ย้อนเวลาไปเมื่อ 2 ปีก่อนได้เกิดธุรกิจบริการรับ-ส่ง เลือดใหม่ชื่อ ‘Go MAMMA’ บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุไปยังที่ต่างๆ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักไม่ใช่ผู้ใช้ แต่เป็นลูกหลานที่อยากให้พ่อแม่ปู่ย่าตายายเดินทางอย่างปลอดภัย

Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน

Go MAMMA ทำงานด้วยหลักการสั้นๆ เพียงหนึ่งวลี คือ ‘ไว้ใจได้’ เน้นจุดขายเรื่องความสบายใจ เป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกหลานและผู้สูงอายุใช้บริการขนส่ง โดยมั่นใจได้ว่าสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล และเป็น Senior Taxi เจ้าแรกของไทยที่มีความเชื่อว่า 

“ธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่การช่วยให้ผู้สูงอายุได้ออกไปใช้ชีวิต แต่คือการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีไลฟ์สไตล์ที่อยากได้จริงๆ” 

Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน

The Cloud เปิดออฟฟิศพูดคุยกับ เป้-รสรี ซันจวน หนึ่งในผู้ก่อตั้งที่พลิกไอเดียแท็กซี่หลากสีธรรมดาๆ ให้กลายเป็น Senior Taxi สัญชาติไทยที่วิ่งให้บริการทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมาแล้วกว่า 2 ปี

Pain Point ของตัวเอง + Pain Point ของผู้ใช้

ปมที่มาของ Go MAMMA เกิดจากคุณป้าของเป้ที่เป็นสาวโสด จะเดินทางไปไหนทีต้องรอหลานๆ พาไป ซึ่งหลานทั้ง 6 คนต่างก็มีงานและครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ครั้นจะจ้างคนขับรถก็ดูเกินความจำเป็น บังเอิญธุรกิจของสามีเป้เปิดอู่แท็กซี่อยู่แล้ว จึงลองเรียกแท็กซี่เข้ามารับคุณป้าไปทำธุระ เลือกเฉพาะที่ไว้ใจได้เพื่อคอยรับ-ส่ง ผ่านไปสักพักคุณป้าเริ่มชินและคุ้นเคย

“พอทำแบบนี้มาสักพักดูเขาแฮปปี้ขึ้น แรกๆ เขาก็ไม่ค่อยอยากไปนะ เพราะเขาไม่คุ้น ส่งใครมารับก็ไม่รู้ แต่พอเขาเริ่มเดินทางไปหลายครั้ง แล้วเราพยายามให้เป็นคนขับรถคนเดิม ความกังวลก็น้อยลง” 

จุดเริ่มต้นที่เกิดจากการแก้ปัญหาของตัวเอง บวกกับประสบการณ์จากการทำงานบริการดูแลเด็กกว่า 15 ปี ทำให้เห็นว่ายังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งในบ้านที่มักจะถูกละเลย 

“มีคุณตาคุณยาย จะมาเยี่ยมเยียน มาหาหลาน หรือบางทีบ้านคุณตาคุณยายอยู่ข้างบ้าน เขาก็เล่า Pain Point ผู้สูงอายุในบ้านให้เราฟัง ซึ่งเหมือนบ้านเราเลยนะ ไหนๆ เราทำให้บ้านเราแล้ว ก็ทำให้บ้านคนอื่นเลยแล้วกัน”

Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน

ก่อนจะเป็น Senior Taxi

“ธุรกิจเดิมที่ทำชื่อ Bangkok Nanny Center ตอนนั้นดูแลแค่เด็กอย่างเดียว เราจัดส่งพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ ผ่านการอบรมแล้ว ส่งให้ไปดูแลลูกของลูกค้าที่บ้าน มีหลักสูตรอบรมคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เพื่อไปดูแลลูกของตัวเอง” 

เป้บอกกับเราว่าเคยมีความคิดจะทำ Nursing Home ให้ผู้สูงอายุ เธอไปดูงานกว่า 10 ที่ แต่ภาพที่เห็นไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ทำต่อ ไม่ใช่บ้านที่มีผู้สูงอายุในบรรยากาศแจ่มใส แต่กลับเป็นภาพผู้ป่วยติดเตียง คุณย่าคุณยายวัยชรากับแววตาเศร้าสร้อย 

นั่นไม่ใช่ภาพที่เธออยากให้เป็น ธุรกิจที่เธออยากทำจึงต้องแก้ปัญหาและช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ประเด็นตั้งต้นของเธอจึงเป็นการสำรวจอินไซต์ของคนในบ้านทั้งฝั่งลูกหลานและผู้สูงอายุ ทำให้รู้ว่าที่จริงแล้วผู้ใหญ่ในบ้านก็อยากออกไปทำกิจกรรมข้างนอกเหมือนกับคนวัยอื่น อยากไปไหนมาไหนด้วยตนเอง ขณะเดียวกันก็เกรงใจลูกหลานที่ต้องสละเวลางานไปรับไปส่ง

ส่วนลูกหลานในบ้านไม่มีใครอยากทิ้งพ่อแม่ให้เหงา แต่ด้วยหน้าที่การงานและภาระที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้คนสองกลุ่มค่อยๆ ห่างกันทีละน้อยๆ 

Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน

“เราพยายามทำให้ช่องว่างระหว่างวัยแคบที่สุด ถ้าทำให้ไม่มี Gap เลยเป็นไปไม่ได้ แต่ทำยังไงให้ตัวลูกหลานไม่รู้สึกว่าเขาทิ้งพ่อแม่ เขาจะหาบริการที่ทำแทนเขาได้ โดยต้องเป็นบริการที่ไว้ใจได้และสบายใจที่สุด เพื่อลดความรู้สึกผิดในตัวลูกหลาน ส่วนตัวผู้สูงอายุเองก็อยากให้ลูกหลานไปด้วย ทำยังไงให้ลูกหลานรู้สึกว่าแม่ไปกับคนอื่น แล้วแม่สบายใจจริง ๆ 

“ไม่ใช่ปากบอกว่าสบายใจ แต่ต้องสบายใจจริงๆ” 

แตกต่างด้วยบริการและความใส่ใจ

บริการของ Go MAMMA คือบริการรถแท็กซี่รับ-ส่ง ที่ไม่เหมือนกับแท็กซี่ทั่วไป 

“เราไม่ได้เป็นแค่การเดินทางในการรับ-ส่ง แต่เราต้องการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เหมือนสร้างอิสรภาพในการเดินทาง สร้างความอุ่นใจ และลดความกังวลให้กับลูกหลาน ให้เขายังคงประชุมงานต่อได้ ยังทำมาหากินได้”

สิ่งที่ลูกค้าจะได้จากบริการนี้จึงมี 2 อย่าง หนึ่ง ความอุ่นใจและความสบายใจของผู้ใช้งานอย่างผู้สูงอายุ และสอง ความไร้กังวลของลูกหลาน ที่ไม่ต้องพะวงว่าครอบครัวที่เขารักจะเดินทางไปกับใคร 

การเรียกใช้บริการ เพียงแค่คุณยกโทรศัพท์ขึ้นมาจองรถผ่านระบบ Call Center ระบุเป้าหมายการเดินทาง ระบุตำแหน่งที่ต้องการให้รถไปรับ-ส่ง จากนั้นชำระเงิน แล้วนั่งรอสบายๆ ให้รถมารับ แม้ลูกหลานไม่ได้ไปด้วยก็วางใจได้ เพราะรถทุกคันติดตั้งระบบ Tracking พร้อมระบบแชทโต้ตอบกับคนขับ แจ้งสถานะการเดินทาง คนขับจะช่วยดูแลการขึ้น-ลงรถได้อย่างปลอดภัย เพราะผ่านการอบรมการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุ มีสเปรย์เช็ดพื้นผิวสัมผัส เจลล้างมือ แมสก์ปิดจมูก พร้อมมีกระดาษทิชชูและน้ำเตรียมไว้ให้ลูกค้าด้วย

ลูกค้าที่เดินทางไม่สะดวกหรือต้องนั่งรถเข็น ก็เรียกใช้บริการผู้ดูแลเพิ่มได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง สามารถเรียกใช้บริการได้ 2 รูปแบบ ทั้งแบบเที่ยวเดียวและรอรับกลับ 

“ถ้าวันหนึ่งเรามีจุดแข็ง มันจะกลายเป็นจุดอ่อนได้ แต่สิ่งที่ Go MAMMA ทำ คือสร้างความแตกต่าง เป็นความแตกต่างที่ไม่ใช่ระหว่างเรากับคู่แข่งนะ เราสร้างความแตกต่างในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ลูกค้าต้องการแบบไหน เราทำแบบนั้น”

Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน
Go MAMMA บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงอายุเจ้าแรกในไทย เน้นปลอดภัย และความสบายใจของลูกหลาน

ไม่ใช่ใครก็ทำได้

ประสบการณ์ที่ผู้ใช้บริการจะได้รับ ไม่ใช่แค่การบริการ แต่ยังได้ความสบายใจ 

พนักงานขับรถและผู้ดูแลของ Go MAMMA ทุกคน ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติอย่างเข้มข้นมาแล้ว พวกเขาต้องไม่มีปัญหาการเงิน ไม่มีประวัติอาชญากรรม และต้องผ่านการอบรม ทั้งเรื่องการปฐมพยาบาล การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และจิตวิทยาผู้สูงอายุ 

หลังจากนั้นพวกเขาต้องผ่านการประเมินอีกครั้ง เพื่อให้พร้อมสำหรับการให้บริการลูกค้า ซึ่งทีมเทรนนิ่งหรือผู้ที่ให้ความรู้แก่พนักงานทุกคน ประกอบด้วยนักกายภาพดูแลเรื่องการเคลื่อนย้าย อาจารย์จากโรงพยาบาลศิริราชผู้เชี่ยวชาญเรื่อง CPR พยาบาลอายุรกรรม การทำความสะอาด ที่มาของโรคและผลข้างเคียง การวัดความดัน รวมถึงนักจิตวิทยา

“ถ้าเป็นคนขับแท็กซี่จะต้องตามกฎของสหกรณ์ ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ มีใบรับรองเพื่อคัดกรอง ผู้ดูแลต้องมีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ต้องจบอย่างน้อยผู้ช่วยพยาบาล เราไม่ได้รับลักษณะที่เคยมีประสบการณ์ดูแลย่ายายที่บ้าน แค่นั้นไม่พอ 

“รถที่ใช้คือรถเช่าซื้อ ไม่ได้เป็นรถกลับที่พอเขาเช่าเสร็จก็คืน รถไม่ใช่ของเขา ความอันตรายมีสูง เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เขาไม่รักษารถด้วย แต่รถที่เราใช้ คนขับเป็นเจ้าของรถเอง เขาจะรักษารถ เวลาขับไม่ฉวัดเฉวียนมาก เพราะว่าเป็นรถของตัวเอง”

หัวใจแห่งการบริการคืออันดับ 1 ความสามารถคืออันดับ 2

เพราะพนักงานคือคนที่อยู่ใกล้ลูกค้า และสะท้อนความใส่ใจของแบรนด์ได้มากที่สุด การคัดเลือกคนที่จะเข้ามาเป็นพนักงานจึงต้องผ่านขั้นตอนมากมาย เป้เล่าว่าเธอไม่ได้เลือกแค่คนมีความสามารถ แต่เธอเลือกคนที่ทัศนคติ ถ้ามีใจในการบริการแล้ว พวกเขาก็จะพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ดูแลลูกค้าที่มาใช้บริการได้เหมือนกับดูแลญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง 

“เรารู้อยู่แล้วว่าการทำงานกับคน Mindset เป็นสิ่งสำคัญ ขณะที่ทักษะพัฒนาได้ เพราะฉะนั้น เวลาคัดเลือก เราเลือกจาก Mindset ก่อน เพราะใช้เวลาอบรมแค่วันสองวันแล้วจะเปลี่ยนเขาเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ 

“ถ้า Mindset เขาได้ ความคิดเขาดี เขาจะเข้าใจ พฤติกรรมเขาจะแสดงออกเอง เขาทำเพราะใส่ใจ เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร ไม่ใช่เพราะว่าบริษัทมีกฎให้ทำตาม แล้วเราค่อยมาเติมทักษะที่จำเป็น”

 ดูแลกันในวันที่สถานการณ์ยังน่ากังวล

นอกจากรองรับการเดินทางของผู้สูงอายุเพื่อไปพบหมอ ไปโรงพยาบาล ไปพบปะสังสรรค์ ยังมีบริการพาไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นอีกทางเลือกให้กับลูกหลาน ในวันที่การรับวัคซีนยังระบุความแน่นอนเพื่อไปลางานไม่ได้ ที่สำคัญ Go MAMMA เน้นความปลอดภัยสูงสุด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำในการเดินทางอย่างเคร่งครัด 

“เรามีทั้งหมดสี่มาตรการ คือ ฉีดพ่นทำความสะอาดทุกวัน ทำความสะอาดพื้นผิวภายในรถหลังจากที่ผู้โดยสารลงไปแล้ว ใส่แมสก์ตามปกติ และใช้เจลแอลกอฮอล์ โควิด-19 รอบแรกเราติดแผ่นกั้นแบบใสไปแล้ว แต่ไม่ค่อยปลอดภัย เนื่องจากว่าเชื้อเปลี่ยน เราก็เลยต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไปด้วย”

เป้และบริษัทได้เฟ้นหาวัสดุที่จะดูและทั้งพนักงานขับรถและลูกค้า ด้วยการติดแผ่นกั้นมาตรฐาน SCG ระหว่างคนขับและผู้โดยสาร พร้อมทั้งจัดหาวัคซีนที่ดีให้กับพนักงานทุกคน เพราะนอกจากการดูแลผู้โดยสารให้ปลอดภัย คนขับและพนักงานทุกคนก็ต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด เนื่องจากพวกเขาคือคนที่ต้องดูแลคนอื่นให้ไกลจากโรคและปลอดภัยจากความเสี่ยง

“อุปกรณ์เบื้องต้นในการป้องกันโควิด-19 เรามีให้หมด บอกวิธีการป้องกันตัวของเขาด้วย มีการจองฉีดวัคซีนให้ พนักงานขับรถก็ทยอยฉีดกันอยู่ แต่คนขับไม่ต้องจองเอง เราจองให้”

โตช้าแต่มั่นคง และโตไปด้วยกันทั้งระบบ

Go MAMMA เปิดให้บริการในช่วงที่เริ่มมีสถานการณ์โรคระบาด และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการบอกต่อแบบปากต่อปากของลูกค้า หากเทียบกับธุรกิจในแวดวงเดียวกัน ถือเป็นการก้าวเดินด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก แต่ทุกก้าวล้วนเป็นก้าวที่มั่นคง 

“ในแต่ละสเต็ปที่เราก้าว บริการที่เราให้ถ้าเกิดความผิดพลาด ต้องไม่มีคนได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เราทำ เราก้าวแต่ละก้าวแบบเอาช้าแต่ชัวร์ ในช่วงสองปีแรกค่อนข้างช้า เพราะกว่าเราจะคิดคอนเซปต์ กว่าจะบอกว่าเราเป็นบริษัทเพื่อการเดินทางนะ แต่ไม่ใช่แค่ปลอดภัยเฉยๆ บางทีลูกค้าต้องการทั้งความปลอดภัยและความสบายใจ เราต้องการไปถึงจุดนั้น เราถึงต้องพัฒนาการบริการ ต้องปรับตัวให้ตอบโจทย์เรื่องความไว้ใจ เราทำงานมาเกือบปีกับแค่เรื่องนี้ แล้วเวลาเราคิด เราคิดจากมุมของลูกค้าเสมอ มันเลยทำให้เราใช้เวลาค่อนข้างเยอะ” 

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่านี่คือเรื่องราวของสตาร์ทอัพรถรับ-ส่งผู้สูงอายุ แต่สำหรับเป้ ธุรกิจนี้ไม่ใช่สตาร์ทอัพ แม้จะมีคอนเซปต์ตั้งต้นคือ Pain Point เหมือนกัน สิ่งที่ต่างคือการค่อยๆ โตขึ้นจากเสียงตอบรับของลูกค้า และสิ่งที่นอกเหนือไปจากการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจแล้ว พนักงานทุกคนคือฟันเฟืองที่หมุนให้ธุรกิจดำเนินไปได้ Go MAMMA จึงดูแลพนักงาน เฉกเช่นเดียวกับที่พนักงานดูแลลูกค้า 

“เราไม่ได้แค่ดูแลและยกระดับชีวิตผู้สูงอายุ เราดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานแท็กซี่ด้วย ว่าเขาอยู่กับเรา เขาเสียสละดูแลผู้สูงอายุที่อาจจะเหนื่อยหน่อย แค่รับทั่วไป จอดรถเสร็จมีคนขึ้นไปเลยง่ายกว่า แต่นี่คือคนขับต้องลงจากรถมาให้บริการ ขึ้นรถเสร็จถึงที่หมายต้องลงจากรถมาให้บริการอีก มันใช้พลังงานเยอะกว่า เราจึงดูแลพนักงานขับรถด้วย ว่ารายได้ที่เขาได้ต้องเพียงพอ ช่วงนี้คนขับรับงานเราสองถึงสามเคสก็กลับบ้านได้เลย เพราะพอกับค่าเช่าที่เขาต้องจ่ายรายวัน” 

ขอเป็นธุรกิจที่อยู่ดูแลตามช่วงชีวิตของลูกค้า

“Go MAMMA ไม่ได้ออกแบบธุรกิจมาแค่ปีถึงสองปี เราอยู่ไปตามวัฏจักรของลูกค้า เวลานี้เขาอายุห้าสิบห้า อีกห้าปีข้างหน้าเขาจะหกสิบ เราเองถึงจุดนั้นก็อยากเป็นบริการที่คนจะนึกถึงเมื่อพูดเรื่องบริการผู้สูงอายุ อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องการเดินทาง แต่ในแง่ของการดูแลและความเข้าใจผู้สูงอายุ”

เป้กล่าวกับเราด้วยแววตาที่มุ่งมั่น 

สิ่งที่เธออยากทำ ไม่ใช่แค่การช่วยให้ผู้สูงอายุได้ออกไปใช้ชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่การออกไปหาหมอ  แต่เป็นการสนับสนุนให้เขามีไลฟ์สไตล์ที่เขาอยากได้จริงๆ การได้ออกไปทำสิ่งที่ชอบ ใช้เวลากับกลุ่มเพื่อน ทานข้าว ร้องคาราโอเกะ 

“ออกไปแค่สามชั่วโมง อาจทำให้เขากลับมาอยู่ได้เป็นเดือนๆ พอเขาจิตใจกระชุ่มกระชวย สภาพร่างกายเขาดี ลูกหลานก็สบายใจ แม่ไม่หงุดหงิด ลูกหลานไม่หงุดหงิด สภาพแวดล้อมภายในบ้านก็ดีขึ้น มันคือห่วงโซ่ที่เรามอง เราอยากเห็นภาพรวมดีขึ้น แปลว่าเราตอบโจทย์ครอบครัวทั้งหมดแล้ว ภาพรวมของเราคือ Family Support Center และ Go MAMMA เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของภาพทั้งหมด”

Lessons Learned

  • ทำธุรกิจบริการด้วยใจ มองธุรกิจในมุมผู้ใช้ ทำความเข้าใจปัญหาที่ผู้ใช้งานพบเจอ ทำให้พัฒนาได้ตรงจุด เกิดเป็นประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้บริการในที่สุด
  • เลือกคนที่มีทัศนคติเหมือนๆ กัน มีเป้าหมายคล้ายๆ กัน อาจไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่จะเป็นคนที่จะส่งต่อความตั้งใจขององค์กรไปสู่ลูกค้าได้ดีที่สุด
  • มองว่าทุกคนในทีมคือฟันเฟืองของธุรกิจ สร้างทีมที่ดี ดูแลทีมเหมือนที่อยากดูแลลูกค้า เพราะเขาคือคนที่จะดูแลลูกค้าต่อไป
  • หาจุดขายของตัวเองให้เจอ ซึ่งอาจจะไม่ใช่สินค้าหรือบริการที่ทำให้ธุรกิจแตกต่าง แต่เป็นทัศนคติ ความตั้งใจ และความเอาใจใส่ ที่ทำให้เกิดเป็นสินค้าและบริการนั้นก็ได้เช่นกัน

Writer

Avatar

แคทรียา มาลาศรี

คนทักผิดตลอดชีวิตว่าเป็นนักร้องดัง รักการกินผักและรักเนื้อพอๆ กับผัก เกิดที่อีสาน เรียนที่ภาคกลางและหลงทางที่เชียงใหม่

Photographer

Avatar

วรุตม์ ไฉไลพันธุ์

เมื่อก่อนเป็นช่างภาพหนังสือเดินทาง ปัจจุบันเป็นช่างภาพกักตัวครับ