Haute Couture ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เครื่องแต่งกายชั้นสูง
บ้านหลังเล็กประตูสีน้ำเงินสุดตรอกเขียนนิวาสน์ มีสตูดิโอปักผ้าไทยที่เลอค่าจนอยากมอบฐานะ Haute Couture Master แห่งเมืองไทยให้
ผู้ที่ออกมาต้อนรับเราพร้อมแมวจำนวนโหลครึ่งคือ แม่เปี๊ยก-สมคิด หลาวทอง ช่างปักและตัดชุดโขนมือเก่าแก่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ แกเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลัง ‘โขนสมเด็จฯ’ หรือการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จัดทุกปีเพื่อให้คนได้มีโอกาสลิ้มรสความงดงามของโขน
ในบ้านมีผ้าตัดชุดโขนพับอยู่ในกล่องซ้อนกันหลายชั้น บนกล่องบางกล่องมีหัวโขนวางอยู่ และตามฝาผนังก็มีรูปของคนในครอบครัวที่แสดงโขนตามงานต่างๆ แปะอยู่ทั่วบริเวณ
เมื่อคิดว่า นี่คือที่ที่ทำให้ชุดโขนเปล่งประกายภายใต้แสงไฟของโรงละคร ก็ตื่นเต้นขึ้นมา
แม่เปี๊ยกนั่งลงที่ตั่ง กดเปิดพัดลม เธอเป็นผู้หญิงสูงอายุตัวเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย รอบตัวมีข้าวของไม่กี่อย่าง หัวเราะเสียงดัง และไม่ชวนให้นึกถึงเลยว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังชุดโขนที่ระยับแวววาวเหล่านั้น
แต่เรื่องราวของเธอ ทำให้เราเชื่อว่า นี่คือปรมาจารย์ตัวจริง
วัยเด็กที่ผูกพันกับโขน
ชีวิตของแม่เปี๊ยกเหมือนถูกกำหนดให้ต้องรับหน้าที่นี้
การเติบโตมาในบ้านที่ทุกคนทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมของชาติ ตั้งแต่ลุงที่อยู่ในกองโบราณคดี พ่อที่ทำงานแผนกนาฏศิลป์ของกรมศิลปากร ทำให้แม่เปี๊ยกและพี่น้องใช้ชีวิตวัยเด็กในโรงละคร และได้มีโอกาสดูโขนตั้งแต่เล็กๆ
“เวลามีโขนกลางแปลงเขาก็อุ้มเราไปดูด้วย เราก็ไม่ได้ดูเท่าไรหรอก ยังเด็กอยู่ หรือสมัยที่โรงละครเก่ายังไม่ไฟไหม้ เราก็ใช้ชีวิตอยู่ในนั้น วิ่งขึ้นวิ่งลงไปมาในโรง” แม่เปี๊ยกในอายุ 80 เล่าย้อนกลับไปถึงครั้งตัวเองยังเยาว์ ตอนที่กรมศิลปากรยังอายุน้อยๆ และโรงละครหลักสำหรับการแสดงโขนยังเป็นโรงละคอนศิลปากร ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ในปี 2503
เธอใช้ชีวิตผูกพันกับโขนมาตลอด จนไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมจะต้องไม่รักศิลปะชนิดนี้
ตลอดชีวิตในวงการ
เมื่อมาถึงวัยที่เริ่มเรียนรู้ได้ ที่บ้านก็ส่งต่อความรู้ด้านศิลปะไทยให้ลูกแต่ละคน ทำให้พี่ชายได้โอกาสเล่นโขนเป็นตัวพระ น้องชายได้เล่นเป็นตัวยักษ์ ส่วนแม่เปี๊ยก แม้จะฝึกงานเบื้องหน้าด้วย แต่งานแบบที่แม่ชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่า
“แม่ชอบงานฝีมือทุกอย่าง งานถัก งานปัก งานอะไร แม้แต่การทำกับข้าวก็ชอบ” แม่เปี๊ยกบอกด้วยรอยยิ้ม
เราถามแม่ถึงครั้งแรกที่เริ่มปักชุดโขน แม่นิ่งคิดสักพัก ก่อนส่ายหัวว่าตนจำไม่ได้แล้ว เพราะกว่าจะได้เป็นนักปักชุดโขน จะต้องเริ่มจากการฝึกฝีมือบนผ้าผืนเล็กๆ และลวดลายที่เรียบง่ายกว่าก่อน แล้วจึงพัฒนามาเรื่อยๆ จนได้รับผิดชอบชุดโขนทั้งชุดในที่สุด
ชุดโขนของกรมศิลปากรได้มาจากการจ้างช่างทำชุดโขนสำนักต่างๆ โดยกรมจะเลือกจ้างคนที่กรมไว้ใจ แม่เปี๊ยกเล่าให้เราฟังอย่างรู้ดี เพราะเธอเองก็ทำงานอยู่ในกรมตั้งแต่ พ.ศ. 2505 โดยรับหน้าที่ทั้งจัดเครื่องโขน เตรียมการแสดง และช่วยเป็นกองหนุนให้งานแสดงโขนของกรม
ตลอดชีวิตในกรมศิลปากร แม่ไม่เคยห่างจากโขน
เมื่อถึงยามเกษียณ แต่ยังไม่อาจทิ้งโอกาสรับใช้ศิลปะชั้นสูงนี้ไปเฉยๆ ได้ แม่เลยผันตัวไปเป็นช่างรับจ้างปักและตัดชุดโขนให้กรมศิลปากร และทำงานที่ตัวเองถนัดที่สุด
นั่นคือการปักผ้า
เคล็ดลับที่ทำให้โขนเปล่งประกาย
กระบวนการทำลวดลายชุดโขนนั้นซับซ้อน
ก่อนจะปัก ผ้าต้องผ่านการลอกลาย กรมศิลปากรมีออร์เดอร์มาว่าให้ทำชุดของตัวละครไหน แม่ก็เลือกลายตามตัวละครนั้น เช่น ตัวยักษ์ก็เป็นลายหน้ายักษ์ ตัวลิงก็เป็นลายกลมๆ เป็นต้น ลวดลายเหล่านี้ได้ เอ๋-ธนะชัย รุ่งแจ้งศรี หลานแม่เปี๊ยก คอยเป็นกำลังเสริมช่วยลอกให้
เมื่อลอกลายเสร็จแล้วจึงนำผ้าไปขึงขึ้นสะดึงเพื่อปัก โดยถ้าไม่ปักลายหนุนก็ปักลายเลื่อม
ถ้าเป็นลายหนุนจะเริ่มต้นจากการปักดิ้นข้อเพื่อตัดเส้นลวดลาย ก่อนจะปักเชือกหนุนลายให้นูนขึ้นมา โดยเชือกก็ต้องผ่านการรูดกาวและตากแดดเพื่อให้เหนียวด้วย เมื่อได้ลวดลายเป็นนูนๆ แล้วจึงค่อยถมให้เกิดความระยิบระยับด้วยการปักดิ้นโปร่ง ดิ้นลักษณะคล้ายสปริงที่ต้องตัดให้เป็นชิ้นสั้นๆ พอดีช่อง แล้วร้อยใส่ด้ายเพื่อปักทับคลุมชั้นเชือกไว้
ส่วนอีกแบบหนึ่งคือลายเลื่อม จะเริ่มด้วยการปักเลื่อมหรือแผ่นบางกลมขนาดเล็กลงไปรองเป็นพื้นแทนเชือกหนุนก่อนปักดิ้นโปร่ง เทคนิคนี้จะใช้ปักลำตัวของชุดลิงเป็นหลัก
ไม่ว่าจะแบบหนุนหรือแบบเลื่อม ก็ต้องปักซ้ำ 2 ครั้งเหมือนกัน
ยังไม่นับว่าผ้าแต่ละส่วนของชุดจะต้องปักต่างแบบกันอีกนะ
กระบวนการทำชุดโขนที่บ้านหลังนี้ไม่ได้จบแค่ที่การปักชุดโขน แม่เปี๊ยกยังรับหน้าที่ตัดเย็บผ้าจนออกมาเป็นชุดพร้อมใส่ด้วย แต่ขั้นตอนที่ใช้ทั้งเวลาและความสามารถที่สุด ก็คือขั้นตอนการปักลวดลายนี่เอง
รอยปักระดับครู
แม่นั่งลงที่สะดึง แล้วลงมือปักลวดลายบนชุดหนุมานให้ดู
ความเชี่ยวชาญระดับแม่เปี๊ยกคือการเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเรา พร้อมขยับมือทำไปด้วย โดยงานไม่สะดุดแม้แต่น้อย และลายปักที่ออกมาก็ได้คุณภาพตามมาตรฐานด้วย
จุดวัดความสามารถในการปักชุดโขนคือการเรียงตัวของดิ้นโปร่งที่ต้องสวยเนี้ยบ เวลาดูไกลก็ระยิบระยับ เวลาดูใกล้ก็สวยงามเป็นระเบียบ ผู้ปักต้องค่อยๆ ตัดดิ้นโปร่งให้พอดีกับช่องที่จะปัก แล้วปักทีละเส้น ทีละเส้นให้แน่นเต็มช่อง
“หาวัสดุน่ะไม่ยาก แต่พอมีวัสดุเครื่องมือแล้ว จะเอามาทำได้สวยหรือเปล่าต่างหาก” แม่เปี๊ยกพูดถึงความสำคัญของการปักผ้าด้วยมือ “หลายคนปักเร็ว ขอให้มันเสร็จ แต่ความละเอียดอ่อนมันไม่มี”
ความละเอียดอ่อนนี่เองที่เพิ่มเสน่ห์ลับๆ ให้กับโขน
แต่งองค์ทรงเครื่องโขน
เดี๋ยวนี้ยังดูโขนอยู่หรือไม่ เราถามแม่
แม่ตอบว่าไม่ได้ดูแล้ว โดยเฉพาะโขนสมเด็จฯ ที่เวลาจัดแสดงทีไรแม่ต้องไปขลุกทำงานอยู่แต่ในห้องเครื่องหรือห้องจัดเสื้อผ้าโขนทุกที
ปรมาจารย์ระดับแม่เปี๊ยกหมายความว่างานไม่ได้จบแค่ที่การปักหรือตัดเย็บชุดโขน แต่รวมไปถึงการแต่งองค์ทรงเครื่องให้นักแสดงแต่ละคนก่อนขึ้นแสดงด้วย
การแต่งชุดโขนมีรายละเอียดมากมาย แต่ละชุดต้องแต่งตัวแตกต่างกันไป หากทำไม่เป็น อาจใช้เวลาจัดการแค่เรื่องแต่งตัวได้นานเป็นชั่วโมง ส่วนแม่ใช้เวลานุ่งแค่ 15 นาทีต่อตัวก็เสร็จแล้ว
จะยังหาคนที่เชี่ยวชาญจนทำงานได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อีกสักกี่คน
ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว
แม้วงการชุดโขนจะยังมีช่างซ่อนอยู่อีกหลายสำนัก แต่สิ่งที่ทำให้แม่โดดเด่นและน่านับถือ คือความใจดีที่เปิดให้วิชาฟรีๆ ทั้งที่น่าจะหาเงินเข้าตัวได้อีกมากมาย
ในตรอกเขียนนิวาสน์ นอกจากแม่แล้ว ก็มี แม่โต่ง-วรรณา นิ่มประเสริฐ และ แม่ต้อย-วิลาภ ช่วงจันทร์ ที่มาช่วยปักเป็นครั้งคราว และยังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ แวะเวียนกันมาเพื่อเรียนวิชา ด้วยความหวังว่าจะสืบทอดศาสตร์การปักผ้าต่อไป แม้คนเหล่านี้ยังต้องฝึกอีกมากกว่าจะเก่งอย่างแม่ แต่ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
“แม่สอนหมด ใครอยากเรียนมาเลย เราตายเราก็เอาติดตัวไปไม่ได้ เราก็ถ่ายทอดให้คนอื่นเขา” แม่เปี๊ยกพูด น้ำเสียงแสดงถึงความเชื่อมั่น
แม่ไม่ได้คิดว่าเป็นวิชาของตัวเอง แต่เป็นของชาติ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องมีคนสืบต่อไป
การปักผ้าอันระยิบระยับเปลี่ยนผ้าผืนธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องแต่งกายชั้นสูง ยิ่งเมื่อผนวกกับท่วงท่ารำและแสงสีเสียงบนเวที ก็ขับเน้นคุณค่าของชุดโขนจนสู้กับชุด Haute Couture บนรันเวย์ได้อย่างสูสี
หวังว่า Haute Couture แบบไทยๆ นี้จะอยู่ต่อจากแม่เปี๊ยกไปอีกหลายรุ่น
ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมชั้นสูงนี้ เข้าไปเรียนได้กับแม่ได้เลยฟรีๆ ที่สุดซอยเขียนนิวาสน์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ หรือโทรไปบอกแม่ก่อนได้ที่ 081-889-2524