เรือลำเล็กของเราวิ่งฝ่าลมมาตลอดทั้งคืน เพื่อเดินทางข้ามจากฝั่งอเมริกามายังบาฮามาส น้ำทะเลสีฟ้าคนละโทนกับทะเลเมืองไทย ทะเลที่นี่สีฟ้าสดจ้าคล้ายสีฟ้าเทอร์ควอยส์ พื้นทะเลเป็นทรายขาวละเอียดสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา เราเดินทางมาที่นี่เพราะได้ฟังจิมพูดถึงฉลามเสือที่ชื่อ ‘เอ็มม่า’ ด้วยความประทับใจ ฉลามที่กลายเป็นเพื่อน และเป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัว

จิม อะเบอร์นาธี (Jim Abernethy) ดำน้ำในทะเลของบาฮามาสมาเกินกว่า 20 ปี เขาได้พบกับเอ็มม่าช่วงประมาณปี 2000 และสานสัมพันธ์กันจนพูดว่า ‘สนิทกัน’ ได้เต็มปาก เธอไม่ใช่ฉลามตัวเล็ก ๆ แบบที่เราเจอบ่อย ๆ ตามแนวปะการัง แต่เธอเป็นฉลามเสือขนาดใหญ่เกินกว่า 4 เมตร ฉลามเสือเป็นฉลามชนิดที่มีสถิติทำร้ายคนเป็นอันดับ 2 ของตารางที่รวบรวมเคสจากทั่วโลก แต่ในสายตาจิม เอ็มม่ามีแต่ความอ่อนโยน สุภาพ และเป็นมิตร

หลายปีที่ผ่านมา จิมพบเห็นเอ็มม่ามีบาดแผลหลายครั้ง บางครั้งก็เป็นแผลลึก ครีบหลังของเธอแหว่งวิ่นจากการกัดของฉลามตัวผู้ ครีบหางด้านล่างกุดด้วนโดยไม่รู้สาเหตุ การที่เธอกลับมาหาจิมบ่อยครั้งทำให้เขาและนักวิทยาศาสตร์พบว่าครีบฉลามที่ขาดแหว่งไปงอกเติมกลับคืนมาได้ส่วนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของจิมและเอ็มม่าทำให้มนุษย์เรามีความรู้เกี่ยวกับพวกมันเพิ่มขึ้น

เรานั่งมองเอ็มม่าว่ายเข้ามาช้า ๆ สวนกับจิมที่ยื่นมือออกไปลูบหัวเอ็มม่าด้วยความรักใคร่ในระยะใกล้จนหน้าแทบจะติดกัน จิมไม่ได้ส่งความรักของเขาให้เอ็มม่าตัวเดียว ฉลามทุกตัวที่ว่ายเข้ามาหาจะถูกลูบไล้อย่างรักใคร่ คล้ายกับเวลาที่เราลูบไล้สุนัขอย่างสนิทสนม

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
จิมลูบหัวเอ็มม่าด้วยความรักอย่างสนิทสนม

มีการศึกษาพบว่าฉลามเป็นสัตว์ที่ชอบถูกสัมผัส เช่นเดียวกับคนเราที่รู้สึกดีเวลาได้รับการกอด แต่ก็เช่นเดียวกับสัตว์ป่าทั่วไปที่เราพุ่งเข้าหาเพื่อไปไล่ลูบหัวเหมือนอย่างสัตว์เลี้ยงไม่ได้ ฉลามจะเปิดใจและเปิดโอกาสให้คนที่มันถูกชะตา ถ้าหากฉลามไม่อนุญาตให้เราเข้าหา ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหนมันก็จะว่ายหนีไป ความสัมพันธ์ก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนกันเองหรือคนกับสัตว์ประเภทไหนก็ตาม

ฉลามเลมอน เป็นฉลามอีกชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ที่นี่ สีตัวของพวกมันออกไปทางน้ำตาลเหลืองซึ่งเป็นที่มาของชื่อ พวกมันมีขนาดตัวยาวประมาณ 2 เมตร เพรียวและบางกว่าฉลามเสือ ฟันของพวกมันคม แต่ลักษณะการกัดเป็นแบบงับลงไม่สะบัด จึงจัดเป็น Small Shark หมายความว่าอันตรายต่อมนุษย์ต่ำ ไม่ต้องคอยจับตามองตลอดเวลา

ช่วงบ่าย พวกมักจะนอนอืดบนพื้นทราย ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่เราจะได้เข้าไปทำความรู้จักและสานสัมพันธ์

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
ช่วงบ่าย ฉลามเลมอนมักจะนอนอืดบนพื้นทราย ในขณะที่ฉลามปะการังว่ายน้ำอยู่ตลอดเวลา

เราค่อย ๆ คลานเข้าหาพวกมันจากทางด้านข้าง หายใจออกช้า ๆ ส่งพลังงานเป็นมิตรออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อใกล้จนถึงระยะที่เอื้อมมือถึง เราค่อย ๆ ยื่นมือออกไปลูบจากส่วนหัวไปด้านหลัง ฉลามเลมอนกะพริบตาปริบ ๆ คล้ายแมวที่กำลังเคลิ้มสบาย ผิวสัมผัสผ่านถุงมือรู้สึกได้ถึงความสากน้อย ๆ หลังจากลูบไปได้สักพัก พอเราหยุดมือ ทันใดนั้นฉลามเลมอนก็หันหัวมาหาเหมือนกับจะเรียกร้องให้เราลูบหัวมันต่อ เหมือนกับเวลาเกาหัวสุนัขที่บ้านไม่มีผิด

ช่วงเวลานาทีกว่า ๆ ที่เราลูบหัวและนั่งอยู่ใกล้ ๆ ฉลามผ่านไปอย่างมหัศจรรย์ เราไม่ได้เป็นคนกล้าอย่างที่เพื่อนหลายคนพูดหลังจากเห็นภาพและคลิปวิดีโอที่เราลูบหัวฉลาม แต่เรา ‘เข้าใจ’ ความเป็นฉลาม และเมื่อเข้าใจและเปิดใจให้กันแล้ว ความกลัวที่เคยมีอยู่ในใจก็หายไปได้

ความกลัวเป็นเหมือนกำแพงตั้งขึ้นมากันไม่ให้เรามองเห็นตัวตนจริง ๆ ของฉลาม ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ต่างอะไรกับมนุษย์ที่ทั้งช่างสงสัยและระแวงเมื่อได้พบกับอะไรใหม่ ๆ

วิธีการดำน้ำกับฉลามที่นี่จะใช้ปลาสดหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ เก็บใส่กล่องเหล็กซึ่งมีรูด้านข้าง ทำให้กลิ่นปลาโชยออกไปเรียกฉลามให้เข้ามาหา แต่ฉลามเหล่านี้ฉลาดกว่านั้น เพียงแค่ได้ยินเสียงเครื่องเรือมาจอด พวกมันก็เริ่มว่ายมารวมตัวกันแล้ว การดำน้ำที่นี่แทบไม่ได้ว่ายน้ำเลย เพราะการว่ายกลางน้ำคือการทำตัวเป็นจุดสนใจ ทำให้ฉลามอาจเข้ามาหาและงับเช็กด้วยความสงสัยได้ สิ่งที่นักดำน้ำต้องทำคือลงน้ำไปตามเชือก แล้วเดินหรือคุกเข่าคลานไปกับพื้นทราย ไปนั่งเข้าแถวข้าง ๆ กล่องใส่เหยื่อ แล้วรอให้ฉลามผ่านเข้ามา

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
เส้นทางการขึ้นและลงจากเรือต้องไต่ตามเชือกทุ่นเท่านั้น เพราะการว่ายกลางน้ำอาจจะทำให้ฉลามสงสัยและเข้ามาหา

ฉลามปะการังแคริบเบียนจำนวนมากมายว่ายวนไปมาขวางทางไปสู่แถวของนักดำน้ำ ฉลามปะการังมีรูปร่างเพรียว พวกมันชอบว่ายกลางน้ำ เมื่อดู ๆ ไปทำให้เรานึกถึงฝูงเครื่องบินขับไล่ในหนังสงคราม จุดหมายของเราอยู่ที่แถวนักดำน้ำห่างออกไปแค่ไม่กี่เมตร แต่การคลานเข่าทำให้เราคืบหน้าไปได้ช้าเหลือเกิน

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
ฉลามปะการังรูปร่างเพรียว ชอบว่ายกลางน้ำ เมื่อดู ๆ ไปทำให้เรานึกถึงฝูงเครื่องบินขับไล่

ไดฟ์แรก เราหยุดรอให้ฉลามปะการังว่ายผ่านไปทีละตัว รู้สึกเหมือนกำลังข้ามถนนแล้วรอมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านหน้าไปทีละคัน แต่พอผ่านไปซักพัก เราพบว่ามันคล้ายกับการข้ามถนนในเวียดนามมากกว่า แค่เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเหล่าฉลามก็จะหาทางว่ายหลบเราเอง ไม่เคยมีซักครั้งที่พวกมันตั้งใจจะว่ายมาชน

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
เพื่อนนักดำน้ำหยุดรอให้ฉลามปะการังว่ายผ่านไปทีละตัว รู้สึกเหมือนกำลังข้ามถนนแล้วรอมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านหน้าไปทีละคัน

พื้นที่ว่างระหว่างเรากับฉลามปะการังค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ทุกไดฟ์ที่ผ่านไป เราเริ่มจำฉลามบางตัวได้จากรอยแผลเป็นตามจุดต่าง ๆ บนตัว เมื่อระยะห่างลดลงไปจนถึงระยะมือเอื้อมถึง เราจึงยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสตัวพวกมันเวลาที่ว่ายผ่าน ฉลามปะการังมีผิวสากแต่เนียนละเอียดกว่าฉลามเลมอนมาก

ไมเคิล สตาฟของเรือกล่าวให้ฟังระหว่างบรีฟก่อนลงน้ำว่า ไม่อยากให้คิดว่าการดำน้ำกับฉลามเป็นโอกาสในการไล่จับลูบตัวฉลาม พวกคุณทุกคนควรสังเกตพฤติกรรมและท่าทางของพวกมัน ถ้าหากมันว่ายหนีหรือหันหัวออก ก็ให้เคารพพื้นที่ส่วนตัวของพวกมันด้วย ได้โปรดปล่อยพวกมันให้อยู่ตามลำพัง

เราค่อย ๆ เขยิบเข้าหาฉลามขี้เซาตัวหนึ่งที่นอนนิ่งอยู่นอกแนวปะการังห่างออกไปด้านข้าง พอห่างจากฉลามได้ประมาณ 2 เมตร มันก็ขยับตัวว่ายหนีเราห่างออกไปนอนที่จุดใหม่ หลังจากพยายามเข้าหาฉลามอยู่ 2 รอบ เราก็ตัดสินใจที่จะปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังอย่างสงบ

40 นาทีให้หลัง หลังจากที่เราถ่ายรูปเล่นกับฉลามปะการังจนเพลิน จู่ ๆ ฉลามขี้เซาตัวเดิมที่ว่ายหนีเราอยู่ตลอดก็ว่ายมาจอดอยู่ตรงหน้า ห่างออกไปไม่ถึงครึ่งเมตร และนอนนิ่งให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้ในระยะใกล้ชิด

Emma ฉลามเสือขี้เล่นผู้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก ซูเปอร์สตาร์แห่งทะเล Bahamas
ฉลามขี้เซาที่เราพยายามไล่ตามอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จู่ ๆ ก็ว่ายเข้ามาจอดใกล้ตรงหน้า

ถึงแม้ว่าเราจะชินกับฉลามแล้ว แต่ก็ปล่อยวางโดยไม่ระมัดระวังไม่ได้ โดยเฉพาะฉลามใหญ่อย่างฉลามเสือ ฉลามหัวค้อน และฉลามหัวบาตร ที่ปรากฏตัวให้เห็นที่นี่ เราต้องคอยหันหน้ามองพวกมันอยู่เสมอ อย่าเปิดโอกาสให้เข้ามาทางด้านหลังที่เราไม่ได้มอง เพราะความขี้สงสัยของมันอาจจะสร้างความบาดเจ็บให้เราได้

ฉลามเสือตัวเล็กขนาดใหญ่กว่าฉลามปะการังตัวเต็มวัยไม่มากนัก โผล่มาให้เห็นในช่วงกลางทริป จิมและไมเคิลตั้งชื่อให้ว่า ‘เบบี้เค้ก’ มันดูสงสัยและสับสนกับการว่ายเรียงแถวเข้าหากล่องเหยื่อทีละตัว เบบี้เค้กจึงว่ายข้ามแถวนักดำน้ำ พยายามแทรกตัวผ่านระหว่างแถวด้วยความซุกซน พวกเราที่นั่งดูอยู่ต้องหันหน้าจับตามองมันให้ทัน สลับกับการมองดูฉลามใหญ่ตัวอื่น ๆ ที่ว่ายเข้ามา

Jim Abernethy นักดำน้ำแห่งทะเล Bahamas ผู้สนิทกับ Emma ฉลามเสือที่ดังที่สุดในโลกซึ่งชอบเล่นกับนักดำน้ำ
‘เบบี้เค้ก’ เป็นฉลามเสือวัยเด็กที่ซุกซน ต้องคอยจับตามองไม่ให้คลาดสายตา

6 วันที่เราดำน้ำในบริเวณพื้นที่เดิม ๆ ฉลามเสือ 7 ตัวแวะเวียนกันมาเยี่ยมเยียนพวกเราจนเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตา ขาประจำที่มาหาพวกเราทุกไดฟ์ไม่มีขาดคือ เอ็มม่า เราค่อย ๆ ซึมซับและเข้าใจความเป็นเอ็มม่าทีละนิด เธอมีท่าทางที่แตกต่างจากฉลามตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด หัวก้มลงติดพื้นทราย ครีบอกกางแผ่กว้างออก ว่ายเข้ามาอย่างช้า ๆ และสุภาพ เราแยกเอ็มม่าจากฉลามตัวอื่นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล

เอ็มม่าเป็นฉลามที่ถูกคนถ่ายรูปเยอะที่สุดในโลก เพราะเธอมักจะโชว์ตัวให้เห็นเสมอ เรียกได้ว่าเป็นฉลามซูเปอร์สตาร์ เรากลายเป็นแฟนคลับของเอ็มม่าเต็มตัว

เอ็มม่าจะว่ายเข้ามาที่กล่องเก็บอาหาร แต่ไม่ได้เล็งไปที่กล่อง เธอมักเล็งไปเล่นกับก้อนตะกั่วขนาดใหญ่ที่พื้นมากกว่า ดูเหมือนว่าเหยื่อที่เอามาใช้เรียกฉลามไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เธอวนกลับมา บางรอบที่เอ็มม่าว่ายวนมา เธอตรงดิ่งเข้ามาที่หน้าเรา ใกล้จนต้องใช้กล้องเป็นตัวดันขวางระหว่างเรากับปากของเอ็มม่า

Jim Abernethy นักดำน้ำแห่งทะเล Bahamas ผู้สนิทกับ Emma ฉลามเสือที่ดังที่สุดในโลกซึ่งชอบเล่นกับนักดำน้ำ
เอ็มม่า (ฉลามเสือตัวหน้าสุด) ว่ายวนเข้ามาที่กล่องเหยื่อหลายรอบ แต่บางครั้งไม่ได้สนใจกล่องด้วยซ้ำ
Jim Abernethy นักดำน้ำแห่งทะเล Bahamas ผู้สนิทกับ Emma ฉลามเสือที่ดังที่สุดในโลกซึ่งชอบเล่นกับนักดำน้ำ
บางครั้งเอ็มม่าก็แสดงความสนใจเราด้วยการว่ายเข้ามาหาแล้วหักเลี้ยวในระยะใกล้มาก ๆ

“ฉันคิดว่าเอ็มม่าชอบเธอ” จิมพูดกับเราหลังจากไดฟ์ที่เราโดนเอ็มม่าว่ายชนและงับด้วยเหงือกอย่างเป็นมิตรหลายครั้ง

“คุณคิดว่าเอ็มม่าจำฉันได้เหรอ” เราถามกลับ

“โอววว แน่นอนว่าเอ็มม่าจำเธอได้แน่ ๆ” จิมตอบกลับรวดเร็ว

เราไม่รู้ว่าที่เอ็มม่าเข้ามาหาเรามาจากความสับสนที่เรามีไฟฉายติดอยู่ที่กล้องเหมือนกับของจิมหรือเป็นเพราะถูกชะตาเราเป็นพิเศษอย่างที่จิมกล่าว แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือเอ็มม่าไม่มีความตั้งใจจะทำร้ายนักดำน้ำคนไหนเลย ถ้าหากเอ็มม่าหรือฉลามตัวไหนก็ตามต้องการทำร้ายเรา รับรองว่าเราไม่มีโอกาสรอดแน่นอน

ฉลามไม่ใช่สัตว์ร้ายที่น่ากลัวที่จะไล่งับกินเราทุกครั้งที่เราเผลอ พวกมันเป็นแค่ปลาตัวใหญ่ที่ขี้สงสัย และมักถูกมนุษย์ขับไล่ออกจากพื้นที่ที่มันควรได้อยู่อย่างสงบเสียมากกว่า

Jim Abernethy นักดำน้ำแห่งทะเล Bahamas ผู้สนิทกับ Emma ฉลามเสือที่ดังที่สุดในโลกซึ่งชอบเล่นกับนักดำน้ำ
นอกจากฉลามเสือ ฉลามหัวค้อนก็เป็นเซอร์ไพรส์ที่น่าดีใจของพื้นที่นี้ จิมตั้งชื่อให้มันว่า ‘ควีนนี่’

Writer & Photographer

Avatar

ชุตินันท์ โมรา

ช่างภาพ/วิดีโอใต้น้ำมือรางวัลระดับเอเชีย ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกใต้น้ำทั้งในและนอกประเทศมากว่า 17 ปี ทำหนังสือดำน้ำระดับนานาชาติหลายเล่ม เป็นทีมวิดีโอใต้น้ำและคนเบื้องหลังสารคดีและโฆษณาหลายตัว นอกจากนี้ยังเป็นแอดมินเพจ digitalay