ว่าด้วยเรื่องของ Ranking สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีเกาะมากที่สุดในอ่าวไทย รวมทั้งหมด 108 เกาะ (ได้ยินครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกัน)
หากใครสักคนลาพักร้อนไปเที่ยวสุราษฎร์ธานีก็เดาไว้ก่อนเลยว่าจะไปโผล่ตามเกาะกัน ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน มากมายเกินจะไล่ชื่อ จน ‘สุราษฎร์ฯ Mainland’ อาจอยู่นอกสายตาใครหลายคนไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็น่าสนใจและมีหลายสิ่งรอให้ผู้คนค้นพบ
ต่อไปนี้จะเป็นลิสต์กิจกรรมสนุก ๆ ที่น่าลองทำ คัดสรรโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และทดลองเที่ยวโดยเราเอง ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนสุราษฎร์ฯ วันไหนล่ะก็ อย่าลืมกลับมาดูว่ามีลิสต์ไหนเหมาะกับคุณบ้าง ไม่แน่ว่าลองทำหลาย ๆ อย่างเข้า อาจหลงเสน่ห์เมืองไข่เค็มจนอยากเก็บกระเป๋าย้ายไปอยู่เข้าจริง ๆ ก็เป็นได้
นอกจากนี้เรายังมองว่า หากจะจัด Outing บริษัท จัดสัมมนา หรือจัดนิทรรศการใหญ่ ๆ ที่นี่ก็มีศักยภาพพอจะรองรับได้เป็นอย่างดี เพราะสุราษฎร์ธานีมีกิจกรรมที่ทั้งสนุก ทั้งมีสาระ มีที่จัดงานที่เหมาะสม มีที่พักที่สะดวกสบาย ใครเดินทางมาที่นี่ก็จะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิตไปพร้อมกัน และการจัดงานเหล่านั้นก็อาจเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของจังหวัดได้ในอนาคต
#01
ลองขึ้นเขาไปไหว้พระธาตุศรีสุราษฎร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง
‘พระธาตุศรีสุราษฎร์’ เป็นปูชนียสถานองค์แรกของอำเภอเมืองที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์
ได้ยินชื่อพระธาตุ อย่าเพิ่งคิดว่าไปลำบากยากเย็น จริง ๆ แล้วเขาท่าเพชรอยู่ห่างจากตัวเมืองไปเพียง 6 กิโลเมตร นั่งรถไม่ทันเมื่อยก็ขึ้นถึงยอดเขา
นอกจากจะได้ไหว้พระธาตุให้เป็นสิริมงคลก่อนไปเยือนที่อื่นแล้ว บนยอดเขานี้ยังชะอุ่มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ หากอยากมาพักกายพักใจที่นี่ก็ยังได้ และยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี สำหรับใครที่อยากเห็นตัวเมืองสุราษฎร์ฯ มุมเดียวกับที่นกมองด้วย
#02
ลองชิมอาหารใต้แบบ Chef’s Table
มาภาคใต้ทั้งที หากตระเวนกินร้านขนมจีนท้องถิ่นจนหนำใจแล้ว มาชิมอาหารพื้นบ้านฝีมือคนท้องถิ่นในรูปแบบ Chef’s Table ราคาจับต้องได้ ที่ร้าน ‘สำรับโนรา’ กันบ้าง
เชฟแหม่ม เจ้าของร้าน เรียนจบวิศวกรรมอุตสาหการ แต่ภูมิหลังชีวิตเกี่ยวพันกับอาหารชนิดที่แยกกันไม่ขาด เพราะคุณตาแท้ ๆ เป็นพ่อครัวใหญ่ของวงมโนราห์ เวลาทำ ‘หมรับ’ หรือชุดอาหารสำหรับไหว้ครู ก็ต้องปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยศิลปะและความเชื่อ ซึ่งสูตรอาหารอายุร่วม 100 ปีนั้นตกทอดมาทางแม่ของเชฟแหม่ม มาถึงร้านอาหารในพื้นที่สวนของครอบครัว และมาเป็นบุญลิ้นของเราในวันนี้
“กินได้มั้ย” คุณแม่เชฟแหม่มเดินออกมาถามไถ่ผู้มาเยือน ขณะเชฟแหม่มกำลังบรรยายถึงแต่ละจานที่ค่อย ๆ มาเสิร์ฟ
โห ยิ่งกว่ากินได้อีกค่ะ!
#03
ลองสอดส่องดูของกินโบราณในตลาดศาลเจ้าสุราษฎร์ธานี
‘ตลาดศาลเจ้า’ เป็นหนึ่งในตลาดนัดดังที่อัดแน่นไปด้วยของอร่อยละลานตาจนเลือกไม่ถูก มีตั้งแต่ของกินโบราณประวัติศาสตร์ยาวนาน ไปจนถึงขนมชิก ๆ ที่วัยรุ่นสมัยนี้ฮิตกัน
แต่ไม่ว่าคุณจะเผลอใจให้เฟรนช์ฟรายส์ราดชีสหรืออะไรก็ตาม เราก็อยากให้เผื่อกระเพาะไว้ให้ขนมโบราณขึ้นชื่อในตลาดเหล่านี้ด้วย
1. ขนมโค : คล้ายขนมต้ม แต่ข้างในมีน้ำตาลปึก จึงมีรสสัมผัสกรุบ ๆ แปลกใหม่ไปอีกแบบ คนในพื้นที่แอบกระซิบมาว่าในตลาดมีหลายร้าน รสชาติไม่เหมือนกันสักร้าน แต่ร้านไหนดีที่สุดก็แล้วแต่คนชอบ
2. ขนมดอกโดน : ขนมโบราณหากินยากที่อร่อย อร่อยมาก (มากจริง ๆ) ทั้งแป้งที่นุ่ม อุ่น หอมกรุ่น ทั้งไส้มะพร้าว ฝอยทอง ข้าวโพด ที่ให้เยอะแบบไม่กลัวขาดทุน ทั้งลีลาเจ้าของร้านที่ได้สูตรมาจากคุณย่า ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ไม่ควรพลาดทุกประการ อันนี้ทั้งตลาดมีอยู่ร้านเดียว ตรงไปชิมได้เลย
#04
ลองขาดสัญญาณอินเทอร์เน็ตกันสักวันสองวัน
ที่เขื่อนรัชชประภามีที่พักลอยน้ำบรรยากาศร้อยล้านแห่งหนึ่ง ชื่อว่า ‘แพ 500 ไร่’
คอนเซปต์ของที่นี่คือ Disconnect to Reconnect โดยที่ Disconnect หมายถึง การตัดการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ต และ Reconnect หมายถึง การเชื่อมสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว
เอาจริง ๆ ทีแรกคนติดจออย่างเราก็รู้สึกกระวนกระวายใจอยู่เหมือนกันที่รู้ว่าที่นี่ไม่มีสัญญาณใด ๆ และโทรศัพท์มือถือของเราจะกลายเป็นเพียงนาฬิกาที่มีกล้องถ่ายรูปในตัว
แต่เมื่อได้ลองมาอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วก็พบว่าไฟลต์บังคับครั้งนี้เป็นเรื่องดีอย่างไม่น่าเชื่อ คงน่าเสียดายมากถ้าเราได้แต่ก้มหน้าจนซึมซับกับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวได้ไม่เต็มที่ และไม่มีเวลามองตาเพื่อน ๆ ที่ไปด้วยกัน
#05
ลองออกเรือส่องสัตว์ในเขื่อนรัชชประภา
นี่คืออีกหนึ่งกิจกรรมไม่ควรพลาดในเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
เรารู้ดีว่าลำพังแค่การเดินทางไปแพ 500 ไร่ ก็กินเวลานั่งเรือหางยาวร่วมชั่วโมงแล้ว แต่การออกเรือโดยมีจุดประสงค์ในการสังเกตธรรมชาตินั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
พอแดดร่มลมตก พี่คนขับเรือซึ่งเป็นคนพื้นที่จะพาเราออกเดินทางไปตามเส้นทางที่เขาคุ้นเคย เมื่อไหร่ที่เรือจอด นั่นแปลว่าพี่คนขับเรือสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง และไม่ต้องแปลกใจหากคุณใช้เวลานานมากกว่าจะเห็นอะไรที่พี่เขาเห็น บอกเลยว่าความสามารถของพี่เขาหาตัวจับได้ยากมาก
ครั้งที่เราไป เราเจอกระทิงหลายตัวกำลังเอร็ดอร่อยกับหญ้าอยู่บนเกาะต่าง ๆ แต่คนที่นี่บอกกันว่า จะแรด สมเสร็จ เสือดำ ค่างแว่น หรือแม้แต่ช้างแม่ลูกว่ายน้ำ เขาก็เห็นกันเป็นปกติ โดยใช้วิธีจอดเรือห่าง ๆ และเฝ้ามองเงียบ ๆ โดยกล้องส่องทางไกล
นอกจากสัตว์ป่า คุณจะได้เห็นแพต่าง ๆ ตามรายทาง บ้างก็เป็นเหมือนด่านตรวจ บ้างแพปลา บ้างร้านสะดวกซื้อ รู้ตัวอีกทีก็มืดค่ำ และกลับมาถึงที่หมายตอนที่มองไม่เห็นรายละเอียดรอบตัวแล้ว
#06
ลองจับเข่าคุยกับคนสุราษฎร์ฯ
เพราะสุราษฎร์ฯ ไม่ใช่ (แค่) สถานที่ แต่เป็นผู้คน
ถ้ามีเวลามากพอ ลองหาโอกาสพูดคุยกับคนท้องถิ่นในเรื่องต่าง ๆ คนที่นี่ชอบทำอะไรบ้าง วันหยุดมักไปเที่ยวกันที่ไหน ตอนเด็ก ๆ เล่นอะไรกัน คิดว่าคนสุราษฎร์ฯ มีบุคลิกอย่างไร หรือแม้แต่ถามถึงเทรนด์ TikTok ในหมู่คนใต้
หัวข้อที่สนุกที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องวัฒนธรรมการกิน ขึ้นชื่อว่าคนไทย ยังไงเรื่องกินก็มาก่อนเรื่องอื่น พี่เบิ้ล เจ้าของแพ 500 ไร่ คนสุราษฎร์ฯ ขนานแท้อีกคนหนึ่งบอกกับเราว่า หากอยากกินแกงใต้อร่อย ๆ ต้องไปกินตามงานแต่งหรืองานศพ พูดจบก็ลากยาวไปถึงความใหญ่โตอลังการของการจัดงานในภาคใต้
บทสนทนาเป็นสิ่งที่จะพาให้คุณรู้จักจังหวัดต่าง ๆ อาจมากกว่าการไปเช็กอินตามจุดท่องเที่ยวจนรอบจังหวัดด้วยซ้ำไป
#07
ลองเดินชมความสวยงามของวัดถ้ำสิงขร
‘วัดถ้ำสิงขร’ ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นวัดโบราณที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา บรรยากาศร่มรื่นพาให้ใจสงบ
หากเดินไปด้านหลังจะพบกับถ้ำขนาดใหญ่ มีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง และมีปูนปั้นให้ชมหลากหลาย ทั้งรูปยักษ์ เทวดา พระแม่ธรณี หรือสัตว์ต่าง ๆ
เจ๋งที่สุดคงเป็นความสวยงามตามธรรมชาติของหินงอกหินย้อยที่ผนวกศิลปะโบราณเข้าไป มีการวาดเขียนจิตรกรรมฝาผนัง ปูนปั้นลายก้านขด และตกแต่งด้วยถ้วยชามกระเบื้องด้วย แค่นึกภาพว่าสมัยอยุธยาลวดลายพวกนี้ยังชัดเจนบนหินงอกหินย้อย สีแดงยังคมชัดไปทั้งถ้ำก็ทึ่งมากแล้ว
#08
ลองปีนขึ้นเจดีย์อุทยานธรรมเขานาในหลวง
‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’ เป็นสำนักสงฆ์กลางหุบเขา ชาวบ้านนิยมมาวิปัสสนากรรมฐาน ทำจิตใจให้สุขสงบด้วยธรรมะและธรรมชาติ
ที่นี่ไม่ได้เป็นโบราณสถาน หากเหล่าเจดีย์ที่เห็นทยอยสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ปัจจุบันนี้มีเจดีย์ทั้งหมด 6 องค์ให้ขึ้นไปสักการะ องค์ที่ 1 – 2 – 3 ทางขึ้นจะแยกจากกัน ส่วนองค์ 4 – 5 – 6 ที่สร้างใหม่ จะมีสะพานเชื่อมถึงกัน โดยชาวบ้านตั้งใจไว้ว่าจะสร้างทั้งหมด 9 องค์ด้วยกัน
ใครแรงเยอะก็ปีนขึ้นไปไหว้ให้ครบ ใครแรงน้อยหน่อยก็เลือกตามศรัทธาสัก 1 – 2 องค์ (คราวหน้าค่อยปีนใหม่) หรือหากอยากชื่นชมความงามของประตูพุทธวดีอยู่ข้างล่างก็ได้เช่นกัน
#09
ลองไปเยี่ยมแก๊งคุณป้า ตัวจริงไข่เค็มไชยา
‘กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ไข่เค็ม อสม. ไชยา’ เกิดจากการรวมกลุ่มกันของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
แก๊งคุณป้าเลี้ยงเป็ดเพื่อกำจัดหอยเชอรี่ที่ทำลายไร่นา เลยมีเป็ดและไข่เป็ดมากมาย จนคิดหาวิธีนำเป็ดมาแปรรูปเป็นไข่เค็ม โดยตัวตั้งตัวตีก็คือ ป้าประสงค์ ที่อยู่กับไข่เค็มไชยามาตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งเคยทำก็คราวนี้
มาที่นี่นอกจากได้ช้อปปิ้งไข่เค็มกลับไปกินบ้านแล้ว คุณป้ายังใจดีเปิดประตูให้ดูขั้นตอนการผลิต และปล่อยให้เราลองหยิบ ๆ จับ ๆ นำไข่เป็ดไปคลุกขี้เถ้าแกลบด้วย
โดยปกติแล้วจะใช้เวลาหมัก 7 วัน แต่หากอยากนำไข่เค็มไปทำเมนูอื่น ๆ ระยะเวลาอาจต่างกันไปตามสูตร
#10
ลองกินเมนูปู พร้อมชมกระบวนการเลี้ยงปูครบวงจร
จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ชอบกินปูเท่าไหร่นัก แต่เมนูปูที่ร้าน ‘ปูคอนโดCafe’ ก็ทำให้ติดใจได้ จะหลนปู ฮ่อยจ๊อปู ข้าวขยำปู แกงคั่วเนื้อปู ยำแซ่บไข่ปู อะไรก็หวานอร่อย ชิ้นใหญ่เต็มคำทั้งนั้น
ปูคอนโดCafe เป็นส่วนหนึ่งใน ‘วิยะเครป’ ธุรกิจส่งปูสดออกตลาดไทยและต่างประเทศอย่างยั่งยืน กินจนอิ่มแล้วก็มาเดินชมธนาคารปูม้าได้ ที่นี่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ปูม้าและการสนับสนุนชาวประมงเป็นพิเศษ
ถัดจากธนาคารปูม้า วิยะเครปยังเปิดให้เราดูกระบวนการอื่น ๆ ด้วย พาร์ตที่เราชอบที่สุดคือการแกะปู ผู้มาเยือนจะได้ยืนดูพี่ ๆ พนักงานแกะปูกันผ่านกระจกอย่างมืออาชีพ
พนักงานที่ส่วนใหญ่เป็นคนไชยาจะเริ่มเทรนที่การแกะก้ามก่อน จากนั้นก็ฝึกแกะกรรเชียง ส่วนที่ยากที่สุดก็คือ ‘หวีกล้วย’ ถ้าทำได้แล้วก็ถือว่าบรรลุขั้นสูงสุด
ถ้าอยากมาศึกษากระบวนการอย่างจริงจัง ติดต่อวิยะเครปก่อนมาสักนิด เจ้าหน้าที่จะบรรยายให้คุณฟังจนสิ้นสงสัย
ภาพ : TCEB
