ผมได้รับโอกาสให้ได้อยู่ในช่วงเวลาที่นักล่าในป่าทำงานหลายครั้ง นอกจากจะได้เห็นทักษะ รวมทั้งร่างกายซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสมของเหล่านักล่าแล้ว ผมยังได้เห็นความสามารถในการหลบหลีกของสัตว์ที่อยู่ในสถานภาพความเป็นเหยื่อ พวกมันก็ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเช่นกัน ในความเป็นเหยื่อ ใช่ว่าพวกมันจะยอมจำนนง่าย ๆ
แต่อีกนั่นแหละ ในขณะที่หลายตัวไม่เพียงหลบหนี แต่ใช้วิธีหันกลับมาสู้ มีบ้างบางตัวคล้ายกับการหนี หรือยอมจำนน คือสิ่งที่มันเลือก
วัวแดงโตเต็มวัยตัวหนึ่ง ทำให้ผมเห็นว่ามันเลือกที่จะยอม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดนี้ในยุคสมัยหนึ่งคือ ‘เป้าหมาย’ ของนักนิยมไพร ในการล่าเพื่อเอาเขาและหัวมาประดับฝาบ้านเช่นเดียวกับกระทิง ในช่วงเวลาที่มีประชากรวัวแดงมาก มีทั่วไปแทบทุกป่า คนจำนวนไม่น้อยมองเห็นพวกมันเป็น ‘โปรตีน’ เป็นอาหาร
แต่สำหรับบางคนซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ใช้ซากสัตว์เหล่านี้เป็นเครื่องหมายแสดงสถานะความเป็นนักผจญภัย
หากเทียบกับกระทิง คนในป่าส่วนใหญ่มีทรรศนะว่า
“วัวแดงน่ะแหย เวลามีอะไรมันไม่สู้หรอก เอาแต่หนี ไม่เหมือนกระทิงที่จะหันกลับมาสู้”
ที่ผมเห็นวัวแดงเป็นเช่นนั้น

เช้าวันนั้น หมาใน 2 ตัววิ่งไล่วัวแดงกระทั่งมาจนมุมริมลำห้วย วัวแดงกระโจนลงห้วย หมาในตาม มันกระชากไส้ และลูกนัยน์ตาวัวแดงออกมาตั้งแต่วัวแดงยังไม่ล้ม ก่อนหน้านี้ วัวแดงวิ่งผ่านกระทิง 4 – 5 ตัวที่กำลังพักผ่อนอยู่ริมฝั่ง
กระทิงตัวไม่โตนักลุกขึ้นยืนจังก้า ยกตีนหน้าเตะใส่หมาใน จนหมาใน 2 ตัวนั้นต้องวิ่งอ้อมหลบเพื่อไล่วัวแดงต่อ
เสียงโหยหวนสลับเสียงกระชากเนื้อ เลือดแดงสาดกระจาย ที่จริงหากวัวแดงหันกลับมาสู้บ้าง สู้แบบที่กระทิงทำ การล่าอาจล้มเหลวก็ได้
แต่คราวนี้ภารกิจของนักล่าสำเร็จ

การกระทำของกระทิงวันนั้น ทำให้ผมนึกถึงผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักเป็นเพื่อน มีโอกาสทำงานด้วยกันระยะเวลาหนึ่ง
เขาเป็นชายหนุ่มผิวคล้ำล่ำสันวัยเบญจเพส ชื่อว่า ฮาบิ ผมเคยนำเรื่องราวฮาบิมาเขียนหลายครั้ง ความเป็นคน แบบฮาบินั้น ผมจำได้ไม่ลืม
ผมรู้จักฮาบิครั้งตามทีมสำรวจประชากรนกเงือกเข้าไปสำรวจพื้นที่แถบทิวเขาไอร์กือเนาะ เป็นพื้นที่เตรียมประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ รวมทั้งอยู่ในพื้นที่อันเรียกว่าสีแดงเข้มของเหตุการณ์ความไม่สงบ
ที่นี่ ทีมพบนกเงือก 6 ชนิด เรามีฮาบิช่วยนำทางและพาไปหาโพรงนก เขาชำนาญพื้นที่และรู้จักต้นไม้ที่นกเงือกใช้ทำโพรงเป็นอย่างดี
ช่วงนั้นฮาบิและเพื่อนมีอาชีพหลักคือ ปีนโพรงนก ล้วงเอาลูกนกเงือกไปขาย นอกจากงานเลื่อยไม้บนเขา
การขึ้นต้นไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่าเมตรครึ่ง สูงกว่า 20 เมตรของฮาบิ คล้ายเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงใช้ตะปู 5 นิ้ว ตอกเป็นระยะปีนขึ้นไป ใช้นิ้วแค่ 3 นิ้วจับตะปู ตะแคงเท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ
“ไม่ยากหรอก แค่ใช้ใจกล้า ๆ เท่านั้น” ฮาบิพูดไทยชัด แม้ปกติเขาจะใช้ภาษาถิ่น

ที่จริง การปีนต้นไม้เพื่อล้วงลูกนกเงือกในโพรงนี้ เป็นทักษะอันถ่ายทอดกันมาหลายรุ่น พ่อจะสอนลูกใช้ไม้และเถาวัลย์มัดเป็นขั้นบันได
ในรุ่นฮาบิ การล้วงลูกนกไปขายมีความหมายเพียงเงินเพื่อการเที่ยวเตร่ และไม่ใช้วิธีการซับซ้อนอะไร
หลังร่วมทำงานกันระยะหนึ่ง ฮาบิเริ่มคุ้นเคยและสนุก
“ปีนี้เราจะไม่เอาลูกนกแล้วล่ะ เราจะช่วยพวกพี่ทำงาน” เขาบอกเสียงดัง
ดูเหมือนว่าเมื่อฮาบิประกาศหยุด การล้วงลูกนกจากโพรงในบริเวณทิวเขาไอร์กือเนาะปีนั้นก็ยุติลง

เราใช้กระท่อมริมน้ำในสวนที่เจ้าของหลบความไม่สงบไปอยู่ข้างนอก ฮาบิพาเพื่อนมาช่วยงานหลายคน ทุกคนเคยล้วงลูกนกไปขาย
“ไม่มีใครเอาลูกนกแล้ว พวกเขาฟังเรา คนโต ๆ ก็ฟัง” ฮาบิพูดเรียบ ๆ
วันหนึ่ง ในซุ้มบังไพรที่ผมใช้ถ่ายรูปนกเงือกหัวแรด ฮาบินั่งอยู่ด้วย
“เสร็จงานแล้ว เราจะกลับมาช่วยพี่นะ เราอยากอนุรักษ์” ผมมองหน้าเขา เห็นแววตาจริงจังขณะจับมือลา นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พบกับฮาบิ
ลูกนกเงือกหลายตัวมีโอกาสออกจากโพรง มาโบยบิน เติบโต ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ควร
ส่วนฮาบิ จากไปไม่หวนคืน

“บิโดนอาร์ก้ายิงจนพรุน เมื่อวานตอนบ่าย” เซ ลูกพี่ลูกน้องฮาบิที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ฮาบิเข้าเมืองกลับมาบอก
บนทางเปลี่ยว มีรถกระบะขับตาม
“บิล้มมอเตอร์ไซค์ขวางถนน หันกลับมายิงใส่คนขับฟุบ แต่คนข้างหลังสองคนลุกขึ้นยิง มันเลยไม่รอด” เซหลบหนีมาได้
ผมหลับตาฟังเซถ่ายทอดเหตุการณ์ นึกถึงกระทิงที่ลุกขึ้นยืนจังก้า พร้อมโจมตีผู้ล่า
กระท่อมริมน้ำถูกห้อมล้อมด้วยต้นลองกอง เงาะ มังคุด ชานบ้านหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ในค่ำคืนข้างขึ้น ดวงจันทร์กลมโตโผล่พ้นสันเขา ที่นี่เราใช้เป็นที่ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากงานบนภูเขา
ผมมองไปที่ดวงจันทร์กลมโต เมื่อจากโลกนี้ไป ที่ใดเป็นจุดหมายต่อไป บางทีอาจเป็นในกลุ่มดาวอันไกลโพ้น
หากอยู่บนดวงจันทร์ เวลาที่มองกลับมายังโลก ใครก็ตามที่อยู่บนนั้นจะเห็นโลกอันสวยงาม เหมือนอย่างที่เห็นดวงจันทร์กลมโต
เป็นความงดงามซึ่งอยู่ใกล้ ๆ มักมองไม่เห็น
ดูเหมือนว่าจะมีการจัดสรรและจัดการมาแล้วอย่างเหมาะสม
วัวแดงยอมจำนนกับคมเขี้ยวหมาในอย่างง่าย ๆ
กระทิงและฮาบิหันกลับมาสู้
วัวแดง กระทิง รวมทั้งฮาบิ สอนให้ผมรู้อย่างหนึ่ง
ชีวิตในธรรมชาติต่างล้วนผ่านการจัดการไว้แล้ว
ดังนั้น การหันกลับมาสู้หรือยอม ‘จำนน’
บางทีมันก็ไม่ได้เป็นไปตามคำสั่งของสมองหรือหัวใจ