3 พฤศจิกายน 2021
2 K

เพราะเรื่องราวความเขียวของเมืองสิงคโปร์ เพื่อการเป็น City in The Park ภายใน ค.ศ. 2030 ยังไม่หมดแค่สวนสัตว์อย่างโครงการ Mandai เราเลยชวนลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้อีกประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อเดินสำรวจพื้นที่สาธารณะสีเขียวสุดไฮเทคอีกแห่งอย่าง ‘Jurong Lake Gardens’ สวนสาธารณะแห่งชาติที่แรกใจกลางเมืองสิงคโปร์ในเขตจูร่ง

จูร่งเคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 60 และเป็นเขตที่มีความหนาแน่นสูง ด้วยเหตุนั้น หลักการโครงข่ายสีเขียวจึงเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มภูมิทัศน์และความยั่งยืนให้เมืองนี้ ทั้งการสร้างทางน้ำขึ้นมาใหม่ วางระบบขนส่งเพื่อให้เกิดการโดยสารด้วยรถยนต์น้อยลง ทั้งยานยนต์ไร้คนขับ แถมยังกระซิบว่า ในอนาคตจะมีทางรถไฟความเร็วสูงสายกัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ พาดผ่าน ผสานความยั่งยืนและมรดกทางวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน จนได้รับการยกให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของประเทศ หรือเขตเศรษฐกิจน้องใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่าง Jurong Lake District ในอนาคต

หลังประตูบานนี้ พื้นที่สีเขียวที่ว่าจะเป็นแบบไหน ชวนเยื้องย่างไปดูเบื้องหลังแนวคิดและความล้ำของเขตจูร่งพร้อมกัน

01 ติดแอ่งน้ำก็เขียวได้

ชื่อ Jurong นี้ เชื่อว่ามีที่มาจากหลายแหล่ง แต่ที่คาดว่าเป็นไปได้มากสุด คือมาจากคำว่า Penjuru ในภาษามาเลเซีย ซึ่งแปลว่ามุม เปรียบเสมือนคาบสมุทร เพราะจูร่งเป็นดินแดนติดน้ำ ทำให้ต่อมาถูกเรียกขานว่า Jurong Lake District หรือเขตทะเลสาบจูร่ง และถ้ามองดีๆ พื้นที่ตรงนี้มีความท้าทายพอสมควร เป็นคำถามว่า แล้วจะปรับปรุงย่านที่อยู่ติดกับทะเลสาบอย่างไร

เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์

ถ้าอย่างนั้น ก็ใช้ประโยชน์จากการเป็นเมืองติดทะเลสาบนี่แหละ! -เมืองตอบ

นั่นเป็นที่มาของพื้นที่สาธารณะริมน้ำจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองอันเขียวขจี แถมยังมีการพัฒนาต่อ เชื่อมบรรดาสวนสาธารณะและย่านที่อยู่เข้าด้วยกันให้ เกิดเป็น Green Loop ให้เดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอ Green Space ได้ง่ายๆ พร้อมยึดการออกแบบที่ยั่งยืนและใช้เทคโนโลยีมามีส่วนช่วยในทุกส่วน เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งเมือง

เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์

โดยหนึ่งในพื้นที่สีเขียวรวมๆ กันเกือบ 100 เฮกเตอร์หรือกว่า 600 ไร่ ขนาบทะเลสาบกว่า 17 กิโลเมตร ยังคว้ารางวัล Urban Land Institute Asia Pacific Award for Excellence มาสดๆ ร้อนๆ ในปีนี้โดยตั้งใจให้ Public Space แห่งนี้เป็นของทุกคนอย่างแท้จริง

02 ทัวร์สวนนานาชาติ

สวนแห่งนี้มีอายุ 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่ ค.ศ. 2019 โดยทุกส่วนสร้างขึ้นมาเพื่อการรวมตัวกันของครอบครัวและชุมชน ซึ่งในเขตสวนสาธารณะจูร่งมีพื้นที่หลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร

ทั้งสวนที่กำลังดำเนินการให้เกิดขึ้น อย่าง Lakeside Garden สวนธีมธรรมชาติ วิวสนามเป็นสโลปลู่ลงมายังทะเลสาบ ประกอบด้วยทางเดินริมทะเลและสวนลอยน้ำ รวมถึงพื้นที่สำหรับเยาวชนกลาง Wetland อย่างลานสเก็ตหรือที่ปีนเขา ได้รับการออกแบบร่วมกันกับชุมชน ให้เป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้ต่อไป

Jurong Lake Gardens อุทยานต้นแบบพื้นที่สีเขียวแห่งอนาคตในสิงคโปร์ ดีไซน์สำหรับทุกคน

เดินลอดซุ้มไม้ไผ่สูดไม้หอม ก่อนเข้า Chinese and Japanese Gardens ที่ยังคงอนุรักษ์สภาพภูมิประเทศเดิม แต่เพิ่มเติมความงามแบบงานศิลป์ ลงไปสร้างลานกิจกรรมใหม่ที่จุคนได้ถึง 7,000 คน 

Jurong Lake Gardens อุทยานต้นแบบพื้นที่สีเขียวแห่งอนาคตในสิงคโปร์ ดีไซน์สำหรับทุกคน
Jurong Lake Gardens อุทยานต้นแบบพื้นที่สีเขียวแห่งอนาคตในสิงคโปร์ ดีไซน์สำหรับทุกคน

ที่น่าตื่นตาคือ ในตอนเย็นมีลานโคมไฟสว่างไสวให้มานั่งมองพระจันทร์สะท้อนเงาน้ำ ถัดมาที่สวนญี่ปุ่น จะมีสวนดอกไม้และพืชเขตร้อน รวมทั้งต้นปรงที่ทรงปลูกเมื่อ ค.ศ. 1970 โดย สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ แห่งญี่ปุ่น ในคราวที่เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์ก่อนขึ้นครองราชสมบัติ 

นอกจากนี้ ยังเดินข้ามสะพานเชื่อมทิศเหนือกับทิศตะวันออกของเกาะได้ด้วย และส่วนที่ห้ามพลาด คือสระบัวซึ่งรวบรวมสายพันธุ์บัวที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ 

Jurong Lake Gardens อุทยานต้นแบบพื้นที่สีเขียวแห่งอนาคตในสิงคโปร์ ดีไซน์สำหรับทุกคน

ต่อมายังมี Southern Promenade พื้นที่ 8 เฮกตาร์ทางตอนใต้ของสวน สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พืชพันธุ์และสัตว์ป่า ถ้ามองดีๆ เราจะได้เห็นนกพื้นเมืองและต้นบันยันโตเต็มที่ให้พวกมันใช้พักพิง

นอกจากนี้ ที่นี่มีแลนด์มาร์กน่าปักหมุดอยู่อีกมากมาย ทั้งทางเดิน Rasau Walk ชมพันธุ์พืชมากกว่า 500 สปีชีส์ Therapeutic Garden สวนบำบัดที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุผู้เป็นโรคสมองเสื่อม เด็กๆ ที่มีภาวะออทิสติกขั้นไม่รุนแรงหรือสมาธิสั้น ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่อยากมาผ่อนคลาย และสนามเด็กเล่นธรรมชาติให้น้องหนูได้สำรวจสิ่งมีชีวิตอย่างสนุกสนาน 

เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์
เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์

03 แหล่งรวมความไฮเทคล้ำยุค

มากไปกว่าสวนหลากหลายรูปแบบที่คิดมาเพื่อทุกคนแล้ว Jurong Lake Gardens ยังสร้างสรรค์ความล้ำหน้าทางนวัตกรรมและการออกแบบอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ขอเริ่มกันที่ Zero Energy Buildings สวนแห่งนี้มีการใช้งานอาคารด้วยระบบพลังงานเป็นศูนย์ ใช้การก่อสร้างแบบใหม่คือ Mass Engineered Timber (MET) หรือไม้ที่ถูกปรับคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้ทั้งสวยงาม คงทน ใช้เนื้อไม้น้อยกว่า และแข็งแรงกว่าการใช้คอนกรีต แถมยังช่วยลดผลกระทบจากการก่อสร้าง เช่น มลพิษทางเสียง การใช้รถขนส่ง และของเสียได้มากขึ้น 

ส่วนของเสียจากพืชในสวนเอง จะนำไปแปลงเป็นพลังงานภายในอาคาร และแปลงเป็นถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ (Biochar) เพื่อผลิตพลังงานความร้อนต่อไป รวมทั้งสร้างระบบหมุนเวียนน้ำแบบปิดเพื่อให้นำน้ำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง 

เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือเทคโนโลยีสุดเท่อย่างรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicles : AV) นับเป็นที่แรกๆ ที่มีการทดสอบยานยนต์ดังกล่าวในสวนสาธารณะใจกลางเมือง สำหรับรถคันนี้ นักท่องเที่ยวใช้งานเพื่อเดินทางเข้า-ออกสวนสาธารณะได้ฟรีด้วยนะ

เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์
เดินเที่ยวสวนสาธารณะที่เปลี่ยนเขตติดทะเลให้เขียวชอุ่ม และอุดมไปด้วยความเจ๋งล้ำแบบชาวเมืองสิงคโปร์
ภาพ : Ramboll Studio Dreiseitl

ไม่น่าเชื่อว่าสิงคโปร์จะเปลี่ยนพื้นที่ที่ดูเหมือนยากต่อการต่อยอด สู่เครือข่ายสวนเขียวหลายร้อยไร่เข้าไว้ด้วยกัน โดยยังคงทั้งลักษณะเมืองดั้งเดิมและผู้คน แถมยังเตรียมพัฒนาต่อเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ของประเทศได้ด้วย แต่ละโปรเจกต์การสร้างพื้นที่สีเขียวของสิงคโปร์ มีอะไรให้ศึกษาและเก็บเกี่ยวความรู้อยู่เสมอเลย เอาไว้เปิดประเทศและสร้างเสร็จเมื่อไหร่ เจอกันแน่!

ขอบคุณภาพและข้อมูล

www.archdaily.com

www.nparks.gov.sg

www.jld.gov.sg/ 

Writer

ฉัตรชนก ชโลธรพิเศษ

ฉัตรชนก ชโลธรพิเศษ

ชาวนนทบุเรี่ยน ชอบเขียน และกำลังฝึกเขียนอย่างพากเพียร มีความหวังจะได้เป็นเซียน ในเรื่องขีดๆ เขียนๆ สักวันหนึ่ง