ในยามที่เราต้องกลับมาอยู่บ้านกันเป็นหลัก หลายคนเริ่มมองหาต้นไม้มาเพิ่มความเขียวให้กับห้องอีกครั้ง แต่อยากหาต้นไม้ใหม่ๆ ที่ต่างไปจากไม้ใบฮิตๆ ที่ใครๆ ก็ปลูกกัน
ขอแนะนำว่า ยังมีต้นไม้อีกหลายประเภทที่นำมาปลูกในอาคารได้ แต่ละชนิดก็มีรูปทรงและให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ภายในอาคารของเรามีบรรยากาศที่สวยแตกต่างจากไม้ใบทั่วไป

แต่ก่อนอื่น ควรมั่นใจว่า อาคารที่เราจะนำต้นไม้เข้ามาปลูกมีแสงธรรมชาติเข้ามาพอสมควร และมีอากาศถ่ายเท
เงื่อนไขถัดมาก็คือ พอนำต้นไม้เข้ามาปลูกในอาคาร เราต้องลดการให้น้ำลง เพราะอัตราการระเหยของน้ำไม่ดีเหมือนกลางแจ้ง ดังนั้นถ้าเราให้น้ำในปริมาณเดิม อาจเน่าได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ รดเมื่อแห้ง
ข้อมูลสุดท้ายที่ควรทราบคือ การย้ายต้นไม้จากกลางแจ้งมาปลูกในที่รำไร ถึงแม้ว่าหลายชนิดจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่ก็อาจจะไม่สวยสมบูรณ์เหมือนอยู่กลางแจ้ง ดังนั้นจึงต้องทำใจล่วงหน้าว่า ต้นไม้ของเราอาจจะมีทรงที่ชะลูดกว่าปกติ มีสีที่จางลง ไม่พุ่มใบที่ไม่แน่น และอยากจะที่ออกดอกออกผลได้
ถ้าอยากให้ต้นไม้ของเราสดชื่นตลอดเวลา ก็ต้องย้ายออกไปรับแสงนอกห้องบ้าง
01
สลัดได
Euphorbia antiquorum L.


เป็นพืชสกุลยูโฟเบียที่มีขนาดใหญ่ จุดเด่นคือ แต่ละต้นมีลีลาของกิ่งก้านที่ไม่เหมือนกัน มีทั้งสีขาว สีเขียว และสีหยกแบบเป็นก้อน มีความหลากหลายมาก ถึงจะเป็นไม้ที่โดยธรรมชาติชอบแดดจัดแต่ก็ปลูกในอาคารได้ แต่ต้องลดการให้น้ำลง ใช้วัสดุปลูกที่ไม่อุุ้มน้ำ ไม่อย่างนั้นจะเน่า อีกอย่างที่ต้องทราบคือ การนำไม้แดดมาปลูกในแสงรำไร ไม้จะยืดต้นและกิ่งก้าน ทรงจึงไม่สวยเหมือนอยู่กลางแดด
02
พญาไร้ใบ
Euphorbia tirucalli L.

เป็นพืชสกุลยูโฟเบียอีกต้นที่เราคุ้นเคยกันดี เรานำพญาไร้ใบเข้ามาปลูกในอาคารได้ ทั้งการปลูกเป็นต้น และตัดเป็นกิ่งมาแช่น้ำ วิธีดูแลเหมือนสลัดได จุดเด่นของพญาไร้ใบคือเส้นสายที่สวยงาม แต่ต้องระวังยาง ถ้าบ้านไหนมีเด็ก อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ
03
อะกาเว
Agave


อะกาเวเป็นพืชกลางแดดอีกชนิดที่เอาเข้ามาปลูกในอาคารได้ ข้อดีของอะกาเวคือฟอร์มที่มีคาแรกเตอร์ แต่ข้อเสียคือมีหนาม สกุลนี้มีหลายชนิด ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ Agave americana หรือป่านศรนารายณ์ที่มีหลายสี กับอะกาเวปากนกแก้ว Agave attenuata Salm-Dyck สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ เมื่อนำเข้ามาในอาคารต้องลดการให้น้ำลง และฟอร์มของต้นไม้อาจจะยืดขึ้นต่างจากตอนที่อยู่กลางแดด
04
อะโล
Aloe

อะโลเป็นสกุลของไม้อวบน้ำที่มีราว 500 ชนิด พันธุ์ที่เราคุ้นเคยที่สุดคือ Aloe vera หรือว่านหางจระเข้ เรานำอะโลเข้ามาปลูกในอาคารได้ เพียงแต่ต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม พันธุ์ที่แนะนำคือพวกอะโลประดับซึ่งมีลวดลายและสีสันของใบ แต่เมื่อนำมาปลูกในอาคารแล้ว สีสันอาจจะไม่สดเหมือนอยู่กลางแดด
05
จันผา
Dracaena loureiri Gagnep.

จันผา (หรือจันทร์แดง) เป็นไม้ที่ขึ้นตามเขาหินปูน ลำต้นเป็นทรงกลม แตกใบตรงยอด แต่ละต้นมีลีลาของตนเองไม่เหมือนกัน จึงเลือกให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ได้ เป็นต้นที่เหมาะจะวางเป็นไม้ประธานของห้อง เพราะมีขนาดใหญ่ แล้วก็ยังมีต้นจันหนู (Dracaena kaweesakii Wilkin & Suksathan) ที่มีใบเล็กลงให้เลือกด้วย
06
ปรงมาเจ
Dioon mejiae

ปรงก็เป็นต้นไม้อีกสกุลหนึ่งที่นำมาเลี้ยงในห้องได้ ลักษณะของปรงคือมีลำต้นที่สูงขึ้นไปแล้วแตกยอดด้านบน ด้านล่างเป็นลำต้นเกลี้ยงๆ นานๆ จะแตกใบใหม่สักครั้ง นอกจากปรงมาเจแล้ว อีกพันธุ์ที่คนนิยมกันคือ ปรงญี่ปุุ่น (Cycas revolute Thunb.) ที่เราเห็นขายกันทั่วไปคือ เป็นหัวเล็กๆ สำหรับปลูกบนโต๊ะ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น จะมีขนาดใหญ่มาก และจะไม่ชะลูดขึ้นด้านบนเหมือนจันผา แต่ลำต้นจะอวบขึ้น ถ้าชอบปรงที่มีลักษณะชะลูดขึ้น ต้องเลือกปรงเขาชะเมา (Cycas chamaoensis)
07
เฟินลูกไก่ทอง หรือ ว่านลูกไก่ทอง
Cibotium barometz (L.) J.Sm.


เป็นเฟินที่มีเสน่ห์ตรงขนสีทองบริเวณหัว เวลาที่ใบเริ่มแทงยอดออกมาก็สวย พอคลี่ออกมาเต็มใบก็สวยอีกแบบ ทนร่มได้พอสมควร มีตั้งแต่ต้นเล็กๆ ตั้งบนโต๊ะ จนสููงถึง 2 เมตร ด้วยธรรมชาติของเฟินที่ชอบความชื้นจึงควรเลี้ยงแบบมีจานรองที่มีน้ำหล่ออยู่ตลอด
08
Bird of Paradise
Strelitzia nicolai


หลายคนเข้าใจผิดว่าต้นนี้คือกล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) แค่อยู่ในวงศ์เดียวกัน แล้วก็สับสนกับต้นปักษาสวรรค์ (Strelitzia reginae) หรือ Bird of Paradise ที่มีดอกสีส้ม ต้นนี้ถือเป็นต้นที่คล้ายกับปักษาสวรรค์มาก มีดอกสีขาว มีลำต้นสูงและใหญ่กว่า จึงเป็นไม้ใบที่เหมาะจะปลูกประดับในบ้าน เป็นไม้ที่ฝรั่งปลูกไว้ในบ้านกันมานานมากแล้ว เราจะเห็นต้นนี้อยู่ในหนังสือแต่งบ้านของต่างประเทศตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน เคียงคู่มากับไทรใบสัก เป็นต้นไม้ฟอร์มสวยอีกชนิดที่เหมาะกับการปลููกในอาคาร
09
ปาล์มไผ่
Chamaedorea seifrizii Burret


เป็นไม้ประดับเก่าแก่ที่มีคนเล่นกันมา 30 กว่าปีเช่นกัน ตอนนี้อาจจะหาในท้องตลาดได้ยากขึ้น เป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างทน ไม่ต้องการการดูแลมากนัก ปลูกแล้วให้ความรูุ้สึกแบบย้อนยุคนิดๆ
10
มะกอกโอลีฟ
Olea europaea L.


เป็นต้นไม้ที่อยู่ได้ทั้งกลางแจ้งและในอาคาร มีทรงพุุ่มที่สวยเป็นเอกลักษณ์ แต่ถ้านำมาปลูกในอาคารแบบถาวร ทรงพุ่มก็จะไม่แน่นเหมือนอยู่กลางแจ้ง อ่านเรื่องมะกอกโอลีฟแบบเต็มๆ ได้ที่นี่
11
บอระเพ็ดพุงช้าง
Stephania suberosa

ไม้โขดหลายชนิดก็นำเข้ามาปลูกในอาคารได้ อย่างเช่น บัวบกโขด (Stephania erecta Craib) แต่ต้นที่มีลูกเล่นกว่านิดหนึ่งคือ บอระเพ็ดพุงช้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายบัวบก แต่ผิวสัมผัสของหัวมีลายเหมือนหนังช้าง เป็นไม้ที่แตกยอดเร็ว เลื้อยเร็ว
12
สับปะรด
Ananas comosus

ต้นสุดท้ายขอแนะนำต้นไม้ที่สวยมีเสน่ห์แบบไม่ซ้ำใคร นั่นก็คือการนำใบด้านบนหัวสับปะรดที่เรากิน มาปลูกต่อด้วยการแช่น้ำ โดยปกติเรานำส่วนนี้ไปปลูกต้นให้เป็นต้นใหม่ได้ด้วยการปักบนทราย หรือดินทรายเพื่อให้แตกรากเป็นต้นใหม่ แต่ถ้าเรานำมาแช่น้ำ ก็จะมีรากเช่นกัน เพียงแต่ต้นจะไม่โต และไม่มีลูก แต่เราก็จะได้ไม้ประดับทรงสวยที่แช่น้ำอยู่ในขวด ซึ่งอยู่ได้เป็นปี