ไซเดอร์คืออะไร
ผมว่ามีหลายคนสงสัยและมีข้อถกเถียงกันอยู่บ้าง ในเรื่องของชนิดของผลไม้ก็ดี ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ดีรสชาติ หรือวิธีการ ผมจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนเอง
ต้องเท้าความก่อนว่าคำว่า ไซเดอร์ มาจากชื่อสายพันธุ์ของแอปเปิ้ลที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ นิยมดื่มกันในแถบราชอาณาจักรหรือโซนอังกฤษและสหรัฐอเมริกา มีทั้งแบบที่มีแอลกอฮอล์ (Apple Cider) ซึ่งบางที่ก็จะเรียกว่าแอปเปิ้ลเบียร์ หรือไวน์แอปเปิ้ลก็ไม่ผิดทั้งคู่ หรือแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น น้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) ก็เป็นไซเดอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำแอปเปิ้ลเป็นหลัก
ไซเดอร์ เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการกลั่นเหมือนพวกเหล้าบรั่นดีหรือวิสกี้ แต่เป็นการหมัก (Fermentation) เหมือนเครื่องดื่มพวกไวน์ที่ใช้องุ่นในการหมัก ในอดีตใช้แค่น้ำแอปเปิ้ลแบบไม่กรอง หมักกับน้ำตาลในถังจนได้ที่ กรองเอาน้ำมาดื่มก็ใช้ได้แล้ว ปัจจุบันการหมักไซเดอร์มีการควบคุมน้ำตาล อุณหภูมิ ยีสต์ ภาชนะการหมัก เพื่อให้ได้รสชาติ ความสะอาด รวมถึงจุดประสงค์ปลายทางที่อยากได้ ว่าอยากให้เป็นเครื่องดื่มแบบไหน
ปัจจุบันวงการไซเดอร์พัฒนาต่อยอดไปเป็นเครื่องดื่มที่มากกว่าการใช้น้ำแอปเปิ้ลล้วนๆ หมัก คือผสมรสชาติผลไม้อื่นๆ ที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่ยีสต์ที่ใช้ เพราะในแต่ละประเทศมีข้อกำหนดการทำไซเดอร์ ว่าต้องมีแอปเปิ้ลเป็นส่วนประกอบอยู่ไม่น้อยกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ เช่น ในอังกฤษต้องมีไม่น้อยกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ในอเมริกาไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในฝรั่งเศสต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
ไซเดอร์แบ่งเป็นเครื่องดื่ม ได้ 2 แบบ คือ แบบที่มีแอลกอฮอล์และแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ พูดง่ายๆ บ้านๆ คือไซเดอร์ที่เป็นเบียร์หรือไวน์ กับไซเดอร์ที่เป็นเครื่องดื่มรสซ่าแบบคล้ายๆ คอมบูฉะ ที่ต่อยอดไซเดอร์เป็นน้ำส้มสายชูสำหรับนำมาปรุงในอาหารได้
ผมจะสอนการปรุงไซเดอร์เองที่บ้านแบบไม่มีแอลกอฮอล์ แถมได้ประโยชน์ที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย จาก โพรไบโอติกที่เกิดจากการหมักน้ำผลไม้ และประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากผลไม้ต่างๆ นอกเหนือจากแอปเปิ้ลที่นำมาผสมเพิ่มเติมด้วย
เรามาดูส่วนผสมและวิธีการทำไซเดอร์กัน
ส่วนผสม (สำหรับปรุงไซเดอร์ 1 ลิตร)
1. Apple Cider Vinegar ให้เลือกแบบที่มีเขียนว่า With Mother เพื่อนำมาเป็นหัวเชื้อไซเดอร์ 200 ซีซี
2. น้ำผลไม้ Tipco Squeeze 700 ซีซี
3. น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้ง 100 กรัม
4. หากอยากเพิ่มสมุนไพรอื่นๆ เช่น ขิง มินต์ ก็เพิ่มได้ (Optional) 20 กรัม
5. ภาชนะสำหรับหมัก (ขวดโหล ขนาด 1.5 ลิตรขึ้นไป )
6. ช้อนหรือทัพพีสำหรับคน
วิธีทำ
1. เตรียมภาชนะสำหรับหมัก ล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง
2. เทน้ำตาลหรือน้ำผึ้งผสมกับ Apple Cider Vinegar
3. คนให้ละลายเข้ากัน
4. เทน้ำผลไม้ Tipco Squeeze ลงไป ผสมให้เข้ากัน
5. หากมีสมุนไพรอื่นๆ ก็ใส่ตามลงไป
6. เช็ดปากขวด ปิดให้สนิท ตั้งขวดไว้อุณหภูมิห้อง หาถาดรองน้ำไว้กันมดขึ้น
7. ตั้งไว้ 3 – 5 วัน สังเกตฟองในขวดโหล ชิมรสชาติและความซ่าตามชอบ นำขวดโหลเก็บในตู้เย็นต่อ
8. พร้อมดื่ม
เทคนิคเพิ่มเติม หลังจากชิมรสชาติที่ชอบได้แล้ว เก็บไซเดอร์ไว้ในตู้เย็น สามารถกรองลงขวดย่อยๆ เพื่อแบ่งทาน และก่อนปิดฝา ให้เติมน้ำตาลลงไปประมาณ 5 กรัม ปิดฝาให้สนิท พอเราเปิดขวดอีกรอบก็จะเกิดความซ่าทุกๆ ขวด เพื่ออรรถรสในการดื่มไซเดอร์ซ่าๆ สดชื่นๆ
ผมเลือกใช้น้ำผลไม้พาสเจอไรส์แทนน้ำผลไม้สดเพราะรสชาติและความสด หาซื้อได้ง่าย แถมวิตามินและสารอาหารค่อนข้างเยอะกว่าน้ำผลไม้กล่องยูเอชทีทั่วไป และยังใช้น้ำผลไม้ที่ดื่มไม่หมด มาต่อยอดเป็นเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้นได้
สุดท้ายเพื่อลดความเสี่ยงของเชื้อแปลกปลอมที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะเราควบคุมด้วยยีสต์ที่มีจาก Apple Cider เป็นตัวเริ่ม และใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากน้ำผลไม้อื่นๆที่เติมเพิ่มไปรวมถึงความหวานที่มีอยู่แล้วด้วย ทำให้ ไซเดอร์ ของเรา มั่นใจได้ว่ามียีสต์หรือโพรไบโอติกที่ดีต่อร่างกายจริงๆ
และไม่ต้องตกใจหากไซเดอร์ของคุณที่ดื่มไม่หมดหรือทิ้งไว้นานเกินไปจนเปรี้ยวมาก สามารถนำไซเดอร์ตัวนี้ไปใช้เป็นหัวเชื้อต่อแทน ไม่ต้องใช้ Apple Cider Vinegar ตามสูตรได้อีกด้วย หรือจะทำไว้ให้เป็นน้ำส้มสายชูหมัก เพื่อนำมาปรุงอาหารก็ได้ประโยชน์อีกแบบหนึ่งเลยครับ