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

นอกจากย่านตลาดพลูจะคึกคักขึ้น ยังเป็นการไหลเวียนของผู้คนและธุรกิจอีกวิธีหนึ่งด้วย 

แสดงว่าหมออ๋อสนุกกับบทบาทนี้ใช่มั้ยคะ เราถาม

“ใช่ (หัวเราะ) เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เป็นหมอฟันอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม โลกเราแคบมาก เลยหาอะไรที่ทำให้เราได้ออกมาเจอโลกนอกห้องแอร์บ้าง ไม่งั้นชีวิตอยู่แต่ในกล่อง อยู่ในบ้าน ลงรถ รถก็กล่องสี่เหลี่ยม จากรถก็ขึ้นกล่องห้องทำงาน จากห้องทำงานลงกล่องอีกครั้งเพื่อกลับบ้านอีกที บ้านหลวงประสิทธิ์เลยเหมือนงานอดิเรกที่เราทำแล้วมีความสุข” 

รอยยิ้มกว้างหลังจบบทสนทนาทำให้เราเชื่อว่าหมอฟันคนนี้มีความสุขที่สุดในฝั่งธนฯ

บ้านหลวงประสิทธิ์ เปลี่ยนบ้านร้อยปีเป็นที่พักริมคลองบางหลวงที่อบอุ่นที่สุดในฝั่งธนฯ

บ้านหลวงประสิทธิ์ (Luang Prasit Canal Home)

192 ซอยเทอดไท 4 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600

ติดต่อ 08 6317 5845 , 09 5254 7581

Facebook : Luang Prasit Canal Home บ้านหลวงประสิทธิ์

Writer

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก

Photographers

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล

Avatar

ปัณฑารีย์ วจิตานนท์

เชื่อว่าความทรงจำอยู่ในภาพถ่าย สะสมกลักฟิล์มบางครั้ง ทำประจำคือไปคอนเสิร์ต