ก่อนอ่านบทความนี้ ถ้าคุณผู้อ่านกำลังนั่งอยู่ เราขอให้คุณลองยืดกระดูกสันหลังให้สูงขึ้น ฝืนไหล่ให้เปิดกว้างขึ้น แล้วจะเริ่มรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย

นั่นเป็นคำแนะนำข้อแรกที่ ปัท–ปรัชญพร วรนันท์ นักศิลปะบำบัดและผู้ก่อตั้ง Studio Persona สตูดิโอที่บูรณาการศิลปะหลากหลายแขนงเพื่อใช้ในการพัฒนาจิตใจตัวเอง บอกเราทันที่ที่เริ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์

ปัท–ปรัชญพร วรนันท์ นักศิลปะบำบัดและผู้ก่อตั้ง Studio Persona

Free Writing คือหัวข้อที่เราคุยกับปัทในวันนั้น เป็นหนึ่งใน Worries Free กิจกรรมคลายความกังวลของ Studio Persona ที่เกิดจากวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้หลายๆ คนต้อง Work from home อยู่บ้านนานมากว่า 1 เดือน หลายคนเกิดความเบื่อและความกังวล แต่ไม่รู้จะระบายกับใครดี 

เธอจึงแนะนำการบำบัดแบบ Free Writing ซึ่งก็คือการสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้ได้ระบายความรู้สึก ความคิด อารมณ์ ความสร้างสรรค์ และปลดปล่อยอย่างมีอิสระบนกระดาษ ผ่านการเขียนหรือวาดไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องมีกระบวนการคิดอะไร มันต่างจากการเขียนปกติคือเราไม่ต้องการผู้อ่านคนอื่นนอกจากตัวเอง 

ไอเดียตั้งต้นเริ่มตั้งแต่ตอนที่สตูดิโอต้องปิดเพื่อความปลอดภัย ทั้งการบำบัดและการรับคำปรึกษาจึงต้องย้ายไปทำบนออนไลน์ทั้งหมด แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าสตูดิโอออกแบบการบำบัดด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน มีขั้นตอนหรือวิธีการที่ชัดเจนให้คนเข้าใจง่ายๆ เพื่อช่วยคลายความกังวลหรือระบายความรู้สึกบางอย่างได้บ้าง

“ช่วงนี้ร่างกายเราเก็บความกังวลไว้เยอะมาก นอกจากตัวเรา เราก็ห่วงครอบครัว สังคม แล้วก็โลกใบนี้ เราเริ่มสังเกตร่างกายตัวเอง เริ่มรู้ว่าเครียด คนในครอบครัวเครียด 

“คุณแม่เราก็กังวลกับสถานการณ์มาก เราเลยชวนเขามาวาดรูป วาดความกังวลด้วยกัน เราวาดของเรา แม่วาดของแม่ แล้วเราลองมาคุยกัน ซึ่งกิจกรรมนี้มันเหมือนการไปบำบัดที่เราระบายและถ่ายทอดความคิด ความกังวล ความรู้สึกของตัวเองออกมา”

Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี
Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี
Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี

การทำ Free Writing ที่ปัทว่านั้นง่ายนิดเดียว ทำที่บ้านได้ ทำด้วยตัวเองคนเดียวได้ หรือจะชวนคนในครอบครัวมาร่วมทำด้วยสัก 2 – 4 คนก็ได้เช่นกัน อุปกรณ์มีเพียงสมุดหรือกระดาษ ปากกา ดินสอ หรือดินสอสี และพื้นที่ที่คุณรู้สึกปลอดภัย พื้นที่ที่ไม่มีใครรบกวนในช่วงเวลาหนึ่ง อาจจะเป็นมุมโปรดในบ้านหรือห้องส่วนตัวก็ได้ 

ถ้าใครไม่อยากวาดรูปก็เขียนเป็นคำ วลี หรือประโยค ที่ถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องไตร่ตรอง ให้มันออกมาตามธรรมชาติ จริงๆ ก็คล้ายกับการเขียนไดอารี่ที่มีความเป็นส่วนตัว (Privacy) มีพื้นที่ได้สะท้อน ระบาย จดบันทึก หรือเขียนเพื่อทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง

Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี
Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี

“เราไม่อยากให้คนยึดติดกับรูปแบบในการทำงานศิลปะ หนึ่งคือ ถ้ายึดติดมากๆ มันจะกลายเป็นความเครียด เราอยากให้มันเป็นเครื่องมือ เป็นเพื่อนที่ดีที่ตัวเราจะไปพึ่งได้มากกว่า อย่างตัวเราเองก็ไม่ได้วาดรูปทุกวัน บางวันก็วาดรูปน้อย เขียนเยอะ เราค่อนข้างแนะนำการเขียนด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นทักษะที่ติดตัวทุกคนมาตั้งแต่เด็ก สองคือ มันไม่มีผิดถูกในเรื่องของคำและภาษาเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะฉะนั้น Free Writing คือการที่เราปล่อยให้พื้นที่บนกระดาษเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะรองรับความรู้สึกของเรา”

บางคนอาจจะใช้เวลา 2 – 3 นาที หรือมากกว่า 5 นาทีก็ได้ แล้วแต่ว่าเรารู้สึกโล่งใจขึ้นแล้วหรือยัง

“เมื่อเขียนรอบแรกเสร็จ เราจะแนะนำว่าถ้าคุณรู้สึกสบายขึ้น โล่งขึ้น ส่วนตัวเราจะไม่กลับไปอ่าน เพราะถือว่าเราจัดการและปลดปล่อยความกังวลออกไปแล้ว 

ปัท–ปรัชญพร วรนันท์ นักศิลปะบำบัดและผู้ก่อตั้ง Studio Persona

“แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจแต่ละคน ถ้าใครรู้สึกว่าสิ่งที่เขียนมันมีผลกับตัวเองมากๆ อยากจะจัดการกับมันต่อก็ทำได้ ให้ลองไปอ่านสิ่งที่เขียน แล้วขีดเส้นหรือวงกลมคำที่ปรากฏซ้ำๆ ในงานเขียนนั้นๆ แล้วค่อยเอามาเขียนขยายต่อจากคำคำนั้น โดยที่ใช้เทคนิค Free Writing เหมือนเดิม เช่น คีย์เวิร์ดที่เจอบ่อยๆ คือ ท้องฟ้า ฝนตก ไม่สบายใจ อึดอัด เราจะเอาสี่คำนี้มาเขียนต่อแล้วดูว่ามันจะพาเราไปได้ถึงจุดไหน ขยายเขาไปเรื่อยๆ 

“ถ้าเป็นการวาดรูปก็คล้ายๆ กัน ให้เราดูว่ามีส่วนใดที่รู้สึกว่าเชื่อมโยงกับเราเป็นพิเศษ อาจจะเป็นสีหรือรูปร่าง เราอาจจะเอาพาร์ตนั้นมาขยาย อย่างมีคนวาดพระอาทิตย์ในบ้าน เราก็จะแนะนำให้เขาลองขยายว่า การมีพระอาทิตย์ในบ้านเป็นยังไง อาจจะขยายเรื่องสีที่โดดเด่นออกมา หรือในทางตรงกันข้ามเป็นสีที่เจือจางกว่าสีอื่นในภาพมากๆ ก็ได้”

Free Writing ต่างจากการไปคุยกับนักบำบัดอยู่จุดหนึ่ง มันเป็นการระบายทางเดียว แต่ข้อดีของมันก็คือเราทำเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ที่เรารู้สึกมีความกังวล จะทำกี่ครั้งต่อวันก็ได้ ปัทเองก็ใช้วิธีนี้มานานแล้ว เธอพกสมุดและปากกาติดตัวตลอด เมื่อมีความกังวลเกิดขึ้นมาก็จะหยิบขึ้นมาเขียน และสังเกตอารมณ์ตัวเองผ่านสิ่งที่เขียน พอได้กลับไปอ่านอีกครั้งจึงได้เห็นแพตเทิร์นการเขียนที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงอายุ หรือแม้แต่กระทั่งในหนึ่งวันเอง อารมณ์ความรู้สึกก็อาจจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี
Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี

“การเขียน Free Writing ช่วยเราได้มากเรื่องการรับรู้ในแต่ละแอคชั่นและอารมณ์ของตัวเอง พอเราเริ่มมีอารมณ์ เราจะหยิบจับมันได้ง่ายขึ้น เรารับรู้ถึงผลกระทบที่อารมณ์ส่งผลกับร่างกายได้เร็วขึ้น 

“พอเรารับรู้ความคิดตัวเองได้เร็วขึ้น รับรู้ว่าเราโกรธ เราจะอยากหยุดโกรธ จะคิดว่าควรทำยังไงกับความโกรธนี้ ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโกรธ เราก็จะโกรธไปเรื่อยๆ จนมันส่งผลต่อการกระทำเรา ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม คนใกล้ชิด การฝึกเขียนทำให้ตัวเราสงบเร็วขึ้น

“การมีสมุดและปากกาหนึ่งด้ามไว้ในกระเป๋าหรือโต๊ะทำงานของเรา มันอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในบางเวลาได้เลยนะ เพราะทุกคนก็ต้องการพื้นที่ที่จะน้อยใจ สะท้อนความอ่อนไหวที่ไม่อยากไปแบ่งปันกับใครเพราะมันอาจจะทำร้ายคนอื่น แต่ก็ไม่อยากเก็บไว้กับตัว วิธีนี้ก็ปลอดภัย มันเป็นวิธีสันติอย่างหนึ่งที่ช่วยเราจัดการกับอารมณ์ได้ดี”

Free Writing บำบัดความคิด คลายความกังวล และปลดความเครียด ด้วยกระดาษ ปากกา ดินสอสี

นอกจากนี้ ปัทและ Studio Persona ยังจัดกลุ่มบำบัด Worries Free ที่เรียกว่า Open Heart Club ที่รวมคน 4 – 5 คน มาทำกิจกรรมศิลปะบำบัดผ่านวิดีโอคอลออนไลน์ทุกวันจันทร์และพุธ และไม่ต้องกลัวหากคุณผู้อ่านไม่คุ้นเคยกับศิลปะ เพราะเธอบอกว่าคนส่วนใหญ่ที่มาร่วมกิจกรรมมีหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่นักบัญชีไปจนถึงนักจิตวิทยา และหลายคนไม่ได้วาดรูปมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน 

เธอเล่าว่า คนส่วนใหญ่ที่มาทำงานศิลปะที่นี่ไม่เอางานศิลปะเขากลับบ้าน เขาจะมอบให้สตูดิโอ เพราะเขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้กลับไปคือประสบการณ์บางอย่าง คุณค่าของมันเลยไม่ได้อยู่ที่ผลลัพธ์ ไม่ได้อยู่ว่าชิ้นงานนั้นจะสวยหรือไม่

ภาพ : Studio Persona

Open Heart Club จะเปิดอีกครั้งเดือนพฤษภาคม วันจันทร์ที่ 4, 11 และ วันพุธที่ 6,13 เวลา 11.00 – 12.30 น.

ทุกรอบไม่มีค่าใช้จ่าย สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสมัครได้ที่

Line : @studiopersona

Email : [email protected]

Instagram : studiopersona.bkk

Facebook : Studio persona

Writer

พิมพ์อร นทกุล

พิมพ์อร นทกุล

บัญชีบัณฑิตที่พบว่าตัวเองรักหมามากกว่าคน