“อยากให้การมาที่นี่เป็นเหมือนการมาทานข้าว ทานขนมที่บ้านเพื่อน”

เอิร์จ-ภาวิตร วีรกุลเทวัญ หนึ่งในทีมทำงานของร้าน ‘Feed the Beast x Feast Monday’ และเป็นผู้ดูแลบ้าน ‘โรหิตะสุข’ แห่งนี้ เล่าถึงแนวคิดหลักในการปรับปรุงบ้านยุค 70 ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางสถาปัตยกรรมแห่งยุค ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรูปแบบของร้านกาแฟชิลล์ ๆ ในช่วงเวลากลางวัน และเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นร้านอาหารที่เน้น Smoked BBQ สไตล์ Texas แท้ ๆ และเบอร์เกอร์ซอสสูตรลับพร้อมเครื่องดื่มพิเศษที่ทางร้านสร้างสรรค์ในช่วงเวลาค่ำคืน

เราเองก็อยากจะบอกว่า การได้มาหม่ำขนมและอาหารที่ ‘บ้านเพื่อน’ อย่างที่เอิร์จชักชวนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตา ตั้งแต่แรกปะทะสายตาตัวร้านจากด้านนอกยังไม่เข้ามาด้านในเลยด้วยซ้ำ บ้านหลังนี้อยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 55 (ชื่อซอยชวนให้รื่นเริงตั้งแต่เริ่มเลย) ถนนด้านหน้ากว้างขวาง จอดรถสะดวกมาก ตัวอาคารเป็นโครงสร้างที่สะท้อนประวัติศาสตร์การออกแบบงานสถาปัตยกรรมยุค 70 หรือที่เรียกว่ายุคโมเดิร์น เน้นเส้นสายรูปทรงแสนเท่ วัสดุโชว์เนื้อแท้ของไม้ ทรายล้าง และแผ่นหิน รวมไปถึงการออกแบบการใช้งานอย่างมีชั้นเชิง ซึ่ง Feed the Beast x Feast Monday ตั้งใจคงรูปแบบทั้งหมดไว้

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ
Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

ไม่เพียงแค่งานสถาปัตยกรรมเท่านั้น การออกแบบตกแต่งภายในก็น่าตื่นตาไม่แพ้กัน เพราะเอิร์จและทีมงานตั้งใจคงอารมณ์บรรยากาศยุคเก่าสุดคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไว้ในแต่ละมุมบ้าน รวมถึงหยอดความน่าสนุกไว้ตรงเฟอร์นิเจอร์สะสม ซึ่งเจ้าของไม่หวงที่จะแบ่งปันให้นั่งผ่อนคลาย อย่างเก้าอี้คู่สีแดงสดที่มาจากโรงหนัง ‘สกาลา’ ซึ่งคุณพ่อของเอิร์จประมูลมาตอนโรงหนังปิดตัวลง หรือสตูลงานเหล็กเท่ ๆ แมน ๆ ที่เข้ากันกับเก้าอี้ไม้กลึงสีดำ

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่นี่เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร จะไม่เอ่ยถึงความน่าอภิรมย์ของการได้ดื่มและกินได้อย่างไร ที่นี่แบ่งบริการเป็น 2 ช่วงเวลา คือ Feast Monday คาเฟ่กาแฟในช่วงเวลา 08.00 – 16.00 น. ให้บริการกาแฟเฮาส์เบลนด์จากบาริสต้ามากประสบการณ์ (แถมเป็นสถาปนิกอีกด้วย) กับเบเกอรี่สูตรอร่อย ๆ รสมือคุณแม่ของเอิร์จ ต่อเนื่องด้วยส่วนครัวของมื้อเย็นที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ 16.00 – 21.30 น. ในนามร้าน Feed the Beast กับอาหารมื้อสำราญ เนื้อ ๆ เน้น ๆ สุดทั้งรสชาติ วัตถุดิบ และความใส่ใจบริการ เพื่อให้สมกับความรู้สึกเฉลิมฉลองและอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ในบ้านหลังสวยที่ได้รับการชุบชีวิตแห่งนี้

เอาล่ะ! มาไล่เรียงและลงลึกกันสักนิด กับเรื่องราวที่ The Cloud อยาก Share Location เพื่อให้ทุกคนไม่พลาดกัน

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

บ้านของอาจารย์สถาปัตยฯ ยุค 70 ที่พ่อหลงใหล

บ้านหลังนี้ติดป้ายชื่อไว้ว่า ‘บ้านโรหิตะสุข’ ด้วยเจ้าของเดิมคือ อาจารย์บุญส่ง โรหิตะสุข อดีตอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ (ซึ่งจบเกียรตินิยม เหรียญทอง จากคณะนี้ ทั้งยังเป็นผู้ออกแบบอุโมงค์ลอดถนนพญาไทอีกด้วย) เอิร์จเล่าว่าบ้านหลังนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 และอาจารย์ย้ายเข้ามาอยู่ใน พ.ศ. 2515 (“ฟังเรื่องเล่าจากคุณพ่อมาอีกทีครับ” เอิร์จกล่าว) บ้านมีขนาดใหญ่โตกว้างขวาง รั้วรอบขอบชิดติดกับบ้านที่คุณพ่อของเอิร์จใช้ชีวิตในวัยหนุ่ม ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2546 อาจารย์ได้บอกขายบ้านหลังนี้แล้วย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ คุณพ่อผู้ซึ่งหลงใหลและชื่นชอบบ้านหลังนี้อยู่เป็นทุนเดิมจึงขอซื้อบ้านไว้ แม้ยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่จริงจัง แต่มีแผนและแปลนรีโนเวตบ้านให้กลับมามีชีวิตชีวาอยู่หลายรอบ รวมถึงครั้งนี้ด้วย

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ
Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

คุณพ่อที่เอ่ยถึง คือ ประวิทย์ วีรกุลเทวัญ (คนที่ประมูลเก้าอี้โรงหนังสกาลานั่นแหละ) ผู้มีบทบาทสำคัญที่ผลักดันและ ‘ชุบชีวิตให้บ้านหลังนี้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง’ (คำของเอิร์จ)

ราว 2 ปีที่บ้านถูกปิดไว้ในช่วงโควิดหลังจากใช้เป็นที่อยู่ของพนักงานในบริษัทของคุณพ่อ จังหวะพอดีกับที่เอิร์จและเพื่อน ๆ ต้องปิดตัวร้าน Feed the Beast ที่ย่านเจริญนคร คุณพ่อจึงขอเข้าเป็นหุ้นส่วนกับลูกชาย แล้วให้เอิร์จมาดูแลรีโนเวตเพื่อทำให้บ้านหลังนี้กลับมามีเสียงหัวเราะ / พูดคุย / สนุกสนานอีกครั้ง ด้วยการเปิดร้านที่นี่

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

“เราตั้งใจคงของเดิมทุกอย่างเท่าที่คงไว้ได้ อย่างโครงสร้างเดิมทั้งหมดเราก็คงไว้ รั้ว ประตู ก็เป็นของเดิมเลยครับ และป้ายชื่อของบ้านเราก็ตั้งใจเก็บไว้แบบเดิม เพียงแค่ทาสีใหม่ เพราะคุยกันแล้วว่าเราเป็นผู้ที่มาใหม่ก็จริง แต่เราต้องการให้เกียรติและยกย่อง ไม่ทำลายตัวตนของอาจารย์บุญส่งเจ้าของบ้านคนก่อนที่สร้างอาคารหลังนี้ขึ้นมา” เอิร์จเล่าพร้อมอธิบายรายละเอียดการรีโนเวตต่ออีกว่า

“เราปรับเปลี่ยนเป็นบางส่วน เช่น บริเวณชั้น 2 ซึ่งมีห้องนอนหลายห้อง รื้อให้ทะลุถึงกัน แล้วกรุกระจกใสแทนผนังทึบทั้งหมด เพื่อให้ดูโล่งและโปร่ง เหมาะกับการทำงานและใช้งาน บนชั้น 2 นี้เหลือเก็บไว้เพียงห้องนอนใหญ่ห้องเดียว”

หากดูเฉพาะโครงสร้าง จะเห็นความน่าทึ่งในการออกแบบอันล้ำสมัยในยุค 50 ปีที่แล้ว ตัวอาคารมีขนาดใหญ่โตมาก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ฝั่งหนึ่งเป็นชั้นใต้ดินและชั้นลอย เชื่อมต่อกับอีกฝั่งซึ่งเป็นตัวบ้านใหญ่ที่มี 2 ชั้น ทางขึ้นบ้านออกแบบไว้อย่างโอ่อ่า เดิมเป็นบ่อน้ำตกขนานไปกับบันได ซึ่งเอิร์จปรับเป็นสวนหินแคคตัสและบ่อปลาคาร์ป

การออกแบบบ้านลักษณะนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการเดินท่องไปในพื้นที่ต่างเลเยอร์ จากด้านนอกขึ้นบันไดสู่ชั้น 1 เปิดเข้ามาจะเห็นส่วนของการรีโนเวตส่วนนี้ให้ทันสมัย ด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ใช้งานร่วมกันทั้งส่วนร้านกาแฟในเวลากลางวันและร้านกินดื่มในเวลาค่ำคืน บาร์กว้างสามารถนั่งแฮงก์เอาต์ได้สบาย ๆ จากชั้น 1 นี้เดินซิกแซกลงบันไดเป็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ได้ ซึ่งเอิร์จบอกว่าเมื่อห้องนี้พร้อมจะใช้เป็นห้องเวิร์กช็อป ห้องประชุม หรือห้องสังสรรค์ส่วนตัวได้

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ
Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

จากชั้น 1 เดินขึ้นบันไดอีกนิดไปสู่ชั้นลอยเหนือห้องใต้ดิน ชั้นนี้ดีไซน์ให้เป็นมุมนั่งเล่น ทำงาน หรือสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้ มีโครงสร้างของแผ่นไม้ฉลุที่เอิร์จและทีมงานตั้งใจเก็บไว้เพื่อโชว์งานดีไซน์ของยุค 70 แสนล้ำสมัย ชั้นลอยนี้ยังเชื่อมต่อไปที่ระเบียงขนาดใหญ่เหมือนปีกกว้าง เป็นพื้นที่เอาต์ดอร์ที่สะท้อนยุคสมัยของการดีไซน์ที่น่าสนใจ จากชั้นลอยขึ้นบันไดไปอีกนิดคือชั้น 2 ที่กรุกระจกโล่งกว้าง มีมุมนั่งเล่นหลากหลายมุม บนชั้นนี้โดดเด่นด้วยเก้าอี้สกาลาสีแดงสดอย่างที่เอ่ยถึงในช่วงต้น

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

ด้วยความตั้งใจให้เป็นร้านที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนทุกวัย เป็นที่สังสรรค์ของครอบครัว คนรัก และมิตรสหาย หรือเป็นที่นั่งทำงานของสาย Digital Nomad ที่นี่จึงถูกออกแบบให้เหมือนบ้านที่มีหลากมุม เฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกชิ้นสั่งทำขึ้นพิเศษ ฝีมือเพื่อนสนิทของเอิร์จจากเมืองแพร่

ความเป็นยุค 70 ถูกส่งไม้ต่อไปสู่สวนด้านนอก ที่เห็นชัด ๆ คือต้นหลิวแปรงล้างขวดลำต้นเอนขนาดโต ซึ่งเป็นต้นไม้ดั้งเดิมที่เติบโตมากับบ้านหลังนี้ เอิร์จปรับปรุงเพิ่มอีกนิดด้วยสนามหญ้าและเติมต้นสนฉัตรสูงเด่นเพิ่มกลิ่นอายของยุคสมัย คนรู้จักสวนแบบนี้ดีหากได้มาเห็นมีหวังจะได้เอ่ยขึ้นว่า เออ! นี่มันสวนของคนในยุคนั้นจริง ๆ

Feed the Beast x Feast Monday ร้านอาหารและคาเฟ่ที่รีโนเวตจากบ้านยุค 70 ของคณบดีสถาปัตยฯ จุฬาฯ

Feed the Beast

ลิ้มรส Smoked BBQ ต้นตำรับเท็กซัสกับเบอร์เกอร์สูตรลับของลูกชาย

‘อิ่มอร่อยแบบอสูรร้าย’ คงต้องพูดแบบนี้เมื่อได้ฟังเบื้องหลังแนวคิดที่มาที่ไปของร้าน Feed the Beast นั่นคืออาหารมื้อเย็นที่เน้นเสิร์ฟเนื้อต่าง ๆ มาแบบเน้น ๆ หนัก ๆ อิ่มแบบเต็มปากเต็มคำ อย่าง Smoked BBQ สูตรดั้งเดิมสไตล์เท็กซัสแท้ ๆ เป็น Smoked BBQ ที่ประณีต รมควันกว่า 8 ชั่วโมง ผ่านเนื้อที่ชุ่มฉ่ำและเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทางร้าน รวมไปถึงไส้กรอกสูตรพิเศษ เบอร์เกอร์สูตรลับของทางร้าน และเครื่องดื่มสุดพิเศษซึ่งสอบถามได้ที่บาร์โดยตรง เพื่อเลือกให้เหมาะกับมื้ออาหารที่เราอยากลิ้มลอง

เอิร์จเล่าว่า “Smoked BBQ ของเราใช้วิธีที่เรียกว่า ‘Low and Slow’ คือ Low Temperature ในการย่าง ซึ่งไม่เกิน 125 องศาเซลเซียส และเป็น Slow-cooked จึงทำให้เนื้อที่ได้นิ่มแต่ไม่เปื่อยยุ่ย ที่สำคัญคือเลือกใช้ถ่านก้อนและไม้ลำไยในการย่าง เพื่อให้ได้ Smoked ที่มีกลิ่นหอมขณะลิ้มรส”

การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9
การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9

แม้จะเป็นที่ตั้งในร้านใหม่ แต่ Feed the Beast ไม่ใช่น้องใหม่หรือหน้าใหม่สดซิง เพราะเขาเต็มไปด้วยประสบการณ์การให้บริการด้านนี้มากว่า 5 ปีแล้ว เชื่อว่า Meat Lover ย่านเจริญนครต้องคุ้นเคยชื่อนี้อย่างดี เพราะ Feed the Beast เปิดให้บริการมื้อค่ำที่เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อน ๆ มหาวิทยาลัยที่รักและชื่นชอบในการปาร์ตี้สังสรรค์มาทำร้านร่วมกัน ก่อนปิดตัวลงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เอิร์จเล่าว่าที่เดิมหมดสัญญา ประกอบกับหุ้นส่วนต่างก็เติบโตไปทำงานอย่างอื่นกัน ที่ใหม่จึงเป็นบ้านที่ลงตัวทั้งจังหวะเวลา สถานที่ และทีมงาน ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา

“ผมอยากพูดว่า Feed the Beast มีบ้านของตัวเองแล้ว และเรายังคงเสิร์ฟอาหารอร่อยของเราไม่ต่างจากเดิม ต่อจากนี้คงเพิ่มเมนูต่าง ๆ เรื่อย ๆ”

การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9

เมนูต้องไม่พลาด

Smoked Brisket หรือเสือร้องไห้รมควัน

เนื้อส่วนเสือร้องไห้รมควัน สไลซ์บางและย่างด้วยความพิถีพิถันด้วยวิธี Low and Slow ทำให้เนื้อที่ได้นุ่มชุ่มลิ้น เสิร์ฟที่ 200 กรัม สีผิวของเนื้อภายนอกที่เห็นเกิดการ Slow-cooked ด้วยไม้ฟืน ซึ่งทำปฏิกิริยากับเครื่องเทศที่อยู่บนผิว โดยตัวเนื้อไม่ได้โดนเผาไหม้จากไฟโดยตรง

Beast Burger

เบอร์เกอร์ตัวท็อปจากทางร้าน เสิร์ฟด้วยเนื้อบดฉ่ำ ๆ โดยคัดสรรเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียขนาด 150 กรัม ปรุงด้วยสูตรลับของทางร้าน ท็อปด้วยเชดดาร์ชีส เบคอน ไข่ดาว และหัวหอมทอด ประกบด้วยแป้งบันที่กรอบนอกนุ่มในไม่เหมือนที่ไหน เพราะแป้งบันนี้คุณแม่ของเอิร์จเป็นคนทำให้เสิร์ฟเฉพาะที่นี่ที่เดียว Beast Burger เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างเฟรนช์ฟรายส์ไซซ์ยักษ์ และซอสบาร์บีคิวที่ปรุงขึ้นเป็นพิเศษสไตล์คนรักสายเนื้อ

Feast Monday

ละเลียดกาแฟและเบเกอรี่โฮมเมดรสมือแม่

จะทำให้วันจันทร์เป็นวันที่เราไม่ชอบไปทำไม เอิร์จและเพื่อน ๆ ทีมงานพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แล้วมองว่า เรามาสร้างอะไรให้วันจันทร์เป็นวันที่สนุกสนานน่าประทับใจกันดีกว่า พวกเขาจึงตั้งใจให้คาเฟ่ในบ้านหลังนี้ชื่อว่า Feast Monday

“Feast Monday เป็นเหมือนน้องชายของ Feed the Beast ครับ และอย่างที่บอกครับ เราอยากให้คนไม่เกลียดวันจันทร์กัน เราก็เลยตั้งใจเล่นกับคำว่า Feed และ Feast ให้พ้องเสียงกัน และสนุกกับคำว่า Beast กับ Feast ด้วย มันเลยยิ่งลงตัวสำหรับพวกเรา”

Feast Monday มี นิค-ธนากร อ่อนนุช เป็นบาริสต้าผู้ควบคุมทิศทางของคาเฟ่แห่งนี้ นิคเป็นเพื่อนสนิทกับเอิร์จ จบสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฝึกฝีมือเป็นบาริสต้ามาจากร้านกาแฟชื่อดังของเชียงใหม่และกรุงเทพฯ หลากหลายร้าน ด้วยประสบการณ์ที่พบเจอนักดื่มกาแฟมากหน้าหลายตาจนตกผลึกได้ว่า คาเฟ่แห่งนี้จะออกแบบคัดสรรกาแฟที่เสิร์ฟเสมือนกาแฟประจำบ้านที่ใคร ๆ ก็เข้าถึง ดื่มได้ ไม่ซีเรียส เลือกกาแฟที่ดื่มได้ทุกวัน ล้อไปกับอาหารและเบเกอรี่ที่ทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ โดยกาแฟตัว House Blend เลือกใช้กาแฟของไทย เป็น Washed Process 80 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับ Natural Process 20 เปอร์เซ็นต์

การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9

ขณะที่เบเกอรี่ที่เสิร์ฟในร้านทุกเมนู คุณแม่ของเอิร์จคือผู้อยู่เบื้องหลัง อบใหม่ทุกวัน เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อยเกินต้านเหมือนทำให้ลูก ๆ หลาน ๆ ในครอบครัวทานด้วยกัน ตัวชูโรงหนึ่งคือบราวนี่ เข้มข้น หนึบหนับ ไม่หวานเกินไป หรือ Chocolate Chip Cookies ก็กลมกล่อมลงตัวกับกาแฟของทางร้าน เมนูเค้กมีให้เลือกหลากหลาย อย่าง Blueberry Cheese Cake, New York Cheesecake ฯลฯ 

การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9
การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9

“เบเกอรี่แล้วแต่แม่เลยครับ แม่อยากทำอะไรเราก็เสิร์ฟอันนั้น (อร่อยทุกอย่าง) สอบถามที่บาร์ได้เลยว่าวันนี้มีอะไรที่คุณแม่ทำออกมาให้ได้ทานบ้าง” เราบอกเอิร์จว่า น่าลุ้นดีนะ เหมือนมากินขนมบ้านเพื่อนจริง ๆ แล้วไม่รู้ว่าวันนี้จะได้กินอะไรบ้าง แต่มั่นใจว่าแม่เพื่อนทำอร่อย

ส่วนของคาเฟ่ Feast Monday กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ก็อย่างที่เอิร์จว่าไว้ว่าเป็นน้องชาย ดังนั้นจึงค่อยเป็นค่อยไป ยังเติบโตไม่เต็มรูปแบบ ที่แน่ ๆ จะมี Slow Bar เพิ่มขึ้นมา พร้อมกับอาหารทานได้สไตล์ Feed the Beast มาร่วมแจมเสิร์ฟเป็นมื้อกลางวันอีกด้วยในเร็ววันนี้

เครื่องดื่มแนะนำ

Tangy-Shakerato

Espresso ผสมกับน้ำส้มและมะนาว เชกให้เข้ากันแล้วเสิร์ฟในแก้วค็อกเทล ให้กลิ่นหอมของกาแฟ สดชื่นด้วยรสชาติและกลิ่นของมะนาวและน้ำส้ม

Comos

เครื่องดื่มสดชื่นที่ Non-coffee ที่มีเบสเป็นน้ำแครนเบอร์รี เชกเสิร์ฟแบบไม่ซ่า ดื่มแล้วได้ความสดชื่นระรื่นใจ

Fiesling

เมนูนี้สำหรับคนรักความซาบซ่า เป็นเครื่องดื่ม Non-coffee อีกตัวที่แนะนำ เบสอยู่ที่น้ำองุ่นขาว เชกผสมกับมะนาว ใบมินต์ และโซดา

การรีโนเวตบ้านโรหิตะสุข สถาปัตย์แห่งยุค 70 สู่ Feast Monday คาเฟ่กลางวัน, Feed the Beast ร้านอาหารกลางคืน ย่านพระราม 9
Feed the Beast x Feast Monday 
  • 44 พระราม 9 ซอย 55 แขวงสวนหลวง กรุงเทพมหานคร (แผนที่)
  • Feast Monday เปิดบริการเวลา 08.00 – 16.00 น.
    Feed the Beast เปิดบริการเวลา 16.00 – 23.00 น. (ครัวปิด 21.30 น.)
    ทั้งสองร้านในบ้านโรหิตะสุขหยุดทุกวันอังคาร
  • 08 1658 7887 (นิค), 08 1413 8748 (โก), 08 9993 3099 (เอิร์จ)

Writer

Avatar

สกุณี ณัฐพูลวัฒน์

จบเกษตร แล้วต่อด้านสิ่งแวดล้อม แต่เติบโตด้านการงานด้วยการเขียนหนังสือมาตลอด ชอบพูดคุยกับผู้คน ชอบต้นไม้ ชอบสวน ชอบอ่าน ชอบงานศิลปะและชอบหนังสือภาพ ทุกวันนี้จึงพาตัวเองคลุกคลีอยู่กับสิ่งที่ชอบที่ชอบ ด้วยการเขียนหนังสือ ทำงานศิลปะ เดินทาง และเปิดร้านหนังสือ(ภาพ)ออนไลน์ Of Books and Bar

Photographers

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล

โตมร เช้าสาคร

โตมร เช้าสาคร

ชอบถ่ายวิวมากกว่าคน ชอบกินเผ็ดและกาแฟมาก เป็นคนอีโค่เฟรนลี่ รักสีเขียว ชวนไปไหนก็ได้ไม่ติด ถ้ามีตัง