ผมว่าถ้าใครไปเจอสิ่งดีๆ อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนย่อมจังงังทุกคน สิ่งดีๆ นั้นอาจจะเป็นธรรมชาติดิบๆ หรือย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่เงียบๆ มีจุดเด่น หรือหัตถกรรมศิลปะบ้านๆ หรือของกินพื้นถิ่นธรรมดาๆ แต่อร่อย ของดีๆ ยังมีอีกเยอะแยะ ก็เอาเป็นว่าเมื่อเจออะไรที่นึกไม่ถึงแล้วทั้งจังงัง เหลือเชื่อ และโชคดี พร้อมๆ กัน

​ผมเพิ่งไปเจอของดีมาครับ เป็นพื้นที่ไร่นาเขียวๆ กว้างๆ มีคลองเล็กๆ เลียบขนานไปกับทุ่งนา แล้วคลองเล็กๆ นั้นยังเชื่อมกับคลองใหญ่ ริมคลองใหญ่เป็นชุมชนริมน้ำ สงบ น่าอยู่ แค่เห็นวิวเฉียบอย่างนั้นก็ตื่นตา เหมือนเด็ก 4 ขวบเพิ่งเห็นขบวนรถไฟครั้งแรก แถมมีของกินริมทาง ร้านแบบบ้านๆ อร่อย ถูก บางอย่างต้องซื้อกลับมากินที่บ้าน

ที่ที่ว่าอยู่แค่ปทุมธานีแค่นี้เอง ปทุมธานีนั้นกว้างมาก แต่ส่วนที่เห็นนั้นกำลังเจริญสุดเหวี่ยง แล้วใครจะรู้บ้างว่า ไอ้ที่เจริญแบบกะพริบตาก็เปลี่ยนแล้วนั้น จะโอบล้อมสิ่งดีๆ ตามที่ผมเห็น เอาง่ายๆ เป็นเมืองล้อมป่าเข้าไปทุกที ไม่เหมือนบ้านนอกไกลปืนเที่ยงที่ป่าล้อมเมือง

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

​เรื่องของเรื่องที่เจอก็คือ ทุกครั้งที่ไปอยุธยาโดยทางด่วนอุดรรัถยา พอเลยด่านบางพูน-รังสิต ไปแค่นาทีกว่าๆ ขณะที่วิ่งบนทางด่วนสูงๆ อยู่นั้นจะข้ามคลองใหญ่ เห็นวิวชุมชนริมคลองที่มีบ้านเรือนหลายยุคสมัยปนกัน มองอยู่หลายครั้ง จะออกนอกเส้นทางด่วนก็ไม่ได้ วิวนั้นติดตาและอาฆาตว่าจะต้องหาทางไปดูให้ได้ เผอิญชุมชนที่ว่านั้นมีวัด ซึ่งหลังคาวัดเขียนว่า วัดดาวเรือง เมื่อคุยกับน้า Google Maps ก็ได้เรื่อง

​ดูแผนที่ว่าง่าย แต่พอไปจริงๆ ไม่ง่าย หลงทางเตลิดเปิดเปิง แต่ไม่ยอมแพ้ ไปอีกหลายครั้งจึงคลำทางถูก ต้องไปเส้นปทุมธานี-รังสิต จากสามแยกโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ไปเรื่อยๆ ข้ามคลองประปา เลยไฟแดงเข้าวัดเสด็จไปอีก ข้ามคลองเชียงรากไปนิดเดียว มีทางแยกปากทางเขียนว่าวัดบุญชื่นชู ต้องเข้าทางนั้น ต้นๆ ปากทางเป็นที่อยู่อาศัยแบบเบียดเสียดหน่อย

เจอที่น่าสนใจอันดับแรกเป็นบ้านขายผัดไทยป้ากอบ นี่น่ากิน แต่ก่อนอื่นต้องลืมผัดไทยในกรุงเทพฯ ชั่วคราว เป็นคนละเรื่อง ผัดไทยป้ากอบเป็นสไตล์บ้านนอก เหมือนกับแถวอ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา จะมีเต้าหู้ หัวไชโป๊ว หั่นแบบไม่ประณีตบรรจง มีกุ้งแห้งแดงๆ ตัวเล็กๆ แล้วมีถั่วลิสง พริกป่น น้ำตาล ใส่มาข้างจาน ที่ขาดไม่ได้จะมีมะม่วงดิบซอย ถือว่าอร่อยแบบบ้านนอก จานผักมีหัวปลีกับถั่วงอก ร้านผัดไทยในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่ใส่หัวปลีมาให้ ก็น่าเห็นใจว่าใส่มาแล้วคนไม่กินเสียของเปล่าๆ

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

ไปต่ออีกเรื่อยๆ เริ่มเห็นแนวต้นทองอุไรทางขวามือ ด้านหลังเป็นท้องนาเขียวๆ จะมีถนนชื่อสันติภาพ ความที่อยากเห็นท้องนาเต็มตาก็เลยเข้าถนนนั้น เหมือนเปิดประตูเมืองลับแลเข้าไป เป็นท้องนาแบบพาโนราม่า แถมมีคลองเล็กๆ เลียบทาง รู้ชื่อทีหลังว่า คลองบางสิงห์ ชาวบ้านจะอยู่กันริมคลองเงียบๆ ห่างๆ ยอมรับว่าวิวสวยจริงๆ แล้วนึกไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านรถติดที่ถนนปทุมธานี-รังสิตมาหยกๆ จะเจอวิวแบบช็อกสายตา 

เมื่อเห็นสะพานข้ามคลองคอนกรีต ตีนสะพานมีป้ายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ข้ามไปดู ร้านเป็นเพิงข้างคลอง มีโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ตัว ก๋วยเตี๋ยวมีหมูตุ๋น หมูสด น้ำซุปเข้มข้นมาก อร่อยใช้ได้เลย จะพาใครไปกินไม่ขายขี้หน้า แต่มีข้อเสียอยู่อย่างเดียว ขายเฉพาะเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ยายพาเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวบอกว่า ลูกค้าเป็นชาวบ้านแถบนี้เอง แล้วที่เห็นทุ่งนาเขียวๆ นั้นทำกันมาตั้งแต่ดั้งเดิมแล้ว

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี
แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

เดินหน้าไปดูวิวต่อ ไปอีกสักพักเป็นเพิงริมคลอง ขายก๋วยเตี๋ยว กาแฟ ผัดไทย อยู่รวมกัน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อมหาเด็ด เป็นก๋วยเตี๋ยวอร่อยอีกเจ้าหนึ่ง ร้านนี้คนรู้จักเยอะ เพราะมีชื่อในสื่อออนไลน์ วันเสาร์-อาทิตย์จะหมดเร็วหน่อย หยุดวันจันทร์ สรุปว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูต้องร้านยายพา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้องร้านมหาเด็ด

ที่จริงถนนนี้ทะลุกับถนนเลียบคลองเปรมประชากรได้ แต่ความที่อยากเห็นวิวให้เต็มตาอีกครั้ง และมีแผนจะไปวัดดาวเรือง จึงย้อนออกทางเก่า ออกมาก็ไปทางขวา ถนนนั้นเลี้ยวไปเลี้ยวมา ผมว่าอาจจะมีคนสงสัยว่า ทำไมถึงทำถนนตรงๆ ไม่ได้ สมัยก่อนจริงๆ เวลาจะทำทางสัญจรของคนทั่วไป จะใช้ตรงคันนาที่กั้นที่นาของแต่ละเจ้าที่อยู่ชิดกัน เรียกว่าขอแบ่งหรือเจียดพื้นที่นากันคนละนิดทำเป็นทาง เมื่อสุดเขตกรรมสิทธิ์ของแต่ละคนแล้ว ก็ยึดแนวคันนาตามกรรมสิทธิ์ของคนอื่นต่อไปอีก ส่วนใหญ่จะโค้งหักข้อศอกไปมา เป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนมาเป็นถนนคอนกรีตสาธารณะ จึงโค้งไม่เลิกนั่นเอง

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

​ไปเรื่อยๆ ตามถนนนั้นมีสะพานข้ามทางบ้าง มุดยูเทิร์นใต้ทางด่วนบ้าง จนไปถึงทางเข้าวัดดาวเรืองซึ่งอยู่ริมคลองบางหลวง สำหรับชื่อคลองนั้นค่อนข้างจะสับสน มีหลายคนหรือแม้กระทั่งราชการท้องถิ่นเองบอกว่าเป็นคลองอ้อมเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ไม่มีเอกสารใดๆ ไม่ว่ายุคไหนๆ ที่ปรากฏชื่อคลองอ้อมเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก

ชื่อคลองอ้อมที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าที่ผ่านไปทางตะวันตก ผ่านคลองอ้อมนนท์ คลองอ้อมน้อย คลองบางกรวย ดั้งเดิมมันคดเคี้ยว ก็เลยขุดใหม่ให้เป็นเส้นตรง เมื่อขุดใหม่แม่น้ำก็กว้างขึ้นเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายตรง ส่วนดั้งเดิมก็กลายเป็นคลอง เรียกว่าคลองอ้อมตามที่เรียกกันอยู่

​ส่วนคลองหน้าวัดดาวเรืองนั้นเป็นคลองบางหลวง เป็นคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยามานานแล้ว หมดจากเรื่องชื่อคลอง ก็เป็นเรื่องของชุมชนริมคลองว่ามีมานานเท่าไหร่แล้ว อันนั้นหาคำตอบไม่ได้ แต่ไม่เก่าแก่มาก เมื่อเทียบเท่าชุมชนอื่นๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำหรือคลองสายหลัก

​ถึงจะไม่เก่าแก่ แต่ความสงบ ความน่าอยู่ มีคะแนนเต็มร้อย ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำใช้วิธีทำทางเดินเท้าเรียบไปกับคลอง มีรถก็จอดที่วัด ง่ายและถูกสตางค์กว่าสร้างถนนเข้าบ้าน เพราะถนนเส้นหลักห่างจากบ้านริมคลองไกลเหมือนกัน

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

​ไปอีกเรื่อยๆ จะผ่านประตูน้ำใหญ่ เมื่อออกไปต้องขึ้นสะพานสีเหลืองทางซ้าย ไปเรื่อยๆ จะถึงวัดเวฬุวันอยู่ขวามือริมคลองเปรมประชากร ส่วนริมถนนซ้ายมือนั้นมีร้านค้าเป็นกลุ่ม ร้านแรกอยู่ตรงข้ามกับสะพานวัดเวฬุวันพอดี เป็นร้านขายขนมเครื่องทอง พวกฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ชื่อร้านแม่น้อย ขนมอร่อยคนรู้จักเยอะ เลยไปนิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสแชมป์ เลยไปอีกเป็นร้านขายห่อหมกปลาช่อนใบยอ ห่อหมกอร่อย เครื่องแกงมีกลิ่นผิวมะกรูดหอมดี ใบยอไม่ขมเพราะเอาไปลวกน้ำร้อนก่อน นอกจากห่อหมกแล้วมีแกงใส่ถุงขาย ถ้าเจอปลานิลทอดคลุกเครื่องแกงแบบผัดเผ็ดพริกขิง อร่อย ต้องซื้อ แต่นานๆ ทำที แล้วหมดเร็วอีกต่างหาก 

ทีเด็ดของร้านห่อหมกเป็นข้าวต้มมัด หวาน มัน แต่จะทำเฉพาะวันโกน ก่อนวันพระเท่านั้น ไปเร็วก็ยังไม่เสร็จ ต้องบ่าย 3 โมงไปแล้ว ขายดีมาก มีทั้งมีคนเอาไปขาย และคนซื้อใส่บาตรในวันพระ จากร้านกลุ่มนี้ไปต่ออีก 1 กิโลเมตร จะพบสะพานสูงข้ามทางแยก นั่นเป็นถนนที่มาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องไปทางซ้ายมือเพื่อไปขึ้นด่วนอุดรรัถยา กลับบ้าน จบการเที่ยว

แกะรอยตามสัญชาตญาณ หาร้านเล็กรสอร่อยในชุมชนริมคลองจังหวัดปทุมธานี

​ที่บอกตั้งแต่แรกว่า ที่ผมเข้าไปเที่ยวนั้นถูกโอบล้อมด้วยความเจริญ ความเป็นเมืองใหม่ๆ กำลังคืบคลานบีบเข้าไปทุกวัน ตลอดเส้นทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปทางด่วนอุดรรัถยานั้นทันสมัยสุดฤทธิ์สุดเดช ทางด้านถนนสายเอเชียความเจริญก็บุกมาเรื่อยๆ เกือบถึงริมคลองเปรมประชากร ทางต้นถนนสายปทุมธานี-รังสิต ถนนเข้าวัดเสด็จ ตำบลสวนพริกไทย นั่นก็แน่นขนัดด้วยตึกแถว บ้านเรือน โรงงาน สถานีตำรวจ หน่วยราชการ ส่วนปากทางเข้าถนนวัดบุญชื่นชู มีหมู่บ้านเยอะและกำลังจะเกิดขึ้นก็มี

​ภายในที่มีนาข้าว มีคลองเล็ก คลองใหญ่ มีชุมชนริมน้ำ มีร้านของกินอร่อย อีกไม่นานก็เรียบร้อย ในเมื่อห่างจากกรุงเทพฯ นิดเดียว ก็น่าไปเที่ยวเก็บเป็นต้นทุนไว้ก่อน ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่เห็นนั้นจะถูกเปลี่ยนไปแน่ พอถึงเวลานั้นก็เป็นกำไร ที่ได้เห็นของดีๆ มาก่อนครับ

Writer

Avatar

สุธน สุขพิศิษฐ์

ศิลปะ-ดนตรี-อาหาร ที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่มีพรมแดน ไม่มีภาษา ไม่มีการเมือง ไม่มีการกีดกัน ไม่มีรวยหรือจน เข้าถึงง่าย มีความสุขเท่าเทียมกัน เอาสามอย่างเท่านี้ก็พอ