2 กุมภาพันธ์ 2021
5 K

หน้าปก

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

สารบัญผลงาน

นักแสดงสมทบเรื่อง เด็กหอ – 2549

‘องุ่น’ เรื่อง หนีตามกาลิเลโอ – 2552

‘เต็ม’ นักร้องนำวง Arena เรื่อง Suck Seed ห่วยขั้นเทพ – 2554

‘ต้า’ นักดนตรีวง Sea Scape เรื่อง Hormones วัยว้าวุ่น – 2556

ซิงเกิ้ลแรก ขอพร – 2560

สำนักพิมพ์คนแคะ – 2561

คำนำ

กันต์ ชุณหวัตร คือศิลปินชายวัย 27 ที่อยู่ในการรับรู้ของเรามาตลอด เปิดโทรทัศน์ก็เห็นหน้า เปิดฟังวิทยุออนไลน์ก็ได้ยินเสียง ไปงานเทศกาลดนตรีก็พบเจอ

เขาผ่านงานในวงการบันเทิงมาหลากหลาย ทั้งนักแสดง นักร้อง พิธีกร โปรดิวเซอร์ ดีเจ และอีกสารพัด ชนิดที่ว่ายกนิ้วขึ้นมานับมือเดียวไม่พอ

และต้องนับเพิ่มไปอีกหนึ่งนิ้ว เพราะล่าสุด หลังจากตีพิมพ์ Tokyo Unscripted หนังสือเล่มแรกในชีวิตออกไป เขาได้ตัดสินใจก่อตั้งสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’ ขึ้น

ฉันออกเดินทางในวันที่ไม่มีแดด (2561) 

ฮอกไกโดสีขาว (2562) 

I will be back แล้วจะกลับไปทํางาน (2563)

คือผลงานเขียนที่เขาฝากฝีไม้ลายมือไว้ในนามของสำนักพิมพ์ตัวเอง

ความสงสัยว่าเขาเอาแรงกายแรงใจจากไหนมาทำโน่นนำที่นัก เร่งรัดให้เรารีบยกหูโทรศัพท์นัดหมายเขามาพูดคุย

เชื่อว่าหลายคนรู้จักกันต์

แต่เชื่อว่าทุกคนรู้จักกันต์ไม่เหมือนกัน

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ น่าจะทำให้คุณผู้อ่านที่รักได้เห็นอีกหนึ่งบทบาทของศิลปินชายคนนี้ โดยเฉพาะในฐานะนักเขียน ผู้ควบตำแหน่งช่างภาพ บรรณาธิการ และเจ้าของสำนักพิมพ์

ก้อนเมฆ

01

“จริงๆ พื้นฐานผมเป็นคนชอบเล่าเรื่อง”

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

เริ่มต้นจากการเป็นนักดนตรี

เพราะตอนเด็กๆ ผมไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่พอโตมาถึงรู้ว่าไม่ได้ไม่ชอบเรียนหรอก ชอบด้วยซ้ำไป ผมแค่ไม่ชอบการโดนบังคับให้ทำสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ทำไมต้องตัดผม ทำไมต้องเข้าแถว ทำไมต้องเรียนบางวิชา พอดีช่วงนั้นมีงานด้วย ก็เลยไปทำงานดีกว่า แล้วดนตรีเป็นสิ่งเดียวที่สนุก ผมชอบการได้อยู่บนเวทีแล้วมองเห็นคนข้างล่าง เวทีคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ใช่ใครๆ จะขึ้นมาหยิบไมค์หยิบกีตาร์มาเล่นแล้วคนอิน ต้องเฉพาะคนที่ได้รับเลือกแล้วเท่านั้น มันมีพลังบางอย่างอยู่ เคยได้ยินที่เขาบอกว่าศิลปินบนเวทีกับล่างเวทีเป็นคนละคนกันไหมครับ ก็เป็นอย่างนั้นแหละ ผมขึ้นไปผมก็ไม่เหมือนเดิม

แล้วกันต์บนเวทีเป็นยังไง

โห ถามยากจังเลย ไม่รู้เหมือนกันฮะ ต้องไปดูเองมั้งครับ ไว้ว่างๆ เชิญนะ

เห็นเสน่ห์อะไรถึงยังคงเล่นมาตลอด

มันถ่ายทอดเรื่องราวได้ในเวลาสั้นๆ ทำให้เราคล้อยตามได้ เพลงแค่สามสี่นาทีมีผลต่อชีวิตคนได้เลย แปลกนะ แค่เวลาสั้นๆ เอง เอาอะไรก็ไม่รู้มาร้อยเรียงกันเป็นภาษาที่สวยที่สุด จริงๆ พื้นฐานผมเป็นคนชอบเล่าเรื่องแหละ ที่ผมทำเพลงก็เพราะชอบการเล่าเรื่อง

แล้วการแสดงนี่เป็นการเล่าเรื่องด้วยหรือเปล่า

อาจจะใช่ การแสดงคือการทำความเข้าใจคน เปิดใจเพื่อเข้าใจตัวละคร ไม่งั้นก็แสดงไม่ได้เลยเพราะแต่ละตัวละครไม่เหมือนเรา พอเข้าใจแล้วก็เล่าเรื่องราวของตัวละครนั้นออกมา การที่ได้ศึกษาตัวละครทำให้ผมเข้าใจมนุษย์ เข้าใจความคิดเบื้องหลัง ผมว่ามันมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตมาก พอได้แสดงบทบาทที่หลากหลาย เราจะเริ่มสังเกตคนโดยไม่รู้ตัว หมั่นสังเกตดูว่ามนุษย์เป็นยังไง

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

02

“ปกติอยู่บ้านไม่ค่อยติดอยู่แล้ว”

กันต์ในวัย 27 กำลังหลงใหลอะไรอยู่

จริงๆ ก็คงคล้ายเดิมที่ตัวเองชอบและทำมาตลอด คือดนตรี ถ่ายภาพ และหนังสือ

ถ้าตอนนี้ให้เลือกแค่อย่างเดียว

โห ยากเหมือนกันถ้าให้เลือก เพราะชอบทำพร้อมๆ กันและสลับไปมาตามความสนใจ ปีนี้อยากทำอันนี้ ปีหน้าอยากทำอันนั้น แต่ตอนนี้คงดูงานหนังสือเป็นหลัก

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

ชอบอ่านหนังสือแนวไหน

ผมเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปครับ อ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นหน่อยก็อ่านหนังสือเล่มที่ไม่ใช่การ์ตูน คนโปรดคือ ฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami) และ พี่ก้อง ทรงกลด ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไมบางเล่มอ่านแล้วสนุกจัง มันพาเราไปพื้นที่ใหม่ที่นักเขียนสร้างขึ้นซึ่งไม่มีอยู่จริง อย่างฝนตกลงมาเป็นปลิง ตอนผมอ่านผมก็เชื่อว่าเป็นแบบนั้น จึงเห็นว่าหนังสือมีพลังวิเศษมาก นักเขียนแค่คนเดียวกำหนดทิศทางได้ว่าจะให้ไปทางไหน เห็นความน่าหลงใหลในตัวอักษร เรื่องเดียวกันเนี่ย คนเขียนสิบคน ก็บรรยายสิบแบบ ไม่ซ้ำกัน

แล้วทำไมถึงเขียนหนังสือท่องเที่ยว

เพราะชอบเที่ยว ปกติอยู่บ้านไม่ค่อยติดอยู่แล้ว รู้สึกว่าพออยู่บ้านนานๆ แล้วเครียด คิดอะไรไม่ค่อยออก ผมทำรายการท่องเที่ยวมาตั้งแต่เด็ก เลยชอบไปโน่นไปนี่ ชอบไปเห็น เพราะตอนไม่เห็นเราไม่รู้ไง บางครั้งการอยู่ในที่ของตัวเองทำให้เราเผลอเอาตนเป็นศูนย์กลางของโลก แล้วรู้สึกไปเองว่าปัญหาที่เราเจอเหลือบ่ากว่าแรง แต่พอได้ออกเดินทาง จึงรู้ว่าจริงๆ แล้วเราตัวนิดเดียว ปัญหาของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่เลย ข้างนอกยังมีคนที่ทำอะไรอีกเยอะ ปัญหาเขายิ่งกว่าเราด้วยซ้ำ บางคนเครียดว่าข้าวที่เขาปลูกจะออกรวงไหม บางคนต้องการแค่ให้ไฟฟ้าเข้าถึง ในขณะที่บางคน แค่เน็ตช้า น้ำไม่อุ่น ก็หงุดหงิดแล้ว

การท่องเที่ยวสำหรับผมจึงเป็นการออกไปทำความเข้าใจโลก เข้าใจธรรมชาติและความเป็นไป มันให้อะไรกับผมมากมาย เราเข้าใจมนุษย์ขึ้น แล้วก็ได้หนังสือท่องเที่ยวของผมมา (หัวเราะ)

ตอนเขียนเล่มแรกมั่นใจแค่ไหน

ไม่มั่นใจเลยครับ เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ออกไปสู่คนอ่านได้ แต่ว่าก็เขียนไปก่อน เขียนสิ่งที่อยากเล่า บางทีต้องใช้ความกล้ามากเหมือนกันกว่าจะพิมพ์ตัวแรกออกมาได้ สำหรับผม ตัวอักษรแรก หน้าแรก ยากที่สุด ถ้าได้หน้าแรกปุ๊บ เดี๋ยวที่เหลือก็จะตามมาเอง

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

งั้นทำยังไงให้ได้หน้าแรกออกมา

ทำใจมั้งครับ (หัวเราะ) ทำใจให้แข็งหน่อย อย่างเล่ม ฮอกไกโดสีขาว เขียนหน้าแรกเดือนหนึ่ง ตอนเขียนเล่มแรกจะติดปัญหาว่าเรายังไม่รู้ว่าแค่ไหนคือได้ แค่ไหนคือไม่ได้ แต่พอเล่มต่อๆ มาจะเริ่มติดปัญหาคิดเยอะ ติดกับดักความคิดว่าเขียนยังไงถึงประสบความสำเร็จ เขียนยังไงคนถึงชอบ เลยขาดธรรมชาติบางอย่าง แต่สุดท้ายก็วนกลับมาแค่ว่าเขียนยังไงให้ตัวเองชอบ แล้วปล่อยผ่านไป

เล่มต่อๆ มาน่าจะง่ายขึ้นนะ

ไม่ง่าย ไม่เห็นง่ายขึ้นเลย ผมว่ายากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเราอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้แล้ว

ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดมีส่วนช่วยในการเขียนไหม

อย่างที่บอกว่าผมเป็นคนชอบเล่าเรื่อง ทำเพลงก็เพราะชอบเล่า ทำหนังสือก็เพราะชอบเล่า แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกันไปหมดนะ อย่างหนังสือมีเวลาเยอะกว่ามาก ค่อยๆ ซึมซับไปทีละหน้าได้ เพลงเดี๋ยวนี้ห้านาทีก็ไม่มีใครทำกันแล้ว เวลาสั้น คุณต้องกระชับทุกอย่างให้ได้ ต้องรีบหา Hit Point ว่าจะเอาตรงไหนมาเข้าฮุก จะให้เรื่องดำเนินไปยังไง ผิดนิดเดียวความหมายเปลี่ยน ความรู้สึกผิดหมด

การทำเพลงยากกว่าเขียนหนังสือมาก เพราะผมเล่นได้ไม่ครบทุกเครื่อง แต่หนังสือ ถ้ามีเวลามากหน่อย ผมสามารถจบได้ในคนเดียว แต่ก็สนุกไปคนละแบบ เครียดเหมือนกันทั้งสองอย่าง เวลาตัน คิดไม่ออก ก็เปลืองเครื่องดื่มในตู้เย็นเหมือนกัน แต่พองานเสร็จก็สนุก แฮปปี้

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

เขียนมาหลายเล่มแล้วกันต์ได้เรียนรู้อะไรบ้าง

รู้ว่าไม่รู้อะไรเลย เหมือนตอนเราหัดขับรถ ปีแรกๆ ที่ยังไม่เก่งจะเครียด เกร็ง และระวังอย่างดี ยังไม่ค่อยชน เพราะยังไม่เชี่ยวชาญ แต่พอปีที่สองปีที่สาม มักคิดว่าตัวเองขับเก่ง ก็จะเริ่มชนปีนั้น ตอนทำเล่มแรกผมเน้นมาก รอบคอบมาก แต่เล่มต่อๆ มา ทันทีที่รู้สึกว่าเรารู้แล้วว่าต้องทำยังไง ก็จะมีปัญหา สุดท้ายก็เละ ในอนาคตมีสิ่งที่เรายังไม่รู้และปัญหาผุดมาเรื่อยๆ แน่นอน ประสบการณ์เท่านั้นที่จะทำให้เรารับมือและแก้ไขได้ทันเวลา

03

“เป็นนักชอบเขียนก็ได้”

เรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนแล้วใช่ไหม

ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าชอบเขียนนะ

เป็นนักชอบเขียน

เป็นนักชอบเขียนก็ได้ (หัวเราะ)

นักเขียนที่ดีสำหรับกันต์คืออะไร

คำถามนี้ยาก เพราะคำว่าดีคนเรามองไม่เหมือนกัน สำหรับผม นักเขียนที่ดีคือคนที่เล่าเรื่องออกมาจริงๆ ตามที่รู้สึก บางครั้งบางอย่างมันฉาบฉวย รวดเร็ว เน้นขาย จนไม่ได้ผ่านกระบวนการกรองก่อนที่จะปล่อยออกมา แบบนี้ผมไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะ

แล้วกันต์เข้าข่ายนิยามที่ว่าไว้นี้หรือยัง

ก็พยายามทำให้ได้เต็มที่ที่สุดเท่าเวลาจะอำนวย ผมว่าคงเกี่ยวกับชั่วโมงบินด้วยแหละ ยังต้องสะสมประสบการณ์อีกมาก แต่ถ้ามองย้อนกลับไป ผมตั้งใจดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว ไม่เคยเขียนงานเพราะต้องปล่อย เวลาบีบแล้ว ไม่เคยปล่อยงานไปเพราะไม่มีเงินใช้ ไม่เคยเอาสิ่งนั้นมาเป็นบรรทัดฐาน และก็ไม่เคยคิดจะทำสิ่งที่ไม่ชอบแต่ได้เงิน ไม่เคยทำแบบนี้กับงานเขียนเลย

ความฝันสูงสุดของนักชอบเขียนคนนี้คืออะไร

แค่ปล่อยหนังสือมา มีคนซื้อไปอ่าน ได้วางในร้านหนังสือคู่กับนักเขียนที่ชอบ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

04 

“ผมไม่ได้เขียนหนังสือแล้วหวังว่าต้องได้เงิน ต้องขายดี ต้องตีพิมพ์หลายครั้ง”

ทำไมจู่ๆ ถึงกระโจนเข้ามาสู่วงการหนังสือ ทั้งที่เห็นอยู่ว่ายอดขายตกลงทุกปี

ผมฝันอยากเป็นนักเขียนมานานแล้ว อยากลองเขียนหนังสือดูบ้างเพราะชอบอ่านตั้งแต่เด็ก และรู้สึกว่าถ้าเราทำได้แค่อยาก สิ่งนั้นก็จะเป็นได้แค่ความฝัน ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง ผมเลยตื่นมาจากฝัน แล้วลงมือทำ

แต่ความฝันอยากเป็นนักเขียนนี่มันคนละเรื่องกับการเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์นะ

ผมมีนิสัยส่วนตัวซึ่งไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี คือชอบทำงานคนเดียวตั้งแต่เด็ก เราไม่เก่งงานกลุ่ม ถ้าได้ทำอะไรก็อยากทำเอง พอมาเขียนเลยอยากลงมือเองทุกอย่าง เล่มแรกๆ ก็ได้ พี่วิภว์ (วิภว์ บูรพาเดชะ) จากสำนักพิมพ์ happening มาช่วย เขาดีกับผมมาก ให้ความรู้อะไรมากมาย

แต่ผมเปิดสำนักพิมพ์ก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องได้กำไรเยอะๆ ทุกปีนะ แบบนั้นเครียดและสุดท้ายจะเกร็งไปหมด ถ้ามองกำไรผมอาจเลิกทำไปแล้ว ผมเอาความอยากเป็นเป้าหมายก่อน การคิดแบบนี้เปิดโอกาสให้ผมได้เขียนสิ่งที่อยากเขียนจริงๆ คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง คือเครื่องการันตีว่ามีคนชอบงานของเรา ใครๆ ก็อยากมีออฟฟิศใหญ่โตทั้งนั้น แค่ผมไม่ได้มองเป็นจุดแรกมากกว่า เปรียบกับการทำเพลง ถ้าดังแล้วมีงานโชว์เยอะ ใครๆ ก็แฮปปี้ครับ แต่เป็นคนละเรื่องกับการทำเพลงเพราะต้องดังนะ ผมไม่ได้เขียนหนังสือแล้วหวังว่าต้องได้เงิน ต้องขายดี ต้องตีพิมพ์หลายครั้ง

นิสัยอีกอย่างของผมคือผมไม่ชอบไม่รู้ ถ้าได้ลงมือทำอะไรต้องรู้หมด รู้จริงทุกกระบวนการ เลยทำสำนักพิมพ์ของตัวเองขึ้นมา ไม่คิดถึงสักนิดว่าตอนนั้นเป็นขาลงของวงการหนังสือหรือสถานการณ์เป็นยังไง รู้สึกแค่ว่าถ้าไม่สำเร็จ เรายังได้กำไรเป็นประสบการณ์ แม้จะไม่ใช่เงินทองก็ตาม

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

งั้นถ้าสมมติให้กันต์เปิดสำนักพิมพ์ตอนนี้ จะยังกล้าเปิดไหม

คงต้องคิดเยอะ เพราะยี่สิบเจ็ดเป็นวัยที่ไม่อนุญาตให้เราเป็นจูเนียร์ ต้องกระโดดขึ้นมาแล้ว เริ่มกลัวความล้มเหลว มีความกดดันจากทั้งตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น ทุกอย่างค้ำไปหมด ตอนยี่สิบสี่เราไม่ได้คิดมากเหมือนปัจจุบัน ล้มตอนไหนก็ได้เพราะมีสิทธิ์และเวลาที่จะลุกขึ้นมาใหม่เสมอ ยิ่งตอนนั้นเราทดลองหลายๆ อย่างอยู่ด้วย ความกล้าเลยเต็มเปี่ยม ถ้าถามถึงวันนี้ตอบยากมากเลย ต้องดูองค์ประกอบโดยรวมว่าเราทำอะไรอยู่หรือเปล่า ถ้าอะไรๆ ลงตัวอยู่ดีแล้ว ก็อาจไม่กล้าขยับ แต่ตอนนั้นก็แฮปปี้นะที่ตัดสินใจทำไปเลย เพราะเป็นช่วงที่เรากล้าเดินออกไปทำทุกอย่าง

มอง ‘คนแคะ’ ในอนาคตยังไง

ไม่ได้มองไกลครับ แค่คิดถึงปลายปีก็เครียดแล้ว ถ้าเราไปกะเกณฑ์มากว่าอีกห้าปีสิบปีต้องเป็นยังไง เครียดตาย ผมยังไม่รู้ว่าปลายปีสำนักพิมพ์ต้องปิดหรือเปล่าเลย ไม่มีใครคิดหรอกว่า ค.ศ. 2020 ขณะที่เทคโนโลยีก้าวไปไกลมาก เราจะไปดาวอื่น เรายิงนิวเคลียร์ใส่กัน แต่แค่โรคระบาดตัวเดียวเรากลับเอาไม่อยู่ ต้องอยู่บ้าน คุยกันผ่านหน้ากาก เอาเป็นว่าผมปล่อยให้อะไรมันพัดพาไปเรื่อยๆ แล้วกัน 

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

05 

“หน้าที่ 30”

การผ่านประสบการณ์มามากมายทำให้คิดว่าตัวเองโตกว่าคนวัยเดียวกันหรือเปล่า

ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้โตกว่าหรือมีความสามารถดีเด่นไปกว่าใครหรอก แต่ผมว่าสำคัญที่โตมาแบบไหนมากกว่า เพราะจริงๆ แล้ว เด็กไม่ได้แปลว่าด้อย ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้เรียนรู้อะไรมาบ้างต่างหาก

กันต์นิยามความสำเร็จไว้ว่ายังไง

ไม่เห็นว่าจะต้องประสบความสำเร็จอะไรนะครับ คำนี้คืออะไร เอาจริงๆ ไม่มีใครการันตีสิ่งนี้ได้เลย ตอนเป็นนักแสดงมีคนมาบอกว่าเราประสบความสำเร็จ คนก็มาเฮกับเรา แต่พอวันหนึ่งที่เราเปลี่ยนมาทำอย่างอื่นแทน เหมือนเป็นอีกหนึ่งบทบาทใหม่ของชีวิต นี่แปลว่าไม่ประสบความสำเร็จแล้วหรอครับ คำนี้นิยามยากมาก บางคนบอกขอกำไรพันล้าน บางคนได้ล้านเดียวก็พอใจ ไม่เหมือนกันแล้ว ผมเลยไม่กำหนดกะเกณฑ์ไว้เลยดีกว่า สบายใจตรงไหน ตรงนั้นก็คือความสำเร็จแล้วกัน

ถ้าชีวิตกันต์เป็นหนังสือความยาว 100 หน้ากระดาษ ช่วงปีที่ 27 เรื่องราวดำเนินมาถึงหน้าไหนแล้ว

หน้าที่สามสิบมั้งครับ (หัวเราะ) เรื่องราวก่อนหน้านี้น่าจะปูมาให้รู้จักตัวละครก่อนตามประสา ตอนนี้คนอ่านคงเริ่มเอ๊ะๆ อะไรบ้างแล้ว กำลังเข้าช่วงที่จะได้เจอเหตุการณ์สำคัญ น่าจะเกิดคำถามในใจแล้วแหละ

แล้วหน้าต่อไปล่ะ

นั่นสิครับ ผมก็ไม่รู้ ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน ขอให้ไม่เลวร้ายมาก

กันต์ ชุณหวัตร จากนักแสดง นักร้อง สู่บทบาทนักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ ‘คนแคะ’

Writer

Avatar

นิรภัฎ ช้างแดง

กองบรรณาธิการผู้คนพบความสุขในวัยใกล้เบญจเพสจากบทสนทนาดีๆ กับคนดีๆ และเพลงรักสุดแสน Bittersweet ของ Mariah Carey

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล