ธุรกิจ : ไอวิศน์ (IVISN)

ประเภทธุรกิจ : สินค้าอุปโภคบริโภค ยาสีฟัน

ปีที่ก่อตั้ง : พ.ศ. 2464 เริ่มกิจการวิเศษนิยม, พ.ศ. 2564 จดทะเบียนบริษัท วิเศษ แอนด์ ไอ จำกัด

อายุ : 101 ปี since 1921

ผู้ก่อตั้งรุ่นคุณทวด : นางผิน และ หลวงแจ่มวิชาสอน

บริษัทวิเศษ แอนด์ ไอ เป็นทายาทรุ่นท่ี 4 โดย คุณต้น-พิเศก อินทรครรชิต ส่วนวิเศษนิยมน้ันเป็นรุ่นที่ 3 โดยคุณแม่พจนีย์ อินทรครรชิต และน้องสาวคุณพิเศกเป็นผู้ช่วย

‘วิเศษนิยม’ เป็นยาสีฟันรายแรกของประเทศไทยที่หากเอ่ยถามคุณทวด คุณยาย หรือคุณแม่ที่บ้าน มั่นใจว่าทุกคนในครอบครัวรุ่นก่อนต้องเคยใช้อย่างแน่นอน

ในยุคก่อนยาสีฟันต่างประเทศเป็นที่แพร่หลาย ยาสีฟันตำรับสมุนไพรไทยแบรนด์นี้เป็นแบรนด์คู่บ้านของคนไทยมานาน 

ผ่านมาร้อยปี วันนี้วิเศษนิยมมีแบรนด์น้องอย่างไอวิศน์ (IVISN) โดยทายาทรุ่นที่ 4 เปิดตัวยาสีฟันด้วยชื่อสูตรที่ฟังแล้วระรื่นหูอย่าง ‘นิยมธรรมชาติ’ และ ‘วิเศษบริสุทธิ์’ พัฒนาจากต้นตำรับแผนไทยผสมผสานนวัตกรรมสูตรธรรมชาติ และความตั้งใจอยากให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ยาสีฟันสมุนไพรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น ลองใช้แล้วเย็น สดชื่น ปากสะอาดนาน

ยาสีฟันโมเดิร์นเวอร์ชันนี้มีที่มาอย่างไร วันนี้มาคุยกับ คุณต้น-พิเศก อินทรครรชิต ที่ภูมิใจกับ ‘คุณทวดผิน แจ่มวิชาสอน’ ผู้ริเริ่มยาสีฟันตำรับสมุนไพรไทย และอยากสืบทอดเจตนารมณ์ให้ไอวิศน์และวิเศษนิยมอยู่ต่อไปอีกกว่าร้อยปีกัน

พ.ศ. ๒๔๖๔ คลองบางหลวง-จุดเริ่มต้นตำนานยาสีฟันวิเศษนิยม 

ประวัติเก่าแก่ของวิเศษนิยมมีเรื่องเล่าที่บันทึกจุดเริ่มต้นของยาสีฟันตำรับโบราณไว้ดังนี้

คุณหลวงแจ่มวิชาสอน และ นางผิน แจ่มวิชาสอน มีบ้านอยู่ริมคลองบางหลวง จังหวัดธนบุรี ยุคสมัยนั้น การสัญจรใช้ทางเรือเป็นหลัก ทั้งคู่เป็นคนขยันทำมาหากิน คุณหลวงแจ่มฯ รับราชการเป็นครูผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ท่านป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิด มีเลือดออกตามไรฟัน และเหงือกบวม ไปหาหมอเท่าไรก็ไม่หาย จนในที่สุดก็มาหายด้วยตำรายาของ ท่านจมื่นสิทธิแสนยารักษ์ แพทย์แผนโบราณประจำโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

ต่อมาท่านจมื่นฯ ได้มอบตำรายาต่าง ๆ ให้แก่นางผิน ด้วยประจักษ์ในคุณงามความดี มีความกตัญญู และความขยันขันแข็งของนางผิน แต่แรกนั้น นางผินได้ปรุงยาเพื่อใช้ดูแลนักเรียน แจกจ่ายให้ผู้ปกครองและผู้ใกล้ชิด รวมถึงในสมัยรัชกาลที่ 7 มีการจัดประชุมลูกเสือทั่วประเทศ นางผินจึงได้ทำยาสีฟันแจกลูกเสือที่มาในงานฟรี เพื่อให้ได้ใช้กันอย่างทั่วถึง

ด้วยตัวยาสีฟันที่มีคุณภาพ ใช้แล้วเห็นผลดี มีคนเรียกร้องให้ทำขาย จึงได้ทำ ‘ยาสีฟันวิเศษนิยม’ ออกขายแพร่หลายต่อมาจนปัจจุบัน 

พ.ศ. 2498 นางผินและหลวงแจ่มฯ ย้ายมาตั้งโรงงานอยู่กรุงเทพฯ ณ สถานที่ปัจจุบัน คือ สุขุมวิท 79 และได้บริจาคบ้านคลองบางหลวงเป็นสาธารณะกุศล สถานที่ปัจจุบันเป็นโรงเรียนวัดสังข์กระจาย (แจ่มวิชาสอน)

พ.ศ. 2508 ได้บริจาคทรัพย์และที่ดินให้สภากาชาดไทย สถานีกาชาดที่ 11 วิเศษนิยม ตั้งอยู่ที่แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ ไม่ไกลจากสถานี MRT ภาษีเจริญ ปัจจุบันให้บริการรักษาโรคทั่วไป โรคเฉพาะทาง จักษุ การฉีดวัคซีน รวมถึงศูนย์บริการโลหิตและพลาสมา และห้องจ่ายโลหิต 24 ชั่วโมง

โตมากับสมุนไพรในบ้าน

ไอวิศน์ แบรนด์ของทายาทรุ่นสี่วิเศษนิยม ยาสีฟันอายุร้อยปีที่อยากอยู่ในใจคนรุ่นใหม่

สมัยก่อนยาสีฟันเป็นผง เป็นภูมิปัญญาการใช้ยาสีฟันแบบโบราณ ความพิเศษคือ ด้วยความเป็นผงและเป็นสมุนไพร ทำให้เอาไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น พลิกแพลงเป็นยาสามัญประจำบ้านขนานอื่นได้

คุณต้น ทายาทรุ่นที่ 4 เล่าว่า “นอกจากยาสีฟัน ยังมียาทาวิเศษนิยมและยาดับพิษวิเศษนิยม เป็นยาใส่แผลบรรเทาอาการแพ้จากแมลงสัตว์กัดต่อย ปัจจุบันมีขายที่บริษัท ไม่ได้วางขายทั่วไปเหมือนยาสีฟันวิเศษนิยม

“สมัยเด็ก ๆ แทบไม่เคยใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบันเลย เจ็บป่วยอะไรก็ใช้ยาของแม่ ตั้งแต่หกล้ม แมลงกัดต่อย ปวดแสบปวดร้อน ผื่นคัน ยาทา ยาดับพิษ ยาสีฟันผง 3 ตัวนี้ผสมกันได้ ใช้ได้ค่อนข้างครอบคลุม บางคนใช้ยาสีฟันผงวิเศษนิยมทาหน้าเพื่อจัดการปัญหาสิว ใช้บรรเทาแผลในเหงือกจากอาการเหงือกร่น หรือรักษาเนื้อเยื่ออ่อน ๆ ตามร่างกายก็ได้”

สำหรับคนที่โตมากับภูมิปัญญายาแผนโบราณพร้อมซึมซับการปรุงยากับคุณแม่ คุณต้นยังเล่าอีกว่าสมุนไพรแต่ละชนิดไม่ได้ถูกกับทุกคน ตามที่มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “ลางเนื้อชอบลางยา” หมายความว่า ยาอย่างเดียวกัน อาจถูกกับคนหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งอาจใช้แล้วไม่เห็นผลก็ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่ายาตัวนี้ดีหรือไม่ดี อย่างไรก็ตาม วิเศษนิยมที่เกิดจากภูมิปัญญา เริ่มใช้ในบ้านจนคนเรียกร้องให้ผลิต ก็เป็นที่การันตีได้ว่าคนส่วนใหญ่ใช้แล้วเห็นผลว่าดีจริง 

กำเนิดไอวิศน์

ด้วยภาพลักษณ์ความคลาสสิกและคุณภาพของวิเศษนิยมที่อยู่มานาน คุณต้นบอกว่า “ถ้าจะเปลี่ยนลุคให้แบรนด์ คนที่ใช้อยู่ดั้งเดิมก็คงไม่ยอม เลยไม่อยากไปแตะอะไร” 

และด้วยความที่ส่วนผสมของวิเศษนิยมตามตำรับโบราณอย่าง ‘ดินสอพอง’ มีจำกัดในธรรมชาติ ทำให้มีข้อจำกัดสำหรับการผลิตจำนวนมาก ประกอบกับคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักแบรนด์อย่างกว้างขวาง

เนื่องในโอกาสวิเศษนิยมมีอายุครบ 100 ปี คุณต้นจึงเกิดไอเดียริเริ่มก่อตั้งแบรนด์ยาสีฟันน้องใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่เป็นคนรุ่น Millennials เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับคนในยุคปัจจุบัน

โดยชื่อแบรนด์ ‘IVISN (ไอวิศน์)’ จะประกอบด้วยตัว I ที่แปลว่า ฉัน ผสมกับคำย่อของวิเศษนิยม กลายเป็น ‘IVISN’ แบรนด์ที่เป็นเจเนอเรชันใหม่นี้ เพื่อการพัฒนาอย่างทันสมัย โดยต่อยอดจากต้นตำรับเดิม

ทุกวันนี้การแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูงไม่ว่าในอุตสาหกรรมใด คุณต้นมองว่าตลาดยาสีฟันก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เขาไม่ได้คิดเรื่องการแข่งขัน

“เราไม่แข่งกับใคร สมัยก่อนมีหลักการคิด Blue Ocean Strategy (กลยุทธ์น่านน้ำสีครามหรือการหลีกเลี่ยงการแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด) เราไม่ได้คิดตรงนั้น แต่มองหาว่าช่องว่างตลาดอยู่ตรงไหน ไม่ว่าด้านสรรพคุณ ราคา เรามองหาช่องว่างที่มีแล้วคิดว่าตรงนี้น่าจะเข้าไปเสริมได้เลยทำออกมา คิดว่าทำของคุณภาพดีที่คนเชื่อมั่น ของดีจริง ลูกค้าก็จะกลับมาซื้อเอง ขอให้รู้ก่อนว่ามีเราเป็นหนึ่งทางเลือก”

ถ้าไม่ดีก็ไม่ผ่าน สไตล์แม่ทำธุรกิจแบบใจอนุรักษ์

คุณต้นบอกว่ากระบวนการคิดค้นพัฒนาสูตรทั้งหมดใช้เวลากว่า 3 ปี 

“ไอวิศน์เริ่มตั้งต้นสูตรโดยมีทางวิเศษนิยมเป็นที่ปรึกษา ใช้เองในครอบครัวก่อน ถึงค่อยทำวิจัยต่อทั้งเรื่องสูตร ความปลอดภัย และความต้องการของตลาด

 “ผลจากการทำวิจัยคือ คนรุ่นใหม่เปลี่ยนแบรนด์ยาสีฟันตลอด เช่น ถ้าเสียวฟันก็จะเลือกใช้ยี่ห้อนี้ แต่ถ้าต้องการฟันขาวจะเลือกใช้อีกยี่ห้อหนึ่ง” เมื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้า ส่วนผสมที่คัดสรรมาจึงต้องตอบโจทย์เรื่องต่าง ๆ ในช่องปากให้มากที่สุด ทั้งฟันขาว กลิ่นปาก อาการเสียวฟัน บำรุงเหงือก ใช้แล้วรู้สึกเย็นสดชื่น เป็นเหตุผลที่ทำให้ในยาสีฟันไอวิศน์มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติถึง 3 อย่าง คือ

“หนึ่ง น้ำไผ่จากเทือกเขาฮักโกดะ ที่ช่วยป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นปาก แต่ไม่ทำลายสมดุลแบคทีเรีย สอง สารสกัดทับทิมเกาหลี ที่เพิ่มคอลลาเจนในช่องปาก บำรุงเหงือก

“และพิมเสนธรรมชาติแท้ ที่มีสรรพคุณบรรเทาแผลในช่องปาก ให้ความรู้สึกสดชื่น เย็นสบายไม่กัดลิ้น ป้องกันการเกิดอาการเสียวฟัน มีสารสกัดธรรมชาติรวมทั้งหมด 13 ถึง 14 ชนิด ออกมาเป็นยาสีฟันสูตรนิยมธรรมชาติ (Original) และสูตรวิเศษบริสุทธิ์ (Protection)”

สิ่งที่ไอวิศน์เหมือนวิเศษนิยม คือการใช้ภูมิปัญญาจากตำรับแผนไทย เช่น การคัดสรรพิมเสนแท้เกรดสูงมาใช้ ส่วนที่แตกต่างออกไป คือการผสมผสานนวัตกรรมต่าง ๆ และการรวมสารสกัดธรรมชาติจากญี่ปุ่นและเกาหลีมาไว้ในทั้ง 2 สูตร 

กว่าจะได้สูตรที่น่าพึงพอใจนี้ คุณต้นเล่าว่า “ทดลองใช้กันในครอบครัวอยู่หลายปี จนคุณแม่มั่นใจให้ใช้โลโก้วิเศษนิยม ซึ่งถ้าไม่ดีก็ไม่ผ่าน สไตล์คุณแม่ เขามุ่งเน้นทำธุรกิจแบบใจอนุรักษ์

“ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยใช้ยาสีฟันสมุนไพร แนะนำให้ลองเริ่มจากสูตรนิยมธรรมชาติ (Original) เพราะรสชาติค่อนข้างอ่อนโยน ไม่เผ็ดมาก สรรพคุณดี ส่วนสูตรวิเศษบริสุทธิ์ (Protection) จะเย็นกว่า รวมถึงสูตรนี้จะเพิ่มวิตามินซี CoQ10 พิมเสนและมินต์เพื่อเพิ่มการปกป้องพิเศษอีกด้วย” 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ไอวิศน์เป็นยาสีฟันเวอร์ชันโมเดิร์นของวิเศษนิยม ที่มีความตั้งใจอยากทำให้คนเข้าถึงยาสีฟันจากสมุนไพรได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ไม่ใช่ผู้วิเศษที่โฆษณาเกินจริง

ความท้าทายคือ ทำอย่างไรให้คนเปิดใจลองใช้

การสื่อสารการตลาดช่วงแรกของไอวิศน์เน้นเชิญชวนให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในโลกออนไลน์ได้ลองใช้จริง เล่าประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่มีความรู้สึกอยากลองใช้ยาสีฟันสมุนไพร เพราะผลตอบรับที่ผ่านมาจากในครอบครัวและคนรอบตัว รวมถึงลูกค้าที่ได้ลองก็ค่อนข้างดี ชื่นชอบทั้งรสชาติและประสิทธิภาพ ไอวิศน์เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดกว่าการตลาด คือ ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่ได้จากยาสีฟันมีประโยชน์ คุ้มค่า ได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงและมีส่วนผสมพรีเมียมในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ทุกคนจับต้องได้

“บางคนมองว่ายาสีฟันสมุนไพรไม่ดีเท่ายาสีฟันสมัยใหม่ ซึ่งไม่จริง ยาสีฟันธรรมชาติในยุคนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้กันกับยาสีฟันแบบอื่น” 

คุณต้นเลือกเชิญชวนคนที่ยังไม่เปิดใจกับสมุนไพร ด้วยการเลือกใช้คำว่า ‘ยาสีฟันธรรมชาติ’ ในการสื่อสารเป็นหลัก แทนคำว่ายาสีฟันสมุนไพร เนื่องจากคำว่า Natural (ธรรมชาติ) เป็นการสื่อสารได้ชัดเจนถึงจุดยืนของยาสีฟันไอวิศน์ที่คัดสรรพลังจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นสมุนไพรไทยเท่านั้น แต่ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกด้วย ที่สำคัญคือปราศจากสารเคมีอันตราย มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพปากและฟันแน่นอน

เพราะยาสีฟันเป็นสิ่งที่ใช้เป็นประจำทุกวันในครอบครัว ไอวิศน์จึงเข้มงวดกับการใช้สารเคมีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ไม่ใช้สารที่ทำให้เกิดฟองอย่าง SLS SLES หรือสารทำละลายอย่าง Propylene Glycol ซึ่งมาจากน้ำมันปิโตรเลียม 

“เราทำเพื่อใช้เอง เมื่อมั่นใจแล้วถึงแนะนำให้คนใกล้ตัวและเริ่มวางจำหน่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าเลือกสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และดีต่อธรรมชาติมากที่สุดอย่างแน่นอน

“ไอวิศน์อยากบอกตรง ๆ กับลูกค้าว่าไม่ใช่ยาสีฟันวิเศษที่บันดาลความเป็นธรรมชาติได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยาสีฟันของเราเน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ และเรามีความจริงใจต่อลูกค้าในการหาสิ่งดี ๆ ที่อนุรักษ์ธรรมชาติ และสมุนไพรที่มีคุณภาพมานำเสนอให้ผู้บริโภค แม้จะเป็นเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ที่หายไปก็อยากสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาเพราะไม่อยากโฆษณาเกินจริง”

อยากเห็นวิเศษนิยมอยู่ต่ออีกร้อยปี

 ไม่ใช่แค่ผลิตยาสีฟันที่ดี แต่อยากให้โลกมีสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย

หลอดยาสีฟันของไอวิศน์เป็นหลอดรักษ์โลกที่นำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด รวมถึงยังใช้กล่องที่ทำจากกระดาษรีไซเคิลอีกด้วย คุณต้นบอกว่าโรงงานวิเศษนิยมเป็นโรงงานสะอาด คือตั้งใจปล่อยของเสียให้น้อยที่สุด จึงทำให้มีการย้ายสถานที่ตั้งโรงงานเพื่อสร้างมลพิษให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

การใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พิเศษตั้งแต่ส่วนผสม หลอดยาสีฟัน ไปจนถึงโรงงานและที่ตั้งในการผลิต ล้วนทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งคุณต้นบอกว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะส่วนไหนที่ดีก็อยากทำ แล้วค่อยพยายามดูให้ยาสีฟันยังมีราคาที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่าสำหรับทุกคน 

เพราะคุณต้นมองว่าถ้าทุกธุรกิจกล้าบอกตรง ๆ กับลูกค้าว่าเราไม่ใช่ผู้วิเศษ แต่อยากพยายามทำสิ่งพิเศษให้โลกของเราเหมือนไอวิศน์ โลกของเราจะน่าอยู่ขึ้นมาอีกนิด จากแรงกระเพื่อมของความพิเศษจากหลายธุรกิจเล็ก ๆ มารวมกัน

คุณต้นปิดท้ายว่า “คนมองว่าไอวิศน์ไปแข่งกับวิเศษนิยมหรือเปล่า จริง ๆ แล้วคือไม่ใช่ สองแบรนด์เหมือนต้นไม้กับต้นกล้าที่สนับสนุนกันและกัน วิเศษนิยมเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มั่นคงอยู่แล้วมากกว่า” 

ส่วนไอวิศน์เป็นต้นกล้าที่ต้นอยากผลักดัน เพื่อยืดอายุให้แบรนด์ยืนยาวต่อไปอีกกว่าร้อยปี

ติดตามไอวิศน์ได้ที่ : IVISN 1921

Facebook : www.facebook.com/IVISN1921

Instagram : www.instagram.com/ivisnsince1921

Writer

Avatar

รตา มนตรีวัต

อดีตสาวอักษรผู้โตมาในร้านขายหวายอายุ 100 กว่าปีย่านเมืองเก่า เป็นคนสดใสเหมือนดอกทานตะวัน สะสมแรงบันดาลใจไว้ในบล็อคชื่อ My Sunflower Thought ขับรถสีแดงชื่อ Cherry Tomato ระหว่างวันทำงานในโลกธุรกิจ เวลาว่างซาบซึ้งในศิลปะ

Photographer

Avatar

ณัฐสุชา เลิศวัฒนนนท์

เรียนวารสาร เที่ยวไปถ่ายรูปไปคืองานอดิเรก และหลงใหลช่วงเวลา Magic Hour ของทุกๆวัน