เมื่อปีที่แล้ว เราได้ทำความรู้จักเมืองภูเก็ตในมุมใหม่ จากโครงการ F.A.T. Phuket (Food Art Old Town) ที่แต่งเติมผนังย่านเมืองเก่าด้วยกราฟฟิตี้สีสันสดใส ซึ่งผูกโยงกับอาหารและขนมท้องถิ่นมากมายหลายเมนูกันไปแล้ว
F.A.T Phuket ปีนี้กลับมาอีกครั้ง รอบนี้ไม่ได้ชวนคุณมาทำความรู้จักแค่ตัวเมืองเก่า แต่จะชวนคุณไปทำความรู้จักหลากหลายชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีที่กระจายอยู่รอบเกาะภูเก็ต
ด้วยคอนเซ็ปต์เก๋ไก๋และอร่อยมากคือ F.A.T Table: Local Community Inspiration Chef’s Table Dinner ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นจากชุมชน ตั้งแต่กุ้งมังกรตัวโตไปจนถึงปลาฉิ้งฉ้างตัวจิ๋ว มาเป็นวัตถุดิบหลักและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูนับสิบจาน
จากฝีมือเชฟ 4 คนที่เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันอย่างดีคือ เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ จาก Blackitch Artisan Kitchen, เชฟแวน-เฉลิมพล โรหิตรัตนะ จากร้าน DAG, เชฟม่อน-สุวิจักขณ์ กังแฮ จากร้านกาบกล้วย และ เชฟเติ้ล-กรณัฎฐ์ รอบคอบ อดีตเชฟจากร้าน 80/20
ภูเก็ตไม่ได้มีแค่ทะเลสวยและเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ แต่ยังมีชุมชนเก่าแก่อีกนับสิบชุมชนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และอัตลักษณ์รอให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัส ถ้าพร้อมแล้วไปชิมอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นและทำความรู้จักแต่ละชุมชนกันเลย
เรียกน้ำย่อย
01
บางโรง
เบือทอดกุ้งฝอย ยำหญ้าช้องหมูสับ
เบือคืออาหารปักษ์ใต้ที่มีลักษณะคล้ายทอดมันของภาคกลาง เมนูนี้นำใบเล็บครุฑไปทอดกับกุ้งฝอยและพริกแกง ท็อปด้านบนด้วยยำหมูสับหญ้าช้อง หญ้าช้องเป็นพืชที่ขึ้นตามธรรมชาติในสวนสมพรม สวนผลไม้ของชาวบ้านที่มีชนิดของผลไม้ให้กินแตกต่างตลอดปี
‘บาง’ แปลว่าลำธารหรือคลอง ขณะที่ ‘หลอง’ แปลว่าความอุดมสมบูรณ์ในวัฒนธรรม ชื่อชุมชน ‘บางหลอง’ ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น ‘บางโรง’ มาจากความอุดมสมบูรณ์ซึ่งมีคลองอยู่ถึง 3 สาย คือคลองบางโรง ชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี เป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย จากการอยู่ร่วมกันของคนต่างชาติและต่างศาสนา ทั้งมุสลิม พุทธเชื้อสายจีน และไทย
02
บ้านเคียน
ข้ามหลามเกรโมลาต้าปลาฉิ้งฉ้างยอดหมุย
ปลาฉิ้งฉ้างตัวเล็กที่ปกติเรานิยมกินกันเฉพาะตัวส่วนหัวตัดทิ้ง ชาวชุมชนบ้านเคียนเสียดายจึงคิดค้นการแปรรูปหัวปลาฉิ้งฉ้าง โดยนำหญ้าหวานซึ่งให้ความหวานแทนน้ำตาลมาเคลือบหัวปลาฉิ้งฉ้าง เสิร์ฟพร้อมข้าวหลามซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ชุมชน และใบหมุยซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัวให้รสชาติขมฝาด ได้แรงบันดาลใจจากเมนูอาหารอิตาเลียนเกรโมลาต้า
ข้าวหลามบ้านเคียนเป็นข้าวหลามไม่หวานเพราะใส่น้ำตาลนิดเดียว และไม่ใส่อย่างอื่นนอกจากข้าวเหนียว ชาวบ้านนิยมกินกับน้ำตาลโตนด น้ำผึ้งรวง หรือน้ำตาลทรายแดง เป็นเอกลักษณ์แบบโบราณที่กินต่อเนื่องกันมายาวนานเป็นร้อยปี
บ้านเคียน คือถิ่นเกิดของท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร สองวีรสตรีของเมืองภูเก็ตผู้นำการรบทางใต้ในสงคราม 9 ทัพเมื่อ พ.ศ. 2328 ด้วยแผนการรบและแผนลวงอันเฉลียวฉลาดทำให้พม่าแตกพ่ายไป ทุกวันนี้ที่ชุมชนบ้านเคียนมีบ้านจำลองของวีรสตรีทั้งสองให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมด้วย
03
ลิพอนใต้ ท่าฉัตรชัย
กุ้งมังกร กระเจี๊ยบ ยำแย้
กุ้งมังกร 7 สีสดคลุกกระเจี๊ยบเสิร์ฟบนปลีกล้วย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเมนูทาโกะวาซาบิ กุ้งตัวนี้เลี้ยงในกระชังกุ้งมังกรกลางทะเลในชุมชนท่าฉัตรชัย ซึ่งมีชาวมอเกล็น ชนพื้นเมืองทางทะเลอาศัยอยู่ ส่งผลให้วัฒนธรรม ความเชื่อ และประเพณี ของชาวมอเกล็นที่นี่มีความชัดเจนกว่าชุมชนชาวเลที่ไหนๆ โดยศิลปะพื้นถิ่นการรำรองเง็งที่สืบทอดกันมายาวนาน
นอกจากนี้ ที่หาดไม้ขาวในพื้นที่บ้านท่าฉัตรไชย อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เป็นที่วางไข่ของเต่ามะเฟือง ซึ่งใน 1 ปีจะวางไข่ในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และจะกลับมาวางไข่ที่เดิมทุกปี
04
ม่าหนิก
ข้าวแต๋น ซอสข้าวพาเมซาน หมูฮ้องเปรี้ยว
หมูฮ้อง อาหารปักษ์ใต้ขึ้นชื่อ เป็นศิลปะการทำอาหารปักษ์ใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก ชาวชุมชนม่านิกได้คิดเพิ่มเติมจากการปรุงขาหมูพร้อมเครื่องเทศ โดยใส่ส้มควายหรือส้มแขกเข้าไปด้วยเพื่อแต่งกลิ่นและลดความเลี่ยน เมนูนี้เสิร์ฟคู่กับข้าวแต๋นน้ำแตงโมและซอสที่ทำจากข้าวปั่นคลุกครีมและพาเมซานชีสโรยด้วยเคยคั่ว
ชาวชุมชนม่าหนิกประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านไม้อาคารโปร่งตามวิถีชีวิตเกษตรกรรมดั้งเดิม และนิยมแต่งกายด้วยตามวัฒนธรรมภาคใต้ ชุดของผู้หญิงเรียกว่า ‘บาบ๋า’ และชุดของผู้ชายเรียก ‘นายเหมือง’
สำรับ
05
นอกเล
แกงกะทิเนื้อควายกับผักลิ้นห่านทอด
แกงกะทิแบบโบราณที่คนในชุมชนนอกเลนิยมแกงด้วยเนื้อควาย เสิร์ฟพร้อมผักลิ้นห่านทอด ผักลิ้นห่านคือพืชตระกูลหญ้า ขึ้นอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเล ไม่มีรสขมหรือหวานเป็นเอกลักษณ์ แต่มีรสชาติเฉพาะที่อร่อย ปกติชาวบ้านนิยมต้มผักลิ้นห่านกับกะทิ แต่เมนูนี้นำมาทอดและกินพร้อมแกง
ชุมชนนอกเลเป็นชุมชนมุสลิมดั้งเดิมที่ต่อมากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ อาชีพหลักของคนนอกเลในสมัยก่อนคือการทำประมงพื้นบ้าน การทำเหมืองแร่ และการทำเกษตรกรรม ต่อมาเริ่มมีอาชีพทางการท่องเที่ยวเข้ามา แม้จะมีบางอย่างเปลี่ยนไปตามกาลสมัย แต่สิ่งหนึ่งที่คนนอกเลยังรักษาไว้และถ่ายทอดสืบต่อกันมา คือศิลปะพื้นถิ่นทั้งงานหัตถกรรมและการทำอาหาร
บนโต๊ะ Chef’s Table ครั้งนี้มีการประดับด้วยขนมต้มใบมะพร้าว ขนมโบราณของชุมชนนอกเลที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบมะพร้าวอีกด้วย
06
บางคณฑี
ยำบูดูหยวกกล้วยป่า มัสมั่นกรอบ
แกงมัสมั่นไก่เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวบางคณฑีที่นิยมทำในงานบุญ เมนูนี้นำมัสมั่นไปทอดกรอบ กลายเป็นมัสมั่นแบบแห้ง ที่จะนำไปกินเล่นหรือกินคู่กับสลัดก็ได้ เสิร์ฟคู่กับยำหยวกกล้วย ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในชุมชนบางคณฑีเนื่องจากสภาพพื้นที่ส่วนมากยังเป็นป่าอยู่ น้ำยำของเมนูนี้ทำจากน้ำบูดูผสมกับน้ำมะนาว ส้มจี๊ด พริกขี้หนู และน้ำมันที่ลอยอยู่บนแกงมัสมั่น
ความน่ารักของชุมชนบางคณฑีคือร้านค้าใดก็ตามในชุมชนนี้จะเปิดเพียงประเภทละ 1 แห่งเท่านั้น เพราะชุมชนบางคณฑีเป็นชุมชนเล็ก ถ้าเปิดมากกว่านั้นจะขายไม่ได้ ฉะนั้น ถ้าร้านหนึ่งเปิด ก็ต้องรอจนกว่าจะปิดหรือเลิกกิจการถึงจะเปิดร้านใหม่ได้
07
บางหวาน
อกเป็ดเทศ ราดซอสเคยเปรี้ยว
แกงมานิ้ง หรือแกงเป็ดเทศ ปรุงจากเป็ดที่ชาวบางหวานเลี้ยงไว้เพื่อทำอาหาร ตั้งแต่ยุคสมัยของการตั้งถิ่นฐาน เป็ดเทศของชุมชนบางหวานเลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติ ให้หาอาหารกินเองตามแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็ดเทศหรือมานิ้งของที่นี่มีรสชาติเฉพาะ เมนูนี้ราดอกเป็ดเทศด้วยซอสที่ปรุงจากเคยสดผัดมะนาวและน้ำตาลมะพร้าว
ชุมชนบางหวานซุกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชาวชุมชนประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก ที่ชุมชนบางหวานมีเส้นทางเดินป่า 3 เส้นทางในเทือกเขากมลา และมีต้นขนุนปานอายุ 200 ปี ซึ่งได้รับการยกให้เป็นรุกขมรดกของประเทศอีกด้วย
08
พันวา
มะม่วงสามฤดูอย่ากับผักพื้นบ้าน
นอหยาเป็นชื่อเรียกหมึกชนิดหนึ่ง ภาษากลางเรียกตัวโวยวาย เป็นสัตว์ทะเลทะเลที่คนพื้นถิ่นที่นี่จะลงไปหาเอง โดยใช้เหล็กแหลมเสียบออกจากรู ปกติชาวบ้านพันวาจะนำนอหยามาคั่วกะทิ เป็นรสชาติเฉพาะของพันวา เมนูนี้นำนอหยาไปเคี่ยวกับน้ำสต็อกเป็ด จากโครงกระดูกเป็ดเทศ ต้มกับขิง ข่า น้ำตาลโตนด และมะเขือเทศ เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสามฤดูมาเคี่ยวกับไตปลาแห้ง โรยด้วยส้มสามฤดูเพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยวฝาดและผักพื้นบ้าน
แหลมพันวาเป็นพื้นที่ติดกับทะเลอันดามัน โดยรอบเป็นพื้นที่ป่าโกงกางและชายหาดซึ่งในอดีตเคยถูกแผ้วถาง แต่ชาวชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจพลิกฟื้นคืนชีวิตให้อ่าวแห่งนี้จนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์แบบในปัจจุบันอีกครั้ง นอกจากความสวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำ เลี้ยงปลา กุ้ง หอย ปู ในกระชัง สร้างรายได้ให้ชุมชน
ของหวาน
09
บ้านนาคา
ลอดช่องใบเตย พานาค้อตต้า ซอสคาราเมลน้ำตาลมะพร้าวชาเอิร์ลเกรย์ ครัมเบิ้ลถั่ว
ลอดช่องใบเตยเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP นวัตวิถีของชุมชนบ้านนาคา เป็นขนมพื้นบ้านที่ทำง่ายในครัวเรือน จากวัตถุดิบในชุมชน เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมพานาค้อตต้าจากครีมนมควาย และซอสที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าวอีกหนึ่งของดีชุมชน เคี่ยวกับชาเอิร์ลเกรย์ และโรยด้วยครัมเบิ้ลถั่ว
จากวิถีชีวิตในอดีตของชาวนาคาที่เมื่อก่อนจะอยู่บนเขา 8 เดือนเพื่อปลูกข้าวในไร่ เป็นการทำไร่ที่รักษาต้นไม้ใหญ่เอาไว้ และใช้ไม้ปักให้เกิดรูบนพื้นดิน จากนั้นหยอดข้าวลงในรู เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวไร่แล้วชาวนาคาก็จะลงทะเลเพื่อหาปลา ในช่วงที่ไถนาบริเวณนั้นจะมีหญ้าคาขึ้นเต็มทุกครั้ง จึงได้ชื่อว่านาคาจนถึงทุกวันนี้
10
บ้านสะปำ
เกี้ยมโก้ยสัปปะรดปลาแห้ง
ขนมเกี๊ยมโก๊ยเป็นอาหารท้องถิ่นของชุมชนชาวจีน วิธีทำคือนำแป้งไปนึ่ง โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งปั่น ต้นหอม กุยช่าย หอมเจียว กินกับน้ำจิ้ม เมนูนี้ประยุกต์ด้วยการโรยด้วยสับปะรดหรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า ‘ย่านัด’ และปลาแห้งซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นบ้านของภูเก็ต
สะปำเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ในอดีตอุดมไปด้วยแร่ดีบุก จนเป็นเหตุให้คนต่างเชื้อชาติ ต่างพื้นที่เข้ามาขุดแร่ และตั้งรกรากเกิดเป็นหมู่บ้านขึ้นมา โดยคำว่า ‘สะปำ’ มาจาก ‘หัวสะปำ’ หมายถึงเครื่องมือที่ใช้ขุดแร่นั่นเอง ชาวสะปำส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ทำให้ช่วงเทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีนบ้านสะปำมีความคึกคักและสนุกสนานมากจากความหนักแน่นของวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน จนชุมชนแห่งนี้ได้ฉายาว่า อ่าวแห่งศรัทธา
ภูเก็ต11เรื่องไม่ลับที่เราไม่รู้ 11ชุมชนทีเด็ดที่ภูเก็ตอยากอวด เที่ยว กิน ช้อป และเช็คอินก่อนใคร ที่สะปำ บางคณฑี แหลมพันวา บางหวาน นอกเล นาคา ม่าหนิก บ้านเคียน ลิพอนใต้ บางโรง และท่าฉัตรไชย ออกค้นหาอะไรใหม่เติมแรงบันใจให้ตัวเองด้วยกันที่นี่..ภูเก็ตby
Posted by Attitude Stay – Handpicked Unique Hotel on Selasa, 11 Disember 2018
ขอขอบคุณ SO PHUKET
F.A.T Table: Local Community Inspiration Chef’s Table Dinner จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวหนังสือท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถีจังหวัดภูเก็ตและต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ยกระดับสินค้าและวัตถุดิบจากชุมชน ส่งเสริมเสน่ห์และอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นพร้อมทั้งเป็นส่วนผลักดันการประชาสัมพันธ์ชุมชนจังหวัดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักต่อไป
งานดีๆ ที่อร่อยมากแบบนี้ จะเกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ facebook: attitudestayhotels หรือ Line@: @attitudestay