มาสุยะ (塩屋) เป็นร้านจำหน่ายเกลือ ที่จำหน่ายเกลือเพียงอย่างเดียวแห่งแรกของญี่ปุ่น
สินค้าในร้าน มีแค่เกลือ… เกลือ… และเกลือเท่านั้น
เกลือกว่า 360 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมาจำหน่ายที่นี่

ภาพ : www.ma-suya.net
ไม่ว่าจะเป็นเกลือจากเกาะเฮกุระจิมะ ที่ใช้แสงไฟพิเศษส่อง และค่อยๆ รอให้น้ำทะเลตกผลึกเป็นเกลือ
หรือเกลือจากเกาะฮามาฮิกะจิมะ ที่ใช้น้ำทะเล ค่อยๆ หยดลงบนกิ่งไม้ที่มัดรวมกัน
และให้สายลมค่อยๆ พัดให้น้ำแห้ง เหลือแต่เกลือ
ในร้านมีถ้วยใบเล็กๆ กับช้อนจิ๋วให้ลูกค้าตักเกลือชิมเปรียบเทียบแต่ละชนิดได้
ผู้ก่อตั้งร้านเกลือสุดพิเศษร้านนี้คือ คุณโชจิ นิชิซาโตะ กล่าวไว้ว่า
“ร้านมาสุยะเราไม่ได้ขายเกลือ แต่เราจะนำเสนอคุณค่าของเกลือ เครื่องปรุงที่จะสร้างรสชาติให้กับอาหาร แบบที่ผู้บริโภคไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
นิชิซาโตะแนะนำเกลือประเภทต่างๆ ได้อย่างสนุกสนาน
“เกลือแบบนี้ เหมาะกับข้าวปั้น เพราะรสเค็มจะเด่นนำ แต่เจือรสหวานนิดๆ”
“เกลืออันนี้ต้องกินกับสเต๊ก เราผสมผงกระเทียมและเครื่องเทศไว้ด้วย มันจะช่วยดึงความหวานของเนื้อขึ้นมา”
สินค้าทุกชนิด เขาเลือกเอง ชิมเองกับมือ
แต่เบื้องหลังสีหน้าและแววตาอันมุ่งมั่นนั้น ใครจะรู้ว่า ครั้งหนึ่ง เขาก็เคยมีแววตาของคนสิ้นหวังเหมือนกัน
สิ้นหวังในระดับที่จะปลิดชีวิตตัวเอง
…
นิชิซาโตะเกิดที่เกาะมิยาโกะจิม่า เกาะตอนใต้ของจังหวัดโอกินาว่า
ตั้งแต่เด็ก พ่อของนิชิซาโตะมักบอกเขาเสมอว่า “จงเติบโตเป็นคนที่จะสร้างประโยชน์แก่เกาะนี้นะ”
หลังเรียนจบ เขาไปทำงานที่เกาะโอกินาว่า ก่อนจะกลับมาสร้างฟาร์มเกษตรที่เกาะมิยาโกะจิม่าในวัย 27 ปี
จุดขายของฟาร์มคือ พืชพันธุ์ผลไม้เมืองร้อน
เขาสร้างฟาร์มผีเสื้อไว้อีกส่วนหนึ่งด้วย โดยหวังให้เป็นตัวดึงนักท่องเที่ยวให้มาที่เกาะมากขึ้น สวนถูกจัดเรียงรายอย่างสวยงาม นิชิซาโตะลงทุนถือตะข่ายไปจับผีเสื้อตามที่ต่างๆ ในเกาะมาปล่อยในอาคาร
แต่ทว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลย
เมื่อผ่านไป 2 ปี นิชิซาโตะมีหนี้ถึง 30 ล้านเยน (10 ล้านบาท)
เขาเห็นทางออกเพียงทางเดียว คือการจบชีวิตตัวเอง
หากเขาตายไป บริษัทจะได้เอาเงินประกันชีวิตไปจ่ายหนี้ แต่เมื่อเขาไปพลิกดูวงเงินประกัน ปรากฏว่าเงินประกันไม่พอกับจำนวนหนี้ นิชิซาโตะจึงคิดได้ ณ ตอนนั้นเองว่า ตัวเองยังตายไม่ได้
โชคดีที่ช่วงนั้นรัฐบาลประกาศยกเลิกการควบคุมเกลือ ใครๆ ก็ผลิตเกลือได้ ร้านต่างๆ จึงลองผลิตเกลือจำหน่าย รวมถึงนิชิซาโตะด้วย
การทำเกลือไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงมากนัก เขาลองผิดลองถูกอยู่สักระยะ จนพบว่ามีน้ำใต้ดินในถ้ำแห่งหนึ่งใสสะอาด แต่รสเค็มเล็กน้อย เพราะมีน้ำทะเลผสม นิชิซาโตะจึงลองใช้น้ำในถ้ำแห่งนี้มาทำเกลือ
เมื่อลองนำน้ำนั้นมาตากแดด เกลือที่ได้ไม่ได้เป็นผลึกแข็งๆ แต่กลับเป็นผงละเอียดขาวเหมือนหิมะ นี่เป็นที่มาของเกลือพิเศษ…ยูคิชิโอะ หรือ เกลือหิมะ

ภาพ : www.shop-yukisio.com
โชคเข้าข้างเขา เมื่อนิชิซาโตะนำเกลือนี้ไปตรวจสอบ ก็พบว่าเกลือหิมะมีแร่ธาตุมากถึง 18 ชนิดจนกินเนสบุ๊คถึงกับบันทึกไว้ว่า เป็นเกลือที่มีแร่ธาตุมากที่สุดในโลก
ด้วยรสชาติที่ดีและพลังแบรนด์ของกินเนสบุ๊ค เกลือหิมะจึงกลายเป็นสินค้ายอดฮิตในเกาะมิยาโกะจิม่า ตลอดจนเกาะโอกินาว่า และกระจายไปทั่วประเทศ
เกลือหิมะถูกแปรรูปเป็นทั้งเป็นเกลือปรุงรส ตลอดจนนำไปผสมขนมชินสุโกะ (คล้ายคุ้กกี้สิงคโปร์แต่ไม่มีเมล็ดมะม่วงหิมพานต์) ที่กลายเป็นของฝากยอดฮิตของเกาะโอกินาว่า หรือแม้แต่เกลือขัดผิว
ใครไปโอกินาว่ามา อย่างน้อยต้องเคยเห็นผลิตภัณฑ์สักตัวของนิชิซาโตะแน่นอน

ภาพ : www.sansei-shop.com
ในอดีต เมื่อคนหนุ่มสาวเกาะมิยาโกะจิม่าเรียนจบ จะออกไปทำงานที่อื่น 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พวกเขาเริ่มกลับมาทำงานที่เกาะมิยาโกะจิม่าแล้ว สมกับที่พ่อลูกนิชิซาโตะหวังไว้ เกลือหิมะสร้างงานเป็นจำนวนมากให้กับคนพื้นเมือง
แต่นิชิซาโตะไม่ได้ตั้งใจจะช่วยแค่บ้านเกิดตนเพียงอย่างเดียว แทนที่จะขายแต่เกลือหิมะ นิชิซาโตะกลับสร้างร้านขายเกลือมาสุยะขึ้นมา จุดประสงค์หนึ่งที่แอบแฝง คือเขาอยากสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ผลิตเกลือที่ตั้งใจทำสินค้าดีๆ ให้ทำงานนี้ต่อไปได้
เขาไม่ได้มองผู้ผลิตเกลือรายอื่นเป็นคู่แข่ง แต่มองเป็นเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมที่เติบโตไปด้วยกัน ช่วยเหลือกันและกัน และร่วมกันทำให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าของเกลือมากขึ้น
ครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่งเคยคิดปลิดชีวิตตนเอง แต่วันนี้เขาลุกขึ้นมามอบความหวังและชีวิตใหม่
ให้กับหนุ่มสาวชาวเกาะ ให้กับเพื่อนๆ ผู้ผลิตเกลือ และให้ความสนุกสนานในการทำอาหารแก่ลูกค้าได้
