มากาญจนบุรีทุกครั้ง เรามักเห็นที่พักแบบเรือนแพบ่อยจนชินตา แพหลังใหญ่ลอยโคลงเคลงเหนือน้ำ บรรจุผู้เข้าพักหลายห้องติดกันด้วยกำแพงบาง ๆ สนุกนะ แต่ความเป็นส่วนตัวเหลือน้อยไปหน่อย ถ้าได้นอนแพเดี่ยว ดื่มด่ำธรรมชาติ พร้อมบริการเต็มรูปแบบที่มีไว้ให้เราเพียงคนเดียวคงดีน่าดู
และแล้วความฝันของเราก็เป็นจริง เมื่อการเดินทางมาเมืองกาญฯ ครั้งนี้เราพบกับ ซัน-ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต และ เต้-ณพล เสริมสกุลวัฒน์ สองสหายที่กอดคอกันสร้าง ‘ลอยลำ วิลล่า (Loylum Eco Floating Villa)’ ขึ้นมาบนเขื่อนศรีนครินทร์ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
นี่คือแพวิลล่าที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการมอบประสบการณ์ให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
หากคุณกำลังหาสถานที่รีชาร์จร่างกายและจิตใจ โปรดจดลอยลำ วิลล่า (Loylum Eco Floating Villa) ลงลิสต์โดยพลัน
จากทอสีเลคฮิล
“รีสอร์ตของพ่อผมอยู่บนภูเขา สมัยเด็กผมเห็นพ่ออยู่กับน้ำมาตลอด ชอบน้ำ ชอบทำแพ ชอบนอนแพ ผมจำได้ว่าแถวรีสอร์ตมีหมู่บ้านแพด้วย บรรยากาศดีมาก นั่นเป็นความประทับใจที่ทำให้ผมอยากเริ่มทำเรือนแพ” ซันเล่าแรงบันดาลใจให้ฟังหลังมารับเราบริเวณลานจอดรถของทอสีเลคฮิล
ซันตกหลุมรักผืนน้ำจืด และเขาอยากสร้างที่พักของตัวเองเพราะความผูกพันที่มีต่อ Thawsi Lake Hill รีสอร์ตบนภูเขาในจังหวัดกาญจนบุรีที่ก่อตั้งโดยคุณพ่อ
บนหน้าต่างห้องพักของทอสีนี่เองที่ซันมองลงมาเห็นผืนน้ำ จึงคิดอยากสร้างที่พักกลางน้ำของตัวเองบ้าง เขาตั้งต้นด้วยแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นสิ่งที่เขาอินและได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก นั่นเลยทำให้ซันเลือกออกแบบเรือนแพด้วยตัวเอง
“เสน่ห์ของที่พักแบบเรือนแพที่ทำให้ผมตกหลุมรักในทันทีคือบรรยากาศ วิวมันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา น้ำจืดนิ่งเหมือนผิวกระจก ความฟินมันมากกว่าทะเลเสียอีก” ซันด้วยเล่าแววตาประกาย
เมื่อภาพร่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาจึงชวนเต้ เพื่อนซี้ที่เป็นสถาปนิกมาช่วยต่อเติมเสริมแต่ง
ถึงลอยลำ วิลล่า
เดินลงจากทอสีเลคฮิลมาเพียงอึดใจ พ้นทิวไม้ของภูเขา เราก็พบกับเท้งจอดเทียบริมน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ กำลังรอรับ-ส่งผู้เข้าพักไปลอยลำ วิลล่า (Loylum Eco Floating Villa) ใช้เวลาเพียง 10 นาทีแพก็ปรากฏตรงหน้า มองดูครั้งแรกอาจรู้สึกว่าเป็นเพียงแพหลังเล็ก แต่ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่เข้าไปใกล้ ที่พักของเราลอยอย่างสงบโดยมีธรรมชาติโอบกอด พร้อมเกาะขนาดย่อมคอยอยู่เป็นเพื่อนท่ามกลางผืนน้ำจืดของเขื่อน
เมื่อขึ้นไปบนแพก็พบห้องพักขนาดใหญ่ จนเกือบลืมไปว่าห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้เคยเป็นตู้คอนเทนเนอร์มาก่อน ซันเล่าว่าพ่อของเขาคัดค้านว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะตู้โลหะหนักอึ้ง อาจเพิ่มน้ำหนักให้แพจนไม่ปลอดภัย แถมต้องเผชิญอารมณ์แปรรวนของดินฟ้าอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย
“ตู้คอนเทนเนอร์ตอบโจทย์คอนเซปต์ของเราตรงที่ต้องการใช้ Reused Materials มาทำที่พัก พ่อบอกว่ามันหนักมาก แต่เราดื้อ พยายามคำนวณน้ำหนักทุ่นให้พอ ซึ่งเราก็ทำได้จริง ๆ” ซันเล่า
ผลลัพธ์ของความดื้อคือการสร้างสมดุลระหว่างความยาวแพกับน้ำหนักตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แพลอยลำนิ่งมาก ไม่สั่นสะเทือนรุนแรงแม้เจอคลื่นลม พวกเขายังเลือกเกาะเล็ก ๆ กลางน้ำมาช่วยซ่อนผลงานจากความโกลาหลของธรรมชาติ แถมช่วยบดบังลอยลำ วิลล่า จากความไม่เป็นส่วนตัวภายนอก
เพื่อให้กลมกลืนกับบรรยากาศสีเขียว พวกเขาจึงเลือกสร้างที่พักแห่งนี้ด้วยสัจจะวัสดุ
เรามองสำรวจไปทั่วแพ พบว่าวัสดุทั้งหมดมาจากธรรมชาติและวัสดุรียูสจริง ๆ ทั้งพื้นไม้ที่ไม่ได้แต้มสี เผยให้เห็นร่องรอยที่เป็นเสน่ห์จากกาลเวลา แต่สิ่งที่ดึงความสนใจของเรามากที่สุดก็คือ
ท้าดา! ประตูบานเฟี้ยมจากไม้เก่าของห้องนอนที่เปิดกว้างสุดได้ถึง 6 เมตร
“เรายังไม่เคยเห็นใครทำบานเฟี้ยมเปิดกว้างมาก ๆ แบบนี้ ส่วนมากทำเป็นหน้าต่างบานเล็ก ๆ หรือ ประตูเล็ก ๆ ซึ่งเหตุผลที่ทำบานเฟี้ยมนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้แขกได้เห็นวิวตรงหน้า”
เราเบนสายตาออกไปนอกห้องนอน พบภาพผืนน้ำและลอนคลื่นไสว เหมือนกำลังยืนมองภาพแคนวาสขนาดใหญ่ที่ธรรมชาติกำลังตวัดฝีแปรงแสดงงานศิลปะ ทำเอาเราตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
“เราลงรายละเอียดและให้ความสำคัญกับ Spacing มาก ๆ ครับ เราออกแบบมาให้แขกอยู่สบาย โดยเฉพาะเตียงของเรานอนสบายมากนะ” เต้นำเสนอเตียงขนาดใหญ่กว่าคิงไซซ์อย่างภูมิใจ
“เรามีโปรเจกเตอร์สำหรับดูหนังและลำโพงเซอร์ราวนด์รอบด้าน” ซันไม่ยอมแพ้
“เครื่องเสียงของเรามีแอมป์แยกด้วย” เต้หัวเราะ พวกเขาแข่งกันเปรยถึงความเอาจริงเอาจังที่อยากให้แขกอยู่สบาย พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และได้สัมผัสธรรมชาติไปพร้อมกัน
เราเดินออกมาพบเข้ากับความละเมียดละไมของซันผ่านการออกแบบพื้นที่ใช้สอยส่วนใหญ่ด้านนอกให้กว้างขวาง เพื่อให้แขกออกมาใช้ชีวิตอยู่กับสายลมและแสงแดดมากขึ้น ทั้งห้องน้ำกลางแจ้งพร้อมน้ำอุ่นในตัว ครัว สระน้ำธรรมชาติ และศาลา มีเพียงห้องนอนที่ติดแอร์ ส่วนไฟฟ้าบนแพก็มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บไว้เพียงพอสำหรับ 1 วัน นี่จึงเป็นสิ่งที่แขกรับรู้ร่วมกันว่าต้องใช้สอยอย่างประหยัด
“เราเปิดแอร์ 18 องศาเซลเซียสตั้งแต่มาถึงไม่ได้ เพราะไฟฟ้าจะหมด แขกอยู่ได้ไม่ถึงวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเราเปิดประตูหน้าต่าง ก็จะพบว่าลมดีมากนะ” เต้บอก ซึ่งย้ำเตือนบางอย่างที่สำคัญให้เรา
ธรรมชาติแสนพิเศษ
ซันและเต้บอกเราว่าความหรูหราที่ลอยลำ วิลล่า มอบให้แขกผู้เข้าพัก คือการใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่นเป็นความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นกับพวกเขา และทั้งสองหนุ่มก็อยากส่งต่อความรู้สึกนั้นให้ทุกคน
ซันเล่าว่าทอสีเลคฮิลเป็นเหมือนฐานทัพของลอยลำในปัจจุบัน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแพ ทั้งเป็นที่เตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร และยังช่วยหมักปุ๋ยจากเศษอาหารที่แขกกินไม่หมดอีกด้วย
มัวแต่เดินสำรวจจนเพลิน เวลาพลันล่วงเลยจนท้องเริ่มประท้วง เรานั่งลงทานอาหารและตกลงว่าจะคุยกับเจ้าของแพไปด้วยแบบสบาย ๆ ซึ่งอาหารของที่นี่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น พิเศษด้วยรสชาติอันซื่อตรง จากความพิถีพิถันของ Butler ผู้คอยดูแลตั้งแต่ขึ้นเท้งตลอดจนอาหารการกิน พอพูดคำว่า Butler คงเริ่มคิดกันไปว่าก็หรูหราแบบนิยามเดิม ๆ แต่เต้กับซันมองว่าการให้มนุษย์คนหนึ่งมาดูแลมนุษย์อีกคนหนึ่งน่าจะสร้างสัมพันธ์อันดีและรู้จักกันไว้ จึงจัดเพื่อนลอยแพมาให้แล้วเรียกเขาว่า Butler
“ที่นี่เป็นเขื่อน เลยมีปลาเขื่อนเยอะ ปลาตัวใหญ่แบบนี้แหละครับ ปลานึ่งง่าย ๆ กินกับน้ำพริกที่ Butler ทำใหม่ ๆ อร่อยนะครับ” เต้ชวนเราคุยหลังเห็นว่าเรามองปลาน้ำจืดเนื้อขาวไม่วางตา
อากาศของเขื่อนที่กาญจนบุรีไม่มีความเค็มเจืออยู่อย่างเวลาไปทะเล เรารู้สึกสบายผิวกาย สายลมพัดเอื่อยหอบเอากลิ่นต่าง ๆ ของธรรมชาติโชยปะทะจมูก ทั้งกลิ่นของสายน้ำและกลิ่นของป่าเขา เราได้ใช้ประสาทสัมผัสครบทั้งรูป รส กลิ่น แต่ระหว่างนั่งทานข้าวกลับรู้สึกเหมือนเสียงบางอย่างหายไป สหายทั้งสองเฉลยว่าเขาทั้งคู่ปฏิเสธเสียงรบกวนทุกอย่าง แม้แต่เครื่องปั่นไฟก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาบนแพลำนี้
ไม่ได้ยินเสียงกวนหู ไม่ได้กลิ่นกวนจมูก ไม่เห็นอะไรกวนตา ทำให้ลืมเรื่องต่าง ๆ ที่กวนใจ
พอเปิดประสาทสัมผัสทั้งหมด ก็ตระหนักได้ว่าตัวเรานั้นแสนเล็กจ้อย รู้ตัวอีกทีเส้นแบ่งระหว่างเรากับธรรมชาติก็เหมือนไม่เคยมีอยู่ เข้าใจแล้วว่าความหรูหราที่ซันและเต้อยากมอบให้คือสิ่งนี้นี่เอง
แม้ว่าแขกโบกมือลาลอยลำ วิลล่า ไปแล้ว แต่เราเชื่อเหลือเกินว่าความรู้สึกของการอยากกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติยังคงลอยค้างอยู่ในใจเป็นแน่ – เหมือนที่เรากำลังรู้สึก ณ ตอนนี้
3 Things
you should do
at Loylum Eco Floating Villa
01
ลองกระโดดน้ำเขื่อน พร้อมอาบแสงอาทิตย์ที่ตกสู่ผืนน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
02
ลองชิมอาหารฝีมือพ่อบ้าน ด้วยอาหารไทยฉบับเมืองกาญฯ จากวัตถุดิบสดใหม่ (แค่เนื้อปลาก็อร่อยแล้ว)
03
ลองแหงนหน้ามองดวงดาวยามค่ำคืน พร้อมเปิดหูฟังเสียงธรรมชาติรอบตัวแสนสงบ