8 พฤศจิกายน 2018
43 K

อิ้งค์-วรันธร เปานิล

เข้าสู่วงการเพลงครั้งแรกในฐานะสมาชิกวง Chilli White Choc ของค่ายกามิกาเซ่ เมื่ออายุ 12 ปี และออกจากวงการ 2 ปีให้หลัง

กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง กับการรับบทนางเอกภาพยนตร์เรื่อง Snap แค่…ได้คิดถึง ของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี เมื่อ 3 ปีก่อน

ปีเดียวกับที่เธอเซ็นสัญญาเป็นนักร้องกับค่าย Boxx Music

เธอเรียนจบมาทางด้านร้องเพลงคลาสสิก แต่เลือกทำเพลงซินธ์ป๊อปที่เธอรัก ซิงเกิล 5 เพลงที่ผ่านมาของเธอโด่งดังติดทุกชาร์ต เช่นเดียวกับตัวเธอที่กลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ซึ่งใครๆ ก็ชื่นชม

เธอเพิ่งออกซิงเกิลใหม่ล่าสุด ความลับมีในโลก

บทสัมภาษณ์ไหนๆ ก็มักจะแนะนำ อิ้งค์ วรันธร แบบนี้

แต่ The Cloud ขอแนะนำเธอเพิ่มเติมว่า

เธอเป็นคนที่ชอบเล่าเรื่องงาน และเล่าแต่เรื่องงาน เวลาพูดถึงเธอ เราจึงนึกออกแต่เรื่องงาน เราแทบไม่เห็นชีวิตในมิติอื่นของเธอเลย

เธอเป็นคนที่มีแพสชันเรื่องงานดนตรีแบบล้นปรี่ ไม่ใช่แค่ทำเพลงให้ดี ยังแต่รวมถึงการวางตัวให้ดีด้วย

เธอเป็นคนที่ตั้งใจฟังทุกคำถาม ทวนคำถามซ้ำ ใช้เวลาคิด และค่อยๆ ตอบ ตั้งแต่คำถามแรกถึงคำถามสุดท้าย

“อิ้งค์เป็นคนคิดมาก” เธอว่าอย่างนั้น

ความคิดมากหลายๆ เรื่องของเธอน่าสนใจมาก และดูจะเกินวัย 24 ปีไปมาก

Th.INK แบบอิ้งค์ เป็นแบบนี้

อิ้งค์ วรันธร
อิ้งค์ วรันธร

ในบรรดาบทสัมภาษณ์ทั้งหมดของคุณ ชิ้นที่สนุกที่สุดคือคุณคุยกับคงเดช จาตุรันต์รัศมี คุณถามคำถามได้น่าสนใจมาก คุณชอบคุยกับคนเหรอ

ใช่ อิ้งค์ชอบคุยกับคน ชอบเรียนรู้ชีวิตกับคน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครอิ้งค์ได้รับสิ่งที่จุดประกายอะไรสักอย่างกลับมาตลอดเลย ตอนไปเล่นคอนเสิร์ตกับพี่ๆ ศิลปินอิ้งค์ก็คุยกับเขานะ เวลามีปัญหาชีวิตอิ้งค์จะขอนัดคุยกับพี่เดช (คงเดช จาตุรันต์รัศมี) ทุกวันนี้พี่เดชเป็นเหมือนคุณพ่ออีกคนแล้ว เขาไม่ได้พูดเพื่อให้กำลังใจเรา แต่จะพูดสิ่งที่เป็นความจริงให้เรายอมรับ แล้วเดินต่อไป อิ้งค์เคยมีปัญหาเรื่องงานแล้วถามเขาว่า สิ่งที่เราเจอเป็นเรื่องปกติของการทำงานใช่ไหม เขาบอกว่า ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ทุกวันนี้พี่ลูกสองแล้วยังเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย ไม่ว่าอิ้งค์จะไปอยู่จุดไหนก็จะเจอมัน คำพูดของเขาช่วยให้เราหายเร็วขึ้น

ปัญหาใหญ่สุดที่คุณเคยเจอคืออะไร

มันมีทั้งที่เล่าได้และเล่าไม่ได้ อิ้งค์เป็นคนคิดมากเกินไปจนรบกวนชีวิต บางทีเราเล่นคอนเสิร์ตเสร็จก็เอาคอมเมนต์จากคนรอบตัวมาคิด ทำไมเราไม่ทำแบบนี้ ไม่คิดแบบนี้ เราคาดหวังกับมันมากเกินไปว่าต้องดี จนกดดันตัวเอง ถึงวันหนึ่งเราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนห่วยๆ คนรอบข้างบอกว่าเราพัฒนาขึ้น แต่เราอยากพัฒนามากกว่านี้ มันเป็นแผลใหญ่มากนะ จนกระทั่งมีคอนเสิร์ตปิดอีพีอัลบั้มของอิ้งค์ที่ช่วยปลดล็อกทุกอย่าง วันนั้นฝนตกรถติด แต่คนหกเจ็ดร้อยคนก็ออกจากบ้านมาดูเรา มันทำให้เรามั่นใจ อิ้งค์มีปัญหาเรื่องการพูดบนเวที การบิลด์คนให้เล่นไปกับเรา วันนั้นทำได้ทุกอย่างเลย เหมือนได้ก้าวข้ามปัญหาใหญ่ในใจมาได้ ก็มาตั้งใจลุยกับซิงเกิลนี้แบบเต็มที่มาก เพราะเราเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นแล้ว

คุณทำได้ไม่ดีจริงๆ หรือคุณเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์

ก็อาจจะด้วย แต่อิ้งค์ไม่เคยประเมินว่าตัวเองเก่งเลยตั้งแต่แรก เวลาไปโชว์เราก็มีความสุขนะ แต่จะกลับมาหาจุดบกพร่องของโชว์ อิ้งค์มีโจทย์กับพี่ครีเอทีฟตลอดว่า งานแรกอิ้งค์ทำให้คนเฮไม่ได้ งานที่สองทำยังไงก็ได้ให้คนเฮ งานที่สามทำให้พื้นที่ข้างหน้าไม่มีที่ว่าง เราควรจะก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่อยู่ที่เดิม บางทีเราก็มองหาความเพอร์เฟกต์จากโชว์นั้นมากจนเกินไป ทำให้ลืมว่าเราก็มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ รอบตัวได้ ความสุขมันก็อยู่ที่เดิมนั่นแหละ เพียงแต่เรามองหาแต่จุดที่บกพร่อง คอนเสิร์ตครั้งที่ผ่านมาเลยไม่คิดว่าจะทำให้มันไม่มีจุดบกพร่อง อยากทำอะไรก็ทำ

วันนั้นได้พลังอะไรกลับบ้านมาบ้าง

ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร ได้รับทุกอย่างเลย ไม่ใช่แค่ความสุข แต่ได้รับประสบการณ์จากการทำงานด้วย ลิสต์เพลงก็มาจากเรา การจัดไฟของแต่ละเพลงก็คิดเอง ดูโปสเตอร์ เลือกเสื้อผ้า ไปยืมเสื้อผ้ายังไปยืมเองเลย ด้วยความที่อิ้งค์อยู่กับ Boxx Music มาตั้งแต่วันแรก ถ้ามีอะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย เข้าประชุมทุกครั้ง จากศิลปินร้องเพลง ได้มามีส่วนร่วมกับทุกอย่าง มันเป็นคอนเสิร์ตที่เป็นความฝันของเราตั้งแต่ออกเพลง เหงา เหงา เราอยากมีคอนเสิร์ตของตัวเอง คนดูจะกี่คนก็ได้ ตอนท้ายอิ้งค์พูดขอบคุณทุกคนไปเกือบชั่วโมง พูดไปร้องไห้ไป อิ้งค์ซ้อมพูดขอบคุณในห้องซ้อมไม่ได้เลยนะ เพราะพูดแล้วร้องไห้ตลอด

อิ้งค์ วรันธร
อิ้งค์ วรันธร

ทำไมพูดขอบคุณถึงยากขนาดนั้น

โหย ยากนะ อิ้งค์ขอบคุณเรียงทีละคนเลย เราจะหาโอกาสขอบคุณคนที่ทำงานให้เราขนาดนั้นได้ที่ไหน นี่เป็นคอนเสิร์ตของเราเอง จะทำอะไรก็ได้ อิ้งค์มาอยู่ตรงนี้ได้ไม่ใช่เพราะอิ้งค์คนเดียว คนรอบตัวมีส่วนผลักดันให้เด็กคนหนึ่งโตขึ้น ได้ทำงานดีๆ ออกมา อิ้งค์รู้สึกขอบคุณทุกอย่างเลย ขอบคุณคนที่มาดูซึ่งมีความหมายกับเรามาก ตอนนั่งรถกลับบ้านนึกถึงตัวเองตอนเด็ก เด็กคนที่ขึ้นเวทีไปร้องเพลงการ์ตูนแบบสั่นๆ รู้สึกว่าเด็กคนนั้นน่าจะดีใจที่มีวันนี้เกิดขึ้น เขาน่าจะบอกเราว่า ขอบคุณนะพี่อิ้งค์ที่ทำให้มันเกิดขึ้น

แล้วคุณอยากบอกอะไรเด็กคนนั้น

ขอบคุณที่ร้องเพลงในรถกับพ่อทุกเช้า พ่อเลยเห็นว่าเราชอบแล้วส่งไปเรียนร้องเพลง จริงๆ ส่งไปเรียนทั้งบ้านเลย แต่เหลืออิ้งค์คนเดียวที่รอด อยากขอบคุณที่ไม่เลิกชอบมัน จำได้ว่าตอนนั้นอิ้งค์มีความสุขกับการร้องเพลงจริงๆ เป็นความสุขที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องภาระหน้าที่ เป็นความสุขที่ได้แต่งตัวเป็นมู่หลานขึ้นไปร้องเพลงให้พ่อแม่ฟัง ร้องให้ตัวเองมีความสุข มันบริสุทธิ์มาก และขับเคลื่อนให้เรามาถึงตรงนี้ ถ้าวันนั้นขึ้นเวทีแล้วไม่มีความสุขหรืออาย วันนี้คงไม่ใช่แบบนี้ ขอบคุณตัวเองที่กล้าทำสิ่งที่ชอบ

3 ปีก่อนคุณเคยเขียนว่า วันเปลี่ยนชีวิตของคุณคือวันที่สอบเข้า ม.ปลาย สายศิลป์-ภาษา เอกอังกฤษ ไม่ได้ ถึงตอนนี้มันยังเป็นวันเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญที่สุดอยู่ไหม

ยังใช่อยู่ ถ้าไม่มีวันนั้นเราอาจจะหลงทางไปหลายอย่างเลย นั่นคือจุดเปลี่ยนจริงๆ เราชอบภาษาอังกฤษ แล้วเราก็ชอบร้องเพลงนะ แต่ไม่ได้คิดว่าการเรียนร้องเพลงคือคำตอบของชีวิตขนาดนั้น แต่เราสอบเข้าศิลป์ภาษาไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึง ตอนนั้นเป็นเด็กที่เล่นไปวันๆ ทำกิจกรรม ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรในชีวิตเลย ดูบอร์ดแล้วไม่มีชื่อเรา เราเฟลมาก ในขณะที่เพื่อนรอบตัวเฮกันหมด แต่เราไม่มีสิทธิ์เรียนสิ่งที่เราอยากเรียน มันทำให้เราคิดว่า ทำไม 3 ปีที่ผ่านมาเราห่วยจัง ทำไมไม่วางแผนชีวิตให้ดีกว่านี้ ทำไมคนอื่นทำได้ แต่เราทำไม่ได้ ทำให้กลับมามองตัวเองเยอะมาก เราไม่อยากเจอเหตุการณ์นี้อีกตอน ม.6 แต่อีกแง่ก็ถือว่าโชคดีนะที่เราไม่ติด

ทำไม

ถ้าวันนั้นติดเราอาจจะไม่ได้เห็นคุณค่าของความพยายามเท่าวันนี้ก็ได้ ถ้าติดคงใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่ได้เอาแพสชันของตัวเองมาอยู่ในการเรียน วันนั้นอิ้งค์เลือกเรียนสิ่งที่ชอบคือร้องเพลง รู้สึกว่านี่แหละชีวิตอิ้งค์ เราอยากเรียนสิ่งนี้ต่อในมหาวิทยาลัย

คุณได้อะไรจากการเรียนร้องเพลง

อิ้งค์เริ่มเรียนเอกดุริยางค์ตั้งแต่ ม.4 ตอนนั้นก็ไม่ได้เครียดมาก แต่มีจุดมุ่งหมายว่าอยากเรียนร้องเพลงคลาสสิกที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่อิ้งค์คุ้นเคยมาตั้งแต่แรก มันไม่ใช่แค่เรียนร้องเพลง แต่ต้องเรียนวิชาพื้นฐานของทุกเอก แข่งกับทุกเอก ทำให้อิ้งค์ต้องกลับมามองตัวเองใหม่หมดเลยว่ายังไม่มีวินัยพอ อ่านโน้ตไม่ค่อยเก่ง ไม่ขยันซ้อม ก็ต้องกลับมามีวินัย ก่อนนอนต้องวอร์มเสียงที่เรียกว่า ซอลเฟจ (Solfège) กดโน้ตที่จะร้องเป็นเมโลดี้ แล้วฮัมๆๆ ให้มันเข้าไปอยู่ในตัวเรา

สังคมในจุฬาฯ ก็หลากหลายมาก พอรู้จักคนหลายๆ สังคมก็รู้ว่าควรวางตัวแบบไหน โชคดีที่ได้ทำงานที่หลากหลาย เป็นจุฬาฯ คทากร ทำละครเวทีคณะ ซึ่งหนักมาก อิ้งค์ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเขียนบท เช่าชุด ซื้อของ ดีลกับวงออร์เคสตร้าวงใหญ่ พอมาทำงานจริงก็ทำให้เราคุยกับคนอื่นค่อนข้างรู้เรื่อง รู้จักระบบของงาน

อิ้งค์ วรันธร

คุณร้องบรอดเวย์ได้ ร้องคลาสสิกได้ ทุกวันนี้มาร้องเพลงป๊อป เคยมีคนบอกว่าเสียดายทักษะที่มีไหม

พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก เพิ่งบอก ไปเล่นคอนเสิร์ตด้วยกัน เขารู้ว่าอิ้งค์จบคลาสสิกมา เขาถามว่า ขึ้นเสียงสูงได้ใช่ไหม ขึ้นไปเลย เขาบอกว่า การที่เราเรียนมามันดีนะ มันคือสิ่งพิเศษที่ไม่ใช่ใครก็ร้องได้ ขึ้นเวทีไปพี่ป๊อดให้อิ้งค์โชว์ร้องคลาสสิกเลย เขาบอกว่า เราควรหาโอกาสแสดงให้คนอื่นรู้บ้างเพราะมันเป็นสิ่งที่ดี แต่จะร้องโชว์เลยก็ไม่ได้ ต้องมีคนชงให้แบบพี่นี่แหละ (หัวเราะ)

ความสุขของอาชีพนักร้องคืออะไร

เป็นอาชีพที่ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ มีแรงบันดาลใจลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างได้ เปลี่ยนบางคนได้ ทำให้คนรู้สึกดีขึ้นได้ ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็นคนในวงกว้างเป็นร้อย หรือเป็นล้าน อย่างที่ พี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) ทำ อิ้งค์เป็นศิลปินใหม่ เวลาได้เล่นคอนเสิร์ตกับศิลปินที่ชอบอย่าง P.O.P, Friday, โมเดิร์นด็อก มวลความสุขที่ได้รับจากพวกเขาบนเวทีทำให้เราอยากเป็นศิลปินที่ดีขึ้น อยากจะเป็นแบบเขา เขาจุดประกายให้เราอยากทำมากกว่าแค่ขึ้นไปร้องบนเวที

คุณไม่ค่อยเปิดเผยชีวิตส่วนตัวในโลกโซเชียลสักเท่าไหร่ เป็นความตั้งใจหรือเปล่า

ใช่ สิ่งที่เราชอบทำคือร้องเพลง เราก็โชว์ออกไป มันเป็นมุมที่เราสบายใจจะให้คนอื่นเห็น อิ้งค์ไม่ได้ลงรูปตลอดเวลา คิดก่อนลงเยอะมากว่าคนจะได้อะไรจากสิ่งที่เราลง ลงแล้วโอเคไหม เราเป็นคนสาธารณะแล้วจะลงอะไรต้องคิดดีๆ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เข้ามาทำงาน

สมัยอยู่กามิกาเซ่

เพิ่งเป็นตอนอยู่กับ Boxx Music ถ้าเลื่อนลงไปดูล่างๆ จะเห็นว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเราลงทุกอย่างนะ แต่พอมาอยู่ตรงนี้โซเชียลก็ไม่ใช่สิ่งหลักของชีวิตแล้ว เราไม่ได้อยู่กับมันตลอดเวลา ข้อดีคือมันเป็นช่องทางให้เราได้แสดงตัวตนให้แฟนคลับรู้จัก ได้ประกาศว่าจะไปเล่นที่นี่นะ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องโชว์ความเป็นตัวเองทั้งหมด

สิ่งที่คุณทำได้ดีมากๆ รองจากร้องเพลงคืออะไร

ยากมาก (คิดนาน) ทำขนม ทำอาหาร ก็พอได้ แต่ที่ดีที่สุดอาจจะเป็นที่รับฟังของคน เราเป็นคนที่เพื่อนชอบมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง อาจจะเป็นคนที่เขาคุยด้วยแล้วสบายใจ เวลามีคนมาปรึกษาเราจะปล่อยให้เขาระบาย ไม่ตัดสินว่าเขาถูกหรือผิด เราบอกว่า เราเข้าใจนะ บางคนเขาก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำดีหรือไม่ดี จะแก้ปัญหายังไง เขาแค่ต้องการคนรับฟังให้เขาทบทวนสิ่งที่เขาคิด ทบทวนเสร็จเขาก็สบายใจขึ้น อิ้งค์น่าจะเป็นผู้รับฟังที่ดีนะ

อิ้งค์ วรันธร
อิ้งค์ วรันธร

ถ้าเอาคำว่า อิ้งค์ วรันธร ไปเสิร์ชในกูเกิล คำแรกที่เจอต่อท้ายคือ ‘แฟน’ คุณคิดว่าทำไมคนถึงอยากรู้เรื่องนี้ที่สุด

ใช่ (หัวเราะ) อิ้งค์เคยเอาชื่อตัวเองไปเสิร์ช เคาะสเปซบาร์ก็ขึ้นคำว่าแฟนมาเลย คงเพราะไม่มีใครรู้หรือเปล่า

คุณจะตอบกูเกิลว่าอะไร

ยุ่ง (หัวเราะ) เห็นแล้วก็ตกใจนะ ตอนนั้นไม่มีแฟนไง เราก็อยากรู้ว่าเขาจะพูดถึงว่ายังไง เข้าไปดูมันก็ไม่มีอะไร

ความรักตอนอายุ 20 กับ 24 ต่างกันเยอะไหม

เยอะ ตอน 20 มีแฟนตอนเรียนมหาวิทยาลัย เป็นความรักแบบสดใส โลกสีชมพูมาก เหมือนเพลง เกี่ยวกันไหม เจอแล้วเขิน เจอแล้วมีความสุข ไปกินข้าว ไปดูหนังกัน แต่ไม่ได้มีชีวิตส่วนตัวเข้าไปมาก ตอนนี้ไม่น่าจะใช่แค่เรื่องนั้นแล้ว คงไม่ใช่แค่เขินๆ เรามีเรื่องเครียด เรื่องงานที่มากขึ้น เวลาเราอยู่ในจุดที่ไม่มีความสุข การมีแฟนอาจจะเป็นจุดที่ทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ เป็นที่ปรึกษาได้ งานของเราไม่ใช่งานที่ใครก็เข้าใจ เขาต้องเข้าใจมันมากๆ ใจกว้างมากๆ เราอาจไม่ได้มีเวลาให้เขามากด้วย ถ้ามีแฟนก็ต้องช่วยสนับสนุนกันและกัน

คุณเคยบอกว่า ชอบผู้ชายที่แพสชันมากกว่าหน้าตา แพสชันดีกว่าหน้าตายังไง

ถ้ามีแพสชันแล้วหน้าตาดีก็โอเคนะคะ (หัวเราะ) เรามีแพสชัน ทำในสิ่งที่ชอบ มีเป้าหมาย คนที่มีแพสชันคือคนที่มีเสน่ห์มาก ไม่ต้องอยากเป็นนายกฯ หรือเปลี่ยนโลกใบนี้ แค่เป็นคนที่มุ่งมั่นกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ หรือทำหน้าที่ของเขาได้ดีมากๆ ก็ได้ มันเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาไม่ได้ใช้ชีวิตไปวันๆ เราชอบตรงนั้น

รู้สึกยังไงบ้างที่มีคนชมรูปลักษณ์ของคุณพอๆ กับเพลง

เวลาที่มีคนชมว่าเราสวยมาก น่ารักมาก ก็รู้สึกขอบคุณที่เขามองเห็นอิ้งค์แบบนั้น แต่เราไม่เคยมองตัวเองว่าสวยขนาดนั้น ยังมีคนอีกมากมายที่สวยกว่าเรา หน้าเรียวกว่าเรา ฟันสวยกว่าเรา ตาสวยกว่าเรา อิ้งค์ไม่ได้เก็บคำชมมาคิดว่าเราต้องสวยให้เขาดู ต้องสวยกว่านี้ เราก็สวยแบบที่เราทำได้ไปเรื่อยๆ แต่อิ้งค์จะดีใจมากเวลามีคนชมเพลง ชมว่าเราร้องดี รูปลักษณ์เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาได้ แต่การร้องเพลงคือตัวตนของเราที่เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำ เราอยากทำให้มีคำชมแบบนี้เพิ่มขึ้นๆ มากกว่า

ความลับที่มีในโลกของอิ้งค์ วรันธร คืออะไร

ถ้าเล่าก็ไม่ใช่ความลับสิ (หัวเราะ)

อิ้งค์ วรันธร

งั้นอะไรคือเรื่องเกี่ยวกับอิ้งค์ วรันธร ที่คนทั่วไปไม่รู้

อิ้งค์ละเมอเก่งมาก (หัวเราะ) ทุกวันนี้นอนคนเดียวเลยไม่รู้ว่ายังละเมอหรือเปล่า เมื่อก่อนตอนช่วงมัธยมนอนกับคุณพ่อ อิ้งค์เคยนอนละเมอร้องเพลงจนจบเพลงเลย ตอนนั้นฝันว่าตัวเองร้องเพลงอยู่บนเวที พ่อก็ฟังจนจบแล้วก็คิดว่าต้องปรบมือไหม ตอนไปญี่ปุ่นนอนกับ พี่เอิ๊ต ภัทรวี ศรีสันติสุข ก็ละเมอว่าไปคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย อาจารย์ขาเทคนิคที่อาจารย์สอนดีมากเลย หนูยังใช้มันอยู่เลย ละเมอพูดไปเรื่อย พี่เอิ๊ตก็งงว่าพูดกับใคร

คุณไปแข่งแฟนพันธุ์แท้ตอนไหนได้บ้าง

(คิดนานมาก) ตอนคงเดช จาตุรันต์รัศมี รู้ทุกอย่างแน่นอน อิ้งค์ไม่เคยรู้จักพี่เดชมาก่อน รู้จักวันที่มาแคสต์หนัง (Snap) กลับไปก็ตามดูงานทุกอย่างของเขาเลย

ชอบหนังเรื่องไหนของคงเดชที่สุด

ตอบว่า Snap ได้ไหม จริงๆ ชอบแทบทุกเรื่อง เพราะมันไม่ใช่หนังหน้าเดียว มีอะไรซ้อนให้เราคิดได้อีก Snap เป็นสิ่งที่เปิดโลกทุกอย่างของอิ้งค์ ทั้งการแสดง เปลี่ยนความคิดในการดูหนังฟังเพลงของเรา ก่อนหน้านี้ดูแต่หนังที่ดูง่าย พอได้มาเล่นก็เปิดใจให้หนังอินดี้มากขึ้น หนังสือที่พี่เดชเขียนอิ้งค์ก็ตามอ่านนะ ที่ชอบ Snap เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวเรา บทที่เราเล่นออกไป พอกลับมานั่งดูอีกที อีกที อีกที ทำไมความหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดูกี่ทีก็ร้องไห้

ร้องไห้ให้กับอะไร

เรารู้จักตัวละครผึ้งมากกว่าแค่ดูในหนัง แต่เราร่วมสร้างคาแรกเตอร์นี้ขึ้นมา รู้จักเขา รู้ว่าเขาคิดอะไร พอถึงจุดที่เขาร้องไห้ เรารู้ว่าในใจเขาคิดอะไร อยากให้เป็นยังไง แต่มันเป็นไปไม่ได้ไง

นอกจากคงเดช คุณอยากคุยกับใครอีกไหม

เอมี่ ไวน์เฮาส์ (Amy Winehouse) อิ้งค์ดูสารคดีเขาแล้วร้องไห้เลย ชีวิตเขาเต็มไปด้วยแพสชันสุดๆ แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้เขาต้องเจอปัญหาอะไรมากมาย เขารับมันได้ยังไง น่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานให้เราได้ อยากนั่งคุยกับเขาในวันที่เขายังมีความสุขอยู่ เรามีคำถามเยอะมากในหัว แต่คงไม่กล้าถามเยอะ ให้เขาเล่าให้ฟังดีกว่า

เรื่องล่าสุดที่ได้เรียนรู้คือ

เรียนรู้ที่จะทำงานแบบผู้ใหญ่มากขึ้น มีการจัดการทุกอย่างที่ดีขึ้น 3 ปีที่ผ่านมาอิ้งค์โตขึ้นมาก ทัศนคติในการมองโลกก็เปลี่ยนไป ประสบการณ์สอนให้เราอยู่กับความจริงมากขึ้น เมื่อก่อนจะค่อนข้างโลกสวย มองว่าถ้าตั้งใจเดี๋ยวมันก็ดีเอง แต่บางทีแค่ตั้งใจอาจจะไม่พอ ถ้ามีแผนการทำงาน มีการเตรียมตัว มันจะดีกว่าแน่ๆ

อิ้งค์ วรันธร
อิ้งค์ วรันธร

วันนี้คุณก็เลยพยายามจะขอดูคำถามก่อน

ใช่ เราเคยไปตอบหน้างาน พอเป็นไลฟ์สดเราไม่ได้เตรียมตัว ไม่มีอะไรในหัว เราไม่ใช่คนพูดเก่ง ตรงนั้นคือจุดบกพร่อง อิ้งค์ไม่ได้กลัวว่าตอบแล้วจะเสียลุคนะ แต่กังวลว่าตอนนี้มีคนชื่นชอบเรามากขึ้น สิ่งที่เราพูดอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้บางคนได้ หรือทำให้บางคนเปลี่ยนความคิดได้เลยนะ เราก็อยากให้คนอ่านได้อะไรจากการให้สัมภาษณ์ของเรา เราคิดมากขึ้น

ความสนุกของการเป็นอิ้งค์ วรันธร คือ

ได้เจอคนเยอะมาก ได้เจอศิลปินที่เราชอบเยอะมาก เติมพลังตัวเองง่ายมากเลย วันไหนเศร้า เสียใจ ก็มีคนดีๆ มากมายที่เราไปหาพลังบวกได้อยู่รอบตัว อิ้งค์เป็นคนที่ไม่โกรธง่าย ไม่โกรธนาน สุดท้ายก็จะกลับมามองในแง่ดีได้เสมอ แต่ความสนุกของอิ้งค์ยิ่งโตยิ่งน้อยลงนะ เมื่อก่อนอาจจะสนุกเพราะไปสวนสนุก ไปดูหนังกับเพื่อน แต่ตอนนี้ความสนุกของเราอยู่บนเวทีกับการทำงาน กับการคุยกับคน

ความไม่สนุกของการเป็นอิ้งค์ วรันธร คือ

เป็นคนคิดมากเกินไป เอาหลายๆ เรื่องมาแบกกับตัวเองมากเกินไป

คุณตั้งใจคิดกับทุกเรื่องของชีวิต เหมือนตั้งใจคิดก่อนตอบคำถามทุกข้อแบบนี้หรือเปล่า

ใช่ เป็นคนคิดเยอะ คิดทุกอย่าง คิดก่อนทำ

อะไรทำให้เป็นคนแบบนั้น

อยู่บ้านเราเป็นพี่คนโต เราเคยทำอะไรที่เราพอใจและไม่พอใจในตัวเอง ก็ค่อยๆ เรียนรู้กับมันมาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าถ้าเราคิดก่อนทำก็ดีนะ มันไม่ได้เสียหายอะไร มันมีข้อดีมากกว่าทำโดยไม่ได้คิดแน่ๆ

เวลามีคนมาสัมภาษณ์หรือตอนที่เราทำหน้าที่เป็นอิ้งค์ ถือไมค์บนเวที ถ้ามันสามารถสร้างอะไรให้คนที่มาดูหรือมาฟังได้ อิ้งค์ก็อยากจะทำให้เกิดขึ้นในทุกๆ ครั้ง เมื่อก่อนเราอาจจะไม่ได้เห็นค่าของสิ่งที่ทำอยู่ว่ามันให้อะไรกับใคร มีค่าแค่ไหน จนมีคนเดินมาบอกอิ้งค์ว่า พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเล่นกีตาร์ หรือมีคนส่งข้อความมาว่า เขาประสบอุบัติเหตุ เดินไม่ได้ เขาเคยเป็นนักดนตรีมาก่อน ทุกวันนี้เขากลับมาเล่นดนตรีได้อีกครั้งเพราะอิ้งค์ อ่านแล้วเราร้องไห้เลย

ดังนั้น การที่เราได้พูด ได้ให้สัมภาษณ์ ได้ขึ้นคอนเสิร์ต เราก็อยากทำให้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ตัวเราเองที่ได้รับพลังนี้ คนดูก็ได้รับโดยที่เราไม่รู้ตัว เราพยายามทำมันให้ดีที่สุดทุกอย่าง

อิ้งค์ วรันธร

Facebook | Ink Waruntorn
Instagram | inkwaruntorn
Youtube | BOXX MUSIC

Writer

ทรงกลด บางยี่ขัน

ทรงกลด บางยี่ขัน

ตำแหน่งบรรณาธิการโดยอาชีพ เป็นนักเดินทางมือสมัครเล่น แบ่งเวลาไปสอนหนังสือโดยสมัครใจ และชอบจัดทริปให้คนสมัครไป

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล