หนึ่งในปัญหาตอนผมเริ่มทำสตาร์ทอัพของตัวเองครั้งแรกคือ การโอนเงินจากอเมริกามาไทย
FitFactory คือสตาร์ทอัพแรกที่ผมทำ เราอยากให้คนอเมริกาที่ไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่สามารถตัดสูทในราคาเข้าถึงได้
ผมเริ่มทำเพราะมองหาสิ่งที่เราในฐานะคนไทยพอจะไปสู้กับสตาร์ทอัพท้องถิ่นได้บ้าง ก็มาเจอว่ามีฝรั่งบินมาตัดสูทที่ไทยเยอะมาก และเพื่อนอเมริกันแทบไม่มีใครใส่สูทสั่งตัดเลย เพราะแพงมาก
ผมติดต่อร้านตัดสูทที่ผมใช้บริการและเขาสนใจรับออร์เดอร์จากผม
เมื่อเริ่มมีลูกค้า เริ่มส่งออร์เดอร์และรับสินค้า ผมต้องจ่ายเงินให้ร้านที่ไทย
ผมเริ่มกูเกิลหาวิธี และสอบถามคนที่โอนเงินกลับไทยบ่อยๆ เพราะต้องจ่ายเงินให้ร้านที่ไทยเดือนละ 2 ครั้ง
ทางเลือกที่เจอล้วนแต่คิดค่าธรรมเนียมที่สูงและอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างไม่ดี
จนกระทั่งผมเจอ TransferWise สตาร์ทอัพที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมที่ดีกว่าธนาคารทั่วไป
เมื่อลองใช้แล้วผมพบว่า อัตราแลกเปลี่ยนนั้นดีจริง ดีกว่าที่อื่นประมาณ 10 – 20% และค่าธรรมเนียมก็ต่ำมาก 0.7 – 1%
การใช้งานนั้นง่ายมาก ผมสมัครโดยล็อกอินผ่าน Facebook และเชื่อมต่อกับบัญชีออนไลน์แบงกิ้งที่อเมริกา
เมื่อต้องการโอน ก็แค่ใส่จำนวนเงินที่ต้องการจะโอน เลือกสกุลเงิน ใส่ชื่อธนาคารและเบอร์บัญชีผู้รับ ใส่รหัสออนไลน์แบงกิ้ง และกดยืนยันการโอน
เพียงแค่นี้เงินก็จะส่งเข้าบัญชีผู้รับภายใน 4 วัน
อัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมที่ดีสุดในตลาดนั้นมาจากแนวคิด Peer to Peer
ช่วง 4 วันระหว่างโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับ TransferWise รอคนโอนสกุลเงินที่ตรงข้ามกับเรา เช่น ผมจะโอนดอลลาร์ฯ เป็นบาท และมีผู้ใช้อีกหนึ่งคนโอนบาทเป็นดอลลาร์ฯ
เมื่อเจอแล้ว TransferWise จะโอนเงินดอลลาร์ฯ ผมให้กับอีกคน และเอาเงินบาทจากอีกคนโอนเข้าบัญชีไทยที่ผมต้องการโอนให้ ไม่ต้องแลกเปลี่ยนเงินจริงให้เสียอัตราแลกเปลี่ยน
ถ้าไม่มีคนทำรายการตรงข้ามเรา TransferWise ก็จะแลกเงินในตลาด
ด้วยโมเดลนี้ ความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจึงต่ำมากและประหยัดค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นประโยชน์กับผู้โอนเงินทั้งสองฝั่ง
วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา TransferWise เพิ่งประกาศข่าวดีว่าบริษัทได้รับเงินลงทุนจำนวน 280 ล้านดอลลาร์ฯ ทำให้มูลค่าบริษัทในปัจจุบันนั้นสูงถึง 1.6 พันล้านเหรียญฯ หรือกว่า 53,000 ล้านบาท
เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพจากยุโรปที่ประสบความสำเร็จที่สุด มีเงินโอนผ่านระบบกว่า 1 พันล้านปอนด์ต่อเดือน
ตอนนี้ TransferWise ยังไม่สามารถโอนเงินออกจากบัญชีแบงก์ไทยได้ แต่ด้วยโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนว่าเป็นประโยชน์จริง อีกไม่นานเราคนไทยน่าจะได้ใช้บริการแนวนี้เป็นแน่
ขอขอบคุณ: สุวิชา พุทซาคำ