เมืองที่เราอยู่ชื่อเลอเวิง (Leuven) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเฟลมิช บราบันต์ (Flemish Brabant) ในเขตแฟลนเดอส์ (Flanders) อยู่ตอนกลางของประเทศเบลเยียม ห่างจากบรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงประมาณ 25 – 30 กิโลเมตร 

เลอเวิงเป็นต้นกำเนิดของเบียร์ Stella Artois เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ทำให้มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ในยุโรปชื่อ Katholieke Universiteit Leuven (KU Leuven) เขาให้ความสำคัญกับการศึกษา นวัตกรรม งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และมีชื่อเสียงทางการแพทย์และเทคโนโลยี ล่าสุดมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ก็ได้ช่วยเหลือและให้เงินสนับสนุนงานวิจัยที่ KU Leuven เพื่อศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่า

การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการระบาดของโรคที่นี่เขาจะพูดรวมๆ เป็นเขต เมื่อตอนต้นปีทั้งประเทศยังมีแค่เคสเดียว เป็นคนที่กลับมาจากอู่ฮั่นพอดี พอกลับมารักษาที่นี่ก็หายเป็นปกติ เริ่มมาแพร่เยอะๆ ช่วงต้นเดือนมีนาคม เพราะมีวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ คนเลยพากันไปเล่นสกีที่ประเทศอิตาลีตอนเหนือ เป็นช่วงเดียวกับที่การแพร่ระบาดเริ่มหนักขึ้นในอิตาลี หลังจากอาทิตย์นั้น เบลเยียมก็เจอเคสเพิ่มขึ้นทุกวัน ช่วงหลังๆ มีเพิ่มขึ้นเป็นพันเคสใน 24 ชั่วโมง ณ วันที่เขียนบทความนี้อยู่ก็มียอดผู้ติดเชื้อเกือบ 14,000 คนแล้ว 

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน
ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

ช่วงแรกๆ สิ่งที่รัฐทำก็น่าจะคล้ายกับทุกประเทศ สั่งปิดร้านอาหาร ปิดผับ ปิดโรงเรียน ยกเลิกอีเวนต์ใหญ่ๆ แต่ธุรกิจที่จำเป็นอย่างซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำ ไปรษณีย์ ร้ายขายยา ยังอนุญาตให้ขายของได้ ส่วนสถานทูตหรือธนาคารก็ยังเปิดอยู่ แต่ต้องใช้ระบบนัดหมายล่วงหน้า ตอนแรกยังไม่มีคำสั่งให้คนอยู่บ้าน ต่อให้ร้านรวงปิด คนก็ยังออกไปนัดเจอกันตามสวนสาธารณะ ไปนั่งปิกนิค หลังจากนั้นไม่นานมากรัฐจึงต้องเปลี่ยนมาตรการใหม่ ให้คนอยู่บ้านพร้อม Social Distancing 

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

Social Distancing เป็นมาตรการที่ยากสำหรับคนเบลเยียม เพราะธรรมชาติของคนเบลเยียมชอบเข้าสังคม ชอบสังสรรค์ ชอบดื่มเบียร์นั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆ สถานที่สาธารณะอย่างผับหรือสวนสาธารณะจึงสำคัญมากสำหรับวัฒนธรรมที่นี่ พอเจอกับวิกฤตการแพร่ระบาดนี้ เราพบว่าวิธีการแก้ปัญหาหลายๆ อย่างของเขาช่วยให้คนรู้สึกถึงความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน เป็นคอมมูนิตี้ที่พร้อมจะช่วยเหลือกัน จนรู้สึกว่าถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาเราก็คงรอดตายแน่ๆ 

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

ทั้งหน่วยงาน องค์กร ธุรกิจ บริษัทต่างๆ ตั้งแต่ระดับชาติถึงระดับท้องถิ่น ก็พยายามรวมตัวกันผ่านสื่อหรือแพลตฟอร์มต่างๆ สื่อสารและให้ความรู้ ชวนคนมาทำประโยชน์ และที่สำคัญคือเขาให้กำลังใจกันเสมอ เวลามีแคมเปญหรือแฮชแท็กอะไรเขาจะใช้คำว่า Together บ่อยมาก

และเพราะเลอเวิงเป็นเมืองที่เด่นเรื่องเทคโนโลยี วิธีแก้ไขปัญหาหลายๆ วิธีของเขาจึงใช้เทคโนโลยีเป็นตัวกลาง และยังเป็นตัวเชื่อมโยงให้คนมาช่วยกันระดมความคิด เพื่อที่จะนำไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ในช่วงวิกฤตนี้

01 แพลตฟอร์มช่วยเหลือของทางการ และคูปองเยียวยาธุรกิจท้องถิ่น

Leuven Helpt เป็นแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ที่หน่วยงานของเมืองสร้างไว้ เพื่ออัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่า พร้อมส่งเสริมให้คนมาสมัครงานอาสาต่างๆ ตั้งแต่ซื้อยา ซื้อของชำให้กับผู้ป่วย ไปจนถึงหาพี่เลี้ยงเด็กสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่มีเวลา นอกจากนี้คนที่ต้องการความช่วยเหลือก็แจ้งไปยังหน่วยงานของเมืองได้ 

หน่วยงานยังมีการช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่นด้วย พอคนอยู่บ้านกันหมดเลยไม่ได้ออกไปซื้อของ ธุรกิจท้องถิ่นในเมืองได้รับผลกระทบอย่างมาก สินค้าบางอย่างก็อาจไม่ได้เป็นที่ต้องการในช่วงนี้ หน่วยงานนี้ก็เลยออกแบบแพลตฟอร์มให้คนซื้อคูปองของแต่ละร้านล่วงหน้า แล้วเอาไปใช้ในอนาคต เพื่อที่อย่างน้อยธุรกิจก็จะได้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาบ้าง

02 กรุ๊ปขอและให้ความช่วยเหลือผ่านแฮชแท็กรหัสไปรษณีย์

ตั้งแต่มีวิกฤตนี้ ก็มีคนสร้างกลุ่มในเฟซบุ๊กเพื่อแชร์ไอเดียและเพิ่มช่องทางในการช่วยเหลือขึ้นมาหลายกลุ่ม กลุ่มแรกมีชื่อว่า Crescendo Vlaanderen รวมคนที่ต้องการความช่วยเหลือและคนที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ วิธีการของเขาคือ ให้ใส่แฮชแท็กรหัสไปรษณีย์ของตัวเอง และตามด้วยคำขอหรือให้ความช่วยเหลือ เช่น #3000givehelp เพื่อเวลาคนในชุมชนต้องการความช่วยเหลือจะได้รู้ว่าใครอยู่ใกล้เรา ซึ่งการช่วยเหลือก็หลากหลายมาก และสมาชิกยังสามารถโพสต์ข้อคิดดีๆ ที่มีประโยชน์ในกลุ่ม รวมถึงมีอีกหลายกลุ่มที่ชวนกันมาเย็บหน้ากากผ้า เพื่อส่งไปให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย

03 แอปพลิเคชันเชื่อมต่อคนในชุมชน

แอปฯ แรกคือ Hoplr เป็นแอปพลิเคชันสำหรับแต่ละชุมชน เวลาเราย้ายบ้านใหม่ เขาจะส่งจดหมายมาให้ลงทะเบียนเพื่อเชื่อมต่อตัวเองกับคนในชุมชน คล้ายๆ เฟซบุ๊ก แต่มีเฉพาะคนในชุมชนของเรา ซึ่งโดยปกติคนเบลเยียมก็ใช้กันอยู่แล้ว สำหรับขอความช่วยเหลือกันเล็กๆ น้อยๆ อย่างขอยืมบันได ขอยืมค้อน ซึ่งพอเกิดวิกฤตนี้ขึ้น คนก็ใช้แอปฯ นี้มาช่วยอีกแรงหนึ่ง อย่างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีพ่อแม่ขอความช่วยเหลือในแอปฯ ว่า มีใครมีแทมโพลีนไหม พอดีเป็นวันเกิดลูกแล้วออกไปฉลองที่ไหนไม่ได้

แอปฯ ที่สอง คือ ListMinut เป็นแอปพลิเคชันที่ปกติมีไว้สำหรับฟรีแลนซ์หางาน แต่เขาหันมาจับคู่อาสาสมัครกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

04 ชวนเพื่อนบ้านมาทำกิจกรรมแบบ Social Distancing 

เพราะคนเบลเยียมชอบเข้าสังคม คนในกรุ๊ปเฟซบุ๊กของชุมชนในเลอเวิงที่อยู่ละแวกเดียวกันจึงชวนกันมาทำกิจกรรมแบบ Social Distancing ผ่านแฮชแท็ก อย่าง #balconycoffee ชวนเพื่อนบ้านมาดื่มกาแฟที่ระเบียง หรือบางคนก็ติดป้ายไว้หน้าบ้านเลยว่า เจอกัน 6 โมงวันนี้ริมระเบียง เราว่าน่ารักดี

05 รวมใจวางตุ๊กตาหมีให้เด็กๆ เดินหา

พอโรงเรียนปิด เด็กๆ อยู่บ้าน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมที่ไหน ออกไปข้างนอกก็ได้แต่เดินกับครอบครัว ไม่ได้เจอเพื่อนๆ จนพ่อแม่ไม่รู้จะให้เล่นอะไรแล้ว คนก็เลยนำไอเดียมาจากหนังสือเด็กออสเตรเลียชื่อ We’re Going on a Bear Hunt ชวนกันมาทำกิจกรรม Bear Hunt โดยให้แต่ละบ้านวางตุ๊กหมีไว้ที่หน้าต่าง บางบ้านก็ไว้หน้าต่างชั้นล่าง บางบ้านก็ไว้หน้าต่างห้องใต้หลังคา แล้วให้เด็กๆ เดินและหาตุ๊กตาหมีไปด้วยจะได้ไม่เบื่อ

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

06 องค์กรไอทีสอนผู้สูงอายุใช้เทคโนโลยีฟรี

ช่วงนี้บ้านพักคนชราปิด ไม่ให้คนเข้าไปเยี่ยม ผู้สูงอายุเลยเหงาและไม่ค่อยมีคนคุยด้วย องค์กรไอทีแห่งหนึ่งเลยออกมาสอนผู้สูงอายุให้ใช้เทคโนโลยี อย่างวิดีโอคอล Whatsapp Facebook หรือ Google เพื่อติดต่อกับครอบครัว ซึ่งเขามีคอลเซ็นเตอร์ให้ผู้สูงอายุโทรไปปรึกษาเรื่องปัญหาและวิธีการใช้งานได้

07 เวลาเปิด-ปิดพิเศษของซูเปอร์มาร์เก็ต และการยกเลิกโปรโมชันทั้งหมด

ตอนนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตยังเปิดทำการได้อยู่ แต่เขาจำกัดจำนวนคนที่จะเข้าไปซื้อของแต่ละรอบ และมีเวลาเปิด-ปิดพิเศษให้สำหรับคนบางกลุ่มโดยเฉพาะ ช่วงเช้าเปิดให้ผู้สูงอายุ คนพิการ บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักมากๆ ในช่วงนี้ บางที่เขาเปิดร้านและเตรียมของสำหรับคนทำงานทางการแพทย์เป็นพิเศษเลย แม้จะเลยเวลาทำการไปแล้ว เพราะเขารู้ว่าคนเหล่านี้เวลาว่างไม่แน่นอน และเป็นการช่วยเหลือที่เขาทำให้ได้

นอกจากนี้เขายังยกเลิกโปรโมชันทั้งหมด เพราะอยากให้คนซื้อเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ไม่อยากให้แห่ซื้อกักตุน 

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

08 เว็บไซต์สำหรับมุ่งเน้นไปที่สุขภาพจิตของคนในช่วงวิกฤต

หลายองค์กรในเลอเวิงรวมตัวกันเพื่อสร้างเว็บไซต์ชื่อว่า everyoneok.be เพื่อสนับสนุนให้คนมีสุขภาพจิตที่ดี และยังดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ เขาใช้ Online Intervention มีวิดีโอแนะนำการวางแผนทีละขั้นตอน และแบบฝึกหัดที่ทำได้เองตามแผนทีละขั้นตอนในเวลาประมาณ 45 นาที โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาแนะนำวิธีต่างๆ ในการคลายความเครียดและปรับปรุงความยืดหยุ่นทางจิต 

09 ส่งเสริมให้ออกกำลังกายโดยมีความรับผิดชอบต่อสังคม

รัฐส่งเสริมให้คนออกมาออกกำลังกาย เพราะการล็อกดาวน์ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต รัฐจึงรณรงค์ให้คนออกมาวิ่งหรือขี่จักรยาน โดยมีข้อแม้ว่าออกมาได้เฉพาะกับคนในครอบครัวหรือรูมเมทที่อยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น และก็ให้ทำกิจกรรมเฉพาะในละแวกบ้าน ห้ามขับรถหรือเดินทางไปที่อื่น

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

10 กิจกรรมให้กำลังใจที่ดูเหมือนน้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่

อย่างที่บอกว่าคนที่นี่เขาให้กำลังใจกันเสมอ ยิ่งตอนนี้แม้คนส่วนมากอยู่บ้านหมดแล้ว แต่ก็ยังมีบางอาชีพที่ต้องออกไปทำงาน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ บุรุษไปรษณีย์ คนเก็บขยะ ตำรวจ เป็นต้น คนเบลเยียมก็มีวิธีแสดงความขอบคุณที่ต่างกัน บางคนเขียนจดหมายขอบคุณบุรุษไปรษณีย์แปะไว้ที่กล่องใส่จดหมาย บางคนแปะโน้ตขอบคุณคนเก็บขยะที่ถังขยะหน้าบ้าน พ่อแม่บางคนก็ให้ลูกเขียนคำขอบคุณ 

อีกอันที่ออกข่าวไปเยอะมาก คือการแขวนผ้าขาวไว้ที่ระเบียงบ้าน เพื่อขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ หรือที่นัดกันยืนปรบมือเหมือนอย่างที่ประเทศไทยทำเลย

ความเป็นทีมของชาว Leuven กับ 10 มาตรการแก้เกม COVID-19 ในชุมชนที่จะพาทุกคนรอดไปด้วยกัน

มีคนพูดไว้ในข่าวว่า ถ้าเปรียบสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นสงคราม สงครามครั้งนี้มีพลเมืองเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด

ตอนนี้อะไรๆ อาจจะดูแย่ แต่การได้เห็นคนพยายามช่วยเหลือกัน มันทำให้เรามองด้านบวกมากกว่าลบ เรารู้สึกว่าในทุกสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น มันจะมีคนกลุ่มสองกลุ่มที่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง แล้วมันก็จะแผ่ขยายออกไป จนทำให้เราได้เห็นความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งมันน่าจะเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญที่สุดในวิกฤตเช่นนี้

Writer & Photographer

Avatar

นิษรา ศรีบุญ

อดีตนิสิตจากคณะจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ทางการศึกษาจาก KU Leuven ที่รักเสียงดนตรีและสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันศึกษาต่อทางด้าน Canine Behavior Management และทำงานเป็น Pet-sitter ที่ Leuven ประเทศเบลเยียม