The Cloud x กองตลาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

อุบลราชธานีเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของอีสานใต้ เมืองที่เห็นพระอาทิตย์เป็นจังหวัดแรกของประเทศ จังหวัดนี้มีแม่น้ำถึง 3 สาย คือแม่น้ำโขง แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล เป็นที่ราบสูงในแอ่งโคราช อาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือลาวและกัมพูชา ทำให้ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน มีประวัติศาสตร์ของเมืองยาวนาน และรถไฟสายอีสานใต้มาสิ้นสุดที่นี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้อุบลราชธานีมีวัฒนธรรมของตัวเองที่แข็งแรง โดยเฉพาะเรื่องกิน

เพื่อนของเราที่อุบลราชธานีบอกแต่แรกแล้วว่า อุบลฯ เป็นเมืองแห่งกวยจั๊บเวียดนาม มีร้านกวยจั๊บอยู่แทบหัวมุมถนน แต่ละร้านก็มีเส้นต่าง ซุปต่าง เครื่องที่ใส่ก็ต่าง แล้วแต่สูตรของใครของมัน และแข่งขันความเป็นเลิศกันที่สุด คนกินก็ชอบต่างกัน แต่ได้รับความนิยมจนแน่นเกือบทุกร้าน ทำให้นึกถึงพาสต้าของอิตาลี หรือราเม็งของญี่ปุ่น 

เพื่อนของเรายังอีกบอกว่า อาหารของอุบลราชธานีมีมากกว่านั้น ยังมีปากหม้อเวียดนามเจ้าอร่อย มีลาบเนื้อวัวพื้นบ้านเลี้ยงตามธรรมชาติ มีร้านอาหารเวียดนามที่ปลูกข้าวเพื่อทำแผ่นแป้งใช้เอง ร้านลูกชิ้นยืนกิน ร้านซาลาเปาปั้นแป้งสด ร้านอาหารอีสานพื้นบ้านโบราณ ร้านขายขนมหวานพื้นบ้าน และข้าวจี่หน้าตาชวนกิน

ลิสต์รายชื่อที่คิดกันไว้ มากมายจนต้องจัดทริปชวนเพื่อนไปตะลุยชิม ในอิ่มทริป 04 : อุบลราชธานี ทริปกินอย่างเดียว 3 วัน 2 คืน ที่ The Cloud ร่วมกับ ททท. กองตลาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชวนกันไปรู้จักอุบลราชธานีผ่านอาหารกัน ร้านไหนบ้าง เซฟเก็บไว้เลย

กวยจั๊บมิ้นท์

กวยจั๊บปลาหนึ่งเดียวในอุบลราชธานี

หลายคนคงรู้จักกวยจั๊บเวียดนาม เส้นแป้งข้าวจ้าวในซุปใส ข้นเล็กน้อย ใส่เครื่องต่างๆ เนื้อสัตว์ และโรยผัก กินแบบร้อนๆ 

ได้ยินว่าแต่แรกนั้นกวยจั๊บเวียดนามเป็นกวยจั๊บที่ใส่เนื้อปลา ก่อนที่ภายหลังจะเริ่มขายเป็นแบบใส่กระดูกหมู หมูสับ หมูยอ เลือด หรือจะใส่ตีนไก่ก็ว่ากันไปตามสูตร

ปรากฏว่าตอนนี้กลับเหลือน้อยร้านที่จะทำกวยจั๊บปลาขาย เท่าที่เราทราบก็มีแค่ร้านมิ้นท์ ตรงแถวหน้าโรงเรียนจีน ที่ยังคงทำกวยจั๊บปลาอยู่ 

ร้านมิ้นท์เป็นร้านกวยจั๊บของคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ขายกวยจั๊บ ข้าวต้ม และขนมแบบเวียดนามที่หากินได้ยาก

เมนูที่น่าลองชิมให้ได้คือกวยจั๊บปลาช่อน ถ้าจะให้ดี ควรไปลองเมนูนี้ตอนปลายปีช่วงเข้าหน้าหนาว เพราะช่วงนั้นปลาจะเนื้ออร่อยจากการสะสมไขมัน ร้านมิ้นท์ใช้ปลาช่อนนานำมานึ่ง แกะเอาเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ใส่ลงมาในกวยจั๊บ แนะนำให้เลือกเส้นที่เรียกว่าเส้นเหนียว เป็นเส้นกวยจั๊บที่ผสมแป้งมัน นุ่ม เหนียวหนึบ เนื้อขุ่นๆ ใสๆ หากได้ไข่ปลาช่อนติดมาด้วย ในชามกวยจั๊บมีไข่ปลาโรยหน้าสวยงาม ฉีกผักแพวใส่ บีบมะนาว แล้วสูดกวยจั๊บเวียดนามแบบดั้งเดิมที่สุดได้เลย

กวยจั๊บมินท์

อำเภอเมือง หน้าโรงเรียนฮัวเฉียวกงฮัก(โรงเรียนจีน) จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิดปิด : 07.00-15.00 น. (หรือจนกว่าของหมด)

โทร : 0843244119

ปากหม้อเจ๊เรียน

ปากหม้อเวียดนามและกวยจั๊บเวียดนามแบบดั้งเดิม 

ไอน้ำร้อนตลบอบอวลหลังจากเปิดฝาครอบที่ปิดให้ความร้อน ทำให้น้ำแป้งที่เป็นของเหลวที่เพิ่งเทไว้เมื่อครู่นี้จับตัวเป็นแผ่นแป้งดูนุ่มตา ตอกไข่ ตักไส้หมูสับปรุงรสโปะลงบนแผ่นแป้ง ใช้ไม้แบนยาวตัด พับ และตักใส่จาน กิจกรรมราวๆ 3 นาทีนี้ล้วนอยู่บนผ้าขาวบางที่ขึงตึงบนปากหม้อ เป็นที่มาของชื่อเมนูอาหารเช้าอันเรียบง่ายของชาวอุบลราชธานี ก่อนไปทำงานหรือก่อนไปโรงเรียน 

เมนูปากหม้อของเจ๊เรียนมีหลายแบบมาก ไส้หมูสับเป็นไส้พื้นฐาน จะตอกไข่ดาว หรือจะตีไข่เจียว หรือทั้งสองไข่เลยก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเด็กนักเรียนต่างสรรหาวิธีการกินแปลกๆ มาให้ทำเสมอ 

เจ๊เรียนไม่ได้มีแค่ปากหม้อเท่านั้นที่ดีงาม แต่มีกวยจั๊บเวียดนามด้วย กวยจั๊บของร้านเจ๊เรียนถือเป็นกวยจั๊บแบบคลาสสิกมากของอุบลราชธานีเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนที่ทุกร้านจะหันมาต้มเส้นกวยจั๊บทีละถ้วย ใส่เครื่องกันตูมตาม กวยจั๊บที่คุ้นเคยกับคนอุบลฯ เป็นการต้มเส้นรวมกันหม้อใหญ่ แล้วตักเสิร์ฟจากหม้อ โรยหน้าแค่หมูยอกับผักเท่านั้น 

คลาสสิกและเรียบง่าย ชิมได้ที่ร้านเจ๊เรียน

ปากหม้อเจ๊เรียน

อำเภอเมือง (เยื้องกับโรงเรียนอาเวมารีอา) จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 6.00 – 12.30 น.

โทร 08 1681 2622

อินโดจีน

ร้านอาหารเวียดนามที่ปลูกข้าวเพื่อทำแผ่นเมี่ยงใช้เองในร้าน

ร้านอาหารเวียดนามเก่าแก่ของเมืองอุบลฯ เป็นร้านต้อนรับนักท่องเที่ยว แขกบ้านแขกเมือง และคนอุบลราชธานีขาประจำก็มาก 

จากร้านห้องแถวคูหาเดียว ขยายใหญ่ขึ้นตามประสบการณ์ ลูกค้าแน่นขนัดในช่วงเที่ยงวัน เมนูที่ใครมาก็สั่งคือ แนมเหนืองและเมี่ยงทอด สองเมนูนี้ใช้วัตถุดิบสำคัญร่วมกันคือแผ่นเมี่ยง หรือแผ่นแป้งข้าวจ้าวตากแห้ง

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าร้านอินโดจีนทำแผ่นเมี่ยงเองหลังร้านทุกวัน และไม่ใช่แค่ทำเอง ข้าวที่นำมาโม่เพื่อใช้ทำแป้งก็ปลูกเองกับมือ

ข้าวที่เมล็ดแข็งจะถูกโม่เป็นน้ำแป้ง หมักทิ้งไว้ให้ได้เวลาที่พอเหมาะ แล้วนำมาทำแผ่นเมี่ยง หม้อขึงตึงด้วยผ้า คล้ายกับที่ทำปากหม้อ ตั้งบนเตาดินเก่าแก่ที่ปรับจากการสุมฟืนในสมัยก่อนเป็นเตาแก๊ส เพื่อความสม่ำเสมอของไฟ ครอบฝาอบด้วยไอน้ำร้อนจนแป้งจับตัว และค่อยๆ ลอกออกด้วยผ้าอย่างชำนาญ เมื่อยกออกจากเตาแล้ว จึงเอาไปแผ่ไว้บนไม้ไผ่สานเป็นตะแกรง เพื่อนำไปตากแดดต่อ 

หากชิมแป้งแบบที่ยังอุ่นๆ จะมีรสและกลิ่นที่เกิดจากการหมักแป้ง รสนี้จะค่อยๆ ละมุนขึ้นเมื่อตากจนหมาดติดไม้ไผ่ จนต้องค่อยๆ ลอกออกทีละแผ่นด้วยความเบามือ

แผ่นเมี่ยงของร้านอินโดจีนแตกต่างจากร้านอื่นๆ ทั้งสัมผัสการกินและรสชาติ เมนูอย่างเมี่ยงทอด ใช้แผ่นเมี่ยงห่อไส้ที่ทำจากมันแกว หมูสับ ถั่วงอก วุ้นเส้น เห็ดหูหนู ไข่ แบบที่จะยังไม่ทำให้สุก แต่มาทำให้ไส้ในสุกพร้อมกันตอนทอด ซึ่งเป็นเทคนิคที่ยาก

ผลออกมาทำให้เมี่ยงทอดของร้านอินโดจีนมีเนื้อหนึบ และรสชาติไม่เหมือนใคร

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงอิ่มหนำแล้ว ก็อย่าลืมเปียกข้าวโพด ของหวานประจำร้านที่ใครต่อใครก็บอกว่าห้ามพลาด

อินโดจีน

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 21.30 น.

Facebook : ร้านอาหาร อินโดจีน จ.อุบลฯ Indochine restaurant – Vietnam cuisine

โทร : 04 5245 584

ร้านอาหารอีสานโบราณบ้านยายเพชร

อาหารอีสานแบบชาวบ้านที่หาทานได้ยาก

เปลี่ยนภาพจากอาหารที่ได้รับอิทธิพลของเวียดนาม มาเห็นภาพการกินแบบวิถีชาวบ้านอีสานที่ร้านยายเพชร 

อาหารอีสานไม่ได้มีแค่ส้มตำและลาบเท่านั้น ร้านยายเพชรเป็นอาหารอีสานที่เห็นการกินง่ายอยู่ง่ายแบบชาวอีสาน มีส่วนผสมของผักพื้นบ้านหลายอย่าง กับเนื้อสัตว์ที่หาได้ง่าย เช่น ไก่บ้านหรือปลานา ปรุงด้วยเกลือ ข้าวคั่ว น้ำปลาร้า หรือน้ำใบย่านาง ประกอบเป็นหลากหลายจานเต็มโต๊ะ มีปลาเอือบ เป็นวิธีการทำปลาแม่น้ำ นำมาหมักกับเกลือและสมุนไพรข้ามคืนแล้วนึ่ง และยังมีปลาปึ่งหรืออีกชื่อคือปลาเทโพชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น กับปลายอน กินกับแจ่วปลาร้า 

มีไก่ดำนึ่งสมุนไพร แกงเห็ดขอนม่วงใส่ผักติ้ว ลาบปลาปึ่ง และอุ๊ปลาปึ่ง หรือหมกหม้อที่ใช้ส่วนท้องของปลามาผัดกับเครื่องปรุงต่างๆ ในหม้อหรือกระทะ ใส่ผักให้กลิ่น ผสมกับไข่ปลาผัดแบบขลุกขลิก บนโต๊ะยังมีส้มไข่ปลาตะเพียน ที่เอาไข่ปลาตะเพียนมาหมักจนได้รสเปรี้ยว กินกับพริกและหอมซอย จั้มข้าวเหนียวกินอร่อยเลย

อาหารแบบนี้หาคนนำมาทำขายได้ยากเต็มที ปกติจะทำกินกันตามบ้าน และหาคนรุ่นใหม่กินได้ยากมากขึ้นทุกวันแล้ว ร้านนี้อร่อยมากและเป็นร้านที่พวกเราเอ่ยปากชมกันไม่หยุด

ร้านอาหารอีสานโบราณบ้านยายเพชร

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 7.00 – 14.00 น.

Facebook : ร้านอาหารอีสานโบราณบ้านยายเพชร Petch’s House restaurant

โทร : 04 5256 519

สุภาพเนื้อย่าง

เนื้อกระทะหมักไวน์และเนย ที่คนต่างจังหวัดยอมขับรถมากิน

วัฒนธรรมการกินเนื้อกระทะ หมูกระทะ เป็นที่นิยมมากในอีสาน คิดว่าการล้อมวงกินข้าวด้วยกันคงฝังรากลึกในดีเอ็นเอ จากการเฉลิมฉลองจะต้องมีการล้มวัวแล้วแบ่งปันกันกินหลายๆ คน 

สุภาพเนื้อย่างอยู่ที่อำเภอวารินชำราบ อำเภอที่ใกล้กับอำเภอเมืองมากที่สุดแค่แม่น้ำมูลกั้น เป็นร้านหมูกระทะที่น่าจะเป็นหนึ่งเดียวในอุบลฯ ที่ไม่ได้หมักแบบเปียก ชุ่มซอสต่างๆ แต่เป็นเนื้อสด และเนื้อหมักแบบแห้งหมาด 

ร้านสุภาพเนื้อใช้ส่วนพับในวัวที่มีเนื้อแดงมาก เนื้อและหมูกระทะร้านนี้เป็นเนื้อที่หมักด้วยไวน์แดงและเนยดี ย่างกินแบบกระทะและเตาถ่านอันคุ้นเคย

เพื่อนของเราเล่าว่า ร้านนี้คนต่างอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงยอมขับรถมาเพื่อกิน เพราะความแตกต่างของรูปแบบหมูกระทะ เนื้อกระทะ ที่ไม่เหมือนใคร 

สุภาพเนื้อย่าง

อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 16.00 – 22.00 น.

Facebook : สุภาพเนื้อย่าง 

โทร : 04 5322 117

ลาบกลางป่า

ร้านลาบกลางป่าสุดคึกคัก ที่เหมือนมีงานล้มวัวเลี้ยงฉลองทุกวัน

การกินเนื้อวัวอีกแบบคือการกินลาบ และเป็นวัฒนธรรมอีสานที่แข็งแรง 

ร้านลาบกลางป่าต้องออกมานอกเมือง ถึงไม่ได้อยู่กลางป่าลึก แต่ก็หลบอยู่ในแมกไม้ที่มากพอจะเรียกว่าเป็นป่าได้จริง 

เราเห็นวัฒนธรรมหลายอย่างได้ที่ร้านนี้ อย่างแรกคือการกินเนื้อวัวที่แทบเป็นการกินแบบทั้งตัว เนื้อ เครื่องใน มาในทุกรูปแบบ ทั้งลาบ ย่าง อ่อม ตุ๋น ยำ 

วัวที่กินเรียกว่าวัวกระโดน หรือวัวพื้นเมืองที่เลี้ยงกันมากในอีสานเหนือและอีสานใต้ เมื่อก่อนวัวกระโดนเป็นวัวเทียมเกวียน ใช้ล้มเพื่อกินในพิธีและเทศกาลสำคัญ เนื้อวัวจะมีกลิ่นเนื้อที่ชัดกว่าโคขุน จึงให้รสและกลิ่นที่มากกว่า หลายคนชอบกลิ่นเนื้อวัวแบบนี้และนิยมกินเป็นลาบ หากมาในช่วงมื้อเที่ยง จะเห็นหน่วยงานต่างๆ มากินข้าวกันเป็นหมู่คณะใหญ่ 

เมนูที่นิยมคงไม่พ้นลาบสุก ลาบดิบ ก้อยเนื้อ และก้อยมะนาวที่เอาเนื้อไปเคล้ากับมะนาวพอให้รสเปลี่ยนเพราะกรดมะนาว เมนูย่างต่างๆ อ่อมสมองวัว และฟอสซิล ที่เป็นเมนูพิเศษของร้าน คือกระดูกสันหลังวัวตุ๋นชิ้นใหญ่ในน้ำซุปขลุกขลิก เมนูนี้ต้องโทรสั่งจองไว้ล่วงหน้าเลยนะ

อีกเรื่องที่เห็นกันทั่วร้าน คือการกินลาบ เป็นวัฒนธรรมแบบผู้ชายๆ จะเห็นได้จากป้ายข้อความขำขันแบบคนอีสานเรื่องหนีเมียมากินลาบติดอยู่เต็มร้าน

ลาบกลางป่า

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 8.00 – 15.45 น.

Facebook : ร้านลาบกลางป่า

โทร : 08 1063 0032

ลูกชิ้นหนึ่งอุบล

วัฒนธรรมยืนจิ้มยืนจุ่มลูกชิ้นของคนอุบล

พักท้องกันสักนิดด้วยการยืนกินลูกชิ้นปิ้งจิ้มน้ำจิ้ม (นี่คือพักท้องแล้ว) ที่มักจะพบได้อยู่ทั่วเมืองอุบลราชธานี การกินลูกชิ้นหลากหลายแบบ ทั้งทอด ปิ้ง นึ่ง จิ้มกับน้ำจิ้มหวานเผ็ด หรือแล้วแต่สูตรของแต่ละร้าน 

ตามปกติการกินลูกชิ้นกับน้ำจิ้มจะเป็นการจิ้มน้ำจิ้มจากกระบอกรวม แต่ละคนต้องจิ้มลูกชิ้นทีละลูก และจิ้มแค่ครั้งเดียว แกล้มกับผักหรือพริกสดตามชอบ

แต่ปัจจุบันเหตุผลเรื่องสาธารณสุขและเพื่อป้องกันโรคติดต่อ จึงมีการแบ่งน้ำจิ้มเป็นถ้วยใครถ้วยมันแล้ว 

ลูกชิ้นย่างหนึ่งอุบล

อำเภอเมือง (หน้าร้านแสงเพชร) จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 15.00 น. (หรือจนกว่าของหมด)

โทร : 0637545594

ซาลาเปาสด อาจง

ซาลาเปางานคราฟต์ 6 ไส้ สูตรอำเภอพิบูลมังสาหาร

อำเภอพิบูลมังสาหาร มีร้านซาลาเปามากมาย มากจนน่าแปลกใจ แม้จะยังไม่แน่ใจถึงที่มาของร้านซาลาเปา แต่ทุกวันนี้ซาลาเปาก็เป็นของดี และเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวและนักชิมที่จะเดินทางไปชิมถึงที่ 

ในตัวเมืองอุบลราชธานีมีซาลาเปาสดสูตรเดียวกันอยู่เช่นกัน ซาลาเปาสด อาจง เป็นซาลาเปาที่ได้รับสูตรโดยตรงจากร้านซาลาเปาคุณยาย ที่อำเภอพิบูลมังสาหาร

เนื้อแป้งของร้านซาลาเปาสดอาจง นุ่ม นิ่ม หนึบ ฟู มี 6 ไส้ คือหมูสับ หน่อไม้ หมูแดง ครีมคัสตาร์ดฟักทอง ถั่วดำ เผือก และที่ดีมากไม่แพ้กัน คือหมั่นโถวกับสังขยา ปั้นใหม่ๆ นึ่งกันสดๆ ทุกเช้า แนะนำให้กินแบบอุ่นๆ ออกจากซึ้งใหม่ๆ 

แอบบอกอีกนิดว่า ถ้าเอาหมั่นโถวไปอบด้วยเตาอบ จะได้เป็นหมั่นโถวสีน้ำตาล ผิวตึงกรอบนิดๆ เป็นเมนูพิเศษที่อร่อยมาก

ซาลาเปาสด อาจง

ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เปิด-ปิด : 9.00 – 21.00 น.

Facebook : ซาลาเปาสด อาจง

โทร : 08 1076 1399

ซาวอุบล

ชิมตำเส้นจั๊บ การผสมผสานระหว่างส้มตำกับเส้นกวยจั๊บ เมนูแซ่บที่แสดงความเป็นอุบลราชธานี

ซาวเป็นร้านที่ขายอาหารอีสานแบบที่เจ้าของคือ อีฟ-ณัฐธิดา พละศักดิ์ กินมาตั้งแต่เด็ก อีฟเป็นคนอีสานโดยแท้ เป็นเพื่อนที่พาเราไปตระเวนกิน และเรียนรู้อุบลราชธานีในอิ่มทริปครั้งนี้

เราเลือกร้านซาวไว้ในโปรแกรมของอิ่มทริปเป็นร้านแรกๆ ด้วยซ้ำ อาหารอีสานที่ถูกจับมาแต่งตัวใหม่ แต่ยังคงความเป็นอีสานและความแซ่บออกมาได้ชัดตั้งแต่แรกเห็น

มื้อที่ร้านซาวอุบล เป็นมื้อใหญ่ที่สุดของอิ่มทริป อีฟเลือกอาหารให้เห็นความหลากหลายของวัตถุดิบของอุบลราชธานี หลังจากที่พาชาวคณะไปเดินสำรวจตลาดสดตอนเช้า ของเหล่านั้นก็กลายมาเป็นอาหารบนจานในมื้อเที่ยง

ปลาแป๊ะซะ ไม่ใช่แป๊ะซะแบบที่เคยรู้จัก แต่เป็นปลานึ่ง กินกับน้ำจิ้มหวานเผ็ด ข้นๆ ใส่ถั่วคั่ว ทานคู่กับผักเป็นกระด้ง กับไก่บ้านนึ่งสมุนไพร กินกับน้ำจิ้มแบบเดียวกัน ทั้งสองเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำต้อนรับลูกหลานเวลากลับมาบ้านในช่วงเทศกาล 

ส่วนเห็ดปลวกที่เดินเจอกันในตลาดตอนเช้า เป็นเห็ดที่ขึ้นในช่วงที่เราไป ก็กลายเป็นเห็ดผัดไข่ที่อร่อยมาก 

จานประทับใจที่สุดของเราคือตำเส้นจั๊บ ที่รวมความเป็นไทยลาวกับไทยเวียดนาม สองพื้นฐานอาหารหลักๆ ของอุบลฯ เข้าด้วยกัน ตำมะละกอกับกับเส้นซอย เส้นแป้งหนึบหนับของกวยจั๊บ สื่อสารความเป็นอุบลราชธานีที่ออกมาอร่อยมาก

ซาว อุบล

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 9.30 – 18.00 น.

Facebook : Zao ซาว 

โทร : 06 3246 9545

กวยจั๊บมิชชั่น

กวยจั๊บแบบฟูลออปชัน

ตอกย้ำว่าอุบลฯ เป็นเมืองแห่งกวยจั๊บ เลยใส่อีกหนึ่งมื้อกวยจั๊บในอุบลฯ เข้าไปในทริปนี้ 

ร้านนี้เป็นตัวแทนของกวยจั๊บที่เป็นแบบนิยมกินในปัจจุบัน จากหลายๆ ร้าน เราเลือกร้านกวยจั๊บมิชชั่น สาขา 1 มีเครื่องแบบที่นิยมใช้ในกวยจั๊บ คือน่องไก่ ตีนไก่ หมูยอ กระดูกหมู หมูสับ จะตอกไข่หรือใส่ปาท่องโก๋ก็ตามแต่ชอบ เลือกเส้นได้ตามใจ 

กวยจั๊บร้านมิชชั่นสาขา 1 ใช้น้ำต้มซี่โครงหมู ทำให้น้ำหวานอร่อยแบบไม่ใส่ผงชูรสเลย

ร้านกวยจั๊บที่อุบลฯ มีให้กินตั้งแต่เช้า สาย บ่าย และมีให้กินจนดึกดื่น ส่วนร้านกวยจั๊บมิชชั่นจะเริ่มขายตั้งแต่ช่วงบ่ายสองเป็นต้นไป 

กวยจั๊บมิชชั่น สาขา 1

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เวลาเปิด-ปิด : 14.00 – 20.00 น.

โทร : 04 5255 616

เชฟเทเบิ้ล

มื้อพิเศษเล่าเรื่องอีสานแบบอุบลฯ โดยเชฟหนุ่มอุบลราชธานี

เราขอให้เชฟหนุ่ม สัตตยา คนอุบลราชธานีตั้งแต่เกิดทำเชฟเทเบิ้ลให้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้อาหารเล่าเรื่องอุบลราชธานี

เชฟหนุ่มทำอาหารให้เราหลายเมนู เริ่มจากซุปผักเม็ก ผักติ้ว ผักพื้นบ้านของอีสาน ทำเป็นสลัด ที่ใช้วิธีการทำซุปหน่อไม้ และซุปแกงขี้เหล็กที่ทำเป็นซุปข้นอย่างฝรั่ง แต่แกงขี้เหล็กก็มีสิ่งที่น่าสังเกต คือการกินแกงขี้เหล็กแบบคนอีสานในแถบที่ติดกับลาวจะไม่ใส่กะทิ เหมือนแกงขี้เหล็กแบบภาคกลาง แต่ในขณะเดียวกัน อีสานแถบที่ติดกับกัมพูชาก็ยังใส่กะทิในอาหารหลายๆ อย่างรวมถึงแกงขี้เหล็กด้วย

ไก่ปากโดม ไก่ปิ้งสูตรแบบบ้านปากโดม อำเภอพิบูลมังสาหาร บ้านเกิดของเชฟหนุ่ม ที่มีการอนุรักษ์การทำไก่ปิ้งแบบเดิมอยู่ ด้วยแทรกความเชื่อที่ว่า ไก่ปากโดมมีที่มาจากไก่ที่เอาไว้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องปรุงเลยใช้แค่เกลือ ข้าวคั่ว พริก (ไม่ได้ระบุว่าเป็นพริกเทศ) เท่านั้น ไม่ได้หมักมากกว่านี้ เพราะเป็นรสที่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กินในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์

ไฮไลต์ของมื้อนี้อยู่ที่สปาเกตตี้เค็มบักนัด เค็มบักนัดคือการถนอมอาหารที่มีชื่อเสียงของอุบลราชธานี ใช้เรียกการหมักปลาแม่น้ำกับสับปะรด อัดใส่ขวดปากแคบและปิดฝา ให้เกิดการหมักภายในขวด

เชฟหนุ่มเล่าว่า เค็มบักนัดเป็นอาหารที่น่าจะมาพร้อมกับรถไฟที่มาถึงอุบลราชธานี เพราะสับปะรดไม่ใช่พืชท้องถิ่นของอุบลฯ แต่เป็นพืชที่มากับรถไฟ เมื่อสับปะรดมารวมกับความรู้การหมักปลาที่เป็นวัฒนธรรมของอีสานอยู่แล้ว จึงเกิดอาหารชนิดนี้ขึ้น

เค็มบักนัดนำไปทำอาหารได้หลายเมนู และเชฟหนุ่มเลือกทำเป็นสปาเกตตี้ผัดเค็มบักนัดใส่หมูยอจี่กับกระทะ ซึ่งหมูยอก็เป็นอาหารอีกเมนูที่มีชื่อเสียงของอุบลราชธานี 

และจบอาหารมื้อนี้ด้วยข้าวหมาก และส้มคาราเมลไลซ์กับเหล้าหวาน

ข้าวจี่แม่ไพรินทร์ 

ข้าวจี่ชุบไข่ย่างเตาถ่านกับวุ้นตาลสุก ขนมพื้นบ้านที่หากินยากของอุบลราชธานี

เราเกิดความสงสัยตลอดทั้งทริปว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีของหวานที่เป็นของอุบลฯ บ้าง จนได้คำตอบว่ามี ขนมหวานเมนูเดียวในทริปคือวุ้นตาลสุก เป็นวุ้นที่ได้จากการคั้นเนื้อตาลสุก แล้วผสมกับน้ำปูนใส เพื่อให้จับตัวกันเป็นวุ้นด้วยวิธีธรรมชาติ วุ้นจะนิ่ม ไม่กรอบเหมือนวุ้นที่ใส่เจลาตินทั่วไป มีเนื้อคล้ายเต้าหู้ 

ในอุบลราชธานีก็ยังพอหาทานได้บ้าง แต่น้อยลงทุกวัน ร้านข้าวจี่แม่ไพรินทร์ เป็นทั้งร้านข้าวจี่ที่อร่อยมาก และเป็นร้านขนมหวานน้ำแข็งไสที่ยังมีวุ้นตาลสุกขายอยู่ วุ้นสีเหลืองส้มในโห จะถูกตักใส่ถ้วยกินกับกะทิและน้ำแข็งเป็นขนมหวาน

ไหนๆ ก็มาถึงร้านข้าวจี่แม่ไพรินทร์ อย่าลืมชิมข้าวจี่ที่มีความพิเศษแตกต่างจากข้าวจี่เจ้าอื่นๆ ด้วย ข้าวเหนียวอุบลหุงใหม่ ปั้นเป็นก้อนย่างบนตะแกรงเหนือเตาถ่าน ชุบกับไข่ที่ปรุงรสไว้ กลับด้านไปมาจนไข่เหลืองสุกก็เป็นอันเสร็จ แต่ถ้าหากชอบแบบกรอบ ก็เลือกแบบที่จี่ไว้นานอีกสักหน่อยจนผิวนอกกรอบได้ด้วย

ข้าวจี่แม่ไพรินทร์

อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

เปิด-ปิด : 9.00 – 23.00 น.

อุบลราชธานีโดยเฉพาะอีสานใต้ยังมีอาหารและวัฒนธรรมน่าสนใจให้คนหาอีกมากมายไม่รู้จบ หากมีเวลา อยากชวนออกไปตามหารสชาติใหม่ๆ สร้างประสบการณ์ให้กับตัวเอง หรือหากอยากไปเรียนรู้เมืองผ่านการกินอาหารกับอิ่มทริป ของ The Cloud โปรดติดตามทริปต่อๆ ไปกันได้เลย